ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - nemophilanie

หน้า: [1] 2 3 4 5 6 ... 9
1
ปัญหาฟันเหลือง ฟันผุ หรือปัญหากลิ่นปาก ที่หลาย ๆ คนพยายามจะรักษาดูแลความสะอาดช่องปาก แต่คราบสะสมและกลิ่นปากก็ยังตามมาอยู่ดี นอกจากทำให้หมดความมั่นใจแล้วยังทำให้เสียบุคลิกภาพ ไม่มั่นใจจนต้องถอยห่างอีกฝ่าย าความกังวลเหล่านี้จะหมดไป เมื่อฟันสะอาดมั่นใจไร้คราบเหลืองด้วย 10 ยาสีฟัน ที่ใช้ดีจนต้องบอกต่อ

10 ยาสีฟันช่วยให้ฟันสะอาดมั่นใจไร้คราบเหลือง
1.   Fluocaril White Expert
ยาสีฟันเพื่อฟันขาวปากสะอาดมั่นใจ มีสารไมโครคาร์บอเนตอนุภาคเล็กจึงทำให้ขจัดคราบเหลืองและคราบอื่น ๆ ได้อย่างล้ำลึก หมดห่วงแม้คราบฝังแน่น ใช้แล้วฟันจะค่อย ๆ ขาวอย่างเป็นธรรมชาติ
2.   Sparkle Coffee & Tea Drinkers Whitening Toothpaste
คืนความมั่นใจให้รอยยิ้มสวยด้วย ยาสีฟัน ที่ออกแบบมาเพื่อคนชอบดื่มชากาแฟโดยเฉพาะ ขจัดคราบเหลืองและคราบฝังแน่นที่ติดกับผิวฟันได้ดี ลดการสะสมของคราบพลัคและคราบเหลืองต่าง ๆ ที่สำคัญปลอดภัย อ่อนโยน ไม่ทำลายผิวเคลือบฟัน
3.   Sensodyne Multi - Care
บอกลาปัญหาเหงือกและฟัน ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิวฟันทำให้อาการเสียวฟันค่อย ๆ ดีขึ้น ช่วยลดแบคทีเรียในช่องปาก ขจัดคราบพลัคอันเป็นสาเหตุทำให้ฟันดูหมอง ช่วยให้ลมหายใจสดชื่น มั่นใจตลอดวัน
4.   Tepthai สูตรเข้มข้น
ยาสีฟันสมุนไพรที่ได้รับความนิยม ยาสีฟันเทพไทย สำหรับหลอดนี้เป็นสูตรเข้มข้น รสดั้งเดิม ผลิตจากสมุนไพรหลากหลายชนิด เช่น การบูร ข่อย กานพลู ฯลฯ หนึ่งหลอดแปรงได้ถึง 150 ครั้ง เพราะใช้เพียงนิดเดียว
5.   Tepthai สูตรลดอาการเสียวฟัน
อีกหนึ่งยาสีฟันจาก ยาสีฟันเทพไทย สูตรนี้ออกแบบมาเพื่อคนมีปัญหาเสียวฟันโดยเฉพาะ ช่วยลดอาการเสียวฟัน ใช้แล้วปากสะอาดมั่นใจ ช่วยดูแลสุขภาพเหงือก ป้องกันฟันผุ ลดการสะสมของคราบชา กาแฟ ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ฟันเหลือง
6.   Systema Ultra Care & Protect Spring Mint
มอบกลิ่นหอมและความรู้สึกเย็นสดชื่นไม่เหมือนใครด้วย ยาสีฟันซิสเท็มม่า ของ Watsons หลอดนี้ ยาสีฟันช่วยลดคราบพลัค ตัวการทำให้ฟันดูไม่สะอาด ลดการสะสมของแบคทีเรีย เสริมสุขภาพเหงือกและฟันให้แข็งแรง ที่สำคัญหมดปัญหากลิ่นปากกวนใจ
7.   Systema Ultra Care & Protect Icy Mint
บอกลาปัญหาฟันเหลืองหรือปัญหาคราบสกปรกบนผิวฟันด้วย ยาสีฟันซิสเท็มม่า ช่วยขจัดคราบพลัค ลดการสะสมของแบคทีเรีย ฟลูออไรด์สูงจึงช่วยป้องกันฟันผุได้ดี ใช้แล้วปากสะอาด ลมหายใจสดชื่น
8.   Oral - B 3D White Luxe
เป็นเจ้าของรอยยิ้มขาวสะอาดและลมหายใจหอมสดชื่นด้วยยาสีฟันช่วยเคลือบฟันและลดคราบสะสมได้ภายใน 2 สัปดาห์ ขจัดคราบเหลืองบนผิวฟันได้อย่างอ่อนโยน เมื่อใช้เป็นประจำฟันจะค่อย ๆ ขาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
9.   Colgate Optic White Purple
ยาสีฟันคอลเกต ช่วยลดคราบเหลืองได้อย่างดีเยี่ยม ฟันค่อย ๆ ขาวขึ้นภายใน 7 วัน มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ช่วยป้องกันฟันผุ ยิ้มสวยอย่างมั่นใจ
10.   Dentiste Ultra Sensitive Teeth & Gums
ยาสีฟันสำหรับแปรงช่วงเวลาก่อนนอน ลดการเจริญเติบโตของแบคทีเรียยามนอนหลับ ขจัดปัญหาเสียวฟัน ฟันสะอาด ที่สำคัญใช้แล้วไม่แพ้ ไม่ระคายเคือง

