รีวิว เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติ ยอดนิยม ใช้งานง่ายจากแบรนด์ Nespresso ที่คุณไม่ควรพ

[อัญณา]

หากพูดถึงแบรนด์ของเครื่องชงกาแฟที่ได้รับความนิยมจากผู้ชงกาแฟแล้วล่ะก็คงไม่มีใครไม่นึกถึงแบรนด์ Nespresso เนื่องจากมีการผลิตและคิดสร้างสรรค์เครื่องชงกาแฟที่มีความครบครันทั้งในเรื่องความสวยงามภายนอก รูปลักษณ์ที่มีความโดดเด่น สีสันและองค์ประกอบต่าง ๆ ที่มีความทันสมัย และยังมีฟังก์ชันสำหรับการชงกาแฟที่ครบครันทำให้เราสามารถชงได้สะดวกสบาย ย่นระยะเวลา และทำได้ง่ายทั้งมือใหม่และคอกาแฟ
เครื่องชงกาแฟแคปซูล แบรนด์ Nespresso ได้รับการกล่าวถึงกันมากในกระทู้ เครื่องชงกาแฟใช้ในบ้าน pantip ได้มีการรีวิวเกี่ยวกับแบรนด์นี้ไว้มากมาย วันนี้เรามีความน่าสนใจของแบรนด์นี้มาแนะนำกัน
   เครื่องชง กาแฟแคปซูล จากแบรนด์ Nespresso มีคุณสมบัติที่โดดเด่นและน่าจับตา ด้วยความง่ายในการใช้งานที่เพียงกดปุ่มเปิดเครื่องจากนั้นกดปุ่มเลือกเมนูการชงกาแฟที่ต้องการ เท่านี้ก็จะสามารถชงกาแฟออกมาได้อย่างง่ายดายโดยใช้เวลาไม่ถึง 1 นาที มีระบบการตัดไฟอัตโนมัติเมื่อเครื่องไม่มีการใช้งานเกินระยะเวลาที่กำหนดตามโปรแกรมที่ตั้งมากับตัวเครื่อง ในส่วนของตัวเครื่องสามารถทำความร้อนได้เร็วช่วยให้เราสามารถชงกาแฟได้หลายแก้วในระยะเวลาเพียงแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น ซึ่งตัว เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติ จากแบรนด์ Nespresso นั้นสามารถที่จะชงกาแฟสดต่อเนื่องกันหลาย ๆ แก้วได้โดยที่เราไม่ต้องคอยนำแคปซูลกาแฟที่ชงเสร็จแล้วออกมาทิ้งทุก ๆ รอบ เพราะตัวเครื่องจะมีที่บรรจุตัว กาแฟแคปซูล ที่ชงเสร็จแล้วจำนวนหลายแคปซูล ซึ่งทำให้เราสามารถชงกาแฟสดได้อย่างไม่มีสะดุดถือว่าเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่มาก
รวมเครื่องชงกาแฟยอดนิยมจาก Nespresso
Essenza Mini เป็นเครื่องชงกาแฟไซซ์เล็กมีความกะทัดรัดในสไตล์มินิมอล มีน้ำหนักเพียง 2.3 กก. ขนาดตัวเครื่อง 11x32.5x20.5 ซม. แท็งก์น้ำบรรจุได้ 0.6 ลิตร มีแรงดัน 19 บาร์ สามารถบรรจุแคปซูลที่ใช้แล้วได้ 6 แคปซูล มีฟังก์ชันปุ่มกดการชงกาแฟได้ 2 เมนู ได้แก่  Espresso และ Lungo พร้อมมีระบบช่วยประหยัดพลังงานด้วยการปิดเครื่องอัตโนมัติหากไม่มีการใช้งานนานเกิน 9 นาที
Inissia C40 เป็นอีกหนึ่งเครื่องชงกาแฟไซซ์เล็กที่มีน้ำหนักเพียง 2.4 กก. มีขนาดตัวเครื่อง 12x30x23 ซม. มาพร้อมดีไซน์ที่สวยทันสมัยนำไปจัดวางในมุมต่าง ๆ ได้ง่ายและลงตัว สามารถชงกาแฟอัตโนมัติด้วยฟังก์ชันการชง 2 เมนู คือ Espresso และ Lungo โดยใช้แรงดัน 19 บาร์ มีระบบทำความร้อนเร็วด้วยเวลาเพียง 25 วินาที แท็งก์น้ำจุน้ำได้ 0.7 ลิตร สามารถบรรจุแคปซูลที่ผ่านการใช้แล้วได้ 11 แคปซูล และมีระบบช่วยประหยัดพลังงานด้วยเช่นกัน
Gran Lattissima ถือเป็นเครื่องไซซ์ใหญ่ขึ้นมาจาก 2 รุ่นแรกแต่ยังคงความกะทัดรัด ด้วยขนาดเครื่อง 20.3x36.7x27.6 ซม. น้ำหนัก 5.2 กก. มาพร้อมฟังก์ชันการชงกาแฟอัตโนมัติด้วย 9 ปุ่มกด ได้แก่ เอสเพรสโซ่ ริสเทรตโต้ อเมริกาโน่ ลุงโก้ ลาเต้ มัคคิอาโต้ คาปูชิโน่ ลาเต้ กาแฟลาเต้เย็น แฟลตไวท์ นมร้อมและฟองนมร้อน โดยตัวเครื่องรุ่นนี้มีก้านเป่าฟองนมในตัวและมีแท็งก์ใส่นมที่มีความจุ 0.5 ลิตร สามารถถอดแท็งก์นมออกจากตัวเครื่องเพื่อนำไปแช่ตู้เย็นได้ในกรณีที่ใช้นมในแท็งก์ไม่หมด ส่วนแท็งก์ใส่น้ำมีความจุ 1.3 ลิตร ใช้แรงดัน 19 บาร์  สามารถเก็บแคปซูลที่ใช้แล้วได้ถึง 14 แคปซูล พร้อมมีระบบทำความร้อนเร็ว ระบบช่วยประหยัดพลังงาน ระบบทำความสะอาดล้างหัวจ่ายนมอัตโนมัติ รวมถึงระบบแจ้งเตือนเมื่อต้องล้างคราบตะกรัน
   สำหรับข้อมูลที่ได้นำมาแนะนำนี้เป็นเพียงบางส่วนของ เครื่องชงกาแฟแคปซูล จากแบรนด์ Nespresso หากท่านใดมีความสนใจและต้องการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเข้าไปดูได้ที่ https://www.nespresso.com/th/th/order/machines