ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


3 เคล็ดลับสำคัญในการสอนเด็กให้รู้จักการออมเงิน


              เรื่องเงินและการวางแผนการเงินจัดว่าเป็นเรื่องใหญ่สำหรับคนเราในทุกเพศทุกวัย จำได้ไหมว่าตั้งแต่ที่เรายังเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ เราต่างก็ต้องเรียนรู้วิธีใช้เงินถึงแม้จะยังหาเงินไม่ได้ อย่างน้อยก็ต้องซื้อขนมกินแหละ ฟังดูเหมือนเงินจะเป็นเรื่องปกติแต่เรื่องเงินนี้เองก็กลับเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดปัญหาในชีวิตมากมาย นั่นเพราะผู้ใหญ่จำนวนมาก ไม่ได้ถูกสอนให้มีวินัยทางการเงิน โรงเรียนก็ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในการปลูกฝังค่านิยมที่ถูกต้องเกี่ยวกับการออมเงินหรือออมทรัพย์ เราคงเปลี่ยนแปลงระบบไม่ได้ แต่เราเปลี่ยนตัวเองและบุตรหลานได้ด้วยการป้อนข้อมูลที่ถูกต้องใช้กับพวกเขา เพื่อให้เขาไม่โตไปเป็นหนี้เป็นสินแบบเกินตัว
สอนเด็กให้รู้จักเก็บก่อนใช้
               ปัญหาของผู้ใหญ่หลายคนก็คือ เมื่อได้เงินก้อนมาแล้วจะชอบรีบใช้อย่างเช่น สมมติว่าคุณให้เงินค่าใช้จ่ายลูกเป็นเดือนหรือเป็นสัปดาห์ แนะนำว่าให้คุณสอนให้เขาแยกเงินออกมาส่วนหนึ่ง อาจจะไม่ต้องมาก เช่น 10% แล้วนำไปใส่กระปุกหรือเก็บเงินเข้าบัญชีธนาคาร อนุญาตให้นำมาใช้ยามจำเป็นหรือต้องการซื้อของได้ เพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องขอคุณเป็นเงินก้อนโต ทำแบบนี้เด็กจะรู้จักการออมเงินแบบฝากประจำ และจะกลายเป็นนิสัยที่ดีในอนาคต รู้จักวางแผนในยามลำบาก เช่น ต่อยอดเงินเก็บ คิดทำประกันชีวิต
สอนเด็กให้รู้จักการลงทุน
               คุณอ่านไม่ผิด เราบอกให้คุณสอนให้เด็กรู้จักการลงทุนจริง ๆ แล้วไม่ได้หมายถึงลงทุนในตลาดหุ้น ตลาดทอง หรือค่าเงินแต่อย่างใด แต่หมายถึงลงทุนในตัวเองซึ่งก็คือการศึกษาและเรียนรู้ แม้แต่วอร์เร็น บัฟเฟ็ตเอง ปรมาจารย์ด้านการลงทุนชื่อดังก็ยังบอกว่า การลงทุนในตัวเองนั้นเป็นการประกันชีวิตที่ดีที่สุดและเขาเองก็ไม่เคยละทิ้งที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ การที่เด็กได้ซึมซับแนวคิดของการพัฒนาตัวเองจะทำให้เขาก้าวสู่การเป็นผู้ใหญ่ที่ดี และยังอาจทำให้เขากลายเป็นนักลงทุนหรือนักธุรกิจที่เก่งกาจอีกด้วย
สอนเด็กให้พอใจในสิ่งต่าง ๆ รอบตัว
               แม้ว่าความสุขหลายอย่างจะซื้อได้ด้วยเงิน แต่ไม่ใช่ทุกอย่างแน่นอน หลายครั้งกิจกรรมที่แทบไม่ต้องใช้เงินแต่ให้ความสุขมากกว่าและทำให้สุขภาพกายและจิตดีขึ้น เช่น การเดินเล่นในสวน การออกกำลังกาย ทำงานอดิเรก ฝึกฝนทักษะใหม่ ๆ นั่งล้อมวงสนทนากับเพื่อนหรือคนในครอบครัว เหล่านี้ไม่ต้องใช้เงินเลย แถมยังมีประโยชน์มากกว่าเสียด้วย วิธีนี้จะให้เด็กเห็นคุณค่าสิ่งต่าง ๆ รู้จักหาความสุขจากทุกสิ่งรอบตัวและมองโลกในเชิงบวก โดยไม่ได้มองแค่วัตถุจนเป็นเงื่อนไขว่าการใช้เงินเท่านั้นคือความสุข
               เพียงแค่ 3 ข้อนี้ก็จะช่วยปลูกฝังให้เด็กเติบโตขึ้นกลายเป็นผู้ใหญ่ที่รู้จักการเก็บเงิน บริหารเงินในกระเป๋า ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญมากในการเอาชีวิตรอดในยุคที่เต็มไปด้วยสิ่งล่อตาล่อใจแบบนี้ อีกอย่างที่สำคัญก็คือ ตัวคุณเองก็ควรที่จะต้องนำเทคนิคเหล่านี้ไปใช้ด้วย เพราะเด็กนั้นสุดท้ายแล้วก็จะเลียนแบบผู้ใหญ่ การกระทำทรงพลังกว่าคำพูด หากคุณไม่ทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดี คำสอนใดๆ ก็คงจะไร้ความหมาย