ก่อนซื้อรถยนต์ EV ควรรู้ไว้ เสียเงินเท่าไหร่ ต่อการชาร์จ

[หลอดไฟ ดีที่สุด]

ก่อนซื้อรถยนต์ EV ควรรู้ไว้ เสียเงินเท่าไหร่ ต่อการชาร์จ


ปัจจุบัน กระแสการใช้ รถยนต์ไฟฟ้า หรือ รถยนต์ไฟฟ้า EV หลาย ๆ คน ยังมองว่าคงอีกนานกว่าเทคโนโลยีนี้จะเป็นที่นิยมในประเทศไทย แต่ด้วยน้ำมันที่ราคาพุ่งขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง ทำให้การหันมาใช้รถพลังงานทดแทน ก็กำลังได้รับความสนใจสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น การค้นข้อมูลหรือรายละเอียดพื้นฐานต่าง ๆ จึงเป็นเรื่องจำเป็นมากสำหรับผู้ที่มีแผนจะซื้อ รถยนต์ไฟฟ้า EV คงมีหลาย ๆ สิ่งหลายๆอย่างที่ยังกังวล เช่น ถ้าแบตหมดจะหาจุดชาร์จยากหรือไม่ และชาร์จเต็ม 1 ครั้ง เสียเงินค่าชาร์จเท่าไหร่

สิ่งหนึ่งที่สำคัญสำหรับว่าที่เจ้าของรถยนต์ไฟฟ้า คือ อัตราค่าไฟฟ้าที่เจ้าของรถ EV ต้องจ่ายต่อการชาร์จ 1 ครั้ง โดยสามารถคำนวณได้คร่าว ๆ โดยยกตัวอย่าง รถสเปคเดียวกันและเทียบระหว่างชาร์จไฟบ้านกับสถานีชาร์จนอกบ้าน ดังนี้

ตัวอย่างเช่น รถยนต์ไฟฟ้ารับไฟสูงสุด 7.4 kWh (กิโลวัตต์/ชั่วโมง) แบตเตอรี่ความจุ 60 kW ระยะทางขับขี่สูงสุดประมาณ 350 กิโลเมตร

ชาร์จไฟบ้าน
ไฟฟ้า 1 หน่วย = 1 kW
ค่าไฟฟ้า 1 kWh = 4.2 บาท*
ระยะเวลาชาร์จเต็ม = 8 ชั่วโมง

– 1 ชม. : 7.4 x 4.2 x 1 = 31.08 บาท
– 2 ชม. : 7.4 x 4.2 x 2 = 62.16 บาท
– 8 ชม. : 7.4 x 4.2 x 8 = 248.64 บาท

เท่ากับว่า ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้งที่บ้าน อยู่ที่ 0.71 บาท/กิโลเมตร

ทั้งนี้ ค่าไฟ 4.2 บาท เป็นอัตราปัจจุบัน คำนวณจากการชาร์จที่บ้านโดยใช้ไฟฟ้าจากการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) มิเตอร์ 15 แอมป์

สถานีชาร์จ
ไฟฟ้า 1 หน่วย = 1 kW
ค่าไฟฟ้า 1 kWh = 7 บาท**
ระยะเวลาชาร์จเต็ม = 8 ชั่วโมง

– 1 ชม. : 7.4 x 7 x 1 = 51.80 บาท
– 2 ชม. : 7.4 x 7 x 2 = 103.60 บาท
– 8 ชม. : 7.4 x 7 x 8 = 414.40 บาทเท่ากับว่า ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้งที่สถานีชาร์จ อยู่ที่ 1.184 บาท/กิโลเมตร

ทั้งนี้ ค่าไฟ 7 บาท เป็นค่าเฉลี่ยอัตราค่าบริการของสถานีชาร์จในประเทศไทยในปัจจุบัน อ้างอิงจากการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.)



นอกจากนี้ สิ่งสำคัญที่ควรรู้ก่อนซื้อรถไฟฟ้า EV
ศึกษารายละเอียดของรถแต่ละรุ่น เช่น ขนาดแบตเตอรี่ ความสามารถในการรับไฟสูงสุด (On Board Charger) ซึ่งมีผลกับความเร็วในการชาร์จ
ศึกษาค่าไฟบ้าน เนื่องจากค่าไฟฟ้าแต่ละจังหวัดไม่เท่ากัน ให้สอบถามจากการไฟฟ้าในพื้นที่

หลังจากที่ได้ดูสิ่งที่เราคำนวณให้แล้ว เริ่มคำนวณค่าใช้จ่ายกันได้แล้วใช่ไหม ว่าควรวาวงแผนอย่างไร คุ้มค่าแค่ไหน ถ้าจะตัดสินใจซื้อในตอนนี้จะเป็นยังไง หลังๆเลย ในปัจจุบันนี้ ตามห้าง หรือ ปั้มน้ำมัน ก็มีที่ชาร์จสำหรับรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นกว่าเดิมเยอะแล้ว ทำให้เราสามารถหาที่ชาร์จได้ง่ายขึ้น ถ้าพูดถึงความคุ้มค่าเราสามารถตอบได้เต็มปากเต็มคำ ว่าคุ้มค่ามีเงินเหลือแน่นอน

นอกจากพลังงานทดแทนแล้ว ถ้าบ้านของเราใช้ ระบบ โซล่ารูฟท็อป หรือ โซล่าเซลล์ ก็จะประหยัดค่าไฟฟ้าในการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า EV เข้าไปอีก เรียกได้ว่าคุ้มค่า*2 กันเลยทีเดียว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เราก็ต้องมาคำนวณการใช้ไฟฟ้าด้วยว่าต่อเดือน เราใช้ไฟเท่าไหร่ เพราะการติดตั้ง แผงโซล่าเซลล์ ถ้า kW ไม่มากพออาจทำให้ไฟตกได้นั่นเอง