10 แฟรนไชส์ของแทร่ เลือกลงทุนได้เลย ปี67
 

“ของแทร่” คือศัพท์ฮิตในโซเชี่ยลที่หมายถึงของจริง ตัวจริง แสดงถึงศักยภาพในสิ่งนั้นๆว่าสุดยอดแค่ไหน เช่นเดียวกับ 10 แฟรนไชส์ของแทร่ ที่เหมาะสมกับการเลือกลงทุนในปี 67 แต่ละแฟรนไชส์มีจุดเด่นในสินค้า บริการ มีระบบแฟรนไชส์ที่ส่งเสริมคนลงทุนได้อย่างดี มีแฟรนไชส์ไหนน่าสนใจบ้าง ลองไปดูกันเลย!

 

1.อากิโกะที 
 

ภาพจาก อากิโกะที 

อากิโกะทีคือแฟรนไชส์ร้านชานมไข่มุก ที่สร้างแบรนด์ได้โดดเด่น มีฐานลูกค้าเยอะมาก มีสาขาตอนนี้ถึง 26 แห่ง ในส่วนของเมนูมีมากกว่า 80 รายการ ชูจุดเด่นคือการคัดสรรวัตถุดิบอย่างดี ใช้ครีมชีสแท้เป็นวัตถุดิบหลัก รวมถึงการคัดสรรใบชาต่างๆ อย่างพิถีพิถัน และชงสดใหม่ทุกแก้ว เพื่อให้ตรงคอนเซปต์แบรนด์ “ให้ทุกวันของลูกค้ามีความสุข” ในส่วนของการลงทุนค่าแฟรนไชส์79,000 บาท งบการลงทุน 120,000 – 350,000 บาท ถ้าเป็นพื้นที่ในอาคารใช้พื้นที่ 12 ตร.ม.ขึ้นไป ถ้าเป็นการลงทุนภายนอกอาคารพื้นที่ 15 – 20 ตร.ม.

พื้นที่แนะนำสำหรับเปิดรานคือพื้นที่ชุมชน เช่นโรงเรียน ,ห้างสรรพสินค้า , ย่านออฟฟิศ หรือสถานศึกษา ควรมีเงินทุนหมุนเวียนสำหรับธุรกิจประมาณ 30,000 บาท/เดือน สัญญาแฟรนไชส์ 2 ปี เมื่อหมดสัญญาสามารถต่อสัญญาได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย และเป็นแฟรนไชส์ไม่มีหักเปอร์เซ็นต์ยอดขาย ไม่มีค่ารายเดือนรายปีใดๆทั้งสิ้น
 

 

ภาพจาก อี เอ้ก เค้กไข่ไส้ทะลัก

“ขนมไข่” คนไทยรู้จักกันดี ซึ่งการนำมาทำเป็นธุรกิจต้องใส่ไอเดียและแนวคิดใหม่ๆ เพื่อให้ดูน่าสนใจมากขึ้น เป็นที่มาของ “อี เอ้ก เค้กไข่ไส้ทะลัก” ที่มีจุดเด่นคือ “ขนมไข่ไส้ทะลัก” ที่ทั้งน่ารักและน่ากิน ป็นขนมไข่แป้งด้านนอกหอมนุ่ม รสสัมผัสเหมือนได้ทานเค้ก ด้านในเป็นไส้แบบล้นทะลัก มีให้เลือกถึง 8 รสชาติ ซื้อกินเองก็ได้ ซื้อเป็นของฝากก็ดี ตอนนี้มีสาขาทั่วประเทศถึง 94 แห่ง ในส่วนของการลงทุนมีให้เลือก 3 แบบ แพคเกจ S , M และ L ราคาเริ่ม 19,000 – 49,900 บาท 
 

ทุกแพคเกจได้อุปกรณ์พร้อมขายครบชุด พร้อมการฝึกอบรมสอนทำขนมจนกว่าจะเปิดร้านได้ โอกาสคืนทุนอยู่ที่ประมาณ 3 เดือน โดยขึ้นอยู่กับทำเลและกลยุทธ์ในการขาย แต่ถือว่าเป็นอีกแฟรนไชส์ที่ลงทุนน้อย โอกาสคืนทุนไว และมีทีมงานคอยให้คำปรึกษาแก่ผู้ลงทุนเป็นอย่างดีด้วย

