การดูแลสิ่งแวดล้อมให้ปราศจากแหล่งเพาะพันธุ์ยุง และการป้องกันไม่ให้ถูกยุงลายกัดต่อย เป็นกุญแจสำคัญในการลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
ไข้เลือดออกในเด็ก มาดูกันเลยว่าโรคไข้เลือดออกในเด็กนั้นอันตรายอย่างไร และมีแนวทางป้องกันอย่างไร
ไข้เลือดออก (Dengue Fever) เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากเชื้อไวรัสเดงกี่ (Dengue virus) ซึ่งมียุงลายเป็นพาหะนำโรค โดยยุงลายจะถ่ายทอดเชื้อไวรัสนี้สู่ร่างกายมนุษย์ผ่านการกัดที่ผิวหนังของมนุษย์ โดย เมื่อได้รับเชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกาย อาการที่พบได้แก่
- ไข้สูงเฉียบพลัน มักสูงกว่า 38.5 องศาเซลเซียส
- ปวดศีรษะรุนแรง ปวดตามข้ออย่างแรง
- คลื่นไส้ อาเจียน
- ผื่นแดงขึ้นตามผิวหนัง มีจุดเลือดออกตามผิวหนัง
- เจ็บคอ ปวดกล้ามเนื้อ ร่างกายซีดเหลือง
- อาจมีอาการทางระบบประสาท เช่น สับสน ชัก หมดสติ
นอกจากนั้นภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นจากโรคไข้เลือดออกก็คือ ภาวะช็อกและภาวะตับวายเฉียบพลัน ซึ่งอาจทำให้เสียชีวิตได้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีด้วย
ซึ่งสำหรับเด็ก ๆ แล้วอาการโรคไข้เลือดออกนั้นจะรุนแรง และมีความเสี่ยงที่จะเป็นอันตรายถึงชีวิตมากกว่าในผู้ใหญ่มาก จึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการป้องกันไข้เลือดออกในเด็กด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
1.กำจัดและป้องกันแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย โดยคอยระวังสถานที่ที่มีน้ำขังให้ถ่ายเทน้ำออกบ่อยๆ เช่น ขวดพลาสติก ยางรถยนต์เก่า ภาชนะรองรับน้ำฝน เป็นต้น
2.ใช้มุ้งช่วยป้องกันยุงลายในบริเวณที่พักอาศัย โดยเฉพาะเตียงนอน
3.พ่นสารกำจัดยุงลายอย่างสม่ำเสมอในบริเวณบ้านเรือนและโรงเรียน
4.ใช้น้ำมันกันยุงหรือสารไล่ยุงชนิดต่างๆ ทากันเมื่อต้องอยู่นอกบ้าน
5.สวมใส่เสื้อผ้าที่มีแขนยาวและขายาว สีเข้มไม่มีลวดลาย เพื่อลดโอกาสที่ยุงจะกัดต่อย
6.สอนให้เด็กรู้วิธีป้องกันตัวเองจากยุงลาย ไม่ควรเล่นในที่รกร้างหรือแหล่งน้ำขัง
7.พาเด็กไปรับวัคซีนป้องกันไข้เลือดออก เมื่อมีวัคซีนที่ปลอดภัยเหมาะสมสำหรับเด็ก
การดูแลผู้ป่วยไข้เลือดออก1.นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ร่างกายจะได้มีเวลาซ่อมแซมตัวเอง
2.ดื่มน้ำให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 2 ลิตร เพื่อชดเชยการสูญเสียน้ำจากอาการไข้และอาเจียน
3.เช็ดตัวลดไข้ด้วยน้ำอุณหภูมิปกติ ไม่ควรใช้น้ำเย็นจัด
4.กินยาพาราเซตามอลเพื่อลดไข้ตามขนาดที่แพทย์แนะนำ ห้ามกินยาในกลุ่ม NSAIDs เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน
5.สังเกตอาการไข้เลือดออกในเด็กอย่างใกล้ชิด หากมีอาการดังต่อไปนี้ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
- ไข้สูงเกิน 38.5 องศาเซลเซียส
- อาเจียนรุนแรง
- ปวดท้อง
- เลือดออก เช่น เลือดกำเดาไหล เลือดออกตามไรฟัน อาเจียนเป็นเลือด ถ่ายดำ
- ซึมลง ชัก
การดูแลเด็ก ๆ อย่างใกล้ชิด จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไข้เลือดออกในเด็ก และลดความเสี่ยงที่จะเกิดอาการไข้เลือดออกที่รุนแรง และอันตรายได้ด้วย