บทความทั้งหมด    บทความแฟรนไชส์    โอกาสทางธุรกิจ    แฟรนไชส์ต่างประเทศ
772
2 นาที
4 พฤศจิกายน 2567
ศึกแฟรนไชส์จีน BING CHUN ท้าชน MIXUE แย่งยอดขาย รายได้ดีกว่า? 
 

กระแสแฟรนไชส์ไอศกรีมและชาผลไม้จากจีนบุกตลาดไทยมาแรงอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ MIXUE เปิดสาขาแรกในไทยเมื่อกลางปี 2565 ตามมาด้วย WEDRING เปิดสาขาแรกต้นปี 2567 ล่าสุดมีแฟรนไชส์ไอศกรีมและชาผลไม้อีก 1 แบรนด์จากจีนอย่าง BING CHUN (ปิงฉุน) เข้ามาเปิดหน้าท้าชิงส่วนแบ่งตลาดไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟและชาในเมืองไทยเช่นเดียวกัน 
 
BING CHUN ก่อตั้งในจีนเมื่อปี 2555 ที่มณฑลเหอหนาน ก่อนขยายสาขาไปยังมณฑลต่างๆ เช่น เหอเป่ย ซานตง ซานซี ส่านซี อานฮุย กุ้ยโจว ยูนนาน เหลียวหนิง ซินเจียง และเมืองอื่นๆ มีสาขาในจีนกว่า 1,500 แห่ง และสาขาทั่วเอเชียมากกว่า 3,000 แห่ง เน้นขายสินค้าราคาถูกเหมือน MIXUE และ WEDRINK ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ให้ความสำคัญในเรื่องรสชาติและบริการที่ดี 
 
BING CHUN เข้ามาขยายตลาดในประเทศไทยเมื่อช่วงเดือน ส.ค. 2567 ภายใต้การบริหารของบริษัท ปิงฉุน ฟู้ด แมเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดสาขาแรกที่แฟชั่นไอส์แลนด์ ใกล้กับบันไดเลื่อนชั้น 3 และเปิดเพิ่มอีก 3 สาขา ได้แก่ อุดรธานี (ตรงข้าง รพ.กรุงเทพอุดร), เชียงใหม่ (เข้าซอยยูนิลอฟ) และ ห้างยูเนี่ยนมอลล์ กรุงเทพฯ เปิดติดกับร้าน MIXUE  
 
 
BIN CHUN ใช้ตัวมาสคอตเป็น "วัวกระทิง" การออกแบบร้านจะใช้โทนสีฟ้า โมเดลร้านก็จะเหมือนกับ MIXUE ขายเมนูไอศกรีมและชาผลไม้เริ่มต้น 15-50 บาท แต่หลายๆ เมนูจะไม่เหมือนกันเลย อย่างเมนูน้ำมะนาวสดราคา 20 บาท ที่ร้าน BING CHUN จะใช้มะนาวฝานสีเขียว ให้รสชาติเปรี้ยวหวานอร่อยอีกแบบ แต่ซื้อแล้วต้องดื่นทันที ส่วนร้าน MIXUE ใช้มะนาวฝานสีเหลือง 
 
เมนูต่อมาเป็นชาเขียวเลม่อน สีชาเขียวก็จะออกเหลืองๆ มีกลิ่นเหมือนกับมะลิ ส่วนเลม่อนรสชาติเหมือนน้ำมะนาวสดๆ ราคา 25 บาท ส่วนเมนูชานมมี 4 รส คือ ชานมรสดั้งเดิม ชานมวุ้นมะพร้าว ชานมลิ้นจี่มะลิ และชานมไข่มุก ราคาเริ่มต้น 35 - 50 หากใครสนใจเพิ่มท็อปปิ้งราคาเมนู 5 บาท ได้แก่ วุ้นมะพร้าว ไข่มุก วุ้น และ วุ้นแก้ว โดยเมนูชานมไข่มุกราคาแก้วละ 40 บาท 
 
ส่วนเมนูไอศกรีมโคนทางร้าน BING CHUN มี 2 รสชาติ คือ นม และ ชาเขียว ลูกค้าเลือกทาน 2 รสชาติพร้อมกันก็ได้ ราคา 15 บาท ไอศกรีมชาเขียวจะมีกลิ่นหอมของมะลิไม่หวานมาก ส่วนรสนมจะหวานนิดหน่อย 
 
จุดเด่นของไอศกรีมร้าน BING CHUN ไม่ว่าจะสั่งเป็นแบบโคน หรือ ซันเดย์ ก็สามารถเลือกรสชาติได้ หรือ ผสมรสชาติกันได้ ราคาแก้วละ 40 บาท ถ้าเป็นร้าน MIXUE จะเลือกรสชาติไม่ได้ ซื้อซันเดย์จะเป็นไอศกรีมนมอย่างเดียว 
 
ซื้อแฟรนไชส์ BING CHUN vs MIXUE แบรนด์ไหนใช้เงินมากกว่ากัน 
 
#งบลงทุนแฟรนไชส์ BING CHUN

  • ค่าแฟรนไชส์ 50,000 บาท/ปี
  • ค่าธรรมเนียมการจัดการดูแล 25,000 บาท/ปี
  • ค่าออกแบบ+ค่าอบรม+ค่าตรวจสอบประเมินพื้นที่ 20,000 บาท
  • ค่ามัดจำ 10,000 บาท
  • วัตถุดิบชุดแรก 200,000 บาท
  • ค่าอุปกรณ์เครื่องมือ 450,000 บาท
  • ค่าตกแต่งตามขนาดพื้นที่ของร้าน
  • เฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้า (ตามความต้องการของผู้ลงทุน)
  • รวมงบลงทุนประมาณ 845,000+ บาท 
#งบลงทุนแฟรนไชส์ MIXUE

  • ค่าแฟรนไชส์ 50,000 บาท/ปี 
  • ค่าจัดการ 25,000 บาท/ปี 
  • ค่าอบรม 10,000 บาท/ปี 
  • ค่าค้ำประกัน 100,000 บาท
  • ค่าอุปกรณ์ 450,000 บาท
  • ค่าวัตถุดิบ 250,000 บาท 
  • ค่าสำรวจพื้นที่ กรุงเทพฯ 2,500 บาท/ครั้ง, ต่างจังหวัด 5,000 บาท/ครั้ง 
  • ค่าออกแบบตกแต่งร้านตามขนาดพื้นที่ร้าน 
#รวมเงินลงทุนประมาณ 1,000,000+ บาท
 
เมื่อเปรียบเทียบงบการลงทุนเปิดร้านแฟรนไชส์ BING CHUN จะเงินลงทุนต่ำกว่า MIXUE โดยใช้เงินราวๆ เกือบ 9 แสนบาท ส่วน MIXUE ใช้เงินลงทุนราวๆ 1 ล้านบาทขึ้นไป ค่าใช้จ่ายในการเริ่มธุรกิจน้อยกว่าถ้าเทียบกับแบรนด์ในกลุ่มเดียวกัน 
 
