ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


แชร์ความรู้ยาปรับฮอร์โมน กินอย่างไรหน้าใสไร้สิว

   ในปัจจุบันการรับประทานยาคุมกำเนิดมีฮอร์โมนเพศหญิงที่ออกฤทธิ์ช่วยป้องกันการตั้งครรภ์และยังสามารถใช้เป็นยาคุมลดสิวด้วย แต่ยาคุมกำเนิดหรือ ยาปรับฮอร์โมน รักษาสิวได้จริงหรือ การใช้ยาเพื่อให้ออกฤทธิ์แบบนี้ยังเป็นคำถามที่หลายคนสงสัยและต้องการคำตอบว่ากินอย่างไรจึงหน้าใสไร้สิว ปลอดภัย และป้องกันผลข้างเคียงต่อสุขภาพหลังกินยาคุมกำเนิด
มาทำความเข้าใจก่อนว่ายาคุมกำเนิดและการรักษาสิวมีความสัมพันธ์กันอย่างไร ช่วงที่มีประจำเดือนระดับฮอร์โมนในร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นสาเหตุของการเกิดสิวมากขึ้น การรับประทานยาคุมกำเนิดช่วยปรับระดับฮอร์โมนเพศหญิงเพิ่มขึ้น และลดระดับฮอร์โมนเพศชายแอนโดรเจนเพื่อยับยั้งการผลิตไขมันจากต่อมไขมันใต้ผิวหนัง จึงช่วยลดการเกิดสิวอุดตัน ลดการอักเสบของสิว และลดการเกิดสิวใหม่ ซึ่งใช้เวลาหลายสัปดาห์เพื่อให้ร่างกายปรับสมดุลของฮอร์โมนเพศจึงจะเห็นผล   
ยาคุมกำเนิดที่ใช้ป้องกันการตั้งครรภ์ทั่วไปแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
    1.ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม เป็นยาเม็ดที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสโตเจนรวมกัน มีประสิทธิภาพสูง โอกาสการตั้งครรภ์น้อยมาก และรับประทานยาตัวนี้ช่วยรักษาสิวได้ผล แพทย์อาจแนะนำให้กิน ยาปรับฮอร์โมนต่ำ ในกรณีที่ใช้วิธีอื่นรักษาสิวไม่ได้ผล ข้อดีของยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมคือทำให้ประจำเดือนมาตรงเวลาอย่างสม่ำเสมอ ลดอาการปวดประจำเดือน ประจำเดือนมาปกติและตรงเวลาขึ้น ผลพลอยได้คือลดความมันที่ทำให้เกิดสิว ลดอาการขนดก สามารถใช้เป็นยาคุมช่วยหน้าใส การกินยาคุมชนิดฮอร์โมนช่วยทดแทนฮอร์โมนเพศหญิงในรายที่ภาวะรังไข่เสื่อมและหยุดทำงานตั้งแต่อายุยังน้อย หรือก่อนอายุ 40 ปี ทำให้ประจำเดือนขาด การใช้ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมช่วยบรรเทาปัญหาได้
ข้อเสียของยาคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนรวม ในช่วงแรกที่กินยาคุมกำเนิดอาจส่งผลให้บางรายรู้สึกคลื่นไส้อาเจียน ปวดหัว คัดตึงเต้านม แน่นท้อง น้ำหนักเพิ่ม มีเลือดออกกะปริดกะปรอยคล้ายประจำเดือน และซึมเศร้า แต่ร่างกายจะปรับตัวและอาการดีขึ้นหลังใช้ยา 2-3 เดือน ปัจจุบันมีการปรับตัวยาในยาเม็ดคุมกำเนิดเพื่อลดอาการไม่พึงประสงค์เกิดผลข้างเคียงน้อยลง
2.ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว เป็นยาเม็ดที่มีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเพียงอย่างเดียวเพื่อลดอาการข้างเคียงจากฮอร์โมนเอสโตรเจน ข้อดีคือเหมาะสำหรับคุณแม่ให้นมบุตร กินแล้วไม่มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน อย่างไรก็ตาม ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมเท่านั้นที่ช่วยยับยั้งการเกิดสิว ยาเม็ดชนิดฮอร์โมนเดี่ยวช่วยรักษาสิวไม่ได้
การใช้ ยาคุมรักษาสิว ควรศึกษาให้ดี พิจารณาทั้งข้อดีและข้อเสีย สิ่งสำคัญที่ควรทำคือก่อนใช้ยาควรจะปรึกษาแพทย์หรือขอคำแนะนำจากเภสัชกร เพราะการใช้ยาคุมกำเนิดมีความเสี่ยงและอาจจะมีผลข้างเคียงกับบางคน ผู้ที่ไม่ควรใช้ยาคุมกำเนิดเพื่อรักษาสิว ได้แก่ เพศหญิงที่ยังไม่มีประจำเดือน, หญิงตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมลูก, เป็นโรคอ้วน, ไมเกรน, โรคเบาหวาน โรคตับ, ความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือด, มีภาวะลิ่มเลือดอุดตัน,  โรคหัวใจ, โรคมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งเต้านม ในช่วงแรกของการกินยาคุมกำเนิดจะมีสิวขึ้นและเกิดอาการข้างเคียงบางอย่าง ก่อนกินยาควรปรึกษาแพทย์และแจ้งให้ทราบถึงประวัติการเจ็บป่วยก่อนเสมอเพื่อให้กินยาคุมรักษาสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยที่สุด
ข้อมูลเพิ่มเติมที่
https://www.wongnai.com/beauty-tips/ee35c-birth-control-for-acne