มะเร็งเต้านม สามารถพบได้ทั้งในเพศหญิงและเพศชาย แต่ในเพศชายนั้นมีอัตราการพบที่น้อยมาก ผู้หญิงที่มีอายุมากขึ้นมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่ออายุมากกว่า 40 ปี หรือมีกลุ่มที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านมและมะเร็งรังไข่ ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมในระยะแรกอาจไม่มีอาการชัดเจน มักมาพบแพทย์เมื่อพบก้อนเนื้อในเต้านมหรือบริเวณรักแร้ อาการอื่นๆ ที่อาจสังเกตได้ เช่น ขนาดหรือรูปร่างของเต้านมที่เปลี่ยนแปลง เกิดแผลและอาจมีน้ำเหลืองหรือของเหลวสีคล้ายเลือดไหลออกมา หรือมีผื่นบริเวณหัวนม
เต้านมประกอบด้วยต่อมน้ำนมประมาณ 15–20 ต่อม รูปร่างคล้ายติ่งหูรวมตัวอยู่ที่กลางเต้านมแต่ละข้าง มีไขมันล้อมรอบในต่อมน้ำนมแต่ละต่อม เซลล์มะเร็งสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในต่อมน้ำนมและท่อน้ำนม และสามารถลุกลามต่อไปยังต่อมน้ำเหลืองใต้รักแร้
มะเร็งทุกชนิดมักไม่มีอาการเจ็บปวดจนกว่าอาการจะพัฒนาไปถึงขั้นแพร่กระจาย ประมาณ 1 ใน 5 ของผู้หญิงที่มีอาการดังกล่าวจะตรวจพบว่าเป็นมะเร็งเต้านม อาการอื่น ๆ ที่สังเกตได้ เช่น ผิวหนังของเต้านมไม่เรียบ มีรอยบุ๋ม รั้งตัว หดตัว หรือมีลักษณะเป็นผิวส้ม ผิวหนังเต้านมจะถูกรั้งหรือดึงให้บุ๋มเข้าไป
อาการที่อาจบ่งบอกถึงมะเร็งเต้านม ได้แก่:• ระบบขับถ่ายผิดปกติ มีการเปลี่ยนแปลงในการถ่ายอุจจาระและปัสสาวะ
• แผลเรื้อรังที่ไม่หายบริเวณเต้านม
• เลือดไหลผิดปกติตามทวารของร่างกาย
• คลำพบก้อนที่เต้านมหรือส่วนอื่นของร่างกาย
• กลืนอาหารลำบากหรือระบบย่อยอาหารผิดปกติ
• ไฝหรือหูดเปลี่ยนแปลงผิดปกติหรือมีเลือดออก
• มีน้ำเหลืองหรือของเหลวออกมาจากหัวนม
• อาการเจ็บเต้านมหรือผิวหนังเต้านมอักเสบ มีผื่นคันบริเวณเต้านม
• การเปลี่ยนแปลงของขนาดเต้านม โดยปกติแล้วเต้านมของผู้หญิงมักมีขนาดไม่เท่ากัน แต่หากข้างใดข้างหนึ่งมีขนาดผิดปกติ
ทำอย่างไรเมื่อพบอาการผิดปกติ?หากพบความเปลี่ยนแปลงของเต้านม ไม่ต้องตกใจ ยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่อาจส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลง เช่น อายุ ระดับฮอร์โมน ประจำเดือน อุบัติเหตุ รวมถึงพฤติกรรมและลักษณะการใช้ชีวิต เพื่อความแน่ใจ ควรให้แพทย์ตรวจและประเมินอาการ ตรวจเต้านม พร้อมให้คำแนะนำเพิ่มเติม เพื่อการดูแลรักษาที่ถูกต้องและเหมาะสมต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก;
https://praew.com/praew-special/534189.htmlhttps://www.dailynews.co.th/articles/3473188/https://medthai.com/breast-screening/