‘บ้าน’ เป็นสิ่งจำเป็นขั้นพื้นฐานของการสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์ ซึ่งในปัจจุบันก็มีเพศทางเลือกหลากหลายแบบมากขึ้น จนทำให้เกิดเป็นปัญหาสำหรับคู่รักร่วมเพศที่ต้องการกู้ร่วมซื้อบ้าน เพราะว่าสถาบันการเงินหลาย ๆ แห่งยังไม่รองรับการสมรสไม่จดทะเบียนซื้อบ้าน แต่ก็ยังคงมีทางออกสำหรับการกู้ร่วมอยู่บ้างเช่นกัน เราจึงได้รวบรวมแนวทางที่จะตอบโจทย์ปัญหานี้
โดยปกติแล้ว การกู้ร่วมซื้อบ้านนั้นควรเลือกทำกับคนที่ไว้ใจได้ เช่น คนในครอบครัว พ่อ แม่ พี่ น้อง ลูก หรือคู่สมรส เพราะว่าจะต้องมีภาระทางการเงินร่วมกัน และในท้ายที่สุดแล้วหากเป็นการขอยืมชื่อเพื่อมาใช้ให้ผ่านเงื่อนไขของธนาคาร ก็อาจจะต้องมีการโอนกรรมสิทธิ์ในภายหลัง ซึ่งถ้าไม่ใช่คนใกล้ชิดก็อาจจะต้องมีปัญหาตามมาได้ ซึ่งธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่นั้น ยังไม่มีนโยบายที่รองรับการกู้ร่วมแบบนี้ แต่ในปัจจุบันก็มีสถาบันการเงินที่เปิดกู้ร่วมสำหรับเพศเดียวกันอยู่ 2 แห่ง นั่นก็คือธนาคารไทยพาณิชย์และธนาคารยูโอบี โดยผู้สมรสไม่จดทะเบียนซื้อบ้านต้องมีคุณสมบัติดัง 3 ข้อต่อไปนี้
- เป็นบุคคลธรรมดา สัญชาติไทย
- อายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และไม่เกิน 65 ปี
- ไม่เคยเป็นลูกหนี้ปรับโครงสร้างหนี้ของสถาบันการเงิน
เอกสารที่ใช้สำหรับการกู้ร่วมซื้อบ้าน สำหรับเอกสารที่ต้องใช้ใน
การกู้ร่วมเพื่อซื้อโครงการบ้านแบบต่าง ๆ ของคู่รักเพศเดียวกัน เรียกได้ว่าไม่ต่างไปจากการขออนุมัติสินเชื่อเพื่อซื้อบ้านจัดสรรทั่ว ๆ ไป ประกอบด้วยเอกสาร 2 ส่วน คือ เอกสารส่วนตัวและเอกสารทางการเงิน โดยมีรายละเอียดดังนี้
เอกสารส่วนตัว: บัตรประชาชน, ทะเบียนบ้าน และใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี)
เอกสารทางการเงิน • สำหรับผู้ทำงานอิสระ: รายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน และใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
• สำหรับเจ้าของธุรกิจ: สำเนาทะเบียนการค้า, รายชื่อผู้ถือหุ้น, รายการเดินบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 12 เดือน, สำเนาบัตรประจำตัวผู้เสียภาษี, หลักฐานการเสียภาษี และรูปถ่ายกิจการ 4-5 ภาพ พร้อมแผนที่แสดงที่ตั้งโดยสังเขป
• สำหรับผู้ทำงานประจำ: หนังสือรับรองเงินเดือน, สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 6 เดือน และบัญชีเงินฝากธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน
การยื่นกู้ร่วมแบบปกตินั้นอาจจะมีเงื่อนไขเพิ่มเติมที่ทำให้ขออนุมัติสินเชื่อได้ยาก จึงมีคำแนะนำจากสถาบันการเงินให้ยื่นขอสินเชื่อซื้อโครงการบ้านจัดสรรเพื่อใช้เป็นสถานประกอบการเพื่อธุรกิจได้ โดยมีระยะเวลาการกู้นานสูงสุด 10 ปี และต้องจ่ายดอกเบี้ยอัตราสูงกว่าการขอสินเชื่อเพื่อการอยู่อาศัย ซึ่งจะเลือกวิธีใดนั้นก็ควรพิจารณาถึงผลดี ผลเสีย ให้รอบคอบก่อน หรืออาจใช้วิธีเลือกกู้ร่วมกับคนในครอบครัวแทน เพื่อให้ผ่านเงื่อนไขของธนาคารได้ง่ายขึ้น ส่วนการผ่อนชำระก็ให้เป็นหน้าที่ของคู่รักที่ต้องจ่ายให้กับธนาคารเอง และหากใครอยากรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการกู้ร่วม คลิกอ่านได้ที่นี่เลย
https://www.sansiri.com/thai/คำแนะนำ/กู้ร่วมกับคู่รัก-เมื่อถึงวันเลิกรากันต้องทำอย่างไร