นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ บริษัท ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ท่านให้ความสนใจในการใช้บริการในเครือบริษัท บริษัทจึงได้จัดทำนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ขึ้นเพื่อใช้บังคับกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งใช้บริการ ทำธุรกรรม หรือร่วมกิจกรรมใดๆ กับ บริษัท ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ จำกัดโดยครอบคลุมผลิตภัณฑ์และบริการในเครือของบริษัท ได้แก่ เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย (Social Media) แอปพลิเคชันในระบบปฏิบัติการไอโอเอสและแอนดรอยด์ เว็บแอปพลิเคชัน และช่องทางอื่นๆ ในอนาคต โดยมีหลักเกณฑ์ กลไก มาตรการกำกับดูแล และการบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 ดังรายละเอียดต่อไปนี้ นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ข้อ 1: คำจำกัดความ (Definitions) ข้อ 2: การเก็บข้อมูลส่วนบุคคล ข้อ 3: วัตถุประสงค์ในการจัดเก็บ รวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ข้อ 4: ข้อจำกัดในการจัดเก็บ รวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ข้อ 5: การโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ ข้อ 6: คุกกี้ (Cookie) พิกเซล (Pixel) และ ไอพีแอดเดรส (IP Address) ข้อ 7: การคุ้มครองข้อมูลการเงิน ข้อ 8: ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ข้อ 9: สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ข้อ 10: การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ข้อ 11: เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ข้อ 12: ช่องทางการติดต่อบริษัท ข้อ 1 : คำจำกัดความ (Definitions)
ข้อ 2 : การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลบริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยมีวัตถุประสงค์ ขอบเขตและใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม โดยในการเก็บนั้นจะทำเพียงเท่าที่จำเป็นแก่การดำเนินงานภายใต้วัตถุประสงค์ของบริษัทไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ เท่านั้น ทั้งนี้บริษัทจะดำเนินการให้เจ้าของข้อมูลรับรู้ให้ความยินยอมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือตามแบบวิธีการของบริษัท กรณีที่บริษัทจัดเก็บข้อมูลส่วนอ่อนไหวของเจ้าของข้อมูล บริษัทจะขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลโดยได้แจ้งก่อนทำการเก็บรวบรวม เว้นแต่การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวจะเข้าข้อยกเว้นตามที่ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 หรือกฎหมายอื่นที่กำหนดไว้ บริษัทอาจสอบถามข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเพิ่มเติมจากท่าน เช่น เมื่อท่านเข้าร่วมกิจกรรม หรือบริการที่บริษัทหรือพันธมิตรทางธุรกิจจัดขึ้น โดยท่านอาจต้องระบุข้อมูลเพิ่มเติม การแจ้งข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติมจะทําให้ท่านสามารถใช้บริการต่างๆ ได้มากขึ้น ทั้งนี้ บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นๆ และเพื่อปฏิบัติตามภาระหน้าที่ทางกฎหมายและข้อบังคับต่างๆ โดยระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลจะเปลี่ยนแปลงไปโดยขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นๆ ข้อ 3: จุดประสงค์การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล และการเปิดเผยข้อมูลบริษัทจะทำการจัดเก็บ รวบรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อให้ท่านได้รับสินค้าและบริการที่ดีจากบริษัทอย่างมีประสิทธิภาพ โดยท่านตกลงและยินยอมให้บริษัทสามารถใช้ เปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในการติดต่อหรือส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านทั้งหมดหรือบางส่วนไปยังบริษัทในเครือของบริษัทหรือพันธมิตรในทางธุรกิจ หรือบุคคลอื่น โดยไม่จำเป็นต้องบอกกล่าวล่วงหน้าแก่ท่าน เพื่อประโยชน์ของท่านและของกิจการบางส่วน ดังต่อไปนี
ข้อ 4: ข้อจำกัดในการใช้และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล1. บริษัทจะจัดเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามความยินยอมของท่าน โดยจะต้องเป็นการใช้ตามวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูลของบริษัทเท่านั้น บริษัทจะกำกับดูแลพนักงานหรือผู้ปฏิบัติงานของบริษัทมิให้ใช้และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล หรือเปิดเผยต่อบุคคลภายนอก เว้นแต่
2. บริษัทอาจใช้บริการสารสนเทศของผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลภายนอก เพื่อให้ดำเนินการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งผู้ให้บริการนั้นจะต้องมีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัย โดยห้ามดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนอกเหนือจากที่บริษัทกำหนด ข้อ 5: การเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลหรือการลบข้อมูลส่วนบุคคลบริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอกหรือเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ในต่างประเทศซึ่งเป็นประเทศปลายทาง ที่อาจมีหรือไม่มีระดับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เท่าเทียมกัน ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการตามขั้นตอนและมาตรการต่างๆ เพื่อทำให้ท่านมั่นใจได้ว่าการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะดำเนินการอย่างปลอดภัยและบุคคลที่รับโอนข้อมูลนั้นมีระดับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และในบางกรณี บริษัทอาจขอความยินยอมจากท่านเพื่อการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ หากจำเป็นต้องปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนดข้อ 6: คุกกี้ (Cookie) พิกเซล (Pixel) และ ไอพีแอดเดรส (IP Address)นอกจากข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลบางอย่างผ่านเทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (Cookie) พิกเซล (Pixel) ไอพี แอดเดรส (IP Address) และแหล่งเก็บข้อมูลบนเบราว์เซอร์และอุปกรณ์ของผู้ใช้ รวมถึงเครื่องมือเก็บข้อมูลของบุคคลภายนอก เช่น ผู้ให้บริการด้านการตลาดหรือวิเคราะห์ ในการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้เทคโนโลยีประเภทนี้ โดยตรงบนเว็บไซต ทั้งนี้ คุกกี้ (Cookie) คือ ไฟล์ข้อมูลตัวอักษรขนาดเล็กที่รวบรวมข้อมูลในคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือ อุปกรณ์อื่นของผู้ใช้งาน คุกกี้ทําให้บริษัททราบถึงบริการหรือสินค้าที่ท่านชื่นชอบ รวมถึงบริการที่ไม่อยู่ในความสนใจของท่าน ส่วนพิกเซล (Pixel) เป็นภาพขนาดเล็ก เป็นส่วนหนึ่งของรหัสบนเว็บเพจ ซึ่งทําหน้าที่ต่างๆ เช่น ทําให้เซิร์ฟเวอร์ อื่นสามารถวัดยอดการเข้าชมเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน และมักใช้เชื่อมโยงกับคุกกี้ โดยรหัสดังกล่าวจะทําการติดตามเมื่อมี การดาวน์โหลดพิกเซลเพื่อบ่งชี้ว่าผู้ใช้งานได้เข้าเชื่อมต่อกับจอภาพใด หรือบางส่วนของจอภาพใด ด้วยการทํางานของคุกกี้และพิกเซล จะทําให้บริษัทสามารถจดจําผู้ใช้บริการที่เคยเข้าชมเว็บไซต์ และ แอปพลิเคชันของบริษัท ทราบถึงจํานวนและวัตถุประสงค์ของผู้ที่ใช้บริการเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน และช่วยให้บริษัทจัด บริการข้อมูล พัฒนาประสบการณ์การเข้าชมเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน ปรับปรุงคุณภาพการให้บริการ นําเสนอบริการ สิทธิพิเศษ ผลิตภัณฑ์ กิจกรรม หรือโฆษณาที่ตรงกับพฤติกรรม และความสนใจสําหรับท่านด้วย วิธีปิดการทํางานของคุกกี้ ท่านมีสิทธิตั้งค่าคุกกี้ โดยท่านอาจแก้ไขเบราว์เซอร์ของท่านให้ปฏิเสธการเก็บคุกกี้ หากท่านต้องการปฏิเสธการ เก็บคุกกี้ทั้งหมด ท่านอาจไม่สามารถทราบข้อมูล ผลิตภัณฑ์ บริการใหม่ สิทธิพิเศษ และการเชื่อมต่อกับบางเว็บไซต์อาจ ไม่ได้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุกกี้ได้จาก aboutcookies.org และศึกษาวิธีจัดการความเป็น ส่วนตัวของท่านจากเว็บเบราว์เซอร์ที่ท่านใช้ ตามรายละเอียดดังนี้:
ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ใช้คุกกี้ประเภทใดบ้าง
เพื่อให้ท่านมีประสบการณ์การที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ใช้คุกกี้ต่างๆ ดังนี้ โดย คุกกี้ดังกล่าวไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได คุกกี้ที่จําเป็นสําหรับการทํางานของเว็บไซต์ (Strictly necessary cookies) คุกกี้ประเภทนี้มีความสําคัญต่อการทํางานของเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ซึ่งจะช่วยให้ท่านสามารถเข้าถึงข้อมูล และเนื้อหาต่างๆ ของเว็บไซต์บริษัทได้ทุกส่วนและปลอดภัย คุกกี้ประเภทนี้ จะถูกลบออกหลังจากการเข้าชมเว็บไซต์ของท่าน หากท่านปิดการทํางานของคุกกี้เหล่านี้ ท่าน อาจจะไม่สามารถใช้บริการเว็บไซต์ของบริษัทได้ตามต้องการ เช่น การอ่าน และการนําทางระหว่างหน้าเว็บ คุกกี้ด้านประสิทธิภาพการทํางานของเว็บไซต์ (Performance Cookies) บริษัทใช้คุกกี้ประเภทนี้เพื่อรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับวิธีการเข้าและพฤติกรรมการเยี่ยมชมเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com เพื่อวิเคราะห์และนับจํานวนผู้ใช้งาน ตลอดจนช่วยให้บริษัททราบถึงพฤติกรรมการเยี่ยมชมเว็บไซต์ของท่าน ซึ่งจะช่วยปรับปรุงการทํางานของเว็บไซต์ โดยให้ท่านสามารถค้นหาสิ่งที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ บริษัทอาจใช้คุกกี้เหล่านี้เพื่อเน้นย้ําบทความ หรือบริการของเว็บไซต์ ที่บริษัทคิดว่าท่านน่าจะสนใจ และวัดความมีประสิทธิผลของเนื้อหาและโฆษณาของบริษัทโดยพิจารณาจากการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่ได้และใช้ประมวลผลนั้น ไม่มีการระบุชื่อ หรือบ่งบอกความเป็นตัวตนของท่านได้ อีกทั้ง ไม่มีการเก็บข้อมูลจําเพาะบุคคล เช่น ชื่อ อีเมล เป็นต้น และใช้เป็นข้อมูลทางสถิติเท่านั้น หากท่านปิดการใช้งานของคุกกี้ประเภทนี้ อาจทําให้ท่านไม่สามารถใช้งานฟังก์ชันบางอย่างได้ หรือมี ประสบการณ์การใช้งานที่ไม่ราบรื่น คุกกี้เพื่อการโฆษณา (Advertising Cookies) บริษัทใช้คุกกี้ประเภทนี้เพื่อจดจําพฤติกรรมการอ่านเนื้อหาบนเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ของท่าน รวมถึงราย ละเอียดของอุปกรณ์ที่ท่านใช้ เพื่อนําไปใช้วิเคราะห์ในการนําเสนอโฆษณาที่เหมาะสมกับท่านมากที่สุด รวมถึงป้องกัน หรือจํากัดจํานวนครั้งที่ท่านจะเห็นโฆษณานั้นซ้ําๆ และช่วยวัดความมีประสิทธิผลของโฆษณาที่บริษัทนําเสนอด้วย นอกจากนี้ บริษัทยังมีการใช้บริการคุกกี้ที่จัดหาให้โดยบุคคลภายนอกเว็บไซต์นี้ โดยระบบของบุคคล ภายนอกจะวางคุกกี้โฆษณาไว้สองช่วงเวลา นั่นคือเมื่อท่านเข้าชมเว็บไซต์ของบริษัท และเมื่อท่านใช้บริการของพวกเขา และออกจากเว็บไซต์ของบริษัท ท่านสามารถเลือกที่จะไม่รับคุกกี้โฆษณาที่กําหนดโดยบุคคลภายนอกเหล่านี้ได้ที่ www.youronlinechoices.com/uk/your-ad-choices การเชื่อมโยงอุปกรณ์ของบุคคลภายนอกผ่านบทความในเว็บไซต์ และช่องทางอื่นๆ ในเครือของบริษัท เพื่อช่วยเสริมสร้างประสบการณ์การเข้าเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือช่องทางอื่นของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ในบางครั้ง บริษัทอาจ เชื่อมโยงข้อมูลกับโซเชียลมีเดีย เข้ากับเครื่องมือของบุคคลภายนอก เช่น Youtube, Twitter, Facebook, Pinterest, Instagram เมื่อท่านเข้าดูบทความภายในเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือช่องทางอื่นๆ ของบริษัท ข้อ 7: การคุ้มครองข้อมูลการเงินการรักษาความลับข้อมูลด้านการเงินส่วนบุคคล เป็นเรื่องที่สําคัญอย่างยิ่งต่อบริษัท บริษัทจะไม่เผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวต่อบุคคลภายนอก เว้นแต่เท่าที่ระบุไว้ในนโยบายส่วนบุคคลฉบับนี้ ดังนั้น ข้อมูลสถิติของผู้ใช้บริการ บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลที่ท่านให้ความยินยอมต่อผู้โฆษณา หรือพันธมิตรทางธุรกิจเกี่ยวกับบริการทางการเงิน รวมถึงการใช้บริการของลูกค้าของบริษัท ข้อ 8: ระยะเวลาในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านบริษัทตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทจึงกำหนดให้มีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม และสอดคล้องกับการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ แปลง แก้ไขหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีสิทธิหรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตลอดจนการป้องกันมิให้มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โดยมิได้รับอนุญาต และดำเนินมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิของท่าน เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทได้รับมาจะถูกนำไปใช้ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์การดำเนินงานของบริษัทเท่านั้น ข้อ 9: สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการดำเนินการ ดังนี้1. การเพิกถอนความยินยอม : ท่านมีสิทธิที่จะเพิกถอนความยินยอมของท่านในการจัดเก็บ ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัท 2. การขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล : ท่านสามารถขอเข้าถึง ขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือขอให้เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บริษัทอาจปฏิเสธคำขอของท่านได้ตามที่กฎหมายกำหนด หรือตามคำสั่งศาล 3. การได้รับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์และถ่ายโอนข้อมูล : ท่านมีสิทธิที่จะได้รับข้อมูลที่ได้ให้ไว้กับบริษัทในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ และมีสิทธิในการถ่ายโอนข้อมูลของท่านสำหรับการใช้งานในบริการของบุคคลอื่น และในการใช้สิทธิดังกล่าวนี้ ท่านมีสิทธิที่จะให้บริษัทถ่ายโอนข้อมูลไปยังบุคคลอื่นๆ โดยตรง หากสามารถกระทำได้โดยทางเทคนิค 4. การคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล : ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับท่าน ในกรณีดังนี้ 4.1) กรณีที่เป็นการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง 4.2) กรณีที่เป็นการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ เว้นแต่กรณีจำเป็นเพื่อการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัท 4.3) กรณีที่เป็นข้อมูลที่เก็บรวบรวมไว้ด้วยเหตุจำเป็น เพื่อการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัท หรือเหตุจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท เว้นแต่บริษัทแสดงให้เห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายที่สำคัญยิ่งกว่า หรือเป็นไปเพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตาม หรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย 5. การขอลบ หรือเปลี่ยนแปลงสถานะข้อมูลส่วนบุคคล : ท่านสามารถขอให้ลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกลายเป็นข้อมูลที่ไม่ระบุตัวบุคคล เว้นแต่เป็นกรณีที่บริษัทต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าว 6. การขอให้ระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล : ท่านสามารถขอให้บริษัทระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านทั้งหมด หรือบางส่วน เป็นการชั่วคราวหรือถาวร 7. การแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง : ท่านสามารถขอแก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง และทำให้ข้อมูลของท่านเป็นปัจจุบัน 8. การร้องเรียน : ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ในกรณีที่ท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทนั้นฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ข้อ 10: การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อท่านใช้บริการ ทำธุรกรรม หรือร่วมกิจกรรมใดๆ กับบริษัทไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ถือว่าท่านได้รับทราบและยินยอมปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ และฉบับแก้ไขเพิ่มเติมในอนาคต บริษัทอาจจะแก้ไขเพิ่มเติมนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยบริษัทจะเผยแพร่ประกาศการแก้ไขเพิ่มเติมบนเว็บไซต์และช่องทางอื่นของบริษัท และถือเป็นการยอมรับข้อกำหนดของนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี ข้อ 11: การเปลี่ยนแปลงนโยบายส่วนบุคคลบริษัทได้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 โดยแต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO) เพื่อตรวจสอบการดำเนินการของบริษัทที่เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนี้ บริษัทได้จัดทำระเบียบ คำสั่ง ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามที่กำหนดไว้ เพื่อให้การดำเนินงานตามแนวนโยบายที่เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปด้วยความเรียบร้อย อีกทั้งยังเป็นไปตามนโยบายของคณะกรรมการกำกับการบริหารข้อมูลส่วนบุคคลและความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ที่กำหนด ข้อ 12: ช่องทางการติดต่อหากท่านต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท ตลอดจนมีข้อสงสัย หรือมีความประสงค์ขอใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน สามารถติดต่อบริษัทผ่านช่องทางดังนี้ คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์อีเมล : info@thaifranchisecenter.com การซื้อ-ขายธุรกิจแฟรนไชส์, SMEs และอื่นๆ ทาง ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความโฆษณาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ ทั้งนี้ การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน |