สัมผัสเมนูอาหารระดับ World Cusine ฝีมือสุดยอดเชฟ Carlos Manuel Gaudencio ภายใต้บรรยากาศสุดหรูสถาปัตยกรรมล้านนา ที่ห้องอาหาร Farang Ses , โรงแรม ดารา เทวี เชียงใหม่
โรงแรมดาราเทวี เชียงใหม่ มีทางเลือกที่หลากหลายสำหรับการรับประทานอาหารเลิศรส ซึ่งนำเสนอบริการในทั้งรูปแบบที่ผ่อนคลาย สบายๆ แถบริมสระน้ำ และในแบบบรรยากาศหรูหรา ภูมิฐาน ทั้งอาหารแบบตะวันออก และอาหารแบบตะวันตก ที่ได้รับการปรุงและตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจง เพื่อให้ท่านได้สัมผัสถึงทั้งรสชาติ และบรรยากาศอันน่าหลงใหลพร้อมกันอย่างมีอรรถรส
"ห้องอาหารฝรั่งเศส" โรงแรมดาราเทวี เชียงใหม่ เป็นอีกแห่งที่มีบรรยากาศอันโอ่โถง โดดเด่นด้วยอาคารสถาปัตยกรรมล้านนาโอ่อ่า โดยมีเพดานโค้งสูง ค้ำยันด้วยเสาไม้สักขนาดใหญ่หุ้มด้วยแผ่นดีบุกดุนสลักลายไทยอย่างวิจิตร เครื่องบนไม้แบบอย่างโบราณ และ เครื่องประดับต่างๆ ที่ให้บรรยากาศที่อบอุ่นและหรูหราอย่างยิ่ง
ไม่เพียงแต่ความสวยงามของตัวห้องอาหารเท่านั้น หากยังได้คัดสรรและออกแบบเฉพาะ เครื่องถ้วยชาม อุปกรณ์ที่ใช้บนโต๊ะอาหาร จนถึงเครื่องแก้วเนื้อเยี่ยม แสดงถึงความใส่ใจในทุกๆรายละเอียด ของภัตตาคารอาหารสากลระดับแนวหน้าของโลกแห่งนี้
"เชฟคาร์ลอส โกว์เด็นซิโอ”
ผู้ควบคุมดูแลตลอดจนการสร้างสรรอาหารของ ห้องอาหาร ฝรั่งเศส แห่งนี้ คือ Chef Carlos Gaudencio ฝีมือระดับโลก มิชิลินสามดาว มีประสบการณ์สูงทั้งระดับสากลและโรงแรมห้าดาวในกรุงเทพฯ ยังเคยเป็นเชฟที่ห้องอาหารเลอ นอร์มังดี โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล มานานมากกว่า 8 ปี
เชฟคาร์ลอส เป็นที่ยอมรับในฝีมือการปรุงอาหารแบบสมัยใหม่ จากผู้คนที่ชื่นชอบอาหารฝรั่งเศสอย่างยิ่ง เนื่องด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมในการได้ร่วมงานกับเชฟมิชลินอีกหลายๆท่าน ประกอบกับพรสวรรค์และความคิดสร้างสรรค์ของตัวเชฟคารอสเอง ทำให้การรังสรรค์เมนูจึงไม่เหมือนใคร และหาใครเทียบเทียมได้ยาก
เชฟคาร์ลอสกล่าวว่า จุดเด่นของอาหารฝรั่งเศส คือ “รสชาติและหน้าตาที่ดูดึงดูดเย้ายวนใจให้ลิ้มลอง” ดังนั้นหากได้ยลอาหารที่เชฟชาวโปรตุเกสคนนี้ รังสรรค์มาเสิร์ฟบนโต๊ะ แล้วจะทึ่งไปกับดีไซน์อาหารจนอดใจไม่ไหวที่ต้องลิ้มลองดั่งต้องมนต์สะกดทีเดียว ทุกรสสัมผัสเต็มไปด้วยความประหลาดใจและอิ่มเอมแห่งรสชาติ
และที่ exclusive สุดๆ น้อยคนนักอาจยังไม่ทราบว่า "เชฟคาร์ลอส" ถึงมีหน้าตาเป็นยุโรป แต่กลับชอบทานอาหารรสจัดจ้านแบบอาหารอีสาน เช่น ส้มตำ ซึ่งทำให้เขาปรุงอาหารออกมามีรสชาติถูกลิ้นคนไทยอย่างยิ่ง แต่ยังคงความทันสมัย สวยงามตามแบบฉบับ ของเชฟมิชลินสามดาว
โดยวันนี้ วงในไดอารี่ ขอพาผู้อ่านไปรู้จักกับเมนูอาหาร Chef Creation 3 เซ็ต ซึ่งประกอบไปด้วย A B C และเมนู A La Carte อื่นๆ อีกมากมาย ของห้องอาหารฝรั่งเศส โรงแรมดาราเทวีเชียงใหม่
เริ่มกันที่ Chef Creation A (1,600 บาท++ ต่อ 1 ท่าน)
Amuse bouche
จานแรกเป็น Amuse bouche
เป็นของทานเล่น แต่ละวันจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แล้วแต่ทางเชฟจะสร้างสรรขึ้น มักจะทำเป็นคำหรือชิ้นเล็กๆปรุงจากวัตถุดิบที่หาทานได้ยาก เสิร์ฟแต่น้อยๆพอให้ถวิลและอยากทานคอร์สต่อไป
สำหรับจานนี้ทำมาจากเนื้อปลากระพง ส่วนกลางเป็นซอสเจลลี่ผสมสานกัน ด้านล่างเป็นลูกมะเดื่อ (Figs) ซึ่งเชฟได้นำมาปรุงหลายขั้นตอน เพื่อสรรสร้างความอร่อยที่ซับซ้อนแบบสุดๆ
1. Saumon tous saveurs, confit tartare mousseline jus de persil plat
( Aromatic salmon, tartare confit mousseline parsley jus )
ต่อกันด้วย First Course เมนูนี้มีชื่อว่า "Aromatic salmon, tartare confit mousseline parsley jus" จะใช้เนื้อทั้งตัวของปลาแซลมอนเป็นส่วนประกอบ โดยฐานด้านล่างคือแซลมอนสดๆ สไดล์บางๆ จะมีส่วนประกอบที่วางอยู่บนฐาน คือ แซลมอน tartare หั่นเป็นตอดเล็กๆ ใส่เครื่องปรุงสูตรพิเศษและปิดทับด้วยบีทรูท , คร็อกเกต์ ( Croquettes ) ที่ทำจากเนื้อปลาแซลมอนแล้วนำไปทอด , แซลมอนรมควันแบบสดๆ ปิดทับด้านบนด้วยสาหร่าย , Raspberry Sorbet , เม็ดแมงลักที่นำไปแช่ไว้ใน port wine แดง และ วาซาบิ
2. Soupe à l’oignon et toast au fromage
( Onion soup with cheese toast )
ซุปหัวหอม ที่ให้รสหวานของหอมหัวใหญ่ กลิ่นของบรั่นดี ทานคู่กับขนมปังอบชีสกรูแยร์ (Gruyere) แท้จากฝรั่งเศส ได้รสชาติเค็มนิดๆ ส่งรสชาติให้ถึงความหอมหวานของน้ำซุปหัวหอมเด่นชัดขึ้น
3. Sorbet rafraichissant
( Refreshing sorbet )
ไอศครีมทำจากผลไม้สด ผสมด้วยเหล้าและหรือกาแฟเล็กน้อย เสิร์ฟระหว่างมื้ออาหารเพื่อล้างปาก ก่อนถึงพระเอกตัวจริง Main Course
4. Coq au vin et garniture classique
( Coq au vin with classic garnish )
เมนูนี้เป็นสตูร์ไก่ในไวน์แดง โดยนำไก่ไปหมักไว้ก่อนหนึ่งคืน หลังจากนั้นจึงนำไปตุ๋นด้วยไฟอ่อนๆ เป็นเวลากว่า 20 ชั่วโมง จนเปื่อยนุ่ม เสริฟพร้อมกับแครอทในน้ำส้ม , มันฝรั่ง , เห็ด และ เบค่อนโฮมเมด
