หลายๆ คนเคยสงสัยหรือไม่! ทำไมสินค้าบางยี่ห้อถึงได้รับความนิยมและเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคมากขึ้นเรื่อย ๆ? คำตอบอาจอยู่ตรงแนวคิดของ "อุตสาหกรรมสีเขียว" หรือ
Green industry นั่นเอง การผลิตสินค้าคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ไม่เพียงแต่ช่วยลดผลกระทบต่อโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัย หันมาเลือกซื้อสินค้านี้มากขึ้น
นอกจากนี้ Green Industry ยังเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ และส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนอีกด้วย
Green industry คืออะไร?อุตสาหกรรมสีเขียว หรือ Green Industry คือโรงงานอุตสาหกรรมดำเนินการผลิต โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ มุ่งเน้นลดใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ลดมลพิษ และเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
3 หลักสำคัญของ Green IndustryGreen Industry หรืออุตสาหกรรมสีเขียว คือการผลิตคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ โดยมุ่งเน้นลดผลกระทบต่อธรรมชาติ สร้างความยั่งยืนในระยะยาว หลักสำคัญของ Green Industry มุ่งเน้นไปที่ 3 เรื่อง ได้แก่
1.การพัฒนาปรับปรุงประสิทธิภาพของกระบวนการผลิต
- ลดใช้ทรัพยากร: ทั้งพลังงาน น้ำ วัตถุดิบต่าง ๆ เพื่อลดต้นทุน ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
- เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต: ทำให้ได้ผลผลิตมากขึ้นด้วยปัจจัยการผลิตที่น้อยลง ลดของเสียและขยะ
- ปรับปรุงเทคโนโลยี: นำเทคโนโลยีเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้ เช่น พลังงานหมุนเวียน ระบบบำบัดน้ำเสีย
2. การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมเพื่อปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
- จัดการมลพิษ: ควบคุม ลดมลพิษทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นมลพิษทางอากาศ น้ำ หรือของเสีย
- จัดการขยะ: แยกขยะ รีไซเคิล หรือนำกลับมาใช้ใหม่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
- ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม: ตรวจสอบและประเมินผลกระทบอาจเกิดขึ้นจากการดำเนินงานอย่างสม่ำเสมอ เพื่อหาแนวทางปรับปรุงแก้ไข
3. ความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ทั้งภายในและภายนอกองค์กร
- มีส่วนร่วมของชุมชน: สร้างความเข้าใจ รวมทั้งรับฟังความคิดเห็นจากชุมชนรอบข้าง
- พัฒนาบุคลากร: ส่งเสริมให้พนักงานมีความรู้ความเข้าใจและมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
- สร้างความรับผิดชอบต่อห่วงโซ่อุปทาน: ทำงานร่วมกับคู่ค้าและซัพพลายเออร์ เพื่อให้เกิดการผลิตยั่งยืนตลอดทั้งห่วงโซ่
เป้าหมายสูงสุดของ Green Industry คือสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อให้มนุษย์สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว
Green Industry มีกี่ระดับ?Green Industry มีการแบ่งระดับความก้าวหน้าในการดำเนินงาน เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น และเป็นแนวทางพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดย Green Industry จะแบ่งออกเป็นหลายระดับ โดยแต่ละระดับจะมีเกณฑ์และข้อกำหนดแตกต่างกันไป แต่ green industry Thailand ระบบการรับรองได้กำหนดระดับไว้ 5 ระดับ ดังนี้
ระดับที่ 1 : ความมุ่งมั่นสีเขียว (GREEN COMMITMENT)ความมุ่งมั่นสีเขียว (Green Commitment): เป็นระดับเริ่มต้นที่องค์กรแสดงเจตจำนงในการดำเนินงานเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีการกำหนดนโยบายและเป้าหมายชัดเจน
ระดับที่ 2 : ปฏิบัติการสีเขียว (GREEN ACTIVITIES)green industry level 2: ปฏิบัติการสีเขียว (Green Activity) องค์กรเริ่มดำเนินกิจกรรมเป็นรูปธรรม เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ลดการใช้พลังงานหรือจัดการขยะ
ระดับที่ 3 : ระบบสีเขียว (GREEN SYSTEM)green industry level 3: ระบบสีเขียว (Green System) องค์กรมีการจัดตั้งระบบจัดการสิ่งแวดล้อมครอบคลุมทุกกระบวนการผลิต มีการติดตามและประเมินผลอย่างสม่ำเสมอ
ระดับที่ 4 : วัฒนธรรมสีเขียว (GREEN CULTURE)green industry level 4: วัฒนธรรมสีเขียว (Green Culture) องค์กรมีวัฒนธรรมองค์กรมุ่งเน้นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม พนักงานทุกคนมีส่วนร่วมในวิธีดำเนินงาน
ระดับที่ 5 : เครือข่ายสีเขียว (GREEN NETWORK)green industry level 5: เครือข่ายสีเขียว (Green Network) องค์กรมีวิธีสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงานอื่น ๆ ทั้งในและนอกองค์กร เพื่อส่งเสริมการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมในวงกว้าง
แต่ละระดับจะมีเกณฑ์ที่ต้องปฏิบัติตามแตกต่างกันไป เช่น จัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม มีระบบจัดการพลังงาน จัดการน้ำเสีย จัดการขยะ และการมีส่วนร่วมของชุมชน
ทำไมต้องมีการแบ่งระดับ?
