หากพูดถึงโรคผิวหนังอักเสบยอดฮิตที่พบได้บ่อยอีกโรคหนึ่ง ก็คงจะหนีไม่พ้นโรค สะเก็ดเงิน ซึ่งเป็นหนึ่งในโรคผิวหนังที่หลายๆ อาจจะยังไม่รู้จัก หรือ ยังไม่เคยเป็นแต่ก็ไม่ควรที่จะมองข้าม เพราะโรคนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในโรคเรื้อรังที่ต้องรีบรักษา เพราะไม่งั้นอาจจะลุกลามไปทั่วร่างกายได้ ซึ่งส่วนมากมักจะมีอาการคล้ายโรคผื่น โรคผิวหนังทั่วไป จนทำให้หลายๆ คนเข้าใจผิดว่าเป็นแค่อาการระคายเคือง อาการแพ้บริเวณผิวหนัง มาทำความรู้จักโรคสะเก็ดเงินกันดีกว่า
ทำความรู้จักสะเก็ดเงิน คืออะไร?
โรคสะเก็ดเงิน เป็นหนึ่งในโรคผิวหนังอักเสบเรื้อรังชนิดหนึ่ง ที่พบได้ตั้งแต่ศีรษะ ใบหน้า และ ส่วนอื่นๆ ทั่วร่างกาย โดยเฉพาะในส่วนของข้อศอก หัวเข่า (เพราะเป็นจุดที่เกิดการเกา การเสียดสีบ่อยที่สุด) โรคสะเก็ดเงินถือว่าเป็นโรคเรื้อรังที่ไม่สามารถแพร่เชื้อกันได้ และ ไม่ใช่โรคติดต่อดังนั้นไม่ต้องกังวล แต่ก็เป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ โรคสะเก็ดเงินเป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากหลายสาเหตุ
-การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
-ภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติ
-การแบ่งเซลล์ผิวหนังที่เร็ว
-การเจริญของผิวหนังที่ไม่สมบูรณ์
-การอักเสบที่ชั้นใต้ผิวหนัง / การที่ผิวแห้ง
-เซลล์ใต้ผิวหนังที่มีวงจรชีวิตสั้น
-คนที่มีน้ำหนักตัวมาก คนที่เป็นเบาหวาน
-การใช้ยาบางชนิด เช่น ยาสเตียรอยด์ ยารักษาโรคทางจิต ยาโรคหัวใจบางชนิด
-โดนกระตุ้นจากสิ่งแวดล้อม เช่น สภาพอากาศ ความเครียด การติดเชื้อจากการบาดเจ็บที่ผิวหนัง
ประเภทและชนิดของโรคสะเก็ดเงิน
ผื่นที่เกิดจากโรคสะเก็ดเงิน จะมีหลายรูปแบบแตกต่างกันไปตามประเภทของโรคสะเก็ดเงิน บางคนอาจจะมีผื่นขึ้นเฉพาะจุด บางคนมีผื่นขึ้นหลายจุด และ แต่ละจุดมีลักษณะผื่นที่ต่างกันออกไป บางคนก็มีผื่นเฉพาะพื้นที่ตรงบริเวณที่เกิดการเสียดสี เช่น บริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า ศีรษะ ไรผม ข้อศอก หัวเข่า บางคนก็มีผื่นเล็กๆ กระจายทั่วตัว บางคนก็เป็นลักษณะจุดสีน้ำตาลบนปลายเล็บ หรือ ตรงข้อนิ้ว แถมยังมีอาการอักเสบร่วมด้วย
ผื่นหนา (Plaque psoriasis) ชนิดที่พบบ่อยที่สุด มีอาการเป็นผื่นแดงขอบชัด มีขุยหนาสีขาวหรือสีเงินปกคลุม
ผื่นแดงลอกออกเป็นขุย เป็นสะเก็ด (Erythrodermic psoriasis) ตามจุดต่างๆ และ คันตามร่างกาย
ผื่นหนาเล็กๆ (Guttate psoriasis) กระจายทั่วตัว (บางคนผื่นก็จะหายไปเอง บางคนก็จะเป็นผื่นเรื้อรัง)
ผื่นตุ่มหนอง (Pustular psoriasis) จะทำให้เกิดการอักเสบแดง สามารถกระจายได้ทั่วร่างกาย บางคนอาจจะมีไข้ร่วมด้วย
สะเก็ดเงินบริเวณมือเท้า (Palmoplantar psoriasis) เป็นบริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า ลักษณะเป็นผื่นแดงขอบเขตชัดเจน ขุยลอก อาจพบลามมาบริเวณหลังมือ หลังเท้าได้
นอกจากนั้นยังมีรูปแบบอื่นที่ไม่ได้พบตามใบหน้า ข้อศอก แต่จะพบได้ที่เล็บ ที่จะเรียกกันว่า เล็บสะเก็ดเงิน (Psoriatic nails) และ รูปแบบอื่นๆ ที่จะปรากฏไม่บ่อยนัก บางครั้งก็จะมีอาการปวดข้อร่วมด้วย (อาการข้ออักเสบ) ในคนที่มีอาการรุนแรง หากเป็นนานๆ แล้วไม่รักษาจะทำให้มีอาการข้ออักเสบได้ และ หากรักษาข้อไม่ถูกต้องอาจทำให้ข้อผิดรูป จนถึงขั้นพิการได้
โรคสะเก็ดเงินนี้ไม่ใช่โรคติดต่อ!!!
