พ่อแม่จะเป็นตัวช่วยส่งเสริมสิ่งต่างๆที่ดีให้กับลูกน้อย
แน่นอนว่าในปัจจุบันนี้ ทั่วโลกได้รับผลกระทบจากโรคโควิด ที่ส่งผลให้หลายท่านตกงาน รายได้ลดลง เพราะด้วยเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก ทำให้ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่เหมือนเมื่อก่อน และส่งผลให้เกิดความเครียด ความกังวล โดยเฉพาะคนที่มีลูก เกิดความกังวลว่าจะไม่สามารถหาเงินเพื่อเลี้ยงลูกได้ หรือกังวลว่าลูกอาจติดโรค ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะส่งผลไปยังลูกๆได้ โดยที่เราอาจไม่รู้ตัว ดังนั้น ก่อนจะเลี้ยงลูกให้ดีได้ พ่อแม่ผู้ปกครองทุกคนมีความจำเป็นต้องจัดการกับอารมณ์ของตนเองให้ได้ก่อน มีสติอยู่เสมอ อย่ากังวลจนเกินเหตุเพราะอาจส่งผลกระทบต่ออารมณ์และความรู้สึกของลูกได้
การเลี้ยงลูกของคนในยุคนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก เพราะนอกจากจะต้องดูแลลูกไม่ให้เจ็บป่วยแล้ว ยังต้องมีการสอนลูกให้รู้จักถึงโรคระบาดในปัจจุบัน ซึ่งเด็กในวัยที่โตขึ้นมาหน่อย อย่างเด็กในวัยประถม พ่อแม่อาจจะสามารถสอนลูกให้รู้จักดูแลตัวเองและระมัดระวังได้ ซึ่งในช่วงนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องให้ลูกอยู่แต่ในบ้านเพื่อไม่ให้พบกับความเสี่ยงนอกบ้าน และเมื่อสถานการณ์ดีขึ้น และลูกอาจต้องไปพบเจอคนภายนอกที่ไม่คุ้นเคย ก็อาจทำให้ลูกกลายเป็น
เด็กขี้อายได้ ดังนั้น สิ่งสำคัญคือพ่อแม่ผู้ปกครองจะต้อง
เลี้ยงลูกให้มีความสุขถึงแม้จะต้องอยู่ในบ้าน แต่ก็สามารถหากิจกรรมต่างๆเพื่อเป็นการส่งเสริมพัฒนาการ ให้เด็กมีพัฒนาการที่เป็นไปตามวัยอันเหมาะสม ส่งเสริมความคิดของลูก ให้ลูกสามารถมีความคิดเป็นของตนเอง กล้าแสดงออกเพื่อไม่ให้ลูกเป็นเด็กขี้อายเมื่อต้องพบเจอผู้คนอื่น โดยการปล่อยให้ลูกได้เรียนรู้ ได้ลองทำสิ่งต่างๆด้วยตนเอง จะทำให้ลูกอยากไปเผชิญโลกภายนอกได้โดยไม่เกรงกลัว
พ่อแม่ผู้ปกครองถือเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยส่งเสริมให้ลูกเจริญเติบโตไปในทางที่ถูกต้อง และเพื่อไม่ให้ลูกเป็นเด็กขี้อาย พ่อแม่อาจเป็นคนช่วยแนะนำสิ่งต่างๆที่ถูกต้องให้ลูก อย่างการพาไปพบเจอผู้คนภายนอกเมื่อสถานการณ์ปลอดภัยจากโรคระบาดแล้ว โดยอาจพบเจอโดยไม่สัมผัสกัน ใส่แมสก์และเว้นระยะห่างที่พอดี ก็จะทำให้เด็กได้เรียนรู้การอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างปลอดภัยในแบบ new normal ได้อีกด้วย หรือการพาลูกออกไปทำกิจกรรมต่างๆร่วมกับผู้อื่นอย่างเช่น การเล่นกีฬา การเล่นดนตรี การเรียนพิเศษในสิ่งที่ลูกชอบ เพื่อเป็นแนวทางให้ลูกได้ทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่น จะส่งผลให้ลูกเป็นคนกล้าแสดงออก สามารถทำงานหรือทำกิจกรรมกับผู้อื่นได้โดยไม่อยู่ภายใต้แรงกดดันจากพ่อแม่ ให้ลูกกล้าคิด กล้าทำ และกล้าเสนอสิ่งๆต่างที่ต้องการกับพ่อแม่ได้ ก็จะทำให้เด็กไม่เกิดความเครียดมากจนเกินไปอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม การดูแลลูกให้เติบโตและมีพัฒนาการที่ดีตามวัย อาจต้องคำนึงถึงปัจจัยหลายๆอย่าง ทั้งการนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอ การส่งเสริมกิจกรรมที่ลูกชอบ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ถูกหลักโภชการ ก็มีส่วนช่วยให้ลูกมีพัฒนาการที่ดี ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง เพื่อพร้อมไปเผชิญสิ่งๆต่างภายนอกได้อย่างเต็มที่โดยไม่เกรงกลัว และกล้าที่จะพบเจอผู้คนในแบบ new normal อีกด้วย