ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


ปล่อยให้ ลูกร้องไม่หยุด...จะเกิดอะไรขึ้น?

ปล่อยให้ ลูกร้องไม่หยุด...จะเกิดอะไรขึ้น?

                แท้จริงแล้วการที่ ทารกร้องไห้ถือว่าเป็นพฤติกรรมปกติของเด็กที่แทนคำพูดที่ต้องการสื่อสารกับพ่อแม่ว่าต้องการอะไรหรือรู้สึกอย่างไรซึ่งการร้องไห้ของเด็กก็จะแตกต่างกันออกไป บางคนร้องน้อยบางคนร้องมาก ร้องอ้อนโยเย สาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้ เด็กร้องไห้ ได้แก่หิวนม ผ้าอ้อมสกปรก อากาศร้อนหรือเย็นเกินไป เหงาหรือเบื่อ และมีอาการเจ็บปวดอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นต้น ซึ่งหากพ่อแม่ได้ตอบสนองความต้องการหรือให้การดูแลแล้วเด็กก็จะหยุดร้อง แต่ปัญหาการร้องไห้ของลูกน้อยที่สร้างความกังวลใจให้กับคุณพ่อ คุณแม่ได้ทุกคนไม่ว่ามือเก่าหรือมือใหม่คือลูกร้องไห้ไม่มีสาเหตุ และยิ่งกว่านั้นคือ... ลูกร้องไม่หยุดซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าการร้องไห้ของลูกอาจเกิดจาก อาการโคลิคโดยสาเหตุหลัก ๆ ของอาการโคลิคที่พบบ่อย คือการที่เด็กรู้สึกแน่นหรือจุกท้องเพราะกลืนอากาศเข้าไปมากเกินไปในระหว่างดูดนม ทำให้เด็ก ไม่สบายตัวหรือเด็กปวดท้องเพราะลำไส้หรือระบบย่อยอาหารมีปัญหา
 
วิธีสังเกตว่าลูกน้อยร้องไห้เพราะอาการโคลิคหรือไม่
- มีพฤติกรรมการร้องไห้แบบฉับพลันทันทีโดยหากเป็นอาการโคลิค เด็กจะร้องไห้งอแงอย่างต่อเนื่องนานถึง2 ชั่วโมงขึ้นไป ยาวนานในเวลาเดิม ๆ       
 กว่า 1 – 2 สัปดาห์
- เวลาร้องไห้เด็กจะร้องไห้หนักมากจนสังเกตเห็นว่ามีอาการหน้าแดง ผิวแดง
- แม้ว่าคุณพ่อคุณแม่จะใช้วิธีการหลอกล่อใดๆจะไม่สามารถหาวิธีที่จะปลอบโยนให้หายร้องได้จนกว่าจะหยุดร้องไปเอง
 
           เมื่อได้ทราบถึงพฤติกรรมของเด็กที่คาดว่าจะเกิด อาการโคลิคแล้วขอแนะนำว่าคุณพ่อคุณแม่อย่าปล่อยผ่านไปเพราะคิดว่าไม่ได้เป็นอันตรายต่อเด็ก ซึ่งผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างคาดไม่ถึง เช่น

มีอารมณ์รุนแรง สมาธิสั้น
เนื่องจากโดนสิ่งเร้าใกล้ตัวที่อาจไม่ถูกใจเด็กรบกวนซึ่งสิ่งเร้านี้คุณพ่อคุณแม่ต้องคอยสังเกตเองเนื่องจากสภาพแวดล้อมของเด็กแต่ละคนแตกต่างกันซึ่งสิ่งเร้าที่พบได้บ่อย เช่น แสงไฟภายในบ้าน เสียงโทรทัศน์เสียงพูดคุย เป็นต้นซึ่งหากคุณพ่อคุณแม่จับสังเกตได้ว่าสิ่งเร้าตัวไหนที่ทำให้เด็กร้องไห้ไม่หยุด แนะนำให้นำเด็กออกจากสิ่งเร้าเหล่านั้นโดยหากเด็กไม่ได้รับการแก้ไขจากสิ่งเหล่านี้อาจส่งผลให้เด็กขี้หงุดหงิดง่าย ควบคุมอารมณ์ตัวเองยาก
เกิดโรคกรดไหลย้อน
เป็นโรคที่แสดงอาการออกมาโดยการมีกรดและลมในกระเพาะมากซึ่งสำหรับเด็กแล้วอาจเกิดจากการทานนมในปริมาณที่มากเกินไปหรือไม่ได้จับเรอหลังทานนม ทำให้เกิดกรดเกินในกระเพาะและทำให้เด็กไม่สบายตัวจนร้องไห้ไม่หยุดคุณพ่อคุณแม่จึงควรหมั่นจับลูกเรอหลังทานนมทุกครั้งเพื่อความสบายกายสบายท้องของเด็ก
 
                จะเห็นได้ว่า การปล่อยให้ ลูกร้องไม่หยุดส่งผลกระทบต่อทางร่างกายและอารมณ์ของลูกไม่มากก็น้อย ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงควรหมั่นสังเกตพฤติกรรมต่าง ๆ ของลูกอย่างใกล้ชิดเพื่อจะได้ดูแลได้อย่างทันท่วงทีต่อไป