สาวๆ หลายๆ คนน่าจะคุ้นเคยกับการทานยาคุมเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ แต่รู้หรือไม่ว่ายาคุมสามารถช่วยในด้านอื่นๆ นอกจากเรื่องของการตั้งครรภ์ได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการช่วยรักษาสิว ปรับฮอร์โมนให้ประจำเดือนมาอย่างสม่ำเสมอ และยังมีส่วนทำให้หน้าอกใหญ่ขึ้นด้วย แต่ยี่ห้อและประเภทของยาคุมก็มีหลากหลาย แล้วจะเลือกอย่างไรให้ปลอดภัย เลือก
ยาคุมยี่ห้อไหนดีถึงจะตรงกับจุดประสงค์ในการใช้มากที่สุด เรามาดูกันค่ะ
ยาคุมกำเนิด (Birth Control Pills)ยาคุมกำเนิด คือยาที่บรรจุไปด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจน และฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ซึ่งยาคุมแต่ละชนิด จะมีฤทธิ์ในการทำงานที่แตกต่างกันไป ยาคุมแต่ละยี่ห้อก็จะบรรจุปริมาณฮอร์โมนที่ไม่เท่ากัน ส่งผลให้สาวๆ หลายคนสงสัยว่า แล้วเราควรเลือกยาคุมยี่ห้อไหนดี
กลไกการออกฤทธิ์ของยาคุมกำเนิดฮอร์โมนเอสโตรเจนและฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน จะทำให้มูกบริเวณปากมดลูกหนาขึ้น สเปิร์มจึงเข้าไปผสมกับไข่ได้ยากขึ้น และยังป้องกันการตกไข่ ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกบางลง ตัวอ่อนจึงไม่สามารถฝังตัวได้
ยาคุมกำเนิดมีกี่ประเภทยาคุมกำเนิดมีทั้งหมด 3 ประเภท ดังนี้
- ยาคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนเดี่ยว บรรจุเฉพาะฮอร์โมนโปรเจสโตรเจนเท่านั้น
- ยาคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนรวม บรรจุฮอร์โมน 2 ชนิด ได้แก่ฮอร์โมนเอสโตรเจน และฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนสังเคราะห์ เป็นชนิดที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
- ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน บรรจุยา ลีโวนอร์เจสเตรล เป็นยาในกลุ่มโพรเจสติน ไม่ควรทานบ่อย ควรทานเฉพาะเวลาฉุกเฉินเท่านั้น เพราะอาจส่งผลกระทบต่อร่างกายได้ค่อนข้างรุนแรง
เลือกยาคุมกำเนิดอย่างไรให้เหมาะกับตัวเองก่อนตัดสินใจเลือกทานยาคุม ควรลองพิจารณาสภาพร่างกายของเราก่อนว่าเป็นแบบไหน ทั้งอายุ โรคประจำตัว การตั้งครรภ์ หรือรูปแบบการมาของรอบเดือน เพื่อประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อยาคุม เพราะยาคุมแต่ละชนิด แต่ละยี่ห้อ จะทำมารองรับสภาพร่างกายที่ไม่เหมือนกัน หลังจากพิจารณาได้แล้ว การตัดสินใจเลือกยาคุมยี่ห้อไหนดีจะทำได้ง่ายขึ้น
1. ยาคุมกำเนิดสำหรับผู้ที่ประจำเดือนมาปกติสามารถเลือกใช้ยาคุมชนิดรวมเพราะมีทั้งฮอร์โมนเอสโตรเจนและฮอร์โมนโปรเจสติน แต่ควรเลือกแบบที่มีปริมาณต่ำ เช่น Ethinyl estradiol ไม่เกิน 0.020 มก. และ Desogestrel ไม่เกิน 0.15 มก.
