รถเก่า
ต่อประกันรถชั้นอะไรดี ทำประกันชั้น 1 ได้ไหม
ประกันรถยนต์ที่ไหนดี คิดว่านี่คงจะเป็นคำถามของใครหลายๆ คนที่เป็นเจ้าของรถที่อายุเยอะๆ ซึ่งแอบสงสัยว่า เอ๊ ทำไมรถเก่าถึงไม่ค่อยมีใครทำ
ประกันชั้น 1 กันนะ
จริงๆ แล้วสำหรับรถเก่าที่อายุอยู่ในช่วง 5-7 ปีนั้นถือว่ายังอยู่ในความคุ้มครองของประกันประเภท 1 ได้ แต่หากอายุมากกว่านั้นแล้วยังต่อได้ก็แสดงว่ารถคันนั้นต่อชั้น 1 มาโดยตลอดตั้งแต่ออกรถมาใหม่ๆ แล้วและมีประวัติการเคลมที่น้อยมาก ทั้งนี้ลองมาดูข้อดีของชั้น 1 ดูดีกว่าว่า
ประกันชั้น 1 เคลมอะไรได้บ้าง นั่นก็คือคุ้มครองกรณีชนทั้งแบบมีคู่กรณีและไม่มีคู่กรณี เหมารวมไปถึงกรณีรถหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม ซึ่งต้องบอกว่าเหตุการณ์เคสหลังๆ เหล่านี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัวเท่าไหร่แล้ว ดังนั้นถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ากับยุคสมัยปัจจุบันเลยล่ะ สำหรับข้อเสียมีอะไรบ้าง ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องเงินๆ ทองๆ นั่นก็คือเบี้ยประกันที่สูงนั่นเอง ซึ่งเบี้ยประกัน ส่วนลดหรืออะไรต่างๆ ไม่ได้ต่างกับรถใหม่ๆ เลย ซึ่งตรงนี้อาจต้องพิจารณาให้ดีว่าคุ้มไหมกับสภาพรถและลักษณะการใช้งานของรถเรา
ลองแวบมาดูประกันชั้น 2 กับ 2 พลัสกันดูบ้าง จะเห็นว่ารถเก่าที่อายุ 5 ปีขึ้นไป ส่วนมากแล้วจะนิยมต่อประกันรถประเภทนี้มากกว่า ซึ่งหากดูกันจริงๆ แล้วความคุ้มครองก็ไม่ได้น้อยหน้าเท่าไหร่ อย่างประกัน 2 พลัสที่ครอบคลุมแบบชั้น 1 ยกเว้นเพียงแค่ 2 พลัสหากเป็นกรณีรถชน ต้องเป็นเคสรถชนรถเท่านั้นจึงจะได้รับความคุ้มครอง ส่วนกรณี
ประกันรถชั้น 2 หากรถชนจะคุ้มครองเฉพาะรถคู่กรณีของเราเท่านั้น
หากลดค่าใช้จ่ายเรื่องเบี้ยประกันมาอีกก็ลองมองประกันประเภท 3 หรือ 3 พลัสแทน ซึ่งค่าเบี้ยประกันถูกสุดแต่ก็แลกกับความคุ้มครองแบบพอกรุบกริบ อย่างเช่น 3 พลัสที่คุ้มครองกรณีรถชนรถ โดยคุ้มครองรถคันที่ทำประกัน และไม่คุ้มครองกรณีไฟไหม้กับรถหาย ส่วนประเภท 3 นั้นคุ้มครองเฉพาะคู่กรณีของเราเมื่อเป็นอุบัติเหตุแบบรถชนรถ และไม่ครอบคลุมเคสไฟไหม้กับรถหายเช่นกัน
สำหรับลักษณะการใช้งานรถยนต์ หากเจ้าของรถที่มีอายุมากๆ พิจารณาแล้วเห็นว่ารถเราแทบไม่ค่อยได้วิ่งไปไหนซักเท่าไหร่ ก็อาจไม่ต้องสนใจประกันประเภท 1 เลยก็ได้ มองหาเป็นประเภท 2, 2 พลัส, 3 หรือ 3 พลัส แทนจะดีกว่า หรือหากเห็นว่าอายุรถของเราสัมพันธ์กับอายุประสบการณ์การขับขี่ของเรา นั่นก็คือรถเก่าขนาดนี้ ฝีมือคนขับยิ่งเก๋า ดังนั้นก็ไม่ได้กังวลเรื่องของอุบัติเหตุเท่าไหร่ หากเป็นเช่นนี้ก็ลืมประเภท 1 ที่สุดแสนจะเปลืองเงินไปได้เลย หรือในเคสที่ปลงตกที่สุดก็คือรถเก่าของเราสภาพไม่มีอะไรให้ต้องเสียดายถ้าเข้าอีหรอบนี้ก็ไปประเภท 2 หรือ 3 ได้เลย เรียกว่าประหยัดงบไปได้เยอะ สบายกระเป๋าเลยทีเดียว
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็แล้วแต่วิจารณญาณของเจ้าของรถว่าคุณเป็นเจ้าของประเภทไหน มีฝีมือในการขับขี่ระดับใดและสภาพรถรวมถึงความบ่อยในการใช้งานเป็นอย่างไร ซึ่งแต่ละเคสย่อมไม่เหมือนกัน และตรงนี้แหละจะเป็นตัวตัดสินว่าควรต่อประกันรถประเภทใดดี