- เพื่อให้เห็นภาพความก้าวหน้า: แบ่งระดับช่วยให้องค์กรเห็นภาพความก้าวหน้าในการดำเนินงาน และสามารถตั้งเป้าหมายในการพัฒนาต่อไปได้
- เพื่อสร้างแรงจูงใจ: ได้รับการรับรองในระดับที่สูงขึ้น จะเป็นการสร้างแรงจูงใจให้กับองค์กรในการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
- เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ: การได้รับรองในระดับสูงขึ้น จะเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับองค์กรในสายตาของลูกค้า ผู้บริโภค รวมถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
วิธีเลือกระดับให้เหมาะสมขึ้นอยู่กับขนาดขององค์กร ประเภทของอุตสาหกรรม หรือความพร้อมในการดำเนินงานของแต่ละองค์กร
สิทธิประโยชน์จากการเป็น Green Industryการที่ธุรกิจได้รับการรับรองให้เป็นอุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry) จากกระทรวงอุตสาหกรรมนอกจากจะได้รับการยอมรับในเรื่องความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังได้รับสิทธิประโยชน์ และสนับสนุนจากภาครัฐอีกมากมาย เพื่อส่งเสริมให้ธุรกิจดำเนินงานอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
green industry กระทรวงอุตสาหกรรม สิทธิประโยชน์ที่ได้รับโดยทั่วไป มีดังนี้
- การรับรองหรือประกาศนียบัตร: ธุรกิจที่ได้รับการรับรองจะได้รับ green industry certificate ซึ่งเป็นเครื่องหมายรับรองคุณภาพและความน่าเชื่อถือ
- การประชาสัมพันธ์: กระทรวงอุตสาหกรรมจะประชาสัมพันธ์รายชื่อธุรกิจที่ได้รับการรับรองผ่านช่องทางต่าง ๆ เพื่อสร้างวิธีรับรู้และภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจ
- สนับสนุนทางการเงิน: ในบางโครงการ อาจสนับสนุนทางการเงิน เช่น เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ หรือเงินอุดหนุน เพื่อใช้ปรับปรุงกระบวนการผลิตให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
- ส่งเสริมการเข้าถึงเทคโนโลยี: ธุรกิจอาจได้รับการสนับสนุนให้เข้าถึงเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต หรือลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
- ลดหย่อนภาษี: ในบางกรณี อาจมีลดหย่อนภาษีสำหรับธุรกิจที่ลงทุนในด้านสิ่งแวดล้อม
- เข้าถึงตลาด: ธุรกิจที่ได้รับรองอาจได้รับโอกาสเข้าถึงตลาดใหม่ ๆ หรือตลาดที่มีข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมเข้มงวด
- สร้างเครือข่าย: ธุรกิจจะได้โอกาสแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์กับธุรกิจอื่น ๆ ที่ได้รับการรับรอง ทำให้เกิดการสร้างเครือข่าย รวมทั้งความร่วมมือในการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน
สรุป การเป็น Green Industry นั้น นอกจากจะเป็นการทำที่ดีเพื่อสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังเป็นวิธีลงทุนระยะยาวคุ้มค่า เพราะจะนำมาซึ่งประโยชน์ทั้งทางธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
Green industry เทรนด์การทำธุรกิจเพื่อความยั่งยืนGreen Industry คือการปฏิวัติวงการอุตสาหกรรมให้ก้าวสู่ความยั่งยืน มุ่งเน้นลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างสังคมที่น่าอยู่ โดยมีเป้าหมายหลักสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจกับอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งได้รับประโยชน์ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม อาทิ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ลดต้นทุนผลิต สร้างภาพลักษณ์ที่ดี และช่วยรักษาโลกของเราให้คงอยู่สำหรับคนรุ่นหลัง