BING CHUN ท้าชน MIXUE เปิดร้านข้างๆ กัน ใครได้เปรียบ
 

กรณี BING CHUN เปิดร้านข้างๆ MIXUE จะมีปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผลต่อความได้เปรียบ
  1. กลุ่มลูกค้า : ถ้าทั้ง 2 ร้านมีเป้าหมายลูกค้ากลุ่มเดียวกัน เช่น วัยรุ่นหรือคนทำงาน BING CHUN ต้องมีจุดเด่นที่ทำให้ดึงดูดลูกค้าได้มากกว่า MIXUE ไม่ว่าจะเป็นสินค้าและบริการ ราคาขายต่ำกว่า มีโปรโมชั่นดีกว่า และประชาสัมพันธ์หน้าร้านดีกว่า 
  2. คุณภาพและรสชาติ : BING CHUN มีการใช้วัตถุดิบที่ดีกว่าและรสชาติอร่อยมากกว่า อาจทำให้ลูกค้าเลือก BING CHUN 
  3. ราคาและโปรโมชั่น : การตั้งราคาและโปรโมชั่นที่ดึงดูด อาจทำให้ลูกค้าเลือกเข้าร้าน BING CHUN 
  4. บรรยากาศในร้าน : การตกแต่งและบรรยากาศในร้าน ถ้า BING CHUN สร้างบรรยากาศได้ดีกว่า จะดึงดูดลูกค้าได้
  5. การตลาดและการโปรโมต : กลยุทธ์การตลาดที่มีประสิทธิภาพของ BING CHUN เช่น การใช้โซเชียลมีเดียหรือกิจกรรมพิเศษทั้งหน้าร้านและในร้าน สามารถสร้างความสนใจและดึงดูดลูกค้าได้
สรุปก็คือ BING CHUN เปิดร้านข้างๆ MIXUE ที่สาขายูเนียนมอลล์ เป็นไปตามทฤษฎี Hotelling model of spatial competition หรือ แบบจำลองของการแข่งขันในพื้นที่เชิงพาณิชย์ 
 

ในแง่ของมุมมองทางการตลาด การตั้งร้านใกล้กันสามารถช่วยเพิ่ม Traffic ให้กับร้านได้ เพราะร้านที่คล้ายกันมักดึงดูดลูกค้ากลุ่มเดียวกันหรือใกล้เคียงกันได้ ช่วยให้ลูกค้ามีทางเลือกและเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าไปรวมตัวกันอยู่ในพื้นที่นั้นมากขึ้น
 
กฎเบื้องต้นของแบบจำลอง Hotelling model ร้านค้าที่ตั้งอยู่ในพื้นที่กลุ่มลูกค้าเดียวกัน จะมีโอกาสขายสินค้าได้มากกว่าร้านที่ตั้งอยู่ร้านเดียวโดดๆ ไม่มีคู่แข่งในพื้นที่ หรือไม่มีร้านแบบเดียวกัน เพราะลูกค้ามักนิยมไปย่านหรือแหล่งที่มีสินค้าแบบเดียวกันขายเยอะๆ เพื่อจะได้มีทางเลือกมากขึ้น เหมือนกับเวลาเราจะไปซื้อทอง ทำไมหลายๆ คนต้องไปเยาวราชนั่นเอง 
 
พูดง่ายๆ ก็คือ ร้านไหนตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีกว่า ก็มีโอกาสที่จะได้เปรียบในการแข่งขัน!


 ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
 ปิงฉุน
ร้านไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟ ชาผลไม้ ชานมจากประเทศจีน ก่อตั้งเมื่อปี 2012 ปัจจุบันมีสาขาอยู่ในประเทศจีนและสาขาอื่นๆทั่วเอเชีย รวมกว่า 3,...
ค่าแฟรนไชส์ 50,000 บาท
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
บทความแฟรนไชส์ยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
5 แฟรนไชส์มาใหม่! น่าลงทุนประจำเดือนมิถุนายน 2568
2,935
ชมงาน TFBO 2025 แฟรนไชส์จากเกาหลี - ร้านสะดวกซัก..
1,867
3 ทหารเสือแฟรนไชส์กาแฟสด “อเมซอน - พันธุ์ไทย - อ..
690
Zhengxin Chicken Steak แฟรนไชส์ไก่ทอดจีน โตเงียบ..
654
รวยฟ้าผ่า ป้าเจนนี่ Auntea Jenny กว่า 9,100 สาขา..
560
ธุรกิจแฟรนไชส์ไทย ใหญ่แค่ไหน ในสายตาโลก!
534
บทความแฟรนไชส์มาใหม่
บทความอื่นในหมวด