หลาย ๆ คนกำลังประสบปัญหาเกี่ยวกับการเตรียมทั้งตัวทั้งใจในการตื่นตั้งแต่เช้าในการไปกรมการขนส่งทางบกเพื่อจับบัตรคิวในการจองทะเบียนรถยนต์ เนื่องจากความสำคัญของเลขทะเบียนนอกจากจะเป็นเรื่องของการยืนยันตัวตนแล้วยังมีเรื่องของเลขสวยทะเบียนมงคลมาเกี่ยวข้องอีกด้วย
การเตรียมตัวล่วงหน้าจะช่วยให้สามารถจับจองเลขทะเบียนที่ชอบได้สะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งการมาของระบบจองทะเบียนออนไลน์จะมาช่วยให้ปัญหาเหล่านี้หมดไป แล้วระบบที่ว่านั้นคืออะไร? และวิธีการจองเลขทะเบียนรถอย่างไร ในบทความนี้เราจะพาไปหาคำตอบไปพร้อม ๆ กัน
การจองทะเบียนรถยนต์ คืออะไร? สะดวกสบายจริงไหม?การจองเลขทะเบียนออนไลน์ คือ การจองทะเบียนรถผ่านระบบอินเทอร์เน็ตสำหรับรถเก๋ง รถตู้ หรือรถกระบะ ซึ่งนับว่าเป็นวิธีที่ทันสมัยอย่างมาก เพราะช่วยให้การจองทะเบียนสะดวกกว่ายุคก่อน ๆ อีกทั้งยังเหมาะสำหรับผู้ไม่สะดวกจองด้วยตัวเองทางขนส่งหรือปัจจุบันสถานการณืโควิดที่ยังมีการระบาดอยู่ ทำให้การ
จองทะเบียนรถยนต์ผ่านขนส่งดำเนินการได้ช้าลง
จึงได้เกิดเว็บไซต์บริการจองเลขทะเบียนพร้อมดำเนินการเอกสารออนไลน์ขึ้น เพื่อให้การดำเนินการเอกสารจองสำเร็จ ส่วนของวิธีการจองป้ายทะเบียนนั้นสะดวก รวดเร็ว ไม่ยากจนเกินไป อีกทั้งช่วยอำนวยความสะดวกการจองป้ายเลขทะเบียนที่ถูกใจ โดยที่คณไม่ต้องเดินทางไปกรมการขนส่งทางบกตั้งแต่เช้าเพื่อจับบัตรคิวให้เสียเวลา
วิธีการจองทะเบียนรถยนต์ออนไลน์วิธีการจองเลขป้ายทะเบียนออนไลน์ก็ไม่ได้มีความยุ่งยากซับซ้อน โดยท่านสามารถทำตามขั้นตอนได้ดังนี้
1. การจองทะเบียนออนไลน์ สามารถทำได้โดยการเข้าผ่าน
https://reserve.dlt.go.th/reserve/ และกด จองเลขทะเบียนรถยนต์ โดยจะจองได้ตั้งแต่เวลา 10.00-16.00
2. ศึกษาและทำความเข้าใจ หลักเกณฑ์การจองทะเบียนรถยนต์ออนไลน์ จากนั้นคลิกที่ ‘ยอมรับหลักเกณฑ์’ เพื่อเป็นการยืนยันว่าเราได้อ่านและทำความเข้าใจหลักเกณฑ์เหล่านี้เรียบร้อยแล้ว
3. เราสามารถตรวจสอบ ตารางเปิดรับจองเลขและหลักเกณฑ์การจองได้ด้วย โดยในตารางจะมีการแสดงเป็น หมวดตัวอักษร และ เลขที่เปิดจอง พร้อมวันที่ต้องจดทะเบียน โดยจะแบ่งทั้งหมวด รถเก๋ง รถตู้ รถกระบะต่าง ๆ
4. หลังจากที่เรากด ‘ยอมรับหลักเกณฑ์’ แล้วระบบจะนำเข้ามาสู่ หน้าจอจองทะเบียนรถยนต์ออนไลน์ โดยเราต้องเลือกประเภทรถที่เราจะจองทะเบียน โดยเลือกได้ดังนี้ รถเก๋ง, รถตู้, รถกระบะ
