บทความทั้งหมด    บทความแฟรนไชส์    โอกาสทางธุรกิจ    ช่องทางทำกิน
1.1K
2 นาที
12 ธันวาคม 2566
รวมด้านมืดแฟรนไชส์ไทย ปี 2566
 

ข้อดีของธุรกิจแฟนไชส์ ช่วยให้เจ้าของแฟรนไชส์ขยายสาขาได้อย่างรวดเร็ว ใช้เงินลงทุนต่ำ มีรายได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนผู้ซื้อแฟรนไชส์ไม่ต้องลองผิดลองถูกในการเริ่มต้นธุรกิจ ได้แบรนด์แฟรนไชส์ที่มีชื่อเสียง สินค้าและบริการได้รับความนิยมของตลาด แต่ถ้าเลือกลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์ที่ไม่ดี หรือไม่ศึกษาข้อมูลธุรกิจแฟรนไชส์ที่จะซื้ออย่างละเอียด อาจได้รับความเสียหายทั้งเงินลงทุนและเวลา มาดูกันว่าตลอดทั้งปี 2566 มีด้านมืดของแฟรนไชส์ที่เจ้าของแฟรนไชส์ฉ้อโกงอย่างไรบ้าง 

1. แฟรนไชส์ย่างให้
 

เกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือนมีนาคม 2566 กลุ่มผู้เสียหายรวมตัวร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากถูก "นายมณฑล ทองคำ" เจ้าของแฟรนไชส์ย่างให้ ชักชวนให้ร่วมลงทุน อ้างได้ผลตอบแทนสูง ลงทุนแค่ 7,000 บาท สามารถปลดหนี้ 10 ล้านบาท ภายใน 6 เดือน คืนทุนได้ภายใน 1 เดือน สร้างความน่าเชื่อถือโดยการออกรายการโทรทัศน์และสื่อออนไลน์ต่างๆ การันตีความสำเร็จของธุรกิจย่างให้ด้วยจำนวนสาขากว่า 400 แห่งทั่วประเทศ สร้างความเสียหายกว่า 5.53 ล้านบาท 

2. แฟรนไชส์สตรีทฟู้ด
 

ภาพจาก https://bit.ly/3RhNZpo

เป็นข่าวดังเพียงข้ามคืนกรณีสาวในกรุงเทพฯ ติดต่อซื้อแฟรนไชส์สตรีทฟู้ดชื่อดังหลังมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แต่ไม่มีหนังสือสัญญาให้ มีแต่ให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์โอนเงินค่าทำสัญญาแฟรนไชส์ และค่าวัตถุดิบอย่างเดียวราว 10,000 บาท อีกทั้งยังขายแฟรนไชส์ 1 สาขาให้ 2 คน เหมือนเป็นการขายแฟรนไชส์ทับซ้อนกัน แต่ไม่มีสาขาอยู่จริง 

3. แฟรนไชส์ "หม่าล่า" 
 
ภาพจาก FB : อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6

วันที่ 27 ตุลาคม 2566 นายธีรภัทร แร่อร่าม ผู้เสียหายจากการซื้อแฟรนไชส์ออกมาเปิดเผยผ่านรายการโทรทัศน์ "ถกไม่เถียง" หลังตกงานได้นำเงินเก็บ 40,000 บาท ไปลงทุนซื้อแฟรนไชส์หม่าล่ากับชายคนหนึ่งซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าของแฟรนไชส์ เจ้าของแฟรนไชส์รายนั้นได้แนะนำชุดโปรโมชั่นราคา 9,900 บาท ลดเหลือ 8,900 บาท 

หลังจากนั้นทำสัญญาวันที่ 28 กันยายน 2566 มีการชำระเงิน ค่าแฟรนไชส์ หลังจากนั้นหาทำเลในตลาดตั้งเป้าเปิดขายวันที่ 2 ตุลาคม 2566 และโอนเงินค่าวัตถุดิบ 2,030 บาทให้เจ้าของแฟรนไชส์ กำหนดส่งของทันวันที่ 2 ตุลาคม 2566 พอถึงวันที่ 2 เจ้าของแฟรนไชส์ขอเลื่อนส่งของ อ้างเคาน์เตอร์ที่สั่งโรงงานทำไม่เสร็จ เลื่อนเป็นวันที่ 4 ตุลาคม พอถึงวันที่ 4 เจ้าของแฟรนไชส์แจ้งว่าได้แค่เคาน์เตอร์ตั้งร้าน ป้ายไวนิล 1 ใบ ส่วนของสดยังไม่มา ผู้ซื้อแฟรนไชส์ให้โอกาสเป็นวันที่ 5 พอวันจริงเจ้าของแฟรนไชส์ได้ติดตั้งเคาน์เตอร์ร้านให้

แต่อ้างว่าของสดลูกน้องกำลังตามมาส่ง และเจ้าของแฟรนไชส์เสนอให้สั่งของสดเพิ่ม เสนอถังแก๊ส ด้วยความที่ผู้ซื้อแฟรนไชส์คิดว่าของกำลังนำมาส่ง จึงสั่งของสดเพิ่ม และจ่ายเงินเพิ่มอีก 4,000 บาท สุดท้ายไม่มีของมาส่ง เจ้าของแฟรนไส์ก็อ้างว่าจะไปตามของจากลูกน้องมาให้ จากนั้นหายไปเลย เมื่อติดต่อเจ้าของแฟรนไชส์รายนั้น ก็อ้างบ่ายเบี่ยงไปเรื่อย รถชนบ้าง เปลี่ยนโทรศัพท์บ้าง จนสุดท้ายติดต่อเจ้าของแฟรนไชส์ไม่ได้ สร้างความเสียหายกว่า 86,000 บาท หลังจากนั้นผู้ซื้อแฟรนไชส์ได้แปะป้ายชื่อร้านเป็น "ยำโดนโกง" ตามที่เป็นข่าว 

4. แฟรนไชส์ขนส่งจีนชื่อดังอักษรย่อ "บ"
 
ภาพจาก https://bit.ly/3tcHmwA

วันที่ 7 ธันวาคม 2566 กลุ่มผู้เสียหายกว่า 20 คน เข้าแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้ตรวจสอบบริษัทแฟรนไชส์ขนส่งชื่อดังจากจีน ย่านบางนา ปัจจุบันมีสาขากว่า 100 สาขาทั่วประเทศ เข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน โดยกลุ่มผู้เสียหายรายหนึ่งได้ซื้อแฟรนไชส์เมื่อปี 2563 ทางบริษัทอ้างว่าจะให้เงินสนับสนุน 8 เดือน พอถึงเวลากลับได้แค่เดือนครึ่ง

อีกทั้งยังเปลี่ยนผู้บริหารบ่อยครั้ง ปรับรูปแบบการส่งพัสดุจากชิ้นเล็กเป็นชิ้นใหญ่โดยไม่แจ้งสาขาแฟรนไชส์ล่วงหน้า ทำให้สินค้าตกค้าง เนื่องจากไม่สามารถส่งสินค้าได้ตามกำหนด เมื่อเกิดปัญหาทางบริษัทฯ ไม่รับผิดชอบ อีกทั้งผู้เสียหายต้องจ่ายเงินประกัน 400,000 บาทต่อสาขา พอเกิดปัญหาขึ้นทางผู้เสียหายขอทำเรื่องขอคืนเงินประกัน แต่ไม่ได้เงินคืน ซึ่งจริงๆ ต้องได้เงินคืนภายใน 90 วัน บางรายลงทุน 100 ล้านบาท สร้างความเสียหายรวมกว่า 300 ล้านบาท 

5. แฟรนไชส์ลูกชิ้นและก๋วยเตี๋ยวแซ่บแห้งจงอางหวงไข่
 

กลายเป็นประเด็นร้อนแรงในโลกออนไลน์ โดยวันที่ 8 ธันวาคม 2566 มีคนโพสต์เรื่องราวของสาวท่านหนึ่งไปซื้อแฟรนไชส์ลูกชิ้นจากเชฟอ้อย "ยุวดี ชัยศิริพาณิชย์" โดยอ้างว่าระบบแฟรนไชส์ไม่แฟร์ เอาเปรียบผู้ซื้อแฟรนไชส์ ลงทุนไปแล้วเกิดปัญหาตามมาหลายอย่าง ทั้งขายไม่ได้กำไร เจ้าของแฟรนไชส์ส่งเครื่องทำลูกชิ้นล่าช้า จากที่จะได้รับ 40 วัน กลายเป็น 60 วัน พบผู้เสียหายกว่า 40 คน แต่ไม่ได้ออกมาพูด จนกระทั่งต่อทางเชฟอ้อยได้ออกมาชี้แจงว่าผู้ซื้อแฟรนไชส์ทำผิดสัญญา ไม่ทำตามสูตร จึงต้องงยกเลิก ทำให้คนกลุ่มนี้ไม่พอใจพูดจาให้ร้าย ตนจึงเตรียมแจ้งเอาผิดเจ้าของโพสต์และคอมเม้นท์

นั่นคือ ด้านมืดของธุรกิจแฟรนไชส์ที่ผู้ซื้อแฟรนไชส์หลายๆ คนได้รับผลกระทบจากการซื้อแฟรนไชส์ โดยคิดเพียงแค่ต้องการสร้างอาชีพ หารายได้เพิ่มเลี้ยงดูครอบครัว แต่สุดท้ายโดนเจ้าของแฟรนไชส์โกง หลอกลงทุน เอารัดเอาเปรียบ สร้างความเสียหายให้กับผู้ลงทุนแฟรนไชส์รวมกันหลายร้อยล้านบาทตลอดทั้งปี 2566 

เจ้าของธุรกิจ หรือผู้สนใจทำแฟรนไชส์ สนใจรับคำปรึกษาวางระบบแฟรนไชส์ คลิก www.thaifranchisecenter.com/seminar/franchise_course.php 
 
เจ้าของธุรกิจสนใจบริการจดเครื่องหมายการค้าแฟรนไชส์ คลิก www.thaifranchisecenter.com/trademark/ 
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.thaifranchisecenter.com/document/index.php

รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
 
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
บทความแฟรนไชส์ยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
6 แฟรนไชส์มาใหม่! น่าลงทุนประจำเดือนมิถุนายน 2567
9,744
ส่อง 76 แฟรนไชส์น่าสอยมาลงทุน ครึ่งปีหลัง 2567
6,203
เดือดแน่! 6 แฟรนไชส์ไอศกรีมและชาผลไม้ ราคาถูก จ่..
1,769
กลับมาแล้วแฟรนไชส์โจ๊ก เฮลตี้ฟู้ดขายง่ายกำไรดี
1,653
จริงมั้ย ซื้อแฟรนไชส์ ยืมจมูกคนอื่นหายใจ
863
ซื้อแฟรนไชส์ อย่าให้เป็นทาส แต่ให้เป็นนายตัวเองท..
833
บทความแฟรนไชส์มาใหม่
บทความอื่นในหมวด