ในปัจจุบัน สำหรับคนที่มีเงินทุนเก็บสะสม มักจะเลือกวิธีการสะสมเงินอยู่ในหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นการออมเงินในทอง ซึ่งเมื่อตลาดทองมีราคาที่สูงขึ้น ก็สามารถนำไปขายสู่ตลาดเพื่อเอาส่วนต่างที่เพิ่มสูงขึ้น หรือการออมเงินในกองทุน ที่มีการซื้อขายไม่ต่างจากการออมทองเท่าไหร่นัก ซึ่งมีการได้กำไรจากส่วนต่าง ที่ยิ่งซื้อเยอะ ก็จะได้ส่วนมากขึ้นตาม หรือสำหรับวิธีดั้งเดิมของคนสมัยก่อนที่มักจะเก็บเงินสดไว้เฉย ๆ ให้มีจำนวนพอกพูนที่มากขึ้น ด้วยอาจจะไม่มีเวลามาดูตลาดเงินสดเหล่านี้ที่มีความผันผวนอยู่เสมอ ซึ่งในปัจจุบันการเก็บเงินสดไว้ที่บ้าน อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีสักเท่าไหร่ โดยสามารถคำนึงได้ความปลอดภัย ยิ่งหากมีจำนวนที่เยอะขึ้น ความเสี่ยงก็มีสูงขึ้น ซึ่งการเลือกใช้บริการออมเงินกับสถาบันการเงินโดยจะมีบริการที่ช่วยคุ้มครองเงินฝาก 2 ล้านขึ้นไป จะมาสิทธิพิเศษหลายอย่างตามมา โดยที่เราแค่ทำการฝากเงินไว้เฉย ๆ แต่ยังสามารถใช้สิทธิประโยชน์เหล่านี้ได้ วันนี้จะมาแนะนำวิธีเลือกสถาบันการเงินที่มีบริการ
คุ้มครองเงินฝาก 2 ล้านขึ้นไป ต้องดูอะไรบ้าง
รู้จักสถาบันคุ้มครองเงินฝาก คืออะไรสถาบันคุ้มครองเงินฝาก เป็นสถาบันที่จัดตั้งขึ้นเพื่อให้ความคุ้มครองแก่ผู้ที่นำเงินมาฝาก โดยผู้ฝากจะได้รับสิทธิประโยชน์จากสถาบันคุ้มครองเงินโดยมีกฎเกณฑ์ที่อยู่ภายใต้วงเงินที่ได้ทำการฝาก และระยะเวลาที่ต้องการ รวมถึงสามารถรับเงินคืนโดยเร็วเมื่อสถาบันการเงินปิดกิจการ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีการคุ้มครองเงินฝากตั้งแต่ 2 ล้านขึ้นไป จนถึงหลัก 10 ล้าน
พิจารณาจากความน่าเชื่อถือสำหรับข้อแรกของคนที่กำลังมองหาสถาบันที่มีบริการคุ้มครองเงินฝากตั้งแต่ 2 ล้านขึ้นไป ควรพิจารณาจากความน่าเชื่อถือเป็นอันดับแรก โดยสามารถดูได้จากภาพรวมของความมั่นคงของสถาบันมีรูปแบบการฝาก การออมที่หลากหลายพร้อมให้แต่ละคนเลือกได้ตามความต้องการ มีการจัดโปรโมชั่นดอกเบี้ยเงินฝากในรูปแบบใหม่ ๆ อยู่เสมอ รวมถึงมีสาขาบริการหลายแห่ง เพื่อเพิ่มความสะดวกในการติดต่อเพื่อขอใช้บริการ
พิจารณาจากดอกเบี้ยอีกหนึ่งข้อสำคัญที่ควรนำไปพิจารณาร่วม คือในทุกการออม ย่อมต้องมีผลประโยชน์พ่วงตามมาด้วยเสมอ ซึ่งหลักของการออมเงินคือเรื่องของดอกเบี้ย โดยเราสามารถพิจารณาในแต่ละสถาบันการเงิน ว่าสถานที่ไหนให้ดอกเบี้ยที่คุ้มค่ามากกว่ากัน เพื่อเป็นส่วนต่างสำหรับการเป็นกำไรในการออมเงิน
พิจารณาจากเอกสิทธิ์ที่ได้รับสำหรับข้อสุดท้าย ของการเลือกบริการคุ้มครองเงินฝากตั้งแต่ 2 ล้านขึ้นไป คือการพิจารณาถึงเอกสิทธิ์ที่จะได้รับ โดยส่วนใหญ่มักอยู่ในรูปแบบการบริการที่เราใช้ในชีวิตประจำวันต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ด้านการเงิน ของขวัญที่ได้รับตามเทศกาลสำคัญต่าง ๆ ด้านการท่องเที่ยว ห้องรับรองสำหรับทริปเที่ยว การกิน ดื่ม เที่ยว ในร้านอาหาร หรือบริการฟิตเนส เป็นต้น