ยาสีฟันช่วยบอกลาปัญหากลิ่นปาก รวมถึงลดคราบสะสม ทำให้ฟันขาวสะอาดสดใส ยิ้มเมื่อไหร่ก็มั่นใจ แถมไม่มีกลิ่นปากให้ต้องกังวล ใครอยากเป็นเจ้าของยาสีฟันยี่ห้อไหนสามารถเลือกซื้อได้แล้วที่ watson online เตรียมมาให้เลือกแบบจุใจ มีให้เลือกหลายยี่ห้อหลายสูตรเพื่อตอบโจทย์ความต้องการแตกต่างกัน ที่สำคัญยังมี โปรวัตสัน เลือกช้อปได้แบบคุ้มค่า ไม่ว่าจะซื้ออะไรก็คุ้ม

2
ผิวในอุดมคติของสาวหลาย ๆ คน คือต้องเนียนใสไร้ริ้วรอยจุดด่างดำหรือรอยแผลเป็นจากสิว การใส่ใจดูแลผิวเมื่อเกิดปัญหาจึงมีความสำคัญ สำหรับใครที่กำลังมองหา ครีมลดรอยแผลเป็นหน้า ที่มีสรรพคุณโดนใจ ราคาน่าคบ เนรมิตผิวใสแบบไม่อันตราย วันนี้เรามี 5 ครีมทาแผลเป็น มาแนะนำกัน

เปิด 5 ครีมทาแผลเป็นใช้ดี
1.   เดอมาติก แอคเน สการ์ เป็นครีมลดรอยแผลเป็นจากสิวที่มีการผสานเอานวัตกรรมจาก CPX Technology และส่วนผสมที่ดีอย่าง ActivGCS (สารสกัดจากเมือกหอยทาก) มาเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อช่วยลดรอยแผลเป็นจากสิว พร้อมดูแลผิวให้เรียบเนียนและมีความสว่างกระจ่างใสขึ้น นอกจากนั้น dermatix acne scar ยังป้องกันการเกิดสิวอักเสบได้อีกด้วย
2.   สแตรทตาเดิร์ม สการ์ เทอราพี เจล เป็น ครีมลดรอยแผลเป็น ที่มีส่วนประกอบของโพลีไดเมทิลไซลอกเซนส์ และอัลคิลเมทิลซิลิโคน มีสรรพคุณในการทำให้แผลเป็นอ่อนนุ่มลง พร้อมปรับผิวบริเวณแผลเป็นให้กลับคืนสู่สภาพเดิม สามารถทาทับครีมกันแดดและเครื่องสำอางได้เลย สะดวกและง่ายต่อการใช้งาน เนื้อเจลสามารถซึมซาบลงสู่ผิวได้ไว ถือเป็นซิลิโคนเจลที่แห้งได้เร็ว ไม่ทิ้งคราบหรือความเหนียวเหนอะหนะไว้บนผิว
3.   เพียวริก้าส์ ดราก้อน บลัด สการ์ เจล ครีมลดรอยแผลเป็น เนื้อเจลใสสีน้ำตาลที่มีคุณประโยชน์แบบจัดเต็ม มีส่วนผสมที่สำคัญคือ Dragon’s Blood ที่ช่วยลดการอักเสบ ดูแลเซลล์ผิว ลดเลือนรอยแผลเป็นจากสิว ซ่อมแซมผิว สมานผิวและรอยแผลเป็นให้ดีขึ้นหากใช้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง puricas ยังมี Centella Asiatica Leaf Extract ที่จะช่วยให้แผลหายเร็วขึ้นด้วย
4.   เดอร์ม่า ไบโอ สการ์ แคร์ เจล เป็นเจลช่วยลดรอยแผลเป็นