« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2021, 09:41:10 AM »
สำหรับผู้ชื่นชอบการขับรถท่องเที่ยวไกลๆ ไม่ว่าจะเป็นทางเรียบหรือทางธรรมชาติแบบขาโหด สายลุย ขึ้นเขาลงห้วย ลุยโคลน ดินลูกรังหรือลุยน้ำ แบบไปได้ทุกที่ไม่ว่าสภาพแวดล้อมจะเป็นอย่างไร ที่รถแบบปกติไม่สามารถผ่านได้ ก็ต้องมองหารถออฟโรดเป็นตัวเลือกแรก รถประเภทนี้สังเกตได้ง่ายๆ ว่าจะเป็นรถยกสูงกว่ารถทั่วไป ใส่ล้อโตกว่าปกติเพื่อให้ลุยได้ในทุกสถานการณ์หรือเส้นทางที่อันตราย
ออฟโรด (Off Road) เป็นกิจกรรมการขับรถไปในทางทุรกันดารมีความยากลำบากกว่าถนนปกติ โดยมีจุดประสงค์แตกต่างกัน เช่น การแข่งขัน, การท่องเที่ยว, การทดสอบรถ, การลำเลียงสิ่งของ ฯลฯ ซึ่งต้องใช้รถขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD) ในการเดินทาง ผู้ขับขี่แบบนี้ต้องมีทักษะการขับออฟโรดถึงจะสามารถทำการเดินทางได้อย่างปลอดภัย ซึ่งควรไปเรียนเพิ่มเติม
เนื่องจากการขับรถแบบนี้จะต้องมีการเตรียมตัวและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเผื่อสถานการณ์ฉุกเฉินหรือแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วย เช่น สลิงลากจูง, อุปกรณ์เปลี่ยนล้อหรือยาง, ปั๊มลมไฟฟ้า อาหารแห้งและน้ำดื่ม อะไหล่สำรอง ฯลฯ แต่สำหรับผู้ที่มีอุปกรณ์ท่องเที่ยวหรือเดินป่าบรรทุกเยอะ อย่างเช่น ตะเกียง, เครื่องครัว, ผ้าปู, เต้นท์, เสื่อหรือผ้าใบ ก็อาจมองมาที่กระบะออฟโรดแทน เพราะของที่ใช้งานแล้วเลอะเทอะบางอย่างสามารถแยกไปไว้ท้ายกระบะได้ ดังนั้นวันนี้เราจึงมานำเสนอรถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูงสายลุยที่มีวางขายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยให้รู้จัก เพื่อความสะดวกสำหรับผู้ที่สนใจซื้อรถประเภทนี้5 ยี่ห้อกระบะสายลุยสมรรถนะสูง
ฟอร์ด เรนเจอร์ แรพเตอร์ (Ford Ranger Raptor)ถือเป็นรถที่ท็อปที่สุดสำหรับสายลุยในเวลานี้ ด้วยออพชั่นที่จัดเต็มมาให้ครบครัน เช่นเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ รีดกำลังได้มากกว่า 200 แรงม้า ถือว่าเยอะที่สุดในกระบะพิกัดนี้ มีระบบช่วยควบคุมการขับขี่และความปลอดภัย ที่ดีที่สุดสำหรับรถกระบะในท้องตลาด พวงมาลัยไฟฟ้า ห้องโดยสารเก็บเสียงได้ดี โดดเด่นเรื่องช่วงล่าง ไม่ว่าทางเรียบหรือทางทุรกันดาร การขับขี่นุ่มสบายเหมือนนั่งรถเก๋ง ด้วยระบบทรงตัวและซับแรงกระแทกที่เยี่ยม แถมขับไปที่ไหนก็ดูหล่อ ด้วยดีไซน์หน้าตาที่บึกบึน ดุดัน หากใส่ชุดแต่งสวยๆ เพิ่มไปหน่อยนี่ไปจอดที่ไหนก็โดดเด่น ซึ่งก็แลกมากับราคาที่สูงถึง 1.7 ล้านบาท แต่บอกเลยว่าคุ้มค่าและประทับใจทุกส่วน นิสสันนาวารา (Nissan Navara)เป็นรถที่ทำออกมาแข่งกับแรพเตอร์ โดยตรง นาวาราจะเน้นการขับขี่ที่ง่าย ไม่ต้องมีทักษะออฟโรดสูงก็สามารถนำไปลุยป่าลุยเขาได้ ด้วยขุมกำลังเครื่องยนต์ที่มีขนาด 2.3 ลิตร เทอร์โบคู่ จุดเด่นอยู่ที่พวงมาลัยน้ำหนักเบา เลี้ยวได้คมขึ้น ทำให้ควบคุมรถง่ายแม้ต้องลุยทางที่เป็นอุปสรรค การตอบสนองของแป้นเบรคที่เป็นธรรมชาติที่สุดในกลุ่ม เพื่อความมั่นใจของผู้ขับขี่ หน้าตาก็สวย ดุดันไม่แพ้แรพเตอร์ แม้ออพชั่นเล็กๆ น้อยๆ จะไม่มีเหมือนก็ตาม เช่น เบาะไฟฟ้า แต่ด้วยสมรรถนะกับราคาที่น่าคบหากว่า ที่ประมาณ 1.1 ล้านบาท ซึ่งถูกกว่าแรพเตอร์หลายแสน ก็เป็นตัวเลือกลำดับต้นๆ อีกคันที่น่าใช้ โตโยต้า รีโว่ รอคโค่ (Toyota Revo Rocco)สำหรับเจ้าตลาดอย่างโตโยต้า ก็มีรีโว่ รอคโค่ ออกมาแข่งในตลาดรถกระบะระดับบน เครื่องยนต์เป็นแบบ 2.8 ลิตรเทอร์โบ รีดกำลังได้ถึง 200 แรงม้า แรงเทียบเท่ากับแรพเตอร์ ช่วงล่างที่ปรับปรุงมาใหม่ มีน้ำหนักเบาและแข็งแรงบวกกับซับแรงสะเทือนได้ดีขึ้น ทางบริษัทเคลมไว้ว่ามีความใกล้เคียงกับรถ SUV หรูๆ เลยทีเดียว ส่วนจะเป็นจริงหรือไม่คงต้องลองไปทดลองขับดูเอง ห้องโดยสารภายในก็สวยหรูดูดีมาก กับออพชั่นที่จัดเต็มครบทั้งการขับขี่และความปลอดภัย สามารถควบคุมได้ง่ายขึ้น ด้วยราคาที่สูงถึง 1.2 ล้านบาท เป็นคู่ปรับที่สมน้ำสมเนื้อกับนาวารา แต่ออพชั่นของรอคโค่จะได้ครบกว่า บวกกับชุดแต่งที่มีจากโรงงานเลย อีซูซุ ดีแม็กซ์ ไฮแลนเดอร์ (Isuzu D-Max Hi-Lander)ดีแม็กซ์ ไฮแลนเดอร์ 4*4 เองก็ได้ผลิตออกมาชนในตลาดนี้เช่นกัน ด้วยกำลังเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร 160 แรงม้า จุดเด่นอยู่ที่การดีไซน์ใหม่ทั้งหมดทั้งภายในและภายนอก เน้นเส้นสาย ห้องโดยสารสวยงามหรูหรา ใช้วัสดุดี รวมถึงด้านอากาศพลศาสตร์อย่างการออกแบบให้ด้านบนตรงกลางต่ำกว่าด้านข้าง กับการวางตำแหน่งเครื่องยนต์ใหม่ให้สร้างแรงบิดได้เพิ่มขึ้น ช่วยเพิ่มศักยภาพในการขับขี่ อีกทั้งไฟหน้าและไฟท้ายที่เปลี่ยนมาใช้ Vision Bi-LED กับ Dual-Sonic LED ที่ส่องสว่างมากกว่าเดิมและไกลขึ้น ระบบช่วงล่างใหม่ รวมกับออพชั่นต่างๆ แบบครบครันจัดเต็ม กับราคา 1.16 ล้านที่ถือว่าคุ้มค่าคุ้มราคามากๆ กับสิ่งที่ได้มิตซูบิชิ ไทรทัน (Mitsubishi Triton)ไทรทันมีความน่าใช้งานไม่แพ้รุ่นอื่นๆ ด้วยด้านหน้าที่นำหน้าตาของปาเจโร่ (Pajero) มาใส่ ทำให้ดูดุดัน แข็งแรงขึ้น ด้วยกำลังเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร 180 แรงม้า ด้วยจุดเด่นของการออกแบบให้ท้ายโค้งลง สามารถเปิดกระจกด้านหลังได้ ไฟตัดหมอกที่ปรับตำแหน่งสูงขึ้น ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง นั่งสบายไม่เมื่อย เก็บเสียงได้ดี แต่ยังไม่มีที่บังแดดฝั่งคนขับให้ ก็แกกับระบบความปลอดภัยที่ทำออกมาได้ดีที่สุดในกลุ่มจากการใช้งานจริง บวกกับออพชั่นต่างๆที่ครบครันซึ่งยกมาจาก ปาเจโร่ สปอร์ต (Pajero Sport) กับราคาที่ 1.09 ล้านบาท ที่ถือว่าถูกที่สุดในบรรดากระบะกลุ่มนี้
รถกระบะออฟโรด 5 รุ่นทั้งหมดที่แนะนำนี้ ล้วนเป็นตัวท็อปของรุ่นทั้งหมด ซึ่งหากใครเป็นสายลุยที่อยากได้กระบะออฟโรดดีๆ สักคัน ก็ควรพิจารณาจากการทดลองขับและงบประมาณที่มีว่าไหวในระดับไหน เพราะแน่นอนว่าคนซื้อรถออฟโรดยังไงก็ต้องนำมาแต่งต่อเพื่อให้เข้ากับการใช้งานของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการบรรทุกสัมภาระ หรือไว้ใช้แข่งขันหรือท่องเที่ยวทั่วไป แต่หากใครที่มองหากระบะออฟโรดมือ 2 และเน้นรถที่สมรรถนะขับขี่มากกว่าเทคโนโลยีหรือออพชั่นที่ได้ นิสสันนาวารามือ 2 ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