หากท่านเป็นคนที่กำลังสนใจในการจัดฟันประเภทต่างๆ สิ่งที่สำคัญต่อมาเลยและสำคัญมากๆด้วยคือการใส่รีเทนเนอร์หลังการจัดฟัน เพื่อให้รูปร่างและลักษณะของฟันหลังจากจัดฟันมีความเข้ารูปและเป็นระเบียบอยู่ตลอดเวลา
บางท่านอาจมีข้อสงสัยกับลักษณะรีเทนเนอร์แบบต่างๆ โดยในบทความนี้เราจะรวบรวมความรู้เกี่ยวกับ
รีเทนเนอร์ว่าคืออะไร มีประเภทไหนบ้าง รวมไปถึงระยะเวลาในการใส่และค่าใช้จ่ายสำหรับการจัดฟันว่ามีราคาเท่าไหร่บ้าง หากพร้อมกันแล้วมาอ่านต่อได้เลยครับ
รีเทนเนอร์ (Retainer) คือเมื่อมีคำถามว่ารีเทนเนอร์ฟันดีอย่างไร สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่ารีเทนเนอร์มักเป็นขั้นตอนสุดท้ายในขั้นตอนการจัดฟัน เมื่อผ่านขั้นตอนการจัดฟันมาแล้วและทันตแพทย์จัดฟันของคุณตัดสินใจในการถอดอุปกรณ์จัดฟันเสร็จเรียบร้อยแล้ว หน้าที่ของรีเทนเนอร์จะมีเพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าฟันไม่เคลื่อนกลับเข้าที่เดิม โดยการใส่ส่วนใหญ่จะใส่เฉพาะในตอนกลางคืน
คุณสามารถเสริมผลลัพธ์จากการจัดฟันที่ทำไปแล้วด้วยการจัดฟันแบบโลหะ การจัดฟันแบบเซรามิก การจัดฟันแบบติดลิ้น หรือการจัดฟันแบบใส สรุปในหัวข้อนี้เลยคือ Retainer เป็นอุปกรณ์ที่ทำขึ้นเองซึ่งคุณสวมไว้ในปากบริเวณฟัน ช่วยให้ฟันของคุณอยู่ในตำแหน่งใหม่ที่ถูกต้องหลังการจัดฟัน
รีเทนเนอร์ มีแบบไหนบ้าง เลือกอันไหนดีรีเทนเนอร์มีกี่แบบเป็นคำถามที่แพทย์ถูกถามเยอะที่สุดเพราะผู้ที่ทำฟันเสร็จแล้วมักกังวลว่าการใส่รีเทนเนอร์จะทำให้การใช้ชีวิตลำบากขึ้น เช่น การทานข้าว การนอน หรือการทำกิจวัตรประจำวัน โดยในหัวข้อนี้เราจะมาทำความรู้จักกับรีเทนเนอร์ให้มากขึ้นกันดีกว่า โดยเราจะบอกถึงข้อดี ข้อเสียของรีเทนเนอร์แต่ละประเภทกัน คุณจะได้บอกความต้องการกับคุณหมอถูกว่าคุณต้องการประเภทไหน
รีเทนเนอร์แบบลวดรีเทนเนอร์แบบลวดเป็นที่ใช้บ่อยมากที่สุดหลังจากการจัดฟัน ตัวโครงของรีเทนเนอร์แบบลวดจะเป็นอะคริลิคสีและลวดบริเวณเพดานปาก ตรงส่วนที่ยึดติดกับฟัน ทำมาจากลวดเพื่อล้อมฟันไว้ไม่ให้เคลื่อนกลับที่เดิม โดยจะมีอะคริลิคล้อมทับลวดอีกที ซึ่งจะเป็นสีใสหรือสีประเภทต่างๆตามคลินิก
ข้อดีรีเทนเนอร์แบบลวดกับท่อสีคือ
- มีความทนทาน
- มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
- ซ่อมหากมีความเสียหาย
- สามารถปรับได้หากใส่แล้วหลวม สามารถออกแบบลายของรีเทนเนอร์ได้
ส่วนข้อเสียของรีเทนเนอร์แบบลวดคือ
- มองเห็นได้ลวดโลหะได้ชัดเจนกว่ารีเทนเนอร์ประเภทอื่น
- ผู้สวมใส่อาจรู้สึกรำคาญในการสวมใส่
- มีผลต่อการพูดและการออกเสียงมากกว่าประเภทอื่น
- ส่วนที่เป็นลวดอาจทำให้รู้สึกระคายเคืองบริเวณริมฝีปาก
รีเทนเนอร์แบบเหล็กโดยวัสดุที่ทำมากจากเหล็กนับว่าเป็นแบบที่อัพเกรดมาจากรีเทนเนอร์แบบลวด โดยจะบอกว่าอัพเกรดก็ไม่เชิง ซึ่งรีเทนเนอร์แบบเหล็กสามารถใส่เคี้ยวอาหารได้ ไม่ต้องถอดออก แข็งแรง โดยมีข้อเสียคือรีเทนเนอร์แบบนี้จะยืดกับฟันแน่นเกินไป และเวลาเคี้ยวอาหารจะเคี้ยวได้ไม่ละเอียดคุณหมอจึงแนะนำให้ใส่รีเทเนอร์แบบลวดจะมีประสิทธิภาพที่ดีว่าและน่ารำคาญน้อยกว่า
รีเทนเนอร์แบบใสรีเทนเนอร์แบบใสทำจากพลาสติกหรือโพลียูรีเทน ขึ้นรูปโดยการถูกทำให้ร้อนและดูดลงไปที่แม่พิมพ์ของฟันคนไข้ รีเทนเนอร์แบบใสจะออกแบบแต่ละชิ้นตามหลักลักษณะของแต่ละบุคคล โดยจะเป็นความพอดีกับตำแหน่งฟันใหม่
ข้อดีของรีเทนเนอร์สีใสคือ
- มีสีใสเมื่อใส่แล้วจะมีความเป็นธรรมชาติ
- ใส่สบายกว่าเเบบลวด
- เมื่อใส่แล้วจะออกเสียงพูดได้ชัดและสบายกว่าแบบลวด
ส่วนข้อเสียของรีเทนเนอร์แบบใสคือ
- ไม่สามารถปรับแก้ไขหรือซ่อมได้หากเกิดความเสียหาย
- มีโอกาสแตกหักหรือบิดงอได้ง่ายกว่าเเบบลวด
- รีเทนเนอร์แบบใสอาจจะสีคล้ำขึ้นเมื่อใส่เป็นระยะเวลานาน
- ฟันบนและล่างไม่สัมผัสกับรีเทนเนอร์
- และอาจเสี่ยงทำให้ฟันผุได้หากไม่ดูแลรักษา
รีเทนเนอร์แบบติดแน่นโดยประเภทแบบติดแน่นนี้จะติดถาวรที่ด้านหลังของฟันหน้า ทันตแพทย์จัดฟันอาจให้คุณใช้รีเทนเนอร์ถาวรเป็นเวลาหลายสัปดาห์ก่อนที่จะเปลี่ยนไปใช้ชนิดอื่น และผู้ป่วยจำนวนมากชอบเพราะมีประสิทธิภาพและไม่สามารถมองเห็นได้ แต่คนไข้บางรายอาจรู้สึกอึดอัดได้เช่นกัน
ข้อดีของรีเทนเนอร์โลหะคือ
- มีประสิทธิภาพป้องกันฟันเคลื่อนได้ดีมาก ไม่ต้องถอดเข้าถอดออก
- คนอืนไม่สามารถมองเห็นรีเทนเนอร์ของท่านได้ เมื่อยิ้มหรือทานข้าว
ส่วนข้อเสียของรีเทนเนอร์โลหะคือ
- อาทำให้ผู้สวมใส่รู้สึกอึดอัดอยู่ตลอด
- ทำความสะอาดยาก
- มีโอกาสหลุดได้
- คนไข้หรือผู้สวมใส่จำเป็นต้องนัดพบกับทันตแพทย์เพื่อตรวจเช็กสภาพของรีเทนเนอร์โลหะทุกๆ 6 เดือน
จัดฟันเสร็จ ถ้าไม่ใส่รีเทนเนอร์จะเป็นอย่างไรเราจำเป็นต้องบอกว่าตลอดช่วงชีวิตของเรา ฟันจะเคลื่อนที่อยู่ตลอด หากคุณเคยจัดฟันมาก่อน คุณจะทราบว่าที่ว่าตำแหน่งของฟันในปากของเราเปลี่ยนแปลงได้ตามปัจจัยต่างๆ เช่น อายุและการใส่เครื่องมือจัดฟันเพียงเพราะการจัดฟันของคุณเสร็จสิ้นไม่ได้หมายความว่าฟันของคุณจะอยู่กับที่
