3.0K
18 ธันวาคม 2555
เซ็นทรัลยันค้าปลีกกรุงไม่อิ่มตัว ห่วงคอมมูนิตี้มอลล์มือใหม่หัดบริการไม่เชี่ยวชาญอาจเจ๊ง

 
 
ซีอาร์ซียันศูนย์การค้าในกรุงเทพฯ ไม่อิ่มตัวในอีก 1-2 ปีข้างหน้า ชี้ผู้บริโภคในประเทศกำลังซื้อยังดี นักท่องเที่ยวยังเพิ่ม พร้อมระบุคอมมูนิตี้มอลล์น่าเป็นห่วง หลังพบผู้เล่นส่วนใหญ่เป็นมือใหม่ เจ้าของที่ดินไม่มีความชำนาญด้านการบริหาร
 
นายทศ จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือซีอาร์ซี เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจศูนย์การค้าในพื้นที่ กทม. ยังไม่ถึงจุดอิ่มตัวภายในระยะเวลา 1-2 ปีข้างหน้านี้อย่างแน่นอน เนื่องจากเศรษฐกิจในประเทศยังขยายตัวได้ต่อเนื่องทุกปีเช่นเดียวกับกำลัง ซื้อของผู้บริโภคภายในประเทศยังมีการขยายตัวอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ประกอบกับแนวโน้มของกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศ ไทยก็ยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงมองว่าธุรกิจศูนย์การค้าน่าจะยังมีอัตราการเติบโตที่ดี
 
 
สำหรับศูนย์การค้าที่จะเติบโตน้อยลงนั้น มองว่าน่าจะเป็นคอมมูนิตี้ มอลล์ เพราะมีโอกาสที่ 50% จะไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากมีผู้ประกอบการเข้ามาทำตลาดเป็นจำนวนมาก และกลุ่มที่เข้ามาลงทุนธุรกิจคอมมูนิตี้มอลล์ก็เป็นเจ้าของที่ดินพัฒนา โครงการเอง ซึ่งอาจไม่มีความเชี่ยวชาญในการทำศูนย์การค้า
 
“คอมมูนิตี้มอลล์ที่เกิดขึ้นในตลาดปัจจุบันมีโอกาสล้มเหลวได้ 50% เพราะธุรกิจศูนย์การค้าทำยาก และประสบความสำเร็จยาก เห็นได้จากในปัจจุบันมีคอมมูนิตี้มอลล์หลายแห่งที่ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะส่วนใหญ่เป็นเจ้าของที่ดิน ที่มีที่ดินของตัวเองก็เข้ามาพัฒนาโครงการเอง แต่ไม่มีความเชี่ยวชาญพัฒนาศูนย์การค้า ประกอบคอมมูนิตี้มอลล์ในไทยจะเป็นแบบเปิดโล่ง เมื่อเกิดปัญหาฝนตกบ่อยครั้ง ก็จะส่งผลกระทบให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการน้อยลง และต่อเนื่องมาถึงร้านค้า เพราะจำหน่ายสินค้าไม่ได้” นายทศกล่าว
 
 
 
ส่วนความคืบหน้าการปรับโฉมร้านแฟมิลี่มาร์ทนั้น คาดว่าในปีหน้าจะเห็นความชัดเจนมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันบริษัทญี่ปุ่นที่เป็นเจ้าของแฟมิลี่มาร์ทกำลังพิจารณาร้าน ท็อปส์เดลี่ว่า สาขาใดควรปรับเปลี่ยนมาเป็นแฟมิลี่มาร์ท ซึ่งเบื้องต้นอาจจะเน้นปรับสาขาที่มีขนาดเล็ก ขนาดไม่เกิน 300 ตร.ม. โดยในส่วนของการคัดเลือกจะให้บริษัทญี่ปุ่นเป็นผู้คัดเลือก เนื่องจากบริษัทได้รับสิทธิ์การบริหารแฟรนไชส์
 
สำหรับเรื่องการปรับค่าแรงขึ้นเป็น 300 บาทต่อวันทั่วประเทศนั้น บริษัทต้องปรับค่าแรงให้แก่พนักงานมากกว่า 10,000 คน ที่เป็นพนักงานขาย ซึ่งยอมรับว่ามีผลกระทบต่อต้นทุนของบริษัทพอสมควร แต่เชื่อว่าจะส่งผลดีในระยะยาวต่อบริษัท เพราะผลจากการปรับค่าแรง 300 บาท ให้กับพนักงานในปีนี้จำนวน 7 จังหวัด พบว่า พนักงานในสัดส่วน 70% มีรายรับมากกว่ารายจ่าย และพบพนักงานจำนวนน้อยมากที่ยังมีปัญหาค่าใช้จ่ายอยู่ภายหลังจากมีการปรับ ค่าแรงเพิ่มขึ้น
 
 
นายกุฎาธาร นาควิโรจน์ ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารห้างค้าปลีก บิ๊กซี กล่าวว่า บริษัทพร้อมปรับขึ้นค่าแรง 300 บาท ให้แก่พนักงานทั่วประเทศ ตามนโยบายของรัฐบาล  เพราะมั่นใจว่าจะไม่มีผลกระทบต่อต้นทุนของบริษัทมากนัก ขณะเดียวกันบริษัทก็มีแผนที่จะรับพนักงานผู้พิการเข้ามาทำงานมากขึ้น จากปัจจุบันจะรับเข้ามาทำงานในสัดส่วนร้อยละ 1% ตามกฎหมาย แต่จะเพิ่มเป็นร้อย 2% และในปัจจุบันบริษัทมีพนักงานผู้พิการเข้ามาทำงานแล้ว 270 คน

อ้างอิงจาก ไทยโพสต์
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สยามเซ็นเตอร์ เตรียมต้อนรับเทศกา..
451
งาน เมกาบางนา มหาสงกรานต์
442
งาน Typeไทย
433
งาน Chanthaburi Songkran Wonder ..
426
งาน HAPPY SONGKRAN FESTIVAL
405
พาราไดซ์ พาร์ค เปิดฟลอร์เต้นรำ "..
404
ข่าวทำเลค้าขายมาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด