สุขภาพดี เป็นสิ่งที่เชื่อว่าทุกๆ คนอยากจะมีแน่นอน เพราะเมื่อเรามีสุขภาพดีแล้วจะสามารถทำได้ทุกอย่างที่เราต้องการเลย โดยหนึ่งปัจจัยที่ทำให้สุขภาพดีก็คือ การรับประทานอาหารนั่นเอง ปัจจุบันเทรนด์อาหารสุขภาพมีอยู่มากมายหลายประเภท ทั้งอาหารคลีน อาหารคีโต อาหารมังสวิรัติ และที่กำลังมาแรงสุดๆ ในธุรกิจอาหารยุคนี้ก็คือ
farm to table เมนูอาหารสดใหม่จากผู้ผลิตเสิร์ฟตรงถึงโต๊ะผู้บริโภค
เทรนด์สุขภาพดีที่พิถีพิถัน Farm-to-Table หรือ Farm-to-Fork คือ ผู้ผลิตนำเนื้อสัตว์ที่เลี้ยงเอง หรือผักที่ปลูกเองมาประกอบอาหารสไจล์โฮมเมดแล้วเสิร์ฟให้ลูกค้าทานแบบสดใหม่ อร่อยแบบธรรมชาติแท้ๆ ไม่มีสารปนเปื้อนเลย
อาหารประเภท Farm-to-Table ได้รับการยอมรับว่าเป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เนื่องจากมีกระบวนการผลิตที่พิถีพิถันตามวิถีการเกษตรแบบอินทรีย์ซึ่งมีความเป็นธรรมชาติสูง เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ปราศจากการตัดแต่งพันธุกรรม ไม่ใช้สารเคมีหรือสารปรุงแต่งเพื่อเร่งหรือควบคุมการเจริญเติบโตของพืชและสัตว์ ร่างกายของผู้บริโภคไม่ต้องรับสารเคมีอีกด้วย
นอกจากนี้อาหารประเภท Farm-to-Table ส่วนใหญ่จะปลูกพืชผักตามฤดูกาล ส่งผลต่อคุณภาพและความยั่งยืนด้านอาหารในอนาคต แถมยังลดค่าใช้จ่ายเวลาปลูกอาหารนอกฤดูกาล ทำให้ราคาผักไม่แพงด้วยนะ
กลยุทธ์แห่งความยั่งยืนแบบครบวงจร หลายๆ คนคงได้ยินคำเปรียบเปรยว่า ประเทศไทย คือครัวโลก ยิ่งจากข้อมูลของ Euromonitor พบว่าค่าใช้จ่ายของผู้บริโภคในประเทศไทย ปี 2560 พบว่าคนไทยหมดเงินไปกับค่าใช้จ่ายด้านอาหารมากที่สุดถึง 21.2% หรือคิดเป็นมูลค่า 1.8 ล้านล้านบาทเลยทีเดียว แต่ถึงเราจะมีค่าใช้จ่ายในด้านของอาหารที่เยอะ แต่ทางองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization หรือ FAO) พบว่า 1 ใน 3 ของอาหารที่ผลิตทั่วโลก หรือราว 1.3 ล้านตัน/ปี กลายเป็นขยะที่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้ต้องเผาผลาญพลังงานโดยสิ้นเปลืองอีกด้วย
Farm-to-Table เข้ามาเปลี่ยนในด้านของพ่อค้าคนกลางเพราะเกษตรกรไม่ได้มีหน้าที่เพียงเพาะปลูกหรือผลิตวัตถุดิบเท่านั้น แต่ยังนำพืชพรรณหรือเนื้อสัตว์ที่ได้มาปรุงและเสิร์ฟให้กับผู้บริโภคได้อย่างสดใหม่ นอกจากจะไม่มีสารปนเปื้อนแล้วยังไม่สิ้นเปลืองกับบรรจุภัณฑ์และการขนส่งที่ทำให้เกิดการสูญเสียเชื้อเพลิงและคุณภาพอาหาร ลดขั้นตอนและเวลาการส่งมอบระหว่างผู้ผลิตถึงผู้บริโภค เพราะหากมีส่วนที่เหลือหรือไม่จำเป็นก็สามารถนำไปใช้เป็นปุ๋ยได้ด้วย
อีกหนึ่งข้อดีก็คือ การผลิตและจำหน่ายในชุมชนใกล้เคียงแบบ Farm-to-Table ยังมีลักษณะความยั่งยืน (Sustainability) ช่วยสนับสนุนอาชีพเกษตรกรรายย่อยให้มีความมั่นคง สามารถกำหนดราคาขายได้ตามจริง และส่งเสริมการจ้างงานในต่างจังหวัดอีกด้วย ถือว่าดีกับทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภคเลย
ลงมือทำ Farm-to-Table ที่บ้านเนอวานา ที่จริงแล้วการทำ Farm To Table นั้นไม่ได้จำกัดแค่ทำเป็นการค้าขายเท่านั้น ในภาคครัวเรือนก็สามารถทำได้เช่นกัน อาจจะปลูกบริเวณริมรั้ว หรือตามพื้นที่ว่างๆ ในรั้วบ่านของเรา
ลูกบ้านเนอวานาที่สนใจนำไอเดีย Farm-to-Table สามารถลงมือได้ง่ายๆ กับพื้นที่สวนที่มีอยู่รอบบ้าน โดยลงเป็นแปลงผักเล็กๆ หรือทำเป็นแนวรั้ว สำหรับผักประเภทที่ปลูกแล้วมีผลเก็บกินได้ตลอดทั้งปี หรือจะปลูกเป็นผักตามฤดู ผักที่ใช้เวลาปลูกในช่วงสั้นๆ ก็สามารถทำได้ไม่ยากเลย
พอพืชผักโตแล้วเราสามารถนำมาทำอาหารได้แล้ว มั่นใจเลยว่าผักของเราจะสะอาดไม่ปนเปื้อนแถมยังได้เพิ่มช่วงเวลากับครอบครัว สนุกไปด้วยกันได้อีกด้วยนะ