3.แคท คาร์วอช 
 

ภาพจาก แคท คาร์วอช

สำหรับใครที่อยากสร้างรายได้แบบ Passive Income ต้องถูกใจสิ่งนี้! โดย แคท คาร์วอช เป็นแฟรนไชส์ให้บริการตู้หยอดเหรียญล้างรถแบบอัตโนมัติ ที่ตอนนี้กำลังฮิตและมีคนสนใจลงทุนเยอะมาก เพราะเป็นธุรกิจตอบโจทย์คนยุคใหม่ สะดวก รวดเร็ว ประหยัด สามารถสร้างรายได้ให้ผู้ลงทุนได้ตลอด 24 ชม. รูปแบบการลงทุนมีให้เลือกตั้งแต่ 3 ตู้ , 5 ตู้ , 10 ตู้ ราคาแตกต่างกันไป เริ่มต้นที่ 255,000 – 939,000 บาท ทุกแพคเกจจะได้อุปกรณ์ส่วนกลางตามแพคเกจที่เลือก เช่น หัวเชื้อโฟม , สายยาง , หัวฉีด , Router , ปั๊มน้ำ , ปั๊มลม เป็นต้น

และไม่ต้องห่วงว่าไม่มีประสบการณ์ไม่เคยทำธุรกิจนี้มาก่อนเพราะมีทีมงานให้คำปรึกษาพร้อมดูแลตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงเริ่มธุรกิจได้ และยังมีบริการหลังการขายที่ดูแลในเรื่องอุปกรณ์และงานระบบต่างๆให้อย่างดี โอกาสคืนทุนของธุรกิจประมาณ 18 – 24 เดือน โดยมีค่ารอยัลตี้ฟีส์ 40,000 บาท/ปี ตอนนี้มีสาขาทั่วประเทศ 12 แห่งและมีแนวโน้มจะเพิ่มสาขาได้มากขึ้นเรื่อยๆ 
 

4.เครปไส้แตก 
 

ภาพจาก เครปไส้แตก 

แฟรนไชส์เครปไส้แตก มีชื่อเสียงมาก จุดเด่นคือ แป้งเครปที่มีให้เลือกถึง 10 สูตร และ “ไส้แตก” สมชื่อ ใส่ไส้ให้แบบเยอะมาก มีให้เลือกหลายไส้ เช่น พริกเผา , พิซซ่า , ทูน่า , ไข่หวาน , เบคอน เป็นต้น ทั้งนี้ “เครป” ถือเป็นของทานเล่นยอดฮิตที่ขายดีและคนลงทุนมีกำไรดีมาก ทำเลดีก็ยิ่งรายได้มากขึ้น ทำเลที่เหมาะสม เช่นหน้า 7-Eleven , ย่านชุมชน , ใกล้โรงเรียน ,ใกล้โรงงาน , ตลาด เป็นต้น ตอนนี้มีสาขาในเมืองไทย 725 แห่ง และอีก 8 สาขาในตลาดต่างประเทศ ทั้งประเทศลาว, มาเลเซีย, เมียนมา และบาห์เรน

ค่าแฟรนไชส์ในการลงทุน 29,990 บาท งบในการลงทุน 29,990 – 59,990 บาท แต่ละแพคเกจลงทุนมีการสอนทำเครปให้ก่อนเริ่มเปิดร้าน , ให้อุปกรณ์และวัตถุดิบรวมกว่า 100 รายการ ซึ่งข้อมูลจากทางแฟรนไชส์ระบุว่า คนลงทุนจะมีกำไรเฉลี่ย 15บาท/แผ่น และมีรายได้เฉลี่ยต่อวันประมาณ 1,200 – 2,250 บาทมีโอกาสคืนทุนประมาณ 1 – 2 เดือน คนที่สนใจลงทุนให้ส่งทำเลที่ต้องการเปิดมาเพื่อพิจารณา โดยมีกำหนดให้แต่ละสาขาต้องไม่ทับซ้อนระยะห่างระหว่างสาขาต้องมากกว่า 5 กิโลเมตร 
 

