ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง

[กัลยาลักษณ์ ท้าวลอม]

ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเองเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สำคัญ ซึ่งเข้ามามีผลต่อการเข้าถึงได้อย่างสะดวกของผู้ที่ต้องการตรวจหาเอชไอวีในไทย เนื่องจากบริบททางสังคมต่าง ๆ ที่อาจยังไม่มีความเข้าใจในโรคเอดส์รวมถึงการติดเชื้อเอชไอวีทุก ๆ มิติมากเท่าที่ควร ทางเลือกที่หลายคนใช้คงหนีไม่พ้นการใช้ “ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง” ที่นอกจากจะหาซื้อได้ง่ายในปัจจุบันแล้ว ยังสามารถตรวจได้เองที่บ้านและมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าการเลือกใช้บริการตรวจเอชไอวียังสถานพยาบาลทั่วไป

ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง (HIV Self-Test Kit) ได้รับการยอมรับจากองค์กรอนามัยโลก ว่ามีประสิทธิภาพในการตรวจคัดกรองเบื้องต้นเทียบเท่าการตรวจคัดกรองโดยสถานพยาบาล ซึ่งจากการทดลองนับครั้งไม่ถ้วนพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าผลลัพธ์มีความแม่นยำ ทั้งนี้ได้มีการออกแบบชุดอุปกรณ์การตรวจให้สามารถใช้งานได้ง่ายอย่างต่อเนื่อง กระทั่งได้ลักษณะชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเองที่เหมาะสม คนทั่วไปที่ไม่ประสบการณ์หรือไม่มีความเข้าใจด้านการแพทย์ ก็สามารถใช้งานได้ที่บ้านไม่ยาก แต่สิ่งหนึ่งที่ย่อมปฏิเสธไม่ได้คือข้อสงสัยตลอดจนความไม่มั่นใจในการใช้งาน ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง อันเนื่องมาจากสามารถเข้าถึงได้ง่ายและมีขายมากมายตามช่องทางออนไลน์ ซึ่งอาจมีสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานวางขายร่วมด้วย รวมถึงยังไม่มีความรู้ความเข้าใจในการตรวจด้วยตัวเองมากพอ บทความนี้เราได้รวบรวม “ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง” เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจตรวจด้วยตัวเองได้อย่างถูกต้องเหมาะสมต่อไป

ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง
ก่อนตัดสินใจซื้อชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง มีหลากหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อผู้ตรวจทั้งทางตรงและทางอ้อม หากมีความรู้ความเข้าใจมากพอก่อนแล้วล่ะก็ ย่อมช่วยลดความเสี่ยงหรือข้อเสียที่อาจพบเจอได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะมีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง ไปติดตามกันดีกว่า

ความรู้เบื้องต้นของ เชื้อไวรัสเอชไอวี (HIV)
เอชไอวีคืออะไร?
เชื้อไวรัสเอชไอวี (Human Immunodeficiency Virus : HIV) คือเชื้อไวรัสที่ทำลายระบบภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยจนเกิดความบกพร่อง โดยที่เชื้อไวรัสเอชไอวีจะทำลายเม็ดเลือดขาว CD4 ส่งผลให้มีโอกาสติดเชื้อโรคฉวยโอกาสต่าง ๆ ได้สูงกว่าปกติ ซึ่งผู้ติดเชื้อเอชไอวีสามารถแบ่งได้เป็น 3 ระยะ คือ
ระยะเฉียบพลัน (Acute HIV Infectious)
ระยะสงบทางคลินิก (Clinical Latency Stage)
ระยะโรคเอดส์ (AIDS)

สาเหตุของการติดเชื้อเอชไอวี
สาเหตุหลักของการติดเชื้อเอชไอวีเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน เนื่องจากสามารถติดต่อได้ผ่านการสัมผัสกับสารคัดหลั่งในร่างกาย คือ น้ำอสุจิ ของเหลวภายในช่องคลอด เลือด หรือ น้ำนมแม่ ซึ่งการป้องกันที่ดีที่สุดคือการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงดังกล่าวให้ได้มากที่สุดนั่นเอง