โรคนี้ไม่ใช่โรคที่จะสามารถติดต่อกันได้ แต่เป็นโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ ซึ่งอาการเหล่านี้จะแสดงออกแตกต่างกันไปแล้วแต่ตัวบุคคล มีทั้งอาการที่รุนแรงน้อย ไปจนถึงมีอาการรุนแรงมาก ซึ่งการรักษาก็ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ
หากอาการไม่รุนแรงมาก (ผื่นมีขนาดเล็กกระจายน้อยกว่า 10% ของร่างกาย) ก็สามารถรักษาได้ด้วยการดูแลตัวเอง เช่น การทายาเฉพาะจุด
หากมีอาการรุนแรง (ผื่นมีขนาดใหญ่กระจายมากกว่า 10% ของร่างกาย) รวมทั้งมีอาการปวดข้ออย่างรุนแรงก็ต้องไปพบแพทย์เพื่อที่จะรักษา ทั้งการทานยา การฉายแสง การฉีดยา
การดูแลผิวเมื่อเป็น สะเก็ดเงิน ต้องทำยังไง???
พยายามอย่าแกะ อย่าเกาบริเวณที่เป็นสะเก็ดเงิน เพราะจะทำให้เกิดการอักเสบขึ้นได้ หากมีอาการคันก็อาจจะใช้ยาทาเฉพาะจุด แต่ต้องระวัง เพราะยาบางชนิดโดยเฉพาะยาที่ต้องทาก็อาจมีผลข้างเคียงที่รุนแรง ไม่เหมาะสำหรับคนที่มีอาการน้อยๆ เพราะจะทำให้อาการรุนแรงขึ้น หรือ เกิดอาการขึ้นอีกครั้งได้ในกรณีที่ผื่นไม่ค่อยขึ้นแล้ว ดังนั้นจึงควรปรึกษาแพทย์ ไม่ควรซื้อยามาทานเอง
ในการล้างหน้าล้างตัว ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน เช่น สบู่เด็ก สบู่ที่ปราศจากสารปรุงแต่งอย่างน้ำหอม สี พาราเบน สารสังเคราะห์ สบู่ที่มีค่า PH ที่ไม่ทำร้ายผิว
ทาครีมบำรุงเสริมความชุ่มชื่นให้ผิวสม่ำเสมอ เพราะว่าเมื่อเป็นสะเก็ดเงินผิวของคุณจะแห้งมาก และ หลุดลอกเป็นแผ่น ดังนั้นการบำรุงด้วยพวกโลชั่น สกินแคร์ เวชสำอางที่ช่วยลดอาการผิวแห้ง ทำให้รู้สึกว่าผิวนุ่มขึ้น เป็นการช่วยเสริมเกราะป้องกันผิวจากภายใน และ ลดอาการกำเริบของสะเก็ดเงิน
หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ และ การสูบบุหรี่ เพราะแอลกอฮอล์ บุหรี่ จะไปช่วยกระตุ้นทำให้ผื่นลุกลามหนักขึ้นมาได้ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยง ส่วนอาหารสามารถทานได้ปกติ ไม่มีผลต่อโรคนี้
ควบคุมน้ำหนักให้พอดี เนื่องจากคนที่มีน้ำหนักเกิน อ้วนลงพุง คนเป็นเบาหวาน จะทำให้เป็นโรคสะเก็ดเงินได้ง่ายกว่าคนปกติ เนื่องจากภูมิคุ้มกันที่ลดลง
พักผ่อนให้เพียงพอ ทำจิตใจให้แจ่มใส ทำจิตใจให้แจ่มใสอย่าเครียด เช่น นอนให้ครบ 6-8 ชั่วโมง ออกกำลังกายเป็นประจำ พยายามอย่าเครียดมาก
หากมีอาการรุนแรงต้องไปพบแพทย์ เพื่อทานยา หรือ ฉายแสง เพื่อทำการรักษาในกรณีที่ผื่นมีขนาดใหญ่ และ กระจายทั่วร่างกาย
เพียงเท่านี้ก็ช่วยลดโอกาสที่ผิวของคุณจะเกิดการกำเริบของโรคสะเก็ดเงินได้แล้ว แต่ถ้าคุณอยากที่จะเสริมให้ผิวของคุณแข็งแรงยิ่งขึ้นไปอีก รวมถึงป้องกันการอักเสบที่เป็นสาเหตุสำคัญของการกำเริบของสะเก็ดเงิน เราขอแนะนำ ResiSKIN ครีมเวชสำอางที่มีส่วนผสมของ Extremolytes เข้มข้นถึง 7.0 % ที่จะช่วยจบทุกปัญหาผิวอักเสบ แห้ง แดง ผื่น คัน พร้อมเสริมให้ผิวแข็งแรงขึ้นจากภายใน เป็นเวชสำอางที่เหมาะมากกับคนที่มีปัญหาผิวอักเสบ สะเก็ดเงิน หรือเซ็บเดิร์ม
ทำให้ผิวกลับมาสตรองดังเดิม ฟื้นคืนความแข็งแรงจากภายในให้ผิวด้วยResiskin
ใครที่สนใจสั่งซื้อ
ResiSKIN สามารถกดที่ link ด้านล่างนี้ได้เลย
Facebook :
Resiskin by QualiskLine :
@resiskin