5.มาจิเมะ ชานมไข่มุก
 

ภาพจาก https://bit.ly/4ciDzj9

เป็นแบรนด์ชานมไข่มุกที่ตอนนี้มีสาขามากถึง 719 แห่ง ภาพลักษณ์แบรนด์คือดีมาก ฐานลูกค้าเยอะ คนลงทุนต่อยอดสร้างรายได้ทันที บวกกับระบบแฟรนไชส์ที่สนับสนุนคนลงทุนดีมาก เรื่องเมนูก็หลากหลาย รสชาติก็อร่อยมาก มี 4 แพคเกจให้เลือกลงทุน เริ่มต้น 49,000 – 189,000 บาท ทุกแพคเกจมีอุปกรณ์พร้อมเปิดร้านรวมกว่า 72 รายการ พร้อมการสอนสูตร สอนเทคนิคการเปิดร้าน การวางระบบบริหารจัดการในร้าน การส่งเสริมด้านการตลาด การพัฒนาสินค้าใหม่ให้อย่างต่อเนื่อง

ข้อมูลจากทางแฟรนไชส์ระบุว่า ผู้ลงทุนมีกำไรต่อแก้วเฉลี่ย 50 – 60% โอกาสคืนทุนประมาณ 3 – 5 เดือน และควรมีเงินทุนหมุนเวียนในการทำธุรกิจประมาณ 15,000 บาทต่อเดือน และเป็นแฟรนไชส์ไม่เก็บค่ารายเดือน รายปี ไม่มีหักเปอร์เซ็นต์ยอดขาย ส่วนใครที่อยากลงทุนแต่ไม่มีโลเคชั่นก็สามารถแจ้งกับทางแฟรนไชส์โดยมีทีมงานที่พร้อมให้คำปรึกษาและสนับสนุนคนสนใจลงทุนเป็นอย่างดี
 

 

ภาพจาก เดรี่ชา

เดรี่ชาเริ่มต้นจากการเป็นร้านเล็กๆ และขยายธุรกิจสู่ระบบแฟรนไชส์ที่ปัจจุบันมีสาขาทั่วประเทศ 59 แห่ง จุดเด่นคือเน้นวัตถุดิบมีคุณภาพ เมนูหลากหลาย ลงทุนน้อย คืนทุนไว กำไรดี การลงทุนมีให้เลือก 3 รูปแบบ คือชุดเริ่มต้น 36,999 บาท , คีออส 59,000 บาท และ แบบซุ้ม ราคา 90,000 บาททุกแพคเกจได้อุปกรณ์และวัตถุดิบพร้อมเปิดร้าน มีการสอนสูตรเครื่องดื่มทุกเมนู สอนการต้มไข่มุก สอนเทคนิคการต้มชา รวมถึงสอนเทคนิคการเปิดร้าน และการส่งเสริมด้านการตลาดให้เป็นอย่างดี เป็นแฟรนไชส์ที่ไม่เก็บค่ารายเดือน รายปี ไม่มีส่วนแบ่งจากยอดขาย มีทีมงานคอยให้คำปรึกษาเป็นอย่างดี 
 

7.โอซาว่า ราเมน เอ็กซ์ คาราอะเกะ เคียวได 
 

ภาพจาก โอซาว่า ราเมน เอ็กซ์ คาราอะเกะ เคียวได 

แฟรนไชส์โอซาว่า ราเมน เอ็กซ์ คาราอะเกะ เคียวได ชูจุดเด่นการเป็นร้านราเมนที่ดีที่สุดไม่ใช่แค่ความอร่อยแต่รวมถึงบริการ บรรยากาศร้านที่ต้องทำให้ลูกค้าประทับใจ เมนูให้เลือกครบทั้งอาหารประเภทเส้น , อาหารประเภทข้าว , อาหารทานเล่น , ของหวานและเครื่องดื่ม ในส่วนของการลงทุน

ค่าแฟรนไชส์ 600,000 บาท มีระยะเวลาสัญญา 3 ปี งบการลงทุน 3 – 3.5 ล้านบาท ควรมีเงินทุนหมุนเวียน 200,000บาท/เดือน โดยมีค่ารอยัลตี้ฟีส์ 6% ต่อเดือน และมาร์เก็ตติ้งฟีส์ 1.5% ต่อเดือน และควรมีพื้นที่สำหรับเปิดร้านขนาด 40 – 50 ตร.ม.

