ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


รังแคเกิดจากอะไร ทำยังไงก็ไม่หายสิ่งที่สาวๆควรรู้!!!


อีกหนึ่งปัญหาหนักใจรังแคสามารถเห็นกันได้ง่าย ยิ่งเวลาเราสางผม หวีผม หากใครที่มีรังแคมากๆ อาจทำให้รังแคร่วงใส่เสื้อได้ แล้วยิ่งเป็นเสื้อสีเข้มด้วยแล้วยิ่งเห็นรังแคง่าย รวมทั้งสีผมด้วยใครที่ผมสีดำ สีน้ำตาลเข้มๆ ก็ยิ่งเห็นเจ้ารังแคนี้ชัดเจน รังแคเกิดจากการหลุดร่วงของหนังศีรษะ ความมันส่วนเกินที่ทำให้ผิวหนังชั้นนอกถูกผลักออกมา อาจจะหลุดลอกเป็นสะเก็ดสีขาวเล็กๆ หรือ เป็นแผ่นๆ สาเหตุของรังแคก็มาจากหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศที่แห้ง การระคายเคืองหนังศีรษะ ไปดูวิธีการรักษารังแคง่ายๆ ในบทความกันเลย!!!
รังแคเกิดจากอะไร มาจากไหน ?
ส่วนใหญ่ปัญหารังแคจะพบว่า มาจากเชื้อราบนหนังศีรษะ มักมาคู่กับอาการหนังศีรษะอักเสบที่จะมีลักษณะเป็นปื้นแดงๆ ถ้าไปแกะไปเกา จะมีน้ำเหลือง นับว่าเป็นปัญหาที่ต้องรีบรักษาก่อนจะลามไปใหญ่ ส่วนใหญ่จะไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจนมากนัก อาจจะเกิดได้จากหลายปัจจัย แต่สาเหตุหลักๆ ที่พบได้บ่อยมักจะมาจาก
-การเจริญของเชื้อราที่อาศัยอยู่ตามผิวหนัง จะพบเชื้อรา Malassezia มากในคนที่เป็นรังแค
-ความมันของหนังศีรษะ จะทำให้เชื้อราเปลี่ยนไปเป็นสารที่ทำให้หนังศีรษะอักเสบ
-สภาพอากาศที่หนาวเย็น จะทำให้ผิวแห้งทำให้เกิดรังแคบนหนังศีรษะได้ง่ายขึ้น
-ฮอร์โมนเพศ หากมีฮอร์โมนแอนโดรเจนมาก หรือ ฮอร์โมนเพศชายมาก จะทำให้ต่อมไขมันผลิตไขมันออกมามากขึ้น
-ความเครียดสะสม ขาดการพักผ่อน จะทำให้ช่วงนั้นๆ เกิดรังแคได้ง่ายกว่าช่วงปกติ
-การขาดสารอาหารที่จำเป็น เช่น B2,B6,Zinc ซึ่งเป็นสารที่จำเป็นต่อหนังศีรษะ หากขาดจะทำให้หนังศีรษะผลัดเซลล์ผิวมากขึ้น
-ระบบของภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติ โรคทางระบบประสาท และ ปัจจัยทางพันธุกรรมต่างๆ จะทำให้เกิดรังแค เชื้อราบนหนังศีรษะได้ง่ายกว่าคนทั่วไป
-การดื่มแอลกอฮออล์ ที่มากเกินไป จะทำให้คุณเกิดรังแคบนหนังศีรษะได้
ปัจจัยต่างๆ อาจส่งผลทำให้เกิดเชื้อราบนหนังศีรษะได้ ดังนั้นคุณจึงต้องทำการสังเกตตัวเองให้ดี และ เลือกใช้วิธีการรักษารังแคที่เหมาะสม อาจจะต้องใช้วิธีที่สามารถกำจัดรังแคควบคู่ไปกับการลดการอักเสบของหนังศีรษะที่มาจากเชื้อรา
มีวิธีไหนบ้างที่ช่วยในการกำจัดรังแค
วิธีที่1 - น้ำมะนาวและไข่แดง

