วิธีปลูกผักสวนครัวกินเอง เทคนิคง่าย ๆ สำหรับมือใหม่

[พรสัก ส่องแสง]

ในยุคสมัยที่เร่งรีบ สุขภาพดีเป็นสิ่งที่ทุกคนโหยหา การปลูกผักสวนครัวเป็นหนึ่งในกิจกรรมช่วยเติมเต็มวิถีชีวิตแบบพอเพียง ให้ทั้งอาหารสดใหม่ ปลอดภัย ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และยังเป็นกิจกรรมผ่อนคลาย อีกทั้งยังช่วยลดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย บทความนี้ขอแนะนำเทคนิคการปลูกผัก วิธีเริ่มต้นปลูกผักสวนครัวแบบง่าย ๆ ไว้กินเอง ก่อนการปลูกผักต้องเตรียมอุปกรณ์อะไรบ้าง ผักที่นิยมนำมาปลูก สำหรับมือใหม่ได้ลองปลูกผักกันดู

การปลูกผักสวนครัวต้องเตรียมอะไรบ้าง

ก่อนที่จะเริ่มปลูกผัก การเตรียมอุปกรณ์ปลูกผักที่เหมาะสม จะช่วยให้สวนผักเจริญเติบโต ให้ผลผลิตที่อุดมสมบูรณ์ โดยมีอุปกรณ์การปลูกผัก รวมทั้งสิ่งที่จำเป็นต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

พื้นที่ในการปลูกผัก

ขั้นตอนแรกในการปลูกผัก คือการเลือกพื้นที่ให้เหมาะสม โดยพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้
- แสงแดด : เลือกจุดที่ได้รับแสงแดดมาก อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน
- พื้นที่ : พื้นที่ต้องเพียงพอสำหรับผักประเภทต่าง ๆ ที่ต้องการปลูกผัก
- การเข้าถึง : สะดวกต่อการรดน้ำ ดูแล หรือเก็บเกี่ยวผลผลิต

อุปกรณ์จำเป็นที่ใช้ปลูกผัก

การมีเครื่องมือ รวมถึงอุปกรณ์ปลูกผักที่จำเป็น ช่วยให้การทำสวนได้ง่ายขึ้น ทั้งยังมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย โดยมีอุปกรณ์ปลูกผักดังนี้
- จอบหรือเสียม สำหรับขุดดิน พรวนดิน
- คราด สำหรับปรับระดับหน้าดิน
- กระป๋องรดน้ำ หรือ สายยาง
- ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยเคมี
- ยาฆ่าแมลงหรือยาฆ่าเชื้อรา (กรณีจำเป็น)

เลือกชนิดผักที่ต้องการปลูก

เลือกผักที่เหมาะกับการปลูกผักจะทำให้ได้ผลผลิตมีคุณภาพ ในการเลือกจำเป็นต้องดูปัจจัยเหล่านี้
- สภาพอากาศ : เลือกปลูกผักเหมาะกับสภาพอากาศหรือฤดูกาล
- พื้นที่ : เลือกขนาดพื้นที่ให้เหมาะสมกับขนาดโตเต็มที่ของพืช โดยสามารถปลูกผักในกล่องโฟม, ปลูกผักสวนครัวในกระถาง, ปลูกผัก ระเบียงคอนโด หรือปลูกผักสวนครัว พื้นที่น้อย
- ผักที่ชอบ : ปลูกผักที่ผู้ปลูกชอบกิน
- ปลูกง่าย : ให้เริ่มด้วยปลูกผัก ดูแลรักษาง่าย ๆ เช่น ผักกาดหอม หัวไชเท้าหรือมะเขือเทศ เป็นต้น

น้ำ

น้ำมีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของผักทุกชนิด สิ่งควรรู้เกี่ยวกับการรดน้ำมีดังนี้
- คุณภาพน้ำ : ใช้น้ำสะอาด ไม่มีสิ่งปนเปื้อน
- รดน้ำเป็นประจำ : การปลูกผักควรรดน้ำเป็นประจำ ตรวจสอบอยู่เสมอว่าดินยังคงชุ่มชื้นอยู่ และไม่มีน้ำขัง
- วิธีการรดน้ำ : รดน้ำที่โคนต้น ป้องกันไม่ให้ใบเปียก เพราะอาจทำให้เกิดโรคได้

สารอาหาร

การปลูกผักสวนครัวให้ได้รับสารอาหารเหมาะสม มีส่วนสำคัญต่อการเจริญเติบโต รวมถึงให้ผลผลิตสูง สิ่งควรรู้เกี่ยวกับสารอาหารที่มีคุณค่าต่อการปลูกผัก มีดังนี้
- สารอาหารหลัก : พืชต้องการไนโตรเจน (N) ฟอสฟอรัส (P) และโพแทสเซียม (K) ในปริมาณมาก เรียกกันว่า NPK
- สารอาหารรอง: แคลเซียม (Ca) แมกนีเซียม (Mg) และซัลเฟอร์ (S) มีความจำเป็นต่อพืช แต่ใช้ในปริมาณน้อยกว่า
- วิตามินและแร่ธาตุ : ธาตุเช่นเหล็ก (Fe), แมงกานีส (Mn), สังกะสี (Zn), ทองแดง (Cu), โมลิบดีนัม (Mo), โบรอน (B) และคลอรีน (Cl) ใช้ในปริมาณเล็กน้อย

ดิน

ดินที่ดีต่อการปลูกผักสวนครัว ควรมีคุณสมบัติ ดังนี้
- ดินร่วนซุย: เป็นดินมีส่วนผสมของทราย ดินเหนียว และอินทรีย์วัตถุในสัดส่วนเหมาะสม ระบายน้ำ ถ่ายเทอากาศได้ดี รากผักสามารถชอนไชหาอาหารได้สะดวก เหมาะใช้ปลูกผักได้ดี
- อินทรีย์วัตถุ: อินทรีย์วัตถุช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน ช่วยให้ดินร่วนซุย อุ้มน้ำได้ดี เป็นแหล่งอาหารของจุลินทรีย์ในดิน
- ค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH): ดินเหมาะแก่การปลูกผักสวนครัวส่วนใหญ่ ควรมีค่า pH อยู่ระหว่าง 6.0 - 7.0  ซึ่งมีค่าเป็นกลาง พืชส่วนใหญ่สามารถดูดซับธาตุอาหารได้ดี
- มีธาตุอาหารครบถ้วน: ดินเหมาะแก่ปลูกผักสวนครัว ควรมีธาตุอาหารครบถ้วน โดยเฉพาะธาตุอาหารหลัก เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม สามารถเติมธาตุอาหารให้กับดินโดยการใส่ปุ๋ย ควรเลือกปุ๋ยสูตรเหมาะกับชนิดของผัก
- ปราศจากโรคหรือแมลงศัตรูพืช: ดินปราศจากโรคหรือแมลงศัตรูพืช จะช่วยให้ผักเจริญเติบโตได้ดี ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคและแมลงรบกวน ควรเลือกพื้นที่ปลูกผักสะอาด ไม่มีขยะตกค้าง หมั่นดูแลกำจัดโรคและแมลงศัตรูพืชอย่างสม่ำเสมอ

แนะนำชนิดผักสวนครัวน่าปลูก มีอะไรบ้าง

ผักสวนครัวนิยมนำมาเพาะปลูก มีหลากหลายชนิด ขึ้นอยู่กับความชอบ สภาพอากาศ และพื้นที่ปลูก  ตัวอย่างปลูกผักสวนครัวที่นิยมปลูกผัก ดังนี้
1. ผักสวนครัวปลูกง่าย โตเร็ว เหมาะกับมือใหม่ เช่น ผักชี, ต้นหอม, ผักบุ้ง, คะน้า หรือพริก เป็นต้น
2. ผักสวนครัวแบบปลูกผักไฮโดรโปนิกส์เช่น ปลูกผักสลัด, โหระพา, มะเขือเทศ, แตงกวา หรือ
สตรอเบอร์รี่
3. เลือกปลูกผักตามฤดูกาล เช่น
- ฤดูร้อน: ผักบุ้ง มะเขือเทศ แตงกวา ถั่วฝักยาว ฟักทอง มะระ ผักชี โหระพา
- ฤดูฝน: ผักคะน้า ผักกาดหอม ผักโขม ผักชีฝรั่ง ข้าวโพดอ่อน เห็ดฟาง มะเขือเปราะ มะเขือยาว
- ฤดูหนาว: กะหล่ำปลี บร็อคโคลี่ แครอท หัวหอม ผักกาดขาว ผักชีฝรั่ง ขึ้นฉ่าย ตำลึง

การปลูกผักสวนครัวเป็นกิจกรรมที่สนุก ผ่อนคลาย ได้ผักสดใหม่ ปลอดภัย ทานเองและยังแบ่งปันให้ผู้อื่นได้อีกด้วย

ทำไมถึงควรปลูกผักสวนครัวกินเอง

การปลูกผักสวนครัวด้วยตนเอง นอกจากจะได้ผักสดใหม่ ปลอดภัย ไร้สารพิษ ทานได้อย่างสบายใจแล้ว ยังมีประโยชน์ดี ๆ อีกมากมาย ดังนี้