สิ่งที่ผู้ลงทุนจะได้รับคือสิทธิในการใช้เครื่องหมายการค้า สื่อสิ่งพิมพ์ ระบบ POS รวมถึงการฝึกอบรมสอนเทคนิคการเปิดร้าน และการส่งเสริมด้านการตลาดให้อย่างดี โดยงบในการลงทุนจะแตกต่างกันไปตามขนาดของร้านและการตกแต่ง และอีกจุดเด่นในด้านการลงทุนที่น่าสนใจคือ เป็นร้านที่ออกแบบมาใช้พนักงานน้อย ประหยัดต้นทุนด้านบุคลากรได้มาก และข้อมูลจากแฟรนไชส์ระบุว่าจะมีต้นทุนอาหารเฉลี่ยที่ 38% มีระยะเวลาคืนทุนประมาณ 18 เดือนโดยขึ้นอยู่กับทำเล และการบริหารจัดการเป็นสำคัญด้วย ปัจจุบันมีสาขาทั่วประเทศ 33 แห่ง

 

โอซาว่า ราเมน เอ็กซ์ คาราอะเกะ เคียวได  สนใจลงทุน แฟรนไชส์ คลิก  https://bit.ly/3uAF8aR โทร. 095-2495633 , 02-8036322

 

ภาพจาก โยนากิ ราเมน 

บริหารงานโดย Megumi Group และเป็นร้านราเมนสูตรญี่ปุ่นโบราณ จุดเด่นคือเน้นรูปแบบร้านแบบคีออส ที่ให้บริการอย่างรวดเร็ว ราคาไม่แพง เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น มีเมนูให้เลือกทั้งอาหารประเภทเส้น , อาหารทานเล่น รวมถึงเครื่องดื่มต่างๆ ในส่วนของการลงทุน ค่าแฟรนไชส์ 100,000 บาท ระยะเวลาสัญญา 3 ปี งบในการลงทุน 850,000 บาท และควรมีเงินทุนหมุนเวียน 50,000 บาท/เดือน มีค่ารอยัลตี้ฟีส์ 3% ต่อเดือน

โดยจะได้รับสิทธิในการใช้เครื่องหมายการค้า สื่อสิ่งพิมพ์ การฝึกอบรมให้ก่อนเปิดร้าน การวางระบบบริหารจัดการในร้าน รวมถึงการส่งเสริมด้านการตลาดให้เป็นอย่างดี และเพื่อให้ทุกสาขาของโยนากิ ราเมน เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ ทั้งผู้ลงทุนและผู้จัดการประจำสาขา ต้องเข้ารับการฝึกอบรม และผ่านการทดสอบตามมาตรฐานที่บริษัทกำหนด 

โยนากิ ราเมน  สนใจลงทุน คลิก  https://bit.ly/42tS0w5 โทร. 084-6865555 , 02-8036322

9.เบสท์ เอ็กซ์เพรส 
 

ภาพจาก เบสท์ เอ็กซ์เพรส

ธุรกิจด้านบริการยังตอบโจทย์คนยุคนี้ได้ดี โดยเบสท์ เอ็กซ์เพรส เป็นแบรนด์ขนส่ง (Express) เจ้าแรกในไทยที่ดำเนินธุรกิจแบบแฟรนไชส์ขนส่งพัสดุ 100% ปัจจุบันมีสาขาทั่วประเทศ 848 แห่ง ค่าแฟรนไชส์ในการลงทุน 50,000 บาท งบในการลงทุน 250,000 – 500,000 บาท ซึ่งการลงทุนกับเบสท์ เอ็กซ์เพรสจะให้สิทธิผู้ลงทุนดำเนินธุรกิจและการบริการขนส่งพัสดุในพื้นที่ที่ดูแล มีสิทธิ์ในการบริหารพื้นที่ที่ดูแล ภายใต้การควบคุมและชี้แนะจากเบสท์ สำนักงานใหญ่ ซึ่งมีหลากหลายบริการ

