ฟลุ๊คจิระ หรือว่า
ฟลุ๊คซีควินท์ จาก RS นักแสดงแถวหน้าของสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ในสังกัดของบริษัทอาร์เอส จำกัด (มหาชน) อดีตเขาคือนักร้องนำของวงซีควินท์ และไม่น่าเชื่อเลยว่า ด้วยวัยแค่เพียง 35 ปี จากนักร้องขวัญใจวัยรุ่นเมื่อหลายปีก่อน จะกลายมาเป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่สามารถดำเนินธุรกิจจนประสบความสำเร็จได้ในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี แม้ว่าจะเจออุปสรรคที่ไม่คาดฝันบ้าง แต่เขาก็สามารถที่จะฝ่าฟันนำพาบริษัทมาได้อย่างมั่นคงและสง่างาม
จิระ ด่านบวรเกียรติ หรือ ฟลุ๊ค เกิดเมื่อวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2528 คุณพ่อเป็นนักธุรกิจร้านแว่นตาส่วนคุณแม่รับราชการครู แม้ว่าครอบครัวของเขาจะทำธุรกิจมาแต่เดิม แต่ฟลุ๊คซีควินท์ก็บอกว่า จริง ๆ แล้วเขาไม่เคยนึกอยากเป็นนักธุรกิจเลย พำราะความใฝ่ฝันในวัยเด็กของเขาคืออยากเป็นครูอยากถ่ายทอดความรู้ให้คนอื่นมากกว่า แต่ด้วยความที่ครอบครัวนั้นประกอบอาชีพธุรกิจและเขาเองก็ช่วยทำธุรกิจของครอบครัวอยู่แล้ว อีกทั้งภรรยา คือ คุณแอปเปิ้ล สีสะเหงียน ก็ประกอบธุรกิจ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ในที่สุดแล้วเขาจะตัดสินใจทำธุรกิจ โดยเป็นการแยกตัวออกมาจากธุรกิจแว่นตาของครอบครัว มาร่วมหุ้นทำธุรกิจคลินิกเสริมความงามครบวงจรชื่อว่า “เซ็นโทรล คลินิก” กับคุณแอปเปิ้ลซึ่งในขณะนั้นอยู่ในฐานะแฟนสาว และธุรกิจไปได้สวยเพราะสามารถคืนเงินลงทุนได้ในปีแรกทันที ปัจจุบันเซ็นโทรล คลินิก นั้นมีอยู่ด้วยกัน 3 สาขาทั้งกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ทั้งนี้เขาก็ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะขยายสาขาให้ได้ถึง 10 สาขา แต่จะไม่มากไปกว่านี้เพื่อให้สามารถบริหารงานได้อย่างทั่วถึงนั่นเอง
อย่างไรก็ตามในช่วงสถานการณ์โควิด - 19 ที่ผ่านมานั้น ฟลุ๊คจิระธุรกิจก็ต้องพบเจอกับวิกฤตเศรษฐกิจ อีกทั้งมาตรการของรัฐบาลที่ประกาศปิดสถานเสริมความงามเพื่อป้องการติดเชื้อโควิด - 19 ส่งผลทำให้กระทบต่อธุรกิจของเขาโดยตรง เกือบ 3 เดือนที่เขาต้องเผชิญกับภาวะขาดรายได้ อีกทั้งยังต้องช่วยเหลือดูแลพนักงานแต่เขาก็ยืนหยัดต่อสู้ด้วยความเชื่อว่าในวิกฤตย่อมมีโอกาสเสมอ
การปรับตัว ฟลุ๊คจิระธุรกิจ ที่เกิดจากวิกฤตสู่โอกาสการขยายธุรกิจใหม่ ๆ
ฟลุ๊คจิระ เลือกดำเนินธุรกิจด้วยแนวคิดที่ไม่แตกต่างไปจากผู้บริหาร RS ที่ได้มีการปรับเปลี่ยนธุรกิจให้เหมาะสมกับยุคสมัย อีกทั้งด้วยบุคลิกของความเป็นผู้นำที่มีความกระตือรือร้นในการมองหาโอกาสใหม่ ๆ อยู่เสมอกับการที่เขานั้นไม่ยอมจำนนต่ออุปสรรคและรู้จักที่จะปรับตัว ดังนั้นฟลุ๊คจิระจึงได้คิดจะขยายธุรกิจตัวใหม่ นอกเหนือไปจากธุรกิจเสริมความงามและธุรกิจแว่นตา ซึ่งเป็นของครอบครัวและค่ายมวย Health Me Active อีก 2 สาขาที่ทำอยู่ก่อนแล้ว ทั้งนี้ก็เพื่อต้องการที่จะ support ให้เป็นรายได้ของบริษัทและพนักงานด้วย ซึ่งสินค้าที่เหมาะกับช่วงโควิด - 19 ก็คือทำเกี่ยวกับสเปรย์แอลกอฮอล์ โดยให้พนักงานเป็นตัวแทนสามารถนำไปขายและมีค่าคอมมิชชั่นให้ รวมไปถึงสินค้าอื่น ๆ ที่ทำในรูปแบบของการค้าขายออนไลน์ เช่น เสื้อผ้า แว่นตาแฟชั่นและเริ่มนำเข้าสินค้าที่เกี่ยวข้องกับแม่และเด็กโดยเฉพาะสินค้าเด็กอ่อน เครื่องดื่มสุขภาพ No Cal เป็นต้น เป็นการขยายธุรกิจแนวราบ คือการขยายไปหลาย ๆ ธุรกิจแทนที่จะมุ่งอยู่กับธุรกิจเพียงธุรกิจเดียว เพื่อช่วยทำให้เกิดรายได้จากหลาย ๆ ส่วนมาจุนเจือกันรวมเป็นรายได้ของบริษัท จนในปัจจุบันกล่าวได้เลยว่าธุรกิจเสริมความงาม “เซ็นโทรล คลินิค” สามารถกลับมายืนได้อย่างมั่นคงแข็งแรงอีกครั้งหนึ่ง
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับค่ายอาร์เอส ได้ที่นี่
https://www.rs.co.th/th/