ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


ปัญหาการเงิน ปัญหาในครัวเรือนที่ไม่ควรมองข้าม!

ปัญหาการเงิน

ปัญหาการเงินปัญหาน่าหนักใจที่ใคร ๆ ก็ไม่อยากเจอ ปัญหาการเงินปัญหา หรือปัญหาค่าใช้จ่ายไม่เพียงพอต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เป็นหนึ่งในปัญหายอดฮิตที่คนในวัยทำงานไม่อยากพบเจอปัญหาการเงินสามารถเกิดขึ้นได้จากหลากหลายปัจจัย ซึ่งการหมุนเงินไม่ทัน หรือการมีเงินใช้ไม่เพียงพอต่อการดำเนินชีวิต ก็ยังเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดหนี้ภายในครัวเรือน และการกู้หนี้นอกระบบ

บทความนี้จะมาพูดถึงปัญหาการเงินยอดนิยมที่มักจะเกิดขึ้นในครัวเรือนของคนไทย และสัญญาณเตือนปัญหาทางการเงินในอนาคต เพื่อให้เพื่อน ๆ ที่ยังไม่มีปัญหาการเงินสังเกต และระวังไม่ให้ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้น พร้อมแนวทางการลดปัญหาทางการเงินที่ทำง่าย ๆ แต่ได้ผลจริง ถ้าอยากรู้กันแล้วว่าปัญหาการเงินที่คนส่วนใหญ่กำลังเผชิญมีอะไรบ้าง แล้วจะมีแนวทางการแก้ปัญหาอย่างไร เรามาต่อกันในเนื้อหาของบทความนี้

1. ใช้รายได้มากกว่า 45% ของเงินเดือนสำหรับการจ่ายชำระหนี้

ปัญหาการเงินหมุนเงินไม่ทัน

การชำระหนี้ตามกำหนดชำระนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่การที่ต้องชำระหนี้มากกว่า 45% ของเงินเดือนนั้น เป็นเรื่องที่ค่อนข้างเสี่ยง การชำระหนี้ในลักษณะนี้ก็มักจะนำมาซึ่งปัญหาการเงินในอนาคต อย่างที่เรากล่าวไปข้างต้นว่าปัญหาการเงินมักจะเริ่มจากหนี้ภายในครัวเรือน หากคุณเป็นคนที่ต้องใช้เงินเดือนกว่า 45% ในการชำระหนี้ในแต่ละเดือน คุณอาจต้องระวังปัญหาการเงินที่จะตามมาในอนาคต

วินัยทางการเงินที่ดีต้องมีรายรับ รายจ่าย รายการผ่อนชำระ และเงินเก็บออมสำหรับยามฉุกเฉินในอัตราที่สมดุลกัน ไม่มีสิ่งใดมากหรือน้อยจนเกินไป การที่เราต้องนำเงินเดือนกว่าครึ่งมาผ่อนชำระหนี้ในทุกเดือน ถือว่าเป็นสัญญาณปัญหาการเงินที่ต้องระวัง เพราะสิ่งนี้อาจนำมาซึ่งปัญหาการใช้เงินแบบเดือนชนเดือน หรือปัญหาหนี้สินทับถมในอนาคต

2. มีรายได้แต่ไม่มีเงินเก็บติดบัญชี

หากคุณเป็นผู้ที่หมดเงินกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทุกเดือน จนไม่มีเงินเก็บติดบัญชี ระวังให้ดี เพราะสิ่งนี้เป็นหนึ่งในสัญญาณที่จะนำมาซึ่งปัญหาการเงิน อย่างที่เราได้กล่าวไปข้างต้นว่า การใช้เงินแบบเดือนชนเดือน เป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงที่จะนำมาซึ่งปัญหาการเงินในอนาคต หากคุณเป็นคนที่กำลังประสบปัญหาการมีเงินใช้แต่ไม่มีเงินเก็บ ระวังให้ดี เพราะเมื่อไหร่ที่คุณจำเป็นต้องใช้เงินกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันอย่างค่ารักษาพยาบาล ค่าซ่อมแซมบ้าน หรือค่าใช้จ่ายจำเป็นอื่น ๆ เมื่อไหร่คุณก็จะมีหนี้สินติดตัวเมื่อนั้น

