เจ้าของรถยนต์ทุกคนยื่นจ่ายพ.ร.บ. คุ้มครองผู้ที่ได้รับภัยจากรถยนต์ ที่พวกเราเรียกกันเคยปากว่า
พรบ รถยนต์ เป็นเรื่องสำคัญเนื่องจากว่ากฎหมายบังคับให้ต้องทำประจำทุกปี เพื่อใช้เป็นประกันให้ความคุ้มครองผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และบุคคลภายนอกที่ได้รับผลกระทบเมื่อมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น แต่ว่าเคยสงสัยบ้างหรือไม่ว่า พรบ รถยนต์ ภาคบังคับ และภาคสมัครใจ มีความคล้ายคลึงหรือแตกต่างเช่นไร อธิบายโดยประมาณได้ดังนี้
* พ ร บ รถยนต์ เป็นประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับที่กฎหมายกำหนดให้รถยนต์ทุกคันจำต้องทำประกันภัยเพื่อคุ้มครองความเสียหายที่เกิดกับประชาชนทุกคนที่ได้รับภัยจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นพนักงานขับรถ ผู้โดยสารที่นั่งไปด้วย คนเดินเท้า หรือทุกคนที่เป็นผู้เสียหาย เกิดการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ จะได้รับความคุ้มครอง โดยพรบ รถยนต์กำหนดให้ผู้เสียหายได้รับเงินชดเชยเป็นค่างานศพในกรณีเสียชีวิต หรือค่ารักษาจากการบาดเจ็บ สรุปได้ว่าการ ซื้อ พรบ รถยนต์ คุ้มครองเฉพาะตัวเพียงแค่นั้น แต่ไม่คุ้มครองความเสียหายของตัวรถยนต์
การ ต่อ พรบ รถยนต์ รถยนต์จะได้ประโยชน์อะไรบ้างผู้เสียหายจะได้รับเงินชดเชยและค่าหมอตามที่กฎหมายกำหนด โดยจะช่วยเพียงค่าหมอเบื้องต้น และก็ค่าใช้สอยขนส่งผู้เจ็บไปโรงพยาบาลเพียงแค่นั้น ดังนี้ กฎหมายคุ้มครองผู้เอาประกันและคู่ปรับ ทั้งสองฝ่ายจะได้รับค่าทำขวัญความเสียหายเบื้องต้นโดยไม่ต้องรอคอยพิสูจน์ว่าข้างใดเป็นผู้ที่ทำความผิด แต่ถ้าพิสูจน์ได้ว่าเป็นข้างถูกจะได้รับค่าเสียหายเพิ่มเติมด้วย
ค่าเสียหายเบื้องต้น ได้รับทันทีโดยไม่ต้องรอพิสูจน์ความผิด * ค่าพยาบาลจากอาการบาดเจ็บ จ่ายตามจริง ไม่เกิน 30,000 บาท/คน
* กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ หรือพิกลพิการทุพพลภาพอย่างยั่งยืน ไม่เกิน 35,000 บาท/คน
* ค่าเสียหายส่วนเกิน ได้รับหลังพิสูจน์ได้ว่าเป็นข้างถูก
* ค่าพยาบาลจากการบาดเจ็บ จ่ายตามจริง ไม่เกิน 80,000 บาท/คน
* กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ หรือพิการทุพพลภาพถาวรจากอุบัติเหตุ ไม่เกิน 300,000 บาท/คน ถ้าหากนิ้วขาด 1 ข้อขึ้นไป 200,000 บาท, สูญเสียอวัยวะ 1 ส่วน 250,000 บาท แล้วก็สูญเสียอวัยวะ 2 ส่วน 300,000 บาท
* เงินชดเชยค่าเสียหายรายวันสำหรับผู้ป่วยใน ไม่เกิน 200 บาท/วัน รวมเวลาไม่เกิน 20 วัน สูงสุดไม่เกิน 4,000 บาท
* วงเงินความคุ้มครองต่อครั้ง ไม่เกิน 5,000,000 บาท
ปัจจุบันนี้พวกเรา ซื้อ
พรบ ออนไลน์ สบายมาก เจ้าของรถยนต์ทุกคนทำพรบ รถยนต์ภาคบังคับแล้วจำเป็นต้องต่อใหม่ทุกปี เพื่อใช้ประกอบกิจการยื่นต่อทะเบียนรถยนต์หมายถึงการต่อภาษีรถยนต์นั่นเอง ถ้าหากรถยนต์ไม่มี พ.ร.บ. รถยนต์ภาคบังคับจะเป็นอย่างไร ถ้าหากรถยนต์ไม่มีการทำประกันภัยภาคบังคับ เท่ากับไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เจ้าของรถจะถูกโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท เว้นแต่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ยังพลาดสิทธิความคุ้มครองที่ควรได้รับด้วย ไม่เหมือนกับการจ่ายประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจซึ่งจะไม่ซื้อก็ได้ โดยพรบ รถยนต์ แก่เพียงแค่ 1 ปี และต้องต่ออายุใหม่ทุกปี
*
ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ เป็นการซื้อประกันภัยเสริมเติมความคุ้มครองทั้งตัวบุคคลที่เอาประกันภัย แล้วก็บุคคลภายนอกซึ่งก็คือคู่อาฆาตนั่นเอง แล้วก็ค่าซ่อมแซมรถยนต์ในกรณีซื้อความคุ้มครองประกันภัย ป.1, 2+ ,3+ ทำให้ได้รับค่าเสียหายความเสียหายครอบคลุมมากกว่าผลตอบแทนที่ได้รับจากการซื้อ พรบ รถยนต์ ออนไลน์ รับรองภาคสมัครใจจึงไม่จำเป็นที่จะต้องซื้อไว้ก็ได้ ขึ้นอยู่กับความพอใจว่าอยากสิทธิประโยชน์เสริมเติมในเรื่องค่าเสียหายในกรณีการบาดเจ็บต่อสภาพทางด้านร่างกายและก็ความเสียหายต่อเงินที่เกินจากพรบ ภาคบังคับ เลยไปถึงเรื่องค่าซ่อมรถด้วย
ภายหลังจากต่อพรบ รถยนต์ ภาคบังคับแล้ว เจ้าของรถยนต์ต้องการทำประกันรถยนต์ด้วย โดยทั่วไปรับรองภาคสมัครใจแบ่งได้เป็น 6 ระดับ คือ 1, 2, 3, 4, 2+, 3+ แต่ละประเภทต่างกันอีกทั้งราคาและความคุ้มครองที่แตกต่างกัน มีรายละเอียดดังนี้ * ประกันภัยชั้น 1 เป็นพรบ ภาคสมัครใจ ที่ให้ความคุ้มครองสูงสุด พรบ รถยนต์ ราคา แพงที่สุด หลักหมื่นบาทขึ้นไป การเคลมเอาประกันภัยจะครอบคลุมชั่วชีวิต ร่างกาย และก็เงินทองของบุคคลภายนอก คุ้มครองอุบัติเหตุรวมทั้งค่าพยาบาลของผู้เอาประกันภัย และก็ความเสียหายของรถยนต์จากการชน รอยขูดขีด กระจกแตก ไฟเผา น้ำท่วม รถหาย รวมถึงก่อการร้ายโดยการใช้ เรียกว่าคุ้มครองครบที่สุด ผู้เอาประกันเคลมประกันชั้น 1 ได้ถึงแม้เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนโดยไม่มีคู่กรณี
* ประกันภัยชั้น 2 ให้ความคุ้มครองชั่วชีวิต ร่างกาย รวมทั้งสินทรัพย์ของบุคคลภายนอก คุ้มครองอุบัติเหตุแล้วก็ค่ารักษาของผู้เอาประกันภัย แล้วก็ความเสียหายของรถยนต์จากไฟไหม้รวมทั้งสูญหาย แม้กระนั้นไม่คุ้มครองค่าซ่อมแซมรถจากการชน
* ประกันภัยชั้น 3 ให้ความคุ้มครองชั่วชีวิต ร่างกาย รวมทั้งเงินทองของบุคคลภายนอก คุ้มครองอุบัติเหตุรวมทั้งค่ารักษาพยาบาลของผู้เอาประกันภัย แม้กระนั้นไม่ครอบคลุมความเสียหายของรถยนต์
* ประกันภัยชั้น 4 ให้ความคุ้มครองเฉพาะเงินทองของบุคคลภายนอก คุ้มครองอุบัติเหตุแล้วก็ค่ารักษาของผู้เอาประกันภัย แล้วก็ความเสียหายของรถยนต์จากไฟลุกและสูญหาย แม้กระนั้นไม่คุ้มครองค่าซ่อมแซมรถยนต์จากการชน
* ประกันภัยชั้น 2+ ให้ความคุ้มครองครอบคลุมทั้งชีวิต ร่างกาย แล้วก็เงินของบุคคลภายนอก คุ้มครองอุบัติเหตุและค่าพยาบาลของผู้เอาประกันภัย และความเสียหายของรถยนต์จากการชน ไฟไหม้ และก็หายด้วย สามารถเคลมได้เฉพาะกรณีชนกับยานพาหนะทางบกเพียงแค่นั้น
* ประกันภัยชั้น 3+ ให้ความคุ้มครองครอบคลุมทั้งชีวิต ร่างกาย และก็เงินทองของบุคคลภายนอก คุ้มครองอุบัติเหตุแล้วก็ค่ารักษาพยาบาลของผู้เอาประกันภัย แล้วก็ความเสียหายของรถยนต์จากการชนแล้วก็สูญหาย แต่ประกันภัยไม่ครอบคลุมเรื่องไฟเผาแล้วก็ก่อเหตุร้าย สามารถเคลมได้เฉพาะกรณีชนกับยานพาหนะทางบกเท่านั้น
สำหรับคนที่ต้องการทำประกันภัยภาคสมัครใจ อาจยังลังเลว่าจ่ายแพงแล้วคุ้มไหม ตรวจดูจากข้อมูลข้างต้นเพื่อประกอบกิจการตกลงใจในเบื้องต้น ส่วนการ
ต่อ พรบ รถยนต์ ราคา เบี้ยประกันภัยเช็คง่ายทางอินเทอร์เน็ต เทียบราคาแต่ละระดับของบริษัทได้อย่างไม่ยากเย็นสามารถสั่งซื้อออนไลน์และผ่อนจ่ายได้อีกด้วย หลังจากผู้ครอบครองรถยนต์ ต่อ พรบ ออนไลน์ เป็นระเบียบแล้วจะนำไปใช้สำหรับเสียภาษีรถยนต์รายปี โดยการทำทั้งสองเรื่องไปพร้อมกันได้เลย จะได้รับแผ่นป้ายติดบนกระจกกันลมหน้ารถยนต์มีความหมายว่าต่อภาษีรถยนต์ประจำปีแล้ว ถ้าหากปิดป้ายภาษีผิดต้อง เห็นไม่ชัดแจ้งจะมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
ถ้าเข้าใจความแตกต่างของ
พรบ รถยนต์ ภาคบังคับแล้วก็ภาคสมัครใจแล้ว เวลาเบิกความคุ้มครองจะได้ไม่สับสนรวมทั้งได้รับคุณประโยชน์คุ้มค่าที่สุด
https://www.gettgo.com/motor/compulsory Tags : พร บ, ประกัน ชั้น 1, msig