“กาแฟ” เป็นเครื่องดื่มที่จะขาดไปไม่ได้เลยสำหรับพนักงานออฟฟิศทั้งหลาย เพราะช่วยกระตุ้นให้กระปรี้กระเปร่า ยังช่วยให้สมองมีสมาธิจดจ่อ ทำงานยาวนานได้ตลอดทั้งวันอีกด้วย ด้วยเหตุนี้หลายสำนักงานจึงมี เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติ ติดไว้ในห้องครัวเพื่อคอยบริการพนักงานและลูกค้า ซึ่งวันนี้เราจะพาทุกคนไปดูกันว่าควรเลือกเครื่องชงกาแฟแบบไหนให้เหมาะกับสำนักงาน
วิธีเลือก
เครื่องชงกาแฟสำหรับสำนักงาน เครื่องชงกาแฟสด มีด้วยกันหลายราคาตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักแสน ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติและฟังก์ชันการใช้งาน ซึ่งวิธีการเลือกเครื่องชงกาแฟให้เหมาะกับสำนักงานของเราควรพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
1. เลือกเครื่องชงกาแฟให้เหมาะกับการใช้งาน
เครื่องชงกาแฟสำหรับสำนักงานมีด้วยกัน 3 ระบบ ได้แก่ เครื่องชงกาแฟแคปซูล (CAPSULE), เครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซ่ (ESPRESSO MACHINE) และ เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติ (FULLY AUTOMATIC COFFEE MACHINE) ซึ่งแต่ละระบบก็จะมีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกัน เช่น เครื่องชงกาแฟแคปซูล มีข้อดีตรงที่ราคาไม่แพง ใช้งานง่าย ชงกาแฟได้รวดเร็ว แต่ข้อเสียคือ ไม่สามารถเลือกเมล็ดกาแฟต่าง ๆ ได้ เลือกได้เฉพาะที่ผู้ผลิตวางขายเท่านั้น เป็นต้น หรือเครื่องชงแบบเอสเพรสโซ่ ที่สามารถชงกาแฟสดได้หลากหลาย แต่ข้อเสียคือมีอุปกรณ์ที่ต้องใช้หลายอย่าง มีขั้นตอนการชง และต้องอาศัยผู้ชงที่มีฝีมือและประสบการณ์
2. การดูแลรักษาในระยะยาว
เครื่องชงกาแฟก็เป็นเครื่องจักรชนิดหนึ่ง ต้องการการดูแลรักษา ทำความสะอาด รวมถึงเปลี่ยนอะไหล่เมื่อถึงเวลาอันสมควร ดังนั้น การเลือกเครื่องชงกาแฟที่หาอะไหล่ได้ง่าย มีขั้นตอนการดูแลรักษาและการทำความสะอาดที่ไม่ยุ่งยาก จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนของการดูแลรักษา แม้ราคาเครื่องอาจจะแพงสักหน่อย แต่ก็ถือเป็นการลงทุนในระยะยาว
3. การรับประกันและบริการหลังการขาย
แน่นอนว่า เครื่องชงกาแฟสำหรับสำนักงาน เครื่องหนึ่งราคาไม่ใช่ถูก ๆ ก่อนเลือกซื้อจึงควรเช็กกับผู้ขายว่ามีการรับประกันในส่วนไหนบ้าง รวมถึงมีการดูแลหลังการขายอย่างไรบ้าง เพราะหากซื้อเครื่องที่ประกันไม่ครอบคลุมการบริการล้างทำความสะอาดเครื่อง เราก็อาจจะต้องเสียเงินตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักหมื่นในการล้างเครื่องแต่ละครั้ง แต่หากเครื่องมีประกันในส่วนนี้ก็จะช่วยประหยัดเงินในระยะยาวได้
ระหว่าง “เช่า” กับ “ซื้อ” เครื่องชงกาแฟ ควรเลือกแบบไหนดี?
ปัจจุบันมีผู้ผลิต เครื่องชงกาแฟสด หลายเจ้าที่เปิดให้ผู้ที่สนใจสามารถเช่า-ซื้อ
เครื่องชงกาแฟออฟฟิศของตัวเองได้ ซึ่งการเลือกว่าจะเช่าหรือซื้อควรคำนึงถึงลักษณะการใช้งาน ตลอดจนขนาดของสำนักงานเป็นสำคัญ ยกตัวอย่าง หากเป็นสำนักงานขนาดเล็ก พนักงานไม่เกิน 10 – 15 คน ก็อาจจะเลือกเช่า
เครื่องชงกาแฟเล็กขนาด 1 ลิตร หรือเครื่องชงกาแฟแบบแคปซูลที่มีขนาดกะทัดรัด สามารถชงกาแฟได้สูงสุดครั้งละ 15 ถ้วย แต่หากเป็นไปได้การลงทุนซื้อเครื่องให้จบ ๆ ไปเลยก็ถือเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าในระยะยาว ซึ่งก็มีราคาให้เลือกตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักหมื่น ส่วนสำนักงานที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ พนักงานตั้งแต่ 20 – 30 คนขึ้นไป ก็อาจจะเลือก เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติ ขนาดใหญ่แบบ 2 หัวชง ความจุตั้งแต่ 5 ลิตรขึ้นไป สามารถชงกาแฟได้ครั้งละ 20 แก้ว ไปจนถึงหลักร้อยแก้ว แม้ราคาเครื่องขนาดใหญ่แบบนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ที่หลักแสน แต่ก็มีผู้ผลิตหลายเจ้าที่เปิดให้เช่าเครื่องในราคาหลักพัน
ทั้งหมดนี้คือวิธีเลือก
เครื่องชงกาแฟออฟฟิศ เบื้องต้นที่จะช่วยให้ทุกคนสามารถเลือกซื้อหรือเช่าเครื่องชงกาแฟที่ดีตอบโจทย์กับสำนักงานของตัวเองได้ แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าเมื่อมี
เครื่องชงกาแฟในโรงแรมและสำนักงานที่ดีแล้ว ก็ต้องเลือกกาแฟที่มีคุณภาพมาใช้คู่กันเพื่อให้ได้กาแฟรสชาติอร่อยโดนใจทั้งพนักงานและแขก