หากคุณไม่ใส่รีเทนเนอร์ตามคำแนะนำของทันตแพทย์จัดฟัน ฟันของคุณก็จะมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนกลับเข้าที่เดิม หากคุณไม่ใส่รีเทนเนอร์ คุณอาจต้องเข้ารับการรักษาทางทันตกรรมจัดฟันอีกครั้งภายใน 10 ปี หรือเร็วกว่านั้น และหากคุณพยายามไม่ใส่เป็นเวลา 2-3 สัปดาห์หรือหลายเดือน ฟันของคุณอาจเคลื่อนและรีเทนเนอร์อาจไม่พอดีกับฟันของคุณอีกต่อไป
ปกติแล้วต้องใส่รีเทนเนอร์กี่ปีผู้ที่ใส่รีเทนเนอร์ส่วนใหญ่แนะนำให้ใส่ทุกวันเป็นเวลา 9 เดือน เป็นการใส่รีเทนเนอร์เฉพาะตอนกลางคืน อย่างไรก็ดีขั้นตอนต่างๆ ไม่ได้ยุ่งยากอะไร ใส่เพื่อป้องกันการเคลื่อนที่ของฟันของคุณ ควรใส่ทุกวันหลังการจัดฟัน หรือตามคำแนะนำจากทันตแพทย์ที่ทำการรักษา
วิธีดูเเลรักษารีเทนเนอร์วิธีดูแลรักษาและการทำความสะอาดสำคัญมาก ทำได้โดยใช้น้ำอุ่นทุกครั้งที่ถอดออก การล้างรีเทนเนอร์เมื่อน้ำลายยังเปียกอยู่จะช่วยป้องกันไม่ให้อาหารแข็งตัว คุณสามารถซื้อผลิตภัณฑ์แบบแช่พิเศษเพื่อแช่รีเทนเนอร์ระหว่างการใช้งาน หากทันตแพทย์จัดฟันของคุณแนะนำ
การใช้แปรงสีฟันขนนุ่มและยาสีฟันขัดทุกส่วนของรีเทนเนอร์วันละครั้ง แต่ทำอย่างระมัดระวัง เนื่องจากยาสีฟันหลายชนิดมีฤทธิ์กัดกร่อนและทำให้รีเทนเนอร์เป็นรอยได้ ควรขอคำแนะนำจากทันตแพทย์จัดฟันของคุณว่าควรใช้แปรงสีฟันและยาสีฟันชนิดใด
ค่าใช้จ่ายในการทำรีเทนเนอร์ ราคาเท่าไหร่คลินิกจัดฟันบางที่อาจราคารวมค่าทำรีเทนเนอร์กับบริการพร้อมแล้ว คลินิกบางที่จะคิดราคาไม่รวมกับการจัดฟัน โดยรีเทนเนอร์แบบคิดแยกราคาจะแตกต่างกันออกไปตามแต่ละประเภทของรีเทนเนอร์แบ่งดังนี้
- แบบลวด ราคาชิ้นละประมาณ 1,500-2,500 บาท
- แบบใส ราคาชิ้นละประมาณ 1,200-2,000 บาท
- แบบติดแน่น ราคาประมาณชิ้นละ 5,000 บาท
- แบบเหล็กราคาประมาณชิ้นละ 8000 บาทขึ้นไป
สรุปRetainer คืออุปกรณ์ที่ทำขึ้นเองซึ่งคุณสวมไว้ในปากบริเวณฟัน ช่วยให้ฟันของคุณอยู่ในตำแหน่งใหม่ที่ถูกต้องหลังการจัดฟัน รีเทนเนอร์มี 4 ประเภทคือแบบลวด แบบเหล็ก แบบใส และแบบถาวร โดยรีเทนเนอร์ประเภทต่างๆจะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันออกไป และแบบลวดจะได้รับความนิยมมากที่สุด
โดยท่านจำเป็นต้องใส่รีเทนเนอร์ทุกวัน ส่วนใหญ่มักจะใส่ในเวลากลางคืนหรือเวลานอน โดยใส่เป็นระยะเวลานาน 9 เดือนหลังการจัดฟันหรือตามคำแนะนำจากแพทย์ผู้ทำการจัดฟัน วิธีดูแลรีเทนเนอร์คือ ทำความสะอาดได้ด้วยน้ำอุ่นทุกครั้งที่ถอดออก ใช้แปรงสีฟันขนนุ่มและยาสีฟันขัดทุกส่วนวันละครั้ง หรือตามทำแนะนำจากแพทย์