สิ่งนี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการวางแผนทางการเงิน โดยคุณอาจทำการแยกย่อยออกมาว่าในหนึ่งเดือน คุณมีค่าใช้จ่ายจำเป็นอะไรบ้าง สิ่งใดที่เป็นค่าใช้จ่ายที่ตัดได้ และตัดไม่ได้ เมื่อคุณทราบตัวเลขค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในแต่ละเดือนแล้ว การวางแผนทางการเงินของคุณก็จะง่ายขึ้น ลดปัญหาการเงินที่จะตามมาในอนาคต

3. ต้องกู้ยืมเงินมาใช้จ่ายหรือใช้หนี้บ่อย ๆ มีภาวะหมุนเงินไม่ทัน

ปัญหาด้านการเงิน

ทุกคนคงเคยได้ยินคำพูดที่ว่า การไม่มีหนี้สินเป็นลาภอันประเสริฐ หากคุณเป็นคนที่จำเป็นต้องกู้หนี้ยืมสินมาใช้สำหรับการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันบ่อย ๆ หรือจำเป็นต้องกู้หนี้ผู้อื่นเพื่อมาปิดหนี้เก่าที่กำลังจะครบกำหนดชำระ นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนของการมีปัญหาการเงิน

หนี้ใคร ๆ ก็ไม่อยากเป็น แต่จะหลีกหนีจากปัญหาการเงินด้านหนี้สินได้อย่างไร หากคุณเป็นผู้ที่ประสบปัญหาการเงินด้านหนี้สิน การบริหารจัดการด้านการเงินอย่างเป็นระบบสามารถช่วยคุณได้ อย่างแรกที่คุณต้องทำคือการแยกรายจ่ายที่จำเป็น และรายรับคงที่ในแต่ละเดือน เงินที่เหลือจากรายรับและรายจ่าย ควรแบ่งออกมาเป็นเงินเก็บยามฉุกเฉินไม่น้อยกว่า 10% ของเงินเดือน และเงินส่วนที่เหลือให้ใช้สำหรับการชำระหนี้

การชำระหนี้ควรชำระมากกว่าขั้นต่ำ เพราะยิ่งเราเหลือเงินต้นน้อยเท่าไหร่ ดอกเบี้ยที่ต้องเสียในแต่ละเดือนก็จะน้อยลงเท่านั้น แถมยังทำให้คุณสามารถปลดหนี้ได้เร็วกว่ากำหนดอีกด้วย เพียงเท่านี้ปัญหาการเงินของคุณก็จะหมดไป

4. ชอบใช้เงินผ่อนมากกว่าเงินสด ผ่อนเล็กผ่อนน้อยตลอดเวลา

ปัญหาหนี้บัตรเครดิตปัญหาบานปลายไม่จบไม่สิ้นของคนวัยทำงาน ในบางครั้งปัญหานี้อาจมาจากการผ่อนเล็กผ่อนน้อยหลายครั้งต่อเดือน หรือการใช้เงินในปัจจุบันจนหมดจนต้องนำเงินในอนาคตมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน สิ่งนี้เป็นหนึ่งในนิสัยที่ทำให้เกิดปัญหาการเงิน

หากคุณกำลังประสบปัญหามีเงินเท่าไหร่ก็ใช้ไม่พอ การทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายสามารถช่วยคุณได้ การวางแผนการใช้เงินผ่านการแยกรายรับ รายจ่าย และเงินเก็บอย่างเป็นสัดส่วน เป็นหนึ่งในตัวช่วยสำคัญที่ทำให้คุณบริหารการเงินได้ง่ายขึ้น ช่วยลดปัญหาการเงินที่จะตามมาในอนาคต และยังทำให้คุณสามารถประมาณการรายจ่ายได้อย่างสมเหตุสมผล ลดอัตราการเกิดปัญหาการเงินในอนาคต

5. ไม่มีเงินสำรองในการใช้จ่ายยามฉุกเฉิน

ปัญหาการเงินหนี้ในครัวเรือน

นิสัยการใช้เงินแบบเดือนชนเดือนจนไม่มีเงินเก็บที่จะมานำใช้ในยามฉุกเฉิน เป็นหนึ่งในปัญหาการเงินที่นำมาซึ่งปัญหาหนี้สินในอนาคต แม้คุณจะไม่มีหนี้สินติดตัวในปัจจุบัน แต่การไม่มีเงินสำรองที่จะนำมาใช้ยามฉุกเฉิน ก็เป็นหนึ่งในปัญหาการเงินที่จะนำมาซึ่งปัญหาหนี้สินภายในครัวเรือน

โดยเฉพาะการไม่มีเงินใช้จ่ายสำหรับค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดฝันอย่างอุบัติเหตุ ค่าใช้จ่ายยามเจ็บไข้ได้ป่วย หรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เป็นเงินก้อนใหญ่ เมื่อมีเหตุการณ์ฉุกเฉินเหล่านี้ คุณก็จะมีหนี้ติดตัวในทันที การแบ่งสัดส่วนเงินเดือนจึงจำเป็นต้องแบ่งส่วนสำหรับค่าใช้จ่ายยามฉุกเฉิน เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงที่จะนำมาซึ่งปัญหาการเงินในอนาคต

6. เมื่อเกิดสถานการณ์หมุนเงินไม่ทันก็มักจะใช้บัตรเครดิตอีกใบในการหมุนเงินแทน

การหมุนเงินใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิตสองใบ เป็นนิสัยทางการเงินที่จะนำมาซึ่งหนี้สินในอนาคต หากคุณเป็นคนที่ชอบหมุนเงินด้วยบัตรเครดิตสองใบ หรือโปะหนี้ด้วยบัตรเครดิตสองใบ เราต้องบอกว่านิสัยดังกล่าวเป็นนิสัยการเงินที่เป็นปัจจัยเสี่ยงในการเกิดปัญหาการเงินอันดับต้น ๆ

การใช้บัตรเครดิตในการหมุนเงิน เป็นการเพิ่มพูนหนี้สินให้หนักกว่าเดิม เป็นนิสัยที่นอกจากจะทำให้ปัญหาการเงินเพิ่มพูนกว่าเดิมแล้ว นิสัยนี้ยังอาจทำให้คุณเสียเครดิตทางการเงินไปตลอดชีวิต

7. ชอบชำระหนี้บัตรเครดิตแค่ขั้นต่ำของยอดชำระหนี้

ปัญหาด้านการเงินมีรายจ่ายมากกว่ารายรับ

การชำระเงินขั้นต่ำสำหรับหนี้บัตรเครดิต เป็นหนึ่งในปัญหาการเงินยอดฮิต ที่จะมาซึ่งปัญหาความยากจน การจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิตเป็นเหมือนการหลีกหนีหนี้ ที่ไม่ได้มีผลให้หนี้สินที่อยู่ในมือลดลงเลย อีกทั้งการจ่ายเงินขั้นต่ำยังเป็นการพอกพูนหนี้ที่จะนำมาซึ่งปัญหาการเงินอย่างการชำระหนี้ไม่ไหวจนต้องกู้หนี้นอกระบบ หรือการใช้เงินแบบเดือนชนเดือนอีกด้วย

การชำระหนี้บัตรเครดิตที่ดี จึงควรชำระมากกว่าจำนวนขั้นต่ำที่ธนาคารกำหนด เพื่อไม่ให้หนี้สินพอกพูนจนกลายเป็นปัญหาการเงินในอนาคต

สรุปปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดปัญหาการเงิน พร้อมแนวทางการแก้ไขปัญหา

หลังจากอ่านบทความนี้จนจบ เพื่อน ๆ คงเห็นกันแล้วว่าปัญหาการเงินสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งสาเหตุบางอย่างก็เป็นสิ่งใกล้ตัวที่อยู่ในชีวิตประจำวันของเรา จนเราแทบจะมองว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องปกติ หากคุณเป็นผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาการเงินในอนาคต คุณควรหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้สิ่งเหล่านี้ติดเป็นนิสัย และหันมาวางแผนการเงินใหม่ เพื่อให้ปัญหาหนี้สิน หรือปัญหาการเงินอื่น ๆ ไม่เกิดขึ้นกับคุณและคนรอบข้าง