2. ยาคุมกำเนิดสำหรับผู้ที่ประจำเดือนมามากผู้ที่ประจำเดือนมามากกว่า 7 วัน และรอบเดือนสั้นกว่า 28 วัน อีกทั้งยังมีรูปร่างท้วม ควรเลือกทานยาคุมแบบฮอร์โมนชนิดรวมที่มีเอสโตรเจนต่ำ เช่น Ethinyl estradiol ไม่เกิน 0.020 มก. และมีโปรเจสตินที่ออกฤทธิ์ต่อต้านเอสโตรเจน
3. ยาคุมกำเนิดสำหรับผู้ที่ประจำเดือนมาน้อยผู้ที่ประจำเดือนมาน้อยกว่า 4 วัน และมีรูปทรงทางร่างกายค่อนข้างไปทางผู้ชาย สามารถเลือกทานยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม Cyproterone acetate เพราะจะช่วยลดแอนโดรเจน อีกทั้งฮอร์โมนเอสโตรเจนในตัวยา จะช่วยลดปัญหาหน้ามัน ทำให้สิวลดลง และมีส่วนช่วยให้หน้าอกใหญ่ขึ้น
4. ยาคุมกำเนิดสำหรับผู้ที่ประจำเดือนมาไม่ปกติผู้ที่ประจำเดือนมาน้อย หรือนานๆ มาครั้งหนึ่ง สามารถใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม Cyproterone acetate เพราะจะช่วยลดแอนโดรเจน หรือฮอร์โมนเพศชาย และปรับให้ฮอร์โมนสมดุลขึ้น
ยาคุมกำเนิดยี่ห้อไหนดีหลังจากดูรายละเอียดว่ายาคุมมีกี่ประเภท มีหลักการในการเลือกยาคุมอย่างไรแล้ว เรามาดูกันค่ะว่า แล้วเราควรจะเลือกยาคุมยี่ห้อไหนดี ถึงจะตรงกับความต้องการของเรามากที่สุด
รีวิว 10 ยาคุมยี่ห้อไหนดี ฉบับปี 2565แนะนำ 10 ยี่ห้อยาคุมสำหรับสาวๆ ให้ทุกคนได้เลือกตามความเหมาะสมของร่างกาย แต่ละยี่ห้อเป็นยาคุมประเภทไหน มีกี่เม็ด บรรจุไปด้วยฮอร์โมนอะไรบ้าง ราคาเท่าไหร่
1. ยาคุมกำเนิดยี่ห้อซูซี่ (Sucee)- ชนิดฮอร์โมนรวม Cyproterone acetate 2 มก. และ Ethinyl estradiol 0.035 มก.
- มีทั้งแบบ 21 เม็ดและ 28 เม็ด
- ช่วยลดสิวและทำให้หน้าอกมีขนาดใหญ่ขึ้น
- ราคา 100 – 130 บาท
2. ยาคุมกำเนิดยี่ห้อยาซ (Yaz)- บรรจุ Drospirenone 3 มก. และ Ethinyl estradiol 0.02 มก.
- มี 28 เม็ด
- ช่วยลดการบวมน้ำ ลดอาการปวดประจำเดือน และรักษาสิว
- ราคา 499 บาท
3. ยาคุมกำเนิดยี่ห้อเฮอรซ์ (Herz)- บรรจุ Drospirenone 3 มก. และ Ethinyl estradiol 0.02 มก.
- มี 28 เม็ด
- ช่วยลดอาการก่อนมีประจำเดือน
- ราคา 290 – 330 บาท
4. ยาคุมกำเนิดยี่ห้อไดแอน (Diane)- บรรจุ Cyproterone acetate
- มี 21 เม็ด
- ช่วยลดการเกิดสิวและผิวมัน
- ราคา 215 บาท
5. ยาคุมกำเนิดยี่ห้อมาร์วีลอน (Marvelon)- บรรจุ Drospirenone 0.15 มก. และ Ethinyl estradiol 0.03 มก.
- มี 21 เม็ด
- ช่วยลดการเกิดสิวและผิวมัน
- ราคา 100 – 130 บาท
6. ยาคุมกำเนิดยี่ห้อยาสมิน (Yasmin)- บรรจุ Drospirenone 3 มก. และ Ethinyl estradiol 0.03 มก.
- มี 21 เม็ด
- ช่วยลดอาการปวดท้องประจำเดือน ลดการเกิดสิวและผิวมัน
- ราคา 399 บาท
7. ยาคุมกำเนิดยี่ห้อมินนี่ (Minny)- บรรจุ Desogestrel 0.15 มก. และ Ethinyl Estradiol 0.02 มก.
- มี 21 เม็ด
- ช่วยรักษาสิว หน้ามัน
- ราคา 185 บาท
8. ยาคุมกำเนิดยี่ห้อริต้า (Rita)- บรรจุ Desogestrel 0.15 มก. และ Ethinyl Estradiol 0.03 มก.
- มีทั้งแบบ 21 และ 28 เม็ด
- ช่วยรักษาสิว หน้ามัน
- ราคา 80 – 90 บาท
9. ยาคุมกำเนิดยี่ห้อเมโลเดีย (Melodia)- บรรจุ Desogestrel 3 มก. และ Ethinyl Estradiol 0.03 มก.
- มี 21 เม็ด
- ช่วยลดปัญหาสิว หน้ามัน มีฤทธิ์ขับปัสสาวะแบบอ่อน
- ราคา 280 – 310 บาท
10. ยาคุมกำเนิดยี่ห้อเมอซิลอน (Mercilon)- บรรจุ Desogestrel 0.15 มก. และ Ethinyl Estradiol 0.02 มก.
- มีทั้งแบบ 21 และ 28 เม็ด
- ช่วยลดปัญหาสิว หน้ามัน
- ราคา 160 – 180 บาท
ข้อควรระวังก่อนใช้ยาคุมกำเนิดผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือตั้งครรภ์ อาจสงสัยว่าแล้วเราควรทานยาคุมยี่ห้อไหนดีถึงจะปลอดภัย ดังนั้น ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาคุมกำเนิดทุกชนิด เพราะอาจส่งผลข้างเคียงที่รุนแรงต่อร่างกายได้
อาการข้างเคียงที่อาจเกิดจากยาคุมกำเนิด- อาการคลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ ปวดหัว มักจะเกิดกับคนที่อายุ 35 ปีขึ้นไป หรือบุคคลที่สูบบุหรี่
- อาการเจ็บ คัดเต้านม อาจพบในช่วงแรกของการใช้ยา และหายไปเมื่อใช้อย่างสม่ำเสมอ
- อาจมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น สิวขึ้น ผมร่วง บางรายอาจพบในระยะแรก และหายไปในระยะต่อมา
- อาจมีเลือดออกกะปริบกะปรอยเป็นบางครั้ง พบได้ในระยะแรก หรือในผู้ที่ไม่ทานยาอย่างสม่ำเสมอ
- เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน อาจส่งผลให้เกิดโรคหัวใจได้
คำแนะนำหากต้องการเปลี่ยนยี่ห้อยาคุมกำเนิดสาวๆ หลายคนอาจต้องการเปลี่ยนยี่ห้อยาคุมกำเนิดที่ใช้อยู่ และอาจสงสัยว่า แล้วควรเปลี่ยนเป็นยาคุมยี่ห้อไหนดี เพราะฉะนั้นแล้ว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำการตัดสินใจเปลี่ยนยี่ห้อยาคุมกำเนิด เพื่อพิจารณาสภาพร่างกายตามแต่ละบุคคล อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นวิธีการเปลี่ยนยี่ห้อยาคุมกำเนิด คือทานยาต่อทันทีแบบไม่ต้องเว้นช่วงเวลาในการเปลี่ยน เพื่อให้ระดับฮอร์โมนในร่างกายคงที่ มิเช่นนั้นอาจเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้
บางคนอาจเว้นระยะเวลา 1 เดือนก่อนเปลี่ยนยี่ห้อยาคุม ช่วงระยะเวลานี้จึงควรป้องกันเป็นพิเศษหากต้องการมีเพศสัมพันธ์ เพราะมีโอกาสเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ได้
ประโยชน์อื่นๆ ของยาคุมกำเนิดนอกจากการใช้ยาคุมกำเนิดเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์แล้ว ยาคุมยังมีประโยชน์ทางด้านอื่นๆ เช่น
- ช่วยลดอาการปวดประจำเดือน
- ช่วยปรับฮอร์โมนให้รอบเดือนมาสม่ำเสมอมากขึ้น
- ช่วยรักษาสิว ทำให้หน้ามันน้อยลง
- ป้องกันมะเร็งในเยื่อบุโพรงมดลูก
ข้อสรุปยาคุมกำเนิดสามารถใช้เพื่อจุดประสงค์อื่นนอกจากการคุมกำเนิด และมีหลากหลายยี่ห้อ ส่งผลให้สาวๆ หลายคนสงสัยว่าแล้วเราควรเลือกอย่างไร ทานยาคุมยี่ห้อไหนดี แต่ละยี่ห้อจะบรรจุปริมาณฮอร์โมนและชนิดของฮอร์โมนต่างกัน จึงควรพิจารณาการเลือกใช้ตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคล ปัจจุบันมีการใช้ยาคุมเพื่อรักษาสิวหรือในกรณีอื่นๆ มากขึ้น หลายๆ คนอาจจะอยากดูว่ายาคุมตัวไหนกินแล้วไม่อ้วน ผิวสวย แต่ด้วยความที่เป็นยาค่อนข้างเฉพาะทาง อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงและอาการที่ไม่พึงประสงค์ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวและผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ จึงควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ก่อนใช้ทุกครั้ง