ถ้าพูดถึง “ก๋วยเตี๋ยว เย็นตาโฟ” ต้องยอมรับว่าเป็นอีกหนึ่งอาหารที่คนไทยส่วนใหญ่นิยมรับประทาน เพราะหากินง่ายประหยัดเวลา อีกทั้งรสชาติอร่อยอีกด้วย หากจะพูดถึงเมนูเส้นจริงๆ อย่าง “ก๋วยเตี๋ยว เย็นตาโฟ” นาทีคงนี้คงหนีไม่พ้นแฟรนไชส์ “ก๋วยเตี๋ยวกะลา เย็นตาโฟตีลังกา” ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ไปทั่วทั้งในประเทศ และต่างประเทศ 
 

 

ด้วยประสบการณ์ ความรู้ และความเชี่ยวชาญด้านการส่งเสริมอาชีพการทำอาหารของ “อาจารย์กัลยาณี จิราจินต์” หรือ “อาจารย์อ้อม” ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์แฟรนไชส์ดังกล่าว อีกทั้งยังเป็นอาจารย์สอนประจำสถาบันอาหารที่มีชื่อเสียง มีความเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ด้านอาหารจานเส้นต่างๆ จนได้รับการยอมรับเชื่อถือจากบุคคลต่างๆ และได้รับรางวัลการันตีมากมาย รวมทั้งออกสื่อ เช่น วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ งาน OTOP งานแสดงแฟรนไชส์ระดับประเทศ 
 

 

จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ปัจจุบัน ได้มีผู้คนจำนวนมาก สนใจซื้อแฟรนไชส์ “ก๋วยเตี๋ยวกะลา เย็นตาโฟตีลังกา” เพื่อนำไปประกอบธุรกิจ สร้างอาชีพ สร้างรายได้เลี้ยงตัวเองและครอบครัว 

ปัจจุบัน “อาจารย์อ้อม” สามารถขยายสาขาธุรกิจแฟรนไชส์ “ก๋วยเตี๋ยวกะลา เย็นตาโฟตีลังกา” ไปแล้วกว่า 80 สาขาทั้งในประเทศและต่างประเทศ ถือว่าไม่น้อยเลยทีเดียว

อาจเป็นเพราะกลุ่มลูกค้าซื้อแฟรนไชส์และผู้บริโภค ต้องการอยากได้ธุรกิจแฟรนไชส์ที่มีคุณภาพมาตรฐาน ได้รับการรับรองมาตรฐานแฟรนไชส์จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ 
 

 

อีกทั้งเจ้าของแฟรนไชส์อย่าง “อาจารย์อ้อม” มีความตั้งใจ มีความมุ่งมั่น และพร้อมที่จะส่งมอบประสบการณ์ ความรู้ และความเชี่ยวชาญในด้านการส่งเสริมอาชีพอาหารให้กับลูกค้าที่ซื้อแฟรนไชส์ รวมถึงผู้บริโภคทุกคนที่เข้ามาใช้บริการในร้าน อาจกล่าวได้ว่า “อาจารย์อ้อม” ต้องการให้สาขาแฟรนไชส์เติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยคุณภาพมาตรฐานเดียวกัน    
 

 

วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com จะพาคุณไปเจาะลึกธุรกิจแฟรนไชส์ “ก๋วยเตี๋ยวกะลา เย็นตาโฟตีลังกา” ถึงความมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น ดึงดูดลูกค้า จากเจ้าของแฟรนไชส์อย่าง “อาจารย์อ้อม” ไปดูว่าเธอจะมีกลยุทธ์ดำเนินธุรกิจแฟรนไชส์อย่างไร ที่ทำให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์ รวมถึงผู้บริโภคหันมานิยมในแบรนด์แฟรนไชส์ “ก๋วยเตี๋ยวกะลา เย็นตาโฟตีลังกา” ครับ  

 

 

ทุกธุรกิจย่อมมีที่มาที่ไป และมีแรงบันดาลใจในการก่อร่างสร้างขึ้นมา เช่นเดียวกับ “ก๋วยเตี๋ยวกะลา เย็นตาโฟตีลังกา” ซึ่งอาจารย์อ้อม ได้เล่าถึงจุดเริ่มต้นของธุรกิจให้ฟังว่า เธอได้ส่งซอสเย็นตาโฟตีลังกา เข้าร่วมคัดสรรภูมิปัญญาท้องถิ่น ในโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) จังหวัดนนทบุรี ซึ่งหลังจากได้รับการคัดเลือก
 

ก็ถูกเชิญไปออกร้านตามงานแสดงสินค้าต่างๆ ทั้งที่ศูนย์สิริกิติ์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ต่อมามีชาวต่างชาติให้ความสนใจผลิตภัณฑ์ จึงได้ทำการส่งออกซอสเย็นตาโฟตีลังกา ไปยังประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์ บรูไน 
 

หลังจากนั้น เธอจึงต่อยอดธุรกิจด้วยการเปิดร้าน “ก๋วยเตี๋ยวกะลา เย็นตาโฟตีลังกา” แล้วคิดว่าจะต้องใช้ภาชนะอะไรที่สร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจ ซึ่งในระหว่างนั้น อาจารย์อ้อมได้ไปเห็นกระบวย ตะหลิว โคมไฟที่ทำมาจากกะลา 
 

 

จึงคิดว่าน่าจะนำกะลามาทำเป็นชามก๋วยเตี๋ยวได้ จึงได้ออกแบบกะลาให้เป็นรูปทรงบาตรพระ แล้วส่งไปให้กลุ่มแม่บ้าน OTOP ช่วยผลิตออกมา ถือเป็นการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาใช้ และช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มขึ้นให้กับกะลาอีกทางหนึ่งด้วย 
 

ร้านก๋วยเตี๋ยวกะลา เย็นตาโฟตีลังกา จะเน้นการตกแต่งให้เป็นธรรมชาติ โดยเลือกใช้โต๊ะ เก้าอี้ไม้ มาทาสีสันให้สวยงาม บนโต๊ะมีพวงเครื่องปรุงที่ทำมาจากกะลา ซึ่งนอกจากช่วยสื่อถึงร้านได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังช่วยกระตุ้นให้รู้สึกหิวเพิ่มมากขึ้น 
 

 

สำหรับเมนูรองท้องที่ใครมาเยือนร้านนี้แล้วต้องสั่งแทบทุกโต๊ะต้องยกให้ “ยำผักบุ้งกรอบชาววัง” เสิร์ฟพร้อมน้ำยำโบราณใส่เครื่องทั้ง หอมเจียว มะพร้าวคั่ว ถั่วคั่ว พริกทอด รสชาติครบรส เปรี้ยว หวาน มัน เค็ม
 

ทางร้านยังมีเมนูเด็ดที่สร้างความประทับใจและแตกต่างจากที่อื่น หาทานที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว เช่น ก๋วยเตี๋ยวต้มยำเย็นตาโฟ, ต้มยำมะนาวชี้ฟ้า, เรือด่วนเย็นตาโฟ, เกี๊ยวกรอบเย็นตาโฟกุ้งสด ฯลฯ ที่จะช่วยดึงดูดลูกค้าที่พบให้เข้ามาลิ้มลองแล้วติดอกติดใจในรสชาติ จนต้องวนเวียนกลับมารับประทานอยู่เป็นประจำ

 

ต้องยอมรับว่า “ซอสเย็นตาโฟ” ถือเป็นนวัตกรรมชูโรงของ “ก๋วยเตี๋ยวกะลา” ที่อาจารย์อ้อมเป็นผู้ปลุกปั้นขึ้นมากับมือ ด้วยความที่เธอเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการทำอาหารมายาวนานกว่า 20 ปี จึงได้พัฒนาต่อยอดธุรกิจ ด้วยการผลิตซอสเย็นตาโฟตีลังกา สูตรสำเร็จไม่ต้องปรุง และเพิ่มรสชาติให้เข้มข้นกลมกล่อม เพื่อมาตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า 
 

โดยคัดสรรวัตถุดิบจากธรรมชาติ และพัฒนาแปรรูปเป็นซอสเย็นตาโฟ ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยไม่มีสารเคมีเจือปน ไม่ใส่สีหรือสารกันบูด ผ่านกระบวนการผลิตอย่างมีมาตรฐานและปลอดภัยตามหลักโภชนาการ ฯลฯ จึงไม่แปลกที่ “ซอสเย็นตาโฟ” จะได้รับรางวัลการรันตีคุณภาพและความอร่อยมากมาย จากหน่วยงานต่างๆ ด้านอาหาร 
 

 

นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์ น้ำซุปสูตรมหัศจรรย์ เข้มข้นกลมกล่อมด้วยสมุนไพรหลากหลาย สูตรก๋วยเตี๋ยวต้มยำมะนาวชี้ฟ้า ผลิตหัวเชื้อต้มยำรสแซ่บ จี๊ดจ๊าด ไม่ต้องปรุง รวมถึงวัตถุดิบต่างๆ เช่น ลูกชิ้นปลา, ลูกชิ้นกุ้ง, ลูกชิ้นเต้าหู้ทอด ฯลฯ ผลิตจากโรงงานลูกชิ้นที่ได้รับมาตรฐาน GMP ใหม่ สด สะอาด โดยไม่ใส่แป้งหรือสารกันเสียอีกด้วย 

 

 

“ก๋วยเตี๋ยวกะลา เย็นตาโฟตีลังกา” นับว่าเป็นแบรนด์ก๋วยเตี๋ยวเจ้าแรกของเมืองไทย ที่ได้รับการยอมรับและเป็นที่รู้จักในแวดวงร้านอาหารจานเส้น อีกทั้งยังเป็นผู้นำการตลาดประเภทร้านก๋วยเตี๋ยวที่มีคุณภาพมาตรฐาน 
 

โดยที่ผ่านมา “อาจารย์อ้อม” ได้เข้าคอร์สอบรมเพื่อพัฒนาธุรกิจให้เป็นแฟรนไชส์อย่างต่อเนื่อง มีการปรับปรุงและบริหารจัดการธุรกิจจนผ่านเกณฑ์ประเมิน จนได้รับการรับรองคุณภาพมาตรฐานแฟรนไชส์ จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ อีกทั้งยังได้รับคัดเลือกให้เดินทางร่วมออกบูธแสดงแฟรนไชส์ในต่างประเทศอีกด้วย
 

 

คามโดดเด่นของ “ก๋วยเตี๋ยวกะลา เย็นตาโฟตีลังกา” อยู่ที่นวัตกรรมและกระบวนการผลิตซอสเย็นตาโฟ (สูตรสำเร็จไม่ต้องปรุง) ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการปรุงก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟให้อร่อย รสชาติไม่เหมือนใคร สามารถแข่งขันกับคู่แข่งการตลาด ที่สำคัญขั้นตอนในกระบวนการผลิตซอส สะอาด ถูกหลักอนามัย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
 

อาจารย์อ้อม ได้พยายามสร้างจุดขายที่แตกต่างจากร้านก๋วยเตี๋ยว เย็นตาโฟทั่วไป จนทำให้ผู้บริโภคพอใจ คัดเครื่องปรุงต่างๆ จากธรรมชาติเพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพและปลอดภัยต่อผู้บริโภค 
 

นอกจากนี้ อาจารย์อ้อมยังพัฒนากระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาให้ต้นทุนต่ำสุด โดยมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายทั้งเพศชายและหญิง กลุ่มคนทำงาน ราชการ รัฐวิสาหกิจ กลุ่มนักเรียน นักศึกษา กลุ่มบุคคลทั่วไป โดยพร้อมที่จะส่งต่อความสำเร็จทางธุรกิจให้กับผู้สนใจซื้อแฟรนไชส์ รวมถึงพัฒนาเมนูหลากหลายตามความต้องการของลูกค้า    
 

  

โดยเมนูใหม่ๆ ที่พร้อมพัฒนาต่อยอดในอีกไม่กี่เดือน คือ “เย็นตาโฟมหานคร ต้มยำมหานคร” ชามยักษ์ชามใหญ่ราคาอยู่ที่ 400-500 บาท สามารถกินได้ 4-5 คน ถือเป็นการพัฒนาเมนูเพื่อตอบโจทย์กระแสนิยมของผู้บริโภคที่ชอบถ่ายรูป 

 

อาจารย์อ้อม เล่าให้ฟังว่า หลังจากเปิดร้าน “ก๋วยเตี๋ยวกะลา เย็นตาโฟตีลังกา” ให้บริการลูกค้ามานานกว่า 10 ปี และเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในร้าน ประกอบกับมีลูกค้าอยากซื้อแฟรนไชส์ไปประกอบธุรกิจ เพราะมีความชื่นชอบในแบรนด์ก๋วยเตี๋ยวกะลา แต่ตัวเธอเองไม่รู้เรื่องแฟรนไชส์ และไม่รู้ว่าธุรกิจแฟรนไชส์ เขาทำกันอย่างไร 
 

เมื่อมีลูกค้าสนใจซื้อแฟรนไชส์มากขึ้น อาจารย์อ้อมจึงมีความสนใจเกี่ยวกับธุรกิจแฟรนไชส์ เธอจึงใช้เวลาในการศึกษาหาความรู้ในเรื่องธุรกิจแฟรนไชส์จากเว็บไซต์ Thaifranchisecenter.com อยู่นานพอสมควร กว่าเธอจะรู้ว่าธุรกิจแฟรนไชส์เขาทำกันอย่างไร ประกอบกับตอนนั้นธุรกิจร้านก๋วยเตี๋ยวกะลา เย็นตาโฟตีลังกาของเธอ ได้รับความนิยมจากลูกค้ามากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ธุรกิจมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว
 

 

หลังจากนั้น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ได้มองเห็นว่าแบรนด์ก๋วยเตี๋ยวกะลา เย็นตาโฟตีลังกา มีความน่าสนใจ จึงได้เชิญชวนให้เข้าร่วมการอบรมพัฒนาธุรกิจให้มีคุณภาพมาตรฐาน จนกระทั่งผ่านเกณฑ์การประเมินมาตรฐานแฟรนไชส์ จนได้รับการรับรองคุณภาพมาตรฐานแฟรนไชส์ จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า  
 

นับตั้งแต่ร้าน “ก๋วยเตี๋ยวกะลา เย็นตาโฟตีลังกา” เปิดขายแฟรนไชส์มาได้เกือบ 3 ปี ก็กลายเป็นธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าจับตามอง เพราะสามารถขยายสาขาธุรกิจไปแล้วกว่า 80 สาขาทั่วประเทศ และกำลังวางเป้าหมายที่จะขยายสาขาไปในต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศอาเซียน พม่า กัมพูชา ลาว เป็นต้น เพราะผู้บริโภคนิยมชมชอบในการกินก๋วยเตี๋ยว
 

โดยแฟรนไชส์ซีจะได้รับการดูแลจากบริษัทแม่เหมือนครอบครัวเดียวกัน อาจารย์อ้อมบอกว่า คนที่ซื้อแฟรนไชส์จะได้รับความคุ้มค่าจากแบรนด์ก๋วยเตี๋ยวกะลา เย็นตาโฟตีลังกา

ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ที่มีความโดดเด่น มีเอกลักษณ์ของภาชนะที่แตกต่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริการใหม่ๆ เมนูอาหารหลากหลายเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ช่วงเวลาไหนที่ผู้บริโภคนิยมกินอะไร ทางร้านก็จะมีการพัฒนาเมนูอาหารตามความนิยมในช่วงเวลานั้นด้วย 
 

 

นอกจากนี้ ผู้ที่ซื้อแฟรนไชส์จะได้รับการถ่ายทอดวิธีการบริหารจัดการร้าน ซึ่งถือเป็นร้านอาหารดั้งเดิมไปสู่ความยั่งยืน โดยให้ความสำคัญในเรื่องคุณภาพมาตรฐาน การพัฒนารูปแบบร้าน การพัฒนาเมนูอาหารเพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้า การบริการอาหารว่าง และเครื่องดื่มภายในร้าน ที่สำคัญนำเอากลยุทธ์บริหารธุรกิจ 4.0 มาปรับใช้ตามแนวทางของรัฐบาลด้วย 
 

เรียกได้ว่า ผู้ซื้อแฟรนไชส์จะได้รับโมเดลการทำธุรกิจ ที่ประสบความสำเร็จ นำเทคนิคการบริหารจัดการร้านอาหารไปสู่ความยั่งยืน แบบที่ว่าคุ้มค่ามากที่สุด โดยเฉพาะเจ้าของแบรนด์แฟรนไชส์อย่าง “อาจารย์อ้อม” เธอพร้อมที่จะส่งมอบประสบการณ์ ความรู้ และความเชี่ยวชาญในด้านการส่งเสริมอาชีพอาหารให้กับลูกค้าทุกคนอยู่แล้ว  
 

สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในธุรกิจร้านก๋วยเตี๋ยวกะลา เย็นตาโฟตีลังกานั้น อย่างแรกต้องมีเงินทุนหมุนเวียนพอประมาณในการทำธุรกิจ เป็นผู้มีใจรักด้านการขายและบริการ มีความอดทนพร้อมที่จะเรียนรู้และพัฒนาธุรกิจตลอดเวลา ที่สำคัญมีทำเลที่ตั้งเหมาะสำหรับการประกอบธุรกิจ อีกทั้งยังต้องมีทีมงานผู้ช่วยพร้อมที่จะดำเนินธุรกิจ 
 

 

ทั้งหมดเป็นเรื่องราวความสำเร็จของ “ก๋วยเตี๋ยวกะลา เย็นตาโฟตีลังกา” ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารอย่าง “อาจารย์อ้อม” เป็นผู้ปลุกปั้นขึ้นมา มีการพัฒนาแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักของลูกค้า สร้างธุรกิจให้มีคุณภาพมาตรฐานสู่ระบบแฟรนไชส์ 
 

จนมีชื่อเสียงโด่งดัง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ แต่ผู้หญิงคนนี้ยังไม่หยุดที่จะพัฒนาธุรกิจ ทุกวันนี้เธอยังหาความรู้จากคอร์สอบรมต่างๆ เพื่อนำมาพัฒนาต่อยอดธุรกิจ และส่งต่อความสำเร็จให้ลูกค้าได้เติบโตอย่างยั่งยืน 

สนใจลงทุนแฟรนไชส์ กรุณาติดต่อ คุณกัลยาณี จิราจินต์ (อ.อ้อม)
 

ที่อยู่ ร้านก๋วยเตี๋ยวกะลา กระทรวงอุตสาหกรรม ถนนพระรามหก เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 (เยื้องโรงพยาบาลรามาธิบดี) โทร. 081-4061944, 087-3630674
 

หรือคลิกดูข้อมูลแฟรนไชส์ ได้ที่  goo.gl/aakn3U 

 

นักเขียน

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)