ครีมสตูดิโอ ธุรกิจคาเฟ่เบเกอรี่! ฮิตติดเทรนด์ ลงทุนครั้งเดียว “กำไรคุ้มค่า”
 

ธุรกิจเบเกอรี่เป็นตลาดที่ใหญ่มากในปี 2020 มีมูลค่าประมาณ 349.4 พันล้านดอลล่าร์ และคาดว่าจะเติบโตเฉลี่ยปีละประมาณ 3.9% จนไปแตะที่ 457.4 พันล้านดอลลาร์ในปี 2027 ในประเทศไทยเองธุรกิจเบเกอรี่ก็มีการเติบโตและพัฒนารูปแบบทางธุรกิจไปมาก

www.ThaiFranchiseCenter.com เชื่อว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่สนใจและอยากมีร้านเบเกอรี่เป็นของตัวเอง แต่สิ่งสำคัญในการลงทุนยุคนี้ไม่ใช่แค่สินค้าดีอย่างเดียว หากแต่การจัดร้าน รูปแบบร้าน กลยุทธ์การเข้าถึงลูกค้าก็ล้วนแต่สำคัญและจำเป็นมาก ทางลัดสู่ความสำเร็จที่ดีที่สุดคือกเลือกลงทุนกับแฟรนไชส์ โดยครีมสตูดิโอ เป็นอีกหนึ่งแฟรนไชส์ที่อยู่ในวงการมานานกว่า 8 ปี เป็นที่รู้จักของลูกค้าจำนวนมาก จุดเด่นของครีมสตูดิโอคือ ลงทุนครั้งเดียว แต่ได้กำไรคุ้มค่าและสามารถสร้างเป็นธุรกิจที่ดีในระยะยาวได้ด้วย

 

 

“ครีมสตูดิโอ” เริ่มก่อตั้งครั้งแรกในปี 2557 จากการเป็นร้านขนม ร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่น แต่มองเห็นว่าเบเกอรี่ในเมืองไทยยังมีอีกหลายอย่างที่น่าจะพัฒนาได้อีกมาก ลูกค้าน่าจะได้ลองเมนูแปลกใหม่ ทำให้เริ่มมีการพัฒนาสูตรที่เหมาะสมกับคนไทย จากความพยายามดังกล่าวได้เมนูที่ไม่เหมือนใคร และทำให้ร้านครีมสตูดิโอเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น ถึงขนาดที่มีรายการทีวีให้ความสนใจและได้ออกอากาศไปทั่วประเทศ ยิ่งทำให้ร้านครีมสตูดิโอ มีคนรู้จักมากขึ้น มีคนสนใจมากขึ้น สามารถเพิ่มช่องทางการขายในหลากหลายพื้นที่ ทั้งในห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร และโรงแรมต่างๆ 
 

 

อย่างไรก็ดีครีมสตูดิโอยังคงให้ความสำคัญกับเรื่องคุณภาพเป็นหลัก ลูกค้าทุกคนต้องได้รับสินค้าที่ดีที่สุด ดังนั้นมาตรฐานในการผลิตจึงสำคัญ และทุกคนมั่นใจได้เพราะทางโรงงานมีมาตรฐานGMP และ อย. อย่างถูกต้อง ซึ่งจากความนิยมที่เพิ่มมากขึ้นนี้ทำให้ร้านครีมสตูดิโอตัดสินใจพัฒนาธุรกิจเข้าสู่ระบบแฟรนไชส์เปิดขายแฟรนไชส์ครั้งแรกในปี 2563 โดยมีเป้าหมายเพื่อให้คนที่สนใจได้มีโอกาสมาร่วมลงทุนสร้างงาน สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ให้กับตัวเองและครอบครัวได้มากขึ้น

 

จุดเด่นน่าสนใจ ทำไมถึงควรเลือกลงทุนกับ “ครีมสตูดิโอ”
 

ปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคส่วนใหญ่เน้นความสะดวก รวดเร็ว และใส่ใจเรื่องคุณภาพสินค้าและบริการอย่างมาก ซึ่งการลงทุนกับ “ครีมสตูดิโอ” ตอบโจทย์ในทุกสิ่งที่ต้องการ โดยมีจุดเด่นน่าสนใจได้แก่
 

1.สินค้าหลากหลายครบจบทุกความต้องการ
 

ครีมสตูดิโอให้บริการขนมที่ครอบคลุม ทั้ง ไอศกรีม, วาฟเฟิล, เครป, คากิโกริ ซึ่งทุกสินค้ามีการเตรียมวัตถุดิบให้ผู้ลงทุนพร้อมนำไปใช้งานได้ทันที ดังนั้นทุกเมนู ทุกสาขาจึงมีรสชาติที่ไม่แตกต่าง เป็นการควบคุมคุณภาพที่ได้ผลดีมาก

2.วัตถุดิบพร้อมทำเป็นเมนูได้ทันที
 

ผู้ลงทุนไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ทำเบเกอรี่เพราะครีมสตูดิโอมีวัตถุดิบที่ไม่ต้องตีแป้ง นำไปอบใหม่ได้ทุกจาน เสิร์ฟลูกค้าได้รวดเร็วทันใจ

 

3.บรรยากาศในร้านเพิ่มรสชาติให้ทุกเมนู
 

นอกจากสินค้าดีมีคุณภาพ ครีมสตูดิโอยังให้ความสำคัญกับเรื่องบรรยากาศในร้าน ทางทีมงานจึงพร้อมให้คำปรึกษาแก่ผู้ลงทุนในการออกแบบร้านที่ดูสะดุดตา สวยงาม ทันสมัย เพื่อให้เป็นร้านสไตล์คาเฟ่ที่เป็นจุดพักผ่อนของลูกค้าได้ทุกเพศทุกวัย

4.ซื้อแฟรนไชส์เดียวแต่ขายสินค้าได้หลากหลาย
 

เป็นความคุ้มค่าในด้านการลงทุนที่ชัดเจน เพราะครีมสตูดิโอ มีเมนูที่หลากหลายทั้ง ไอศกรีม, วาฟเฟิล, เครป, คากิโกริ และยังมีอีกหลายเมนูอร่อยรวมถึงเมนูเครื่องดื่มอีกจำนวนมาก คุ้มค่าคุ้มราคาซื้อเพียงแฟรนไชส์เดียวแต่มีสินค้าขายจำนวนมาก เรียกว่าลูกค้ามีครบจบทุกความต้องการ เพิ่มโอกาสในการขายให้ได้กำไรที่มากยิ่งขึ้น

5.กำไรกว่า 50% จากยอดขาย
 

กระแสความนิยมของครีมสตูดิโอนั้นมาแรงมาก ปัจจุบันมีสาขาทั่วประเทศกว่า 10 แห่ง เน้นในพื้นที่ห้างสรรพสินค้า และย่านธุรกิจ ที่ชุมชน ซึ่งมีกลุ่มลูกค้าจำนวนมาก ทุกสาขาของครีมสตูดิโอมียอดขายดีมาก มีกำไรกว่า 50% จากยอดขาย ยกตัวอย่างสาขาที่ปัตตานี มีลูกค้าเต็มร้านทุกสัปดาห์ (ทั้งชั้น 1 และชั้น 2) เป็นอีกสาขาที่ประสบความสำเร็จรวมถึงสาขาอื่นๆ ก็มียอดขายที่ดีมาก

 

 

ปัจจุบันครีมสตูดิโอมีแพคเกจการลงทุนให้เลือก 4 แบบตามความต้องการของลูกค้าได้แก่

จะเห็นได้ว่าหลายแพคเกจสามารถเป็นส่วนเติมเต็มให้กับคนที่อาจมีร้านค้า ร้านอาหารอยู่แล้ว แต่ต้องการเพิ่มเติมความหลากหลายที่น่าสนใจ เพิ่มเมนูให้ลูกค้ามากขึ้น หรือใครที่สนใจต้องการสร้างเป็นธุรกิจใหม่ก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยผู้ลงทุนจะได้รับ เมนูจำนวนมากที่พร้อมในการขาย (ตามแพคเกจที่เลือก) , อุปกรณ์ที่จำเป็นและวัตถุดิบ , การวางระบบบริหารจัดการในร้าน ซึ่งงบประมาณในการลงทุนนั้นเป็นไปตามความต้องการของผู้ลงทุนเป็นสำคัญ โดยทางแฟรนไชส์มีทีมงานและผู้สนับสนุนคอยให้คำปรึกษาจนผู้ลงทุนสามารถเปิดร้านได้

 

 

ภาพจาก แฟรนไชส์ครีมสตูดิโอ

อัตราการขยายสาขาของครีมสตูดิโอนั้นมีอย่างต่อเนื่อง มีการเปิดสาขาใหม่ในทุกภูมิภาค สะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพในด้านการลงทุนที่ตอบโจทย์ได้อย่างดี เหมาะกับคนที่สนใจอยากเป็นนายตัวเอง หรือคนที่มีธุรกิจเดิมแต่อยากเพิ่มเติมยอดขายให้มากขึ้น ซึ่งโอกาสในการคืนทุนประมาณ 1-2 ปี ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับทำเลในการเปิดร้าน การบริหารจัดการเป็นสำคัญ โดยมีหลายเมนูที่ลูกค้าชอบมาก เช่น วาฟเฟิล /บราวนี่ กะทะร้อน/คุกกี้นิ่มกะทะร้อน ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ ทั้งความอร่อย และ รูปร่างที่ไม่เหมือนใคร และ เมนูอื่นๆเช่น เครปโทส น้ำแข็งใส ก็ล้วนแต่เป็นเมนูยอดฮิตที่ขายดีมาก

 

ทั้งนี้ครีมสตูดิโอมีแผนในการพัฒนาธุรกิจที่จะขยายสาขาไปทั่วประเทศเพิ่มมากขึ้น พร้อมการพัฒนาเมนูให้มีความแปลกใหม่ สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมถึงพัฒนาช่องทางการจำหน่ายที่เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น ถือเป็นอีกหนึ่งแฟรนไชส์ที่น่าสนใจและเชื่อมั่นได้อย่างยิ่งว่าจะเป็นสุดยอดการลงทุนที่คุ้มค่า ผู้ลงทุนมีกำไร ลงทุนครั้งเดียวคุ้ม สามารถสร้างรายได้ให้ผลตอบแทนในระยะยาว

 

 

 

นักเขียน

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)