สาวๆ คนไหนที่มีปัญหารังแค โดยเฉพาะรังแคที่มาจากสภาพอากาศ สารเคมีต่างๆ เนื่องจากไข่แดงมีโปรตีนที่ช่วยในการซ่อมแซมหนังศีรษะได้สูง อีกทั้งยังช่วยบำรุงผมได้ด้วย รับว่าเป็นวิธีกันตายที่ทุกบ้านต้องมีติดเอาไว้ วิธีนำไข่แดงมาใช้ก็ง่ายมาก
ส่วนผสมสูตรนี้
-ไข่แดง 1 - 2 ฟอง (ให้พอกับความยาวของผม)
-น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
-น้ำสะอาด 1 ถ้วย
วิธีการรักษารังแค
1.ให้นำไข่แดงมาตีให้แตก จากนั้นให้ผสมน้ำมะนาว และ น้ำสะอาดเข้าด้วยกัน
2.ให้ชโลมส่วนผสมทั้งหมดให้ทั่วทั้งหัวในตอนที่ผมแห้ง จากนั้นทิ้งไว้ประมาณ 5 - 10 นาที
3.จากนั้นล้างออก แล้วสระผมด้วยแชมพูอ่อนๆ แล้วเป่าผมให้แห้งก็เป็นอันเรียบร้อย
วิธีที่2 - น้ำชาและน้ำมะนาว

หากสาวๆ ที่มีปัญหารังแคที่มาจากเชื้อรา หรือ เป็นรังแคบ่อย วิธีนี้สามารถช่วยในเรื่องของการกำจัดเซลล์ผิวหนังศีรษะที่ตาย อีกทั้งยังช่วยในการบำรุงเส้นผมให้สวยงามอีกด้วย สำหรับใครที่ไม่ชอบอะไรที่กลิ่นแรงๆ วิธีนี้สาวๆ  หลายคนน่าจะชอบ
ส่วนผสมสูตรนี้
-น้ำชา 1 - 2 ถ้วย
-น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีการรักษารังแค
1.ให้ทำการผสมน้ำชา และ น้ำมะนาวให้เข้ากัน (หากน้อยเกินไปให้เพิ่มสัดส่วนให้พอดีกับขนาดของผม)
2.ชโลมให้ทั่วเส้นผม โดยเฉพาะหนังศีรษะ จากนั้นทิ้งเอาไว้ประมาณ 20 นาที และ ทำการล้างออกด้วยน้ำสะอาดก็เป็นอันเสร็จ
วิธีที่ 3 -  น้ำมะกรูด

มาถึงการใช้สมุนไพรบ้านเราบ้าง มะกรูดนับว่าเป็นสมุนไพรที่ช่วยในการกำจัดรังแคที่หลายๆ คนเลือกใช้ ทำให้เรามักจะเห็นพวกแชมพูมะกรูดอยู่บ่อยๆ ครั้ง เพราะมะกรูดสามารถช่วยในการลดความมันของหนังศีรษะได้ดี ทำให้รากผมแข็งแรง นอกจากการกำจัดรังแคยังช่วยให้ผมนุ่มอีกด้วย แต่บางคนก็อาจจะไม่ชอบกลิ่นมะกรูดมากนัก
ส่วนผสมสูตรนี้
-น้ำมะกรูด 1 - 2 ถ้วย
วิธีการรักษารังแค
1.ทำการคั้นน้ำมะกรูดออกมา จากนั้นให้ชโลมให้ทั่วหัว แล้วทิ้งเอาไว้ประมาณ 5 นาที
2.เมื่อถึงเวลาให้ลองขยี้ผมเพื่อดูว่าซึมเข้าไปทั่วหัวหรือไม่ ทำการล้างออกด้วยน้ำสะอาด และ สระผมด้วยแชมพูอ่อนๆ ก็เป็นอันเรียบร้อย
วิธีที่ 4 - น้ำมันมะกอก

สำหรับใครที่มีปัญหารังแคที่มาจากหนังศีรษะแห้งจากความร้อน หรือ ไม่ชอบวิธีที่ยุ่งยากต้องวิธีนี้เลย น้ำมันมะกอกนอกจากจะช่วยทำให้เส้นผมสลวยแล้ว ยังช่วยทำให้หนังศีรษะชุ่มชื้น และ ลดรังแคได้อีกด้วย แต่วิธีอาจจะใช้เวลามากกว่าวิธีอื่นๆ วิธีนี้แนะนำให้ทำตอนกลางคืน
ส่วนผสมสูตรนี้
-น้ำมันมะกอก
วิธีการรักษารังแค
1.ให้ทำการชโลมน้ำมันมะกอกให้ทั่วทั้งหัว จากนั้นให้นวดให้น้ำมันซึมเข้าหนังศีรษะ
2.จากนั้นให้ทำการหมักทิ้งไว้ทั้งคืน จากนั้นตื่นมาล้างผมออก และ สระผมตามปกติก็เป็นอันเรียบร้อย
วิธีที่ 5 - แชมพูขจัดรังแค

หากสาวๆ คนไหนที่ทำไม่ค่อยมีเวลา เป็นรังแคที่มีอาการคัน หรือ เชื้อราร่วมด้วย ให้ลองใช้แชมพูกำจัดรังแคช่วย โดยเลือกแชมพูที่มีส่วนผสมในการป้องกันการกลับมาเป็นรังแคซ้ำอย่าง 2% Ketoconazole Shampoo ที่เป็นแชมพูในการจำกัดรังแคโดยเฉพาะ อีกทั้งยังช่วยในการป้องกันเชื้อราอีกด้วย
คุณสมบัติของแชมพูกำจัดรังแค 2% Ketoconazole Shampoo
-ฆ่าเชื้อราบนหนังศีรษะ
-ลดการอักเสบของหนังศีรษะ
-ทำให้หนังศีรษะแข็งแรง ลดความมันของหนังศีรษะ
-ป้องกันการกลับมาเป็นรังแคซ้ำ
-มีกลิ่นหอมน่าใช้
-ไม่ทำให้ระคายเคืองหนังศีรษะ
-ใช้กับผมทำสีได้ ไม่ทำให้สีผมเพี้ยนไปจากเดิม
วิธีการรักษารังแค
1.ทำการสระผมด้วยแชมพู Fungazol แทนยาสระผมปกติ ทิ้งไว้ 3 - 5 นาที โดยให้สระผมอย่างน้อยอาทิตย์ละ 2 ครั้ง และ ใช้ให้ติดต่อกันอย่างน้อย 2 - 4 สัปดาห์
2.จากนั้นให้ล้างออกให้สะอาด แล้วเป่าผมให้แห้งอย่าทิ้งให้ผมเปียก
ในกรณีที่ป้องกันการกลับมาเป็นรังแคซ้ำ ให้สระผมด้วยแชมพูอาทิตย์ละ 1 ครั้ง หรือ 2 อาทิตย์ครั้ง แชมพู Fungazol มีส่วนผสมของ 2% Ketoconazole ให้ผลที่ดีในการรักษารังแค และ ลดรังแคได้รวดเร็ว นอกจากนั้นยังสามารถรักษาอาการเกลื้อนที่มาจากเชื้อราได้อีกด้วย
 
ลองเอาวิธีเหล่านี้ไปใช้งานกันนะคะ ใครที่ชอบวิธีไหนก็ให้ใช้วิธีนั้น แต่หากใครยังมีปัญหารังแคกวนใจไม่หายสักทีให้ลองใช้แชมพูขจัดรังแคดูนะคะ แต่อย่าลืมที่จะดูว่าจริงๆ แล้ว รังแคของคุณมาจากสาเหตุไหนกันด้วย เพื่อที่จะเลือกใช้วิธีในการกำจัดรังแคได้อย่างเหมาะสม ถ้าทำแล้วดีอย่าลืมบอกต่อเพื่อนสาวคนอื่นๆ ด้วยนะคะ
 
พบกับเทคนิคเคล็ดลับดีๆที่ Sistalk
สาวๆ คนไหนที่ไม่อยากตกเทรนด์ ไม่อยากพลาดข้อมูล ข่าวสารดีๆ ที่เป็นประโยชน์ เคล็ดลับต่างๆ สุขภาพ แฟชั่น เทรนด์ฮิต และ เรื่องของความรัก!!! แล้วคุณจะไม่ตกเทรนด์กับเรา "เพราะเราเป็นมากว่าเพื่อนสาว" มาเป็นสาว Sistalk ด้วยกันนะคะ สาวๆ คนไหน ที่ไม่อยากพลาดข่าวสารดีๆ ก็ไปกดติดตามช่องทางต่างๆ ของเรากันไว้นะ แล้วพบกันใหม่บทความหน้านะคะสาวๆ
 
 
 
สามารถติดต่อสอบถาม Sistalk ช่องทางอื่นๆได้ที่
Facebook : sistalk.in.th
Instagram : sistalk.in.th
Twitter : @SistalkTH