วิจารณ์เกี่ยวกับblog
ล้างเเอร์รถยนต์จำหน่ายแอร์รถยนต์
ช่วงนี้ การปฏิบัติการความสะอาด (clean)ตู้ Air Condition มี 4 วิธี
1. การทำความสะอาดสะอ้านตู้แอร์แบบถอดตู้ ต้องรื้อตู้แอร์ แล้วเอาคอยล์เย็นมา Cleanข้างนอก น้ำยาทำความ Cleanแตกต่างกันไปแล้วช่างจะใช้อะไรเพื่อ Parsimoniousต้นทุน ที่ราคา (Price)ถูก (Cheap Price)ๆ เขาก็คงใช้ผงซักฟอก โซดาไฟ พวกนี้จะทำความสะอาดสะอ้านออกยาก ดังนั้นแล้วช่วงของวันเวลาประกอบกลับ เปิดเครื่องปรับอากาศ จะรู้สึกว่ามีกลิ่นผงซักฟอก เจ้ากลิ่นนี้บอก Whatเราทุกท่าน (everybody)ในที่นี้ อันดับ (ranking) First สารทำความสะอาดสะอ้านทำความสะอาด (clean)ออกไม่หมด Abilityกัดกร่อนคอยล์เย็นได้ อันดับสอง สารทำความไร้ความสกปรกที่สูดเข้าไป ไม่ส่งเป็นผลดีมากกว่าผลเสียต่อระบบทางเดินหายใจ (mind)ของเราเลย ถ้าคนแพ้ ก็อาจแสบตา แสบจมูกได้ ก็อย่างว่า ไม่มีของดี Cheap Price การถอด Cleanตู้เครื่องปรับอากาศ (Air Condition)แบบนี้ ต้องแวคเติมน้ำยาเครื่องปรับอากาศ (Air Condition)ใหม่ และต้องเปลี่ยนไป (change)ไดเออร์กับวาลว์ความดัน ถ้ามัธยัสถ์งบ ไม่ยอมเปลี่ยน ท่อเครื่องปรับอากาศ (Air Condition)รั่วได้เพราะความชื้นเข้าไปอยู่ในระบบจากการถอดตู้แอร์ (Air)
2. การ Cleanแบบไม่ถอดตู้ โดยหลักการ (principles)ก็เพื่อช่วยให้ Makingความสะอาด (clean)นั้นไม่ยาก สบายขึ้น เสร็จว่องไวขึ้น ทางร้านได้เงินไว โดยทั่วไป เครื่องล้าง (Clean)ตู้แอร์จะกำหนดน้ำยาที่ต้องใช้เฉพาะ Forการทำความสะอาดสะอ้าน (Clean) แต่อย่างว่าแหละ บางร้าน wantลดต้นทุน เพราะต้นทุนน้ำยาต่อคัน ไม่ถูกหลายร้อยทีเดียว ก็เลยเอา ผงซักฟอกบ้าง โซดาไฟ บ้างผสมลงไปเพื่อให้น้ำยาไม่เลวหลายคันขึ้น ทีนี้ระยะทางของวันเวลาล้าง (Clean)น้ำยาออกจะมี Problem เพราะเครื่องไม่ได้ถูกกำหนดให้ Cleanผงซักฟอก หรือ โซดาไฟ ผลที่ได้ เจ้าของรถจ่าย Sale Priceแพง แต่ได้งานและธุรกิจ Quality Productที่ไม่มี Quality โดยคาดไม่ถึง การล้าง (Clean)แบบนี้จะเหมาะกับรถใหม่ รถที่ล้างแอร์ (Air)ปีละ 1 ครั้ง หรือพูด Easy and Simpleๆ เหมาะกับรถที่ Take Care เป็นอย่างดี Treatmentความสะอาดสะอ้านตู้เครื่องปรับอากาศ (Air Condition)เป็นประจำ ถ้าใช้มา 7-8 ปี แล้ว ช่างเครื่องปรับอากาศ (Air Condition)ไม่ค่อยอยากล้าง Step (Step)นี้ เพราะตู้เครื่องปรับอากาศ (Air Condition)อาจจะรั่วอยู่แล้ว แต่ฝุ่นไปอุดรูรั่วไว้ พอทำความไร้ความสกปรก (Clean)เอาฝุ่นออก รอยรั่วก็ปรากฎ เจ้าของรถต้องทำความเข้าใจอย่างแท้จริงด้วย เมื่อไม่ได้ล้าง (Clean)ทำความ Cleanมาเป็นปีๆ อัตราเสี่ยงก็ต้องสูง
3. การฉีดสเปรย์ทำความ Cleanตู้เครื่องปรับอากาศ (Air Condition) ไม่ต้องรื้อตู้ออกมา ฉีดสเปรย์ทำความ Cleanให้ทั่วคอยล์เย็น ก็เป็นอันเรียบร้อย คราบน้ำยาจะค่อยๆ ออกมาพร้อมกับน้ำ Air Conditionตามท่อน้ำทิ้ง ถ้าตู้เครื่องปรับอากาศไม่สกปรกมาก Process (Process)นี้ก็พอไม่เลว (not bad) แต่คงต้องฉีดสเปรย์กันบ่อย 2-3 เดือนต่อครั้ง เพราะอยู่ในเมือง ฝุ่นจะเยอะมาก สเปรย์บางยี่ห้อของสินค้าจะช่วยขจัดกลิ่นด้วย ราคาค่าฉีดสเปรย์เท่าที่ทราบมา เริ่มต้นที่ 800 บาท รวมๆ เงินแล้วก็มากกว่าการล้าง (Clean)ตู้ Air Conditionแบบที่ 1 และ ที่ 2
4. การใส่กรองเครื่องปรับอากาศ ไม่ใช่รถทุกรุ่นจะ Is available เพราะกรอง Air Conditionก็ทำมาสำหรับ (for someone)รถอีกระดับ ช่วยกรองฝุ่นอีกยุทธวิธีหนึ่ง แต่อายุการใช้ธุรกิจ (Business)ก็โดยประมาณ 5000 กม. ต้อง Changeอันใหม่ ถ้าไม่ Change ลมจะผ่านเข้าตู้เครื่องปรับอากาศไม่ง่ายดาย ลม Air Conditionที่ออกมาก็จะอ่อนกำลังลง ลมที่ตีกลับจะมีผลต่อคอมแอร์ เท่าที่ทราบกรองแอร์ (Air)สำหรับรถบางรุ่นราคาพอรับได้ แต่บางรุ่นราคา (Cost)เป็นพันบาท ไม่แน่ Heartว่าที่ราคาไม่กี่ร้อยทำให้ดีกว่าเดิมมากจะเป็นยังไง ถ้าใช้ Processนี้ในการดำเนินการความสะอาดสะอ้าน ในระยะ 1 ปี ก็เสียค่าใช้จ่ายประจำวันมากกว่า การทำความไร้ความสกปรก แบบที่ 1 และ ที่ 2รายละเอียดเพิ่มเติม
http://www.ytcommerce.com![](http://www.ytcommerce.com/images/introc_1287760792/13013708341.png)