5. กรอกข้อมูลต่าง ๆ ให้ครบถ้วน เพื่อใช้การจองทะเบียนรถยนต์ โดยเราต้องกรอกดังนี้
- หมายเลขบัตรประชาชนเจ้าของรถ หรือจะใช้ทะเบียนการค้าและหนังสือเดินทางได้เช่นกัน
- คำหน้าชื่อ ตามด้วยชื่อและนามสกุล แต่ถ้าหากเป็นชื่อนิติบุคคลสามารถใส่ชื่อได้เลย ไม่จำเป็นต้องกรอกนามสกุลในส่วนนี้ โดยชื่อผู้จองจะต้องเป็นชื่อเจ้าของรถเท่านั้น
- เลขคัสซีหรือเลขตัวถังรถ ซึ่งจะต้องกรอกเป็นตัวหนังสือภาษาอังกฤษพิมพ์เล็กเท่านั้น
- ยี่ห้อรถยนต์ตามเล่มหรือใบจองที่มี
- เบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวที่ติดต่อได้
- คลิกเลือก “เลขทะเบียนที่ต้องการจอง” ซึ่งปกติแล้วจะไม่สามารถเลือกหมวดตัวอักษรได้ แต่จะเลือกได้เฉพาะหมายเลขไม่เกิน 4 หลัก ซึ่งการจองแต่ละครั้งจะเปิดให้จองเพียงครั้งละ 1 เลข และถ้าหากไม่สามารถจองได้ก็สามารถใส่ตัวเลขใหม่ได้จนกว่าจะจองได้
- หลังจากที่ทำการจองเลขทะเบียนได้แล้วจะต้องนำรถมาจดทะเบียนภายในเวลาทำการ โดยไม่เกิน 15 วันหลังจากที่จองเลขทะเบียนได้แล้ว ซึ่งถ้าไม่มาตามกำหนดการสิทธิของเลขทะเบียนนั้นจะตกไปเป็นของผู้อื่นแทน
- ถ้าหากมีความต้องการจองเลขทะเบียนสำหรับรถคันใหม่ต้องรอ 90 วันเพื่อจองเลขทะเบียนได้ใหม่ แต่ถ้าต้องการจองเลขทะเบียนมากกว่า 1 คันภายในครั้งเดียวจะต้องนำหลักฐานและเอกสารไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ดังนี้
1. สำเนาสำหรับผลการจองหมายเลขทะเบียนรถยนต์คันที่ 1
2. สำเนาเอกสารหลักฐานของรถคันที่ 1 (เล่มทะเบียนรถ) และคันที่ 2 (ใช้ในกรณีรถป้ายแดงหรือเล่มทะเบียนในกรณีรถป้ายขาว)
3. สำเนาบัตรประชาชนหรือในกรณีที่เป็นนิติบุคคลจะต้องใช้เลขทะเบียนบริษัท
4. หนังสือมอบอำนาจในกรณีที่เป็นตัวแทนมาดำเนินการแทนเจ้าของรถ
สรุปจะเห็นได้ว่าระบบจองทะเบียนรถยนต์ออนไลน์ นับว่าเป็นการจองป้ายทะเบียนรถยนต์ที่สะดวกสบายอย่างมาก เนื่องจากไม่ต้องเดินทางไปจองทะเบียนรถ กรมขนส่ง จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาหรือไม่สามารถดำเนินการผ่านกรมขนส่ง แต่ต้องไม่ลืมว่าการจองผ่านระบบออนไลน์ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขและสามารถทำได้เฉพาะจองทะเบียนรถ กทม ถ้าคุณจัดการย้ายทะเบียนรถมาเป็นกรุงเทพมหานครเรียบร้อยแล้ว คุณก็สามารถทำเรื่องจองทะเบียนรถอย่างถูกต้องได้เลย