ไม้จ๊อย คือ อะไร ทำความรู้จักข้อดี-ข้อเสียในการนำไปใช้งานถ้าพูดถึงเฟอร์นิเจอร์ built in ไม้จ๊อยถือว่าเป็นไม้ที่ถูกใช้มาก ไม่ว่าจะเป็นการใช้ทำโครงสร้างหลัก พวก แผงตู้ บานประตู ซึ่ง
ไม้จ๊อย คือ ไม้ที่ถูกใช้หลักๆในการขึ้นโครง สำหรับงานตกแต่งภายใน ไม้จ๊อยจะมีประโยชน์อย่างไรบ้าง ไปอ่านในบทความกันเลย
ไม้จ๊อย คือ อะไร และ มีประเภทอะไรบ้าง ?ไม้จ๊อย หรือ ที่เรามักจะคุ้นชินในชื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ไม้จ๊อยส์ ไม้โครง ไม้ประสาน ไม้ร่องฟันปลา ซึ่งไม้จ๊อย เป็นการนำไม้ท่อนสั้นๆ มาผ่านขั้นตอนกระบวนการ เพื่อเพิ่มความยาวให้แก่ไม้ ซึ่งจะใช้การเชื่อมไม้เข้าด้วยกัน จนเกิดความแข็งแรง ด้วยเทคนิคการทำเป็น "
ร่องฟันปลา" เพื่อต่อให้ไม้มีขนาดที่ยาวมากยิ่งขึ้น
นอกจากนั้น ไม้จ๊อยยังสามารถนำไปใช้งานได้หลากหลาย อาทิเช่น ทำบานหน้าต่าง บานประตู ทำราวบันได ทำไม้พื้น หรือ อาจจะใช้ไม้จ๊อยในการทำเป็นไม้โครงในตู้ ตลอดจนนำไปแปรรูปเป็น ไม้จ๊อยแผ่น ในการผลิตเป็นโต๊ะ เก้าอี้ อีกด้วย
ประเภท และ ขนาดของไม้ที่นิยมนำมาทำ ประเภทของไม้จ๊อย ที่นิยมนำมาแปรรูป มี
3 ประเภท ได้แก่
ไม้โครง ไม้จ๊อยแผ่น และ
ไม้ท่อนจ๊อย เป็นต้น
ไม้โครง
ใช้ในการทำเป็นไม้โครงสร้างหลัก สำหรับตีฝาเพื่อกั้นห้อง การขึ้นโครงตู้ ไม้จ๊อยสามารถต่อได้สองแบบ คือ แบบ
Finger joint ที่จะเห็นรอยฟันปลาที่ด้านกว้างของไม้ ฟันปลาจะแหลม และ
Box joint ที่จะเห็นรอยฟันปลาที่ด้านหนาของไม้ ฟันปลาจะเหลี่ยม
ขนาด ของไม้โครงพื้นฐาน จะมีดังต่อไปนี้
-ความหนา จะนิยมใช้ประมาณ 17.5 และ 20-22 มม.
-ความกว้าง จะนิยมใช้ประมาณ 35 และ 42-45 มม.
-ความยาว จะนิยมใช้ประมาณ 2.5 มม.ไม้จ๊อยแผ่น
ใช้สำหรับทำเป็น โต๊ะ เก้าอี้ ผนังห้อง พื้นห้อง งานตกแต่งที่ต้องการไม้ที่มีความเรียบ เป็นแผ่น อาจจะใช้ในการทำชั้นวางแบบ built in ก็เก๋ไปอีกแบบ
ขนาด ของไม้จ๊อยแผ่น จะมีดังต่อไปนี้
-ความหนา จะนิยมใช้ประมาณ 1.2 และ 1.6-2.2 ซม.
-ความกว้าง จะนิยมใช้ประมาณ 60 ซม.
-ความยาว จะนิยมใช้ประมาณ 2.5 ม.ไม้ท่อนจ๊อย
ใช้ในการทำเฟอร์นิเจอร์ ตกแต่ง พวกราวบันได หรือ นำไปทำเป็น ไม้คิ้ว ไม้บัว สำหรับตกแต่งภายในบริเวณขอบหน้าต่าง ขอบประตู เป็นต้น
ขนาด ของไม้โครงพื้นฐาน จะมีดังต่อไปนี้
-ความหน้ากว้าง จะนิยมใช้ประมาณ 40 และ 80 ซม.
-ความยาว จะนิยมใช้ประมาณ 4-6 ม.ขนาดของไม้ขึ้นอยู่กับผู้ผลิต และ โรงงาน ลูกค้าสามารถแจ้งขนาดเพิ่มเติมที่ต้องการได้ชนิดของไม้ที่นิยมนำมาผลิตเป็นไม้จ๊อย-ไม้สักสวนป่าข้อดี - เป็นไม้เนื้อนิ่ม มีรูปทรงตั้งตรง ไม่บิ่น ทำให้สามารถนำไปใช้งานได้ง่าย
ข้อเสีย - ลำต้นมีกระพี้ติดมาก (ส่วนที่อยู่ระหว่างเปลือกไม้กับแก่นไม้ มีสีจางค่อนข้างไปทางขาว) ทำให้เนื้อไม้อาจจะดูไม่สวย ต้องอาศััยการตัดแต่ง
ไม้สักเนื้อข้อดี - เป็นไม้เนื้อนิ่ม เนื้อไม้สวย ปลวกไม่กิน มีรูปทรงตั้งตรง ไม่บิ่น ทำให้สามารถนำไปใช้งานได้ง่าย
ข้อเสีย - มีราคาค่อนข้างแพง ทำให้มีการสั่งผลิตตามท้องตลาดค่อนข้างน้อย
ไม้เบญจพรรณ ข้อดี - เป็นไม้ที่เนื้อไม้แน่น มีความมั่นคง รองรับแรงได้ดี
ข้อเสีย - เนื้อไม้ค่อนข้างแข็ง แต่ไม่มีความเหนียว ทำให้ทำงานที่ต้องอาศัยการเจาะ การตอกยาก
ไม้ยางพาราข้อดี - เนื้อแข็งและเหนียว เนื้อไม้ขึ้นรูปได้ง่าย ง่ายต่อการตอกตะปู ตัดแต่งให้สวยงาม
ข้อเสีย - เนื้อไม้บิดตัวได้ง่าย แมลง มอดชอบ ทำให้ต้องอาศัย การอัดน้ำยา และ อบไม้
ไม้ตะแบกข้อดี - เนื้อแข็งเหนียว มีลักษณะมันลื่น ทำให้ทำงานได้ง่าย
ข้อเสีย - ราคาแพง มีราคาใกล้เคียงพอๆกับไม้สัก แต่คุณภาพด้อยกว่า
สามารถติดตาม และดูข้อมูลเพิ่มเติม
MTK ได้หลากหลายช่องทางที่
Facebook :
MTK เอ็มทีเคLine :
@mtkwoodTel : 095-654-6551
Email :
marketing@mtkwood.com