5. Dacquoise aux noisettes, chantilly au chocolat, sauce à la framboise
( Hazelnut and Venezuela milk chocolate cake with banana-passion sorbet )
ของหวานท้ายเมนูด้วย ชุด chocolate จากประเทศเวเนซูเอล่า โดยส่วนฐานล่างสุดทำจากเค้กchocolate กับเฮเซลนัท ชั้นถัดมาเป็นช็อคโกแล็ตมูส วางทับด้วยแผ่นดาร์คช็อคโกแลต แต่งหน้าด้วย banana-passion sorbet และซอสเสาวรสที่หุ้มด้วยเจลลาติน ที่ให้รสชาติเปรี้ยวๆ หวานนิดๆ อันเป็นการช่วยส่งรสอร่อยให้กับ chocolate อย่างเนิ่นนานในอุ้งปาก
จบเมนูเซ็ทนี้ด้วย Le moka et ses mignardises ( Mocha accompanied by mignardises ) คือ ชาหรือกาแฟตามอัธยาศัย
ซึ่งยังมี Menu B , Chef Creation ( 2,500 บาท ++ ต่อ 1 ท่าน ) และ ส่วนของ A La Carte ซึ่งยังมีเมนูให้เลือกรับประทานอีกมากมาย พลาดไม่ได้กันเลยทีเดียว
มีการให้บริการใน รูปแบบ "Chef Table” สำหรับผู้ที่ต้องการเข้าถึงศิลปะการปรุงอาหารสไตล์ฝรั่งเศส ได้ใกล้ชิดกับเชฟคาร์ลอส ในการถ่ายทอดประสบการณ์ขณะปรุงอาหารถึงใจกลางห้องครัว เพื่อให้เมนูนั้นเป็นเมนูที่พิเศษสุดๆ โดยจะได้เห็นรายละเอียดทุกขั้นตอนในการเตรียมและปรุงอาหารนั้นๆ (ราคา 3,850 บาท++ ต่อ 1 ท่าน)
วิวของห้องอาหารนี้เมื่อพระอาทิตย์ตกลับขอบฟ้าหลังแนวผืนนากว้างด้านหน้าของอาคาร อันเป็นช่วงเวลาเริ่มต้นของการบรรเลงขับกล่อมบรรเลงเพลงไพเราะด้วยเปียโน เพื่อสร้างอรรถรสในการรับประทานอาหาร
หากเลือกที่นั่งบริเวณชานระเบียงด้านนอก จะได้ชื่นชมความงามบรรยากาศของผืนนาท่ามกลางแสงดาว แสงจันทร์ และแสงไต้รำไร ประกอบเสียงกบเขียด เรไร จิ้งหรีด เป็นความโรแมนติคที่ยากหาภัตตาคารอาหารฝรั่งเศสที่ใดเสมอเหมือนได้ในโลก
ถือว่าการได้มารับประทานอาหารฝรั่งเศสที่สุด Exclusive ในแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ โดยมีเชฟ คาร์ลอส เป็นผู้เนรมิตอาหารเลิศรสสุดหรูระดับเวิลด์คลาส ด้วยรสชาติอาหารที่ยังคงรูปตามแบบฉบับดั้งเดิม แต่การนำเสนอเป็นรูปแบบที่ทันสมัย ผนวกเข้ากับบรรยากาศของห้องอาหารที่แสนจะโรแมนติค ไม่ว่าจะเป็น แสง สี เสียง อีกทั้งบรรยากาศธรรมชาติ จะทำให้การรับประทานอาหารนั้นเป็นมื้อที่พิเศษแบบสุดๆ ซึ่ง Feeling แบบนี้จะพบได้เพียงที่ Farang Ses หรือ ห้องอาหารฝรั่งเศส ของ โรงแรมดาราเทวี เชียงใหม” เท่านั้น สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
http://www.wongnai.com/articles/farang-ses