พัฒนาการของการตรวจวินิจฉัยเอชไอวีในปัจจุบัน
นับตั้งแต่ที่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสเอชไอวีเมื่อ 40 ปีที่แล้ว แน่นอนว่าสิ่งที่ตามมาอย่างขาดไม่ได้คือการคิดค้นแนวทางการรักษาให้หายขาด โดยมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและไม่หยุดยั้ง และด้วยสาเหตุสำคัญที่วงการแพทย์ยังไม่สามารถหาวิธีการรักษาได้ 100% ทำให้การรักษาด้วยการให้ผู้ติดเชื้อเอชไอวีมีชีวิตร่วมกับเชื้อได้ยาวนานมากขึ้นนับเป็นเรื่องที่ดีที่สุดในขณะนี้ ทั้งนี้แนวทางการป้องกันย่อมมีผลต่อการลดอัตราการติดต่อได้ด้วยเช่นกัน จึงได้มีการคิดค้นการตรวจเอชไอวีเบื้องต้นเกิดขึ้น ทั้งการตรวจโดยห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ และสิ่งที่คิดค้นล่าสุดคือชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเองนั่นเอง

ใครบ้างที่ควรใช้ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง
ผู้ที่ต้องการทราบสถานะเลือด แต่ไม่ต้องการเดินทางไปยังสถานพยาบาล
ผู้ที่ต้องการให้ผลการตรวจเป็นความลับและต้องการความเป็นส่วนตัว
ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี
ผู้ที่ต้องการทราบผลเลือดก่อนตัดสินใจเดินทางไปตรวจยังสถานพยาบาล

ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเองมีกี่ประเภท
ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง (ชุดตรวจน้ำลาย)
เป็นการตรวจเอชไอวีด้วยตนเองโดยใช้น้ำลายในการวินิจฉัย ซึ่งนับว่าเป็นการตรวจที่วงการแพทย์ใช้ในการตรวจโรคอื่น ๆ ได้ด้วยเช่นกัน ปัจจุบันได้มีการพัฒนาชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเองแบบน้ำลายได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้นจากในอดีต จึงเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกในประสิทธิภาพที่น่าพึงพอใจ
ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง (ชุดตรวจเลือด)
เป็นการตรวจเอชไอวีโดยการเจาะเลือดจากปลายนิ้ว ด้วยการใช้อุปกรณ์ที่ให้มาภายในชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง ซึ่งมีความปลอดภัยและสามารถทำได้เองง่าย ๆ อีกทั้งยังมีการออกแบบมาให้สามารถทิ้งได้อย่างไม่อันตราย ถือว่าเป็นชุดตรวจเอชไอวีที่มีความแม่นยำเทียบเท่าการตรวจคัดกรองเบื้องต้นโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แต่ทั้งนี้จะต้องมีความน่าเชื่อถือ ผ่านการรับรองจากหน่วยงานระดับสากล เพื่อให้มั่นใจในมาตรฐานแนะนำว่า INSTI ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง คือหนึ่งในชุดตรวจที่ได้ชื่อว่าแม่นยำ ตลอดจนสามารถรู้ผลได้เร็วกว่ายี่ห้ออื่น ๆ ถึง 2 สัปดาห์ ใช้เวลาตรวจเพียง 1 นาทีเท่านั้น

หากผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี หรือ ผู้ที่ต้องการทราบผลเลือดผ่านการใช้ ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง นำข้อควรรู้ทั้ง 3 หัวข้อดังกล่าวไปปรับใช้ในการตัดสินใจซื้ออย่างรอบครอบแล้วล่ะก็ แน่นอนว่าจะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการพิจารณาชุดตรวจที่ได้มาตรฐาน รวมถึงสามารถลดความกังวลใจทั้งในเรื่องของประสิทธิภาพและความเข้าใจเบื้องต้นได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้หากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมเพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเองมากขึ้น สามารถขอคำปรึกษาจากผู้จัดจำหน่ายหรือหน่วยงานเกี่ยวกับเอชไอวีในไทยได้อีกทางด้วยเช่นกัน

https://thaihiv.net/