ทั้งนี้ผู้ลงทุนจะมีรายได้จากทั้งขารับและขากระจาย โดยขารับพัสดุ จะเป็นรายได้ที่แฟรนไชส์ได้รับจากการเข้ารับพัสดุจากลูกค้าต้นทาง ส่วนขากระจายพัสดุ จะเป็นรายได้จากการนำส่งพัสดุให้กับลูกค้าปลายทาง 
 

 

 

ภาพจาก กระทะเหล็ก

อาหารไทยอร่อยติดระดับโลก ซึ่งกระทะเหล็กเป็นแบรนด์อาหารสตรีทฟู้ดแบบพรีเมี่ยมที่ราคาไม่แพง ความอร่อยระดับภัตตาคาร ที่สำคัญมีระบบแฟรนไชส์ที่สนับสนุนคนลงทุนดีมาก ข้อมูลการลงทุนระบุว่า ค่าแฟรนไชส์5,000 บาท มี 3 รูปแบบคือ Size M , L และ XL งบในการลงทุน 1.8 – 5 ล้านบาท ควรมีเงินทุนหมุนเวียน 100,000 บาท/เดือน ค่ามาร์เก็ตติ้งฟีส์ 1.5% ต่อเดือน

ทั้งนี้งบในการลงทุนแต่ละสาขาก็ขึ้นอยู่กับรูปแบบร้าน การตกแต่งเป็นสำคัญ แต่ที่น่าสนใจคือเรื่องทำเลที่เน้นการขายในสถานีบริการน้ำมันที่ถือได้ว่าเป็นสุดยอดทำเลที่ขายดีมาก ซึ่งทางบริษัทก็มีหลายทำเลให้เลือกลงทุนได้หรือหากผู้สนใจลงทุนมีทำเลที่ดีสามารถให้เจ้าหน้าที่ช่วยวิเคราะห์ทำเลก่อนเปิดร้านได้ สิ่งที่ผู้ลงทุนจะได้รับคือการออกแบบร้าน , การฝึกอบรม , ระบบบริหารจัดการร้าน , การส่งเสริมด้านการตลาด , การพัฒนาสินค้าใหม่ให้อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมี 19 สาขาทั่วประเทศ

 

สังเกตได้ว่าแต่ละแฟรนไชส์จะมีเงื่อนไขในการลงทุน โอกาสในการคืนทุน และจุดเด่นของสินค้าที่แตกต่างกันไป การเลือกลงทุนในแฟรนไชส์ใดๆก็ตามให้พิจารณาว่าตัวเองสนใจและชอบแบบไหนมากที่สุด เช่นถ้าอยากขายอาหาร ขายขนมก็เลือกกระทะเหล็ก , อี เอ้ก เค้กไข่ไส้ทะลัก , โยนากิราเมน , โอซาว่าราเมน , เครปไส้แตก จากนั้นก็ไปพิจารณาในส่วนของเงื่อนไขการลงทุนเช่นค่าแฟรนไชส์ งบการลงทุน รวมถึงค่าใช้จ่ายจิปาถะก่อนเริ่มเปิดร้าน เหนือสิ่งอื่นใดคือต้องพิจาณาในเรื่องความคุ้มค่า โอกาสคืนทุน ในกรณีที่ขายได้น้อยสุด ขายได้ปกติ หรือขายได้ดีมาก

สิ่งเหล่านี้เป็นข้อมูลที่แฟรนไชส์ต้องชัดเจนกับคนต้องการลงทุน และหากให้ดีควรศึกษาดูจากสาขาของแต่ละแฟรนไชส์ที่เปิดดำเนินการแล้วว่าเป็นอย่างไร และนำทุกข้อมูลที่เรามีมาประกอบการตัดสินใจเพื่อเลือกลงทุนแฟรนไชส์ที่เหมาะสมกับเรามากที่สุด

 

นักเขียน

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)