- สุขภาพดี: ผักสวนครัวที่ปลูกเอง สามารถมั่นใจได้ว่าไม่มีสารเคมีปนเปื้อน ได้วิตามิน แร่ธาตุ ครบถ้วน สดใหม่จากต้น ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ
- ประหยัดเงิน: ผักสวนครัวสามารถปลูกทานเองได้ตลอดทั้งปี ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซื้อผัก  ประหยัดเงินในกระเป๋า
- กิจกรรมผ่อนคลาย: การปลูกผักสวนครัว เป็นกิจกรรมช่วยให้ผ่อนคลาย ลดความเครียด ได้เพลิดเพลินกับธรรมชาติ
- พื้นที่สีเขียว: ปลูกผักสวนครัว ช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียว ดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ ลดมลพิษ  สร้างบรรยากาศร่มรื่น
- รู้สึกภูมิใจ: การได้เห็นผักที่ปลูกเอง เติบโตงอกงาม ได้เก็บเกี่ยวผลผลิต เป็นสิ่งที่สร้างความภูมิใจและความสุข
- รักษาสิ่งแวดล้อม: ปลูกผักสวนครัว ช่วยลดการใช้บรรจุภัณฑ์ ลดการขนส่ง ช่วยลดโลกร้อน
- สอนเด็ก ๆ: การปลูกผักสวนครัว  เป็นกิจกรรมที่สอนเด็ก ๆ ให้รู้จักเทคนิคการปลูก วิธีดูแล การเก็บเกี่ยว รวมถึงยังเป็นการปลูกฝังให้เด็ก ๆ รักธรรมชาติ ทานผักผลไม้
- แบ่งปัน: ผักสวนครัวที่ปลูกเอง สามารถแบ่งปันให้เพื่อนบ้าน ญาติพี่น้องหรือบริจาคให้กับผู้ที่ต้องการ สร้างความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
- พัฒนาสมอง: การปลูกผักสวนครัว ช่วยฝึกให้สมองจดจ่อ คิดวิเคราะห์ แก้ปัญหา ตัดสินใจ รวมถึงยังช่วยพัฒนาทักษะการสังเกต

วิธีปลูกผักสวนครัวฉบับมือใหม่ ต้องทำอย่างไรบ้าง

การเริ่มต้นปลูกผักอาจดูยาก แต่ถ้ารู้ขั้นตอนถูกต้อง ก็สามารถปลูกผักให้เติบโตได้อย่างแน่นอน โดยขั้นตอนมีดังนี้

- วางแผนการปลูกผัก : ตัดสินใจต้องการปลูกผักชนิดใด ต้องใช้พื้นที่เท่าไหร่ วาดแผนผังสวนคร่าว ๆ เพื่อจัดวางให้เป็นระเบียบ
- เตรียมดิน : กำจัดวัชพืชและเตรียมดิน ให้มีความลึกประมาณ 6-8 นิ้ว เลือกเมล็ดพันธุ์หรือต้นกล้าที่ดี : ซื้อเมล็ดพันธุ์หรือต้นกล้าคุณภาพสูง เลือกพันธุ์เหมาะกับสภาพอากาศกับฤดูกาล
- ปลูกผัก : การปลูกผักแต่ละชนิดนั้นแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นระยะห่าง ความลึก แสงแดด ความชื้น และสารอาหารที่ต้องการ การปลูกผักสามารถปลูกได้ในพื้นที่จำกัด พื้นที่กว้าง และพื้นที่ร่ม  เช่น ปลูกผักในกระถาง, ปลูกผักในน้ำกับขวดพลาสติก, ปลูกผักด้วยฟองน้ำ หรือปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ เป็นต้น
- รดน้ำเป็นประจำ : รดน้ำสม่ำเสมอ ให้ดินมีความชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา
- ให้ปุ๋ยตามต้องการ : ให้สารอาหารที่จำเป็นแก่พืช ตามความต้องของพืชแต่ละชนิด
- คลุมด้วยหญ้าหรือวัชพืช : ใช้วัสดุคลุมดินรอบต้นไม้ เพื่อรักษาความชื้นได้
- สังเกตุศัตรูพืชและโรค : ระวังศัตรูพืชหรือโรค ควรใช้วิธีปลูกผักออแกนิค เช่น สบู่ฆ่าแมลงหรือน้ำมันสะเดา เพื่อควบคุม
- เก็บเกี่ยวผัก : เก็บเกี่ยวผักเมื่อสุก เพื่อให้ได้รสชาติ หรือคุณค่าทางโภชนาการที่ดีที่สุด การเก็บเกี่ยวเป็นประจำ จะกระตุ้นให้ผักเพิ่มผลผลิตมากขึ้น

สรุป ปลูกผักสวนครัวไม่ยากอย่างที่คิด

การปลูกผักสวนครัว เป็นกิจกรรมทั้งสนุก ผ่อนคลาย ได้ผักสดใหม่ ปลอดภัย ไร้สารพิษ ทานเองหรือแบ่งปันผู้อื่นได้ ช่วยลดค่าใช้จ่าย มีพื้นที่สีเขียว สร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีและยังเป็นกิจกรรมที่สอนให้เด็ก ๆ รู้จักธรรมชาติ ทานผักผลไม้ เริ่มต้นปลูกผักสวนครัวง่าย ๆ  ด้วยตัวเองได้แล้ววันนี้! หากใครต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับงานระบบปลูกพืช ขอแนะนำ บริษัท Civic AgroTech สามารถติดต่อได้ที่
สำนักงานใหญ่ : เลขที่ 2/24-25 ซอย เจริญกรุง 78 ถนนเจริญกรุง แขวงบางคอแหลม เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร 10120
Line: @civicagrotech
Website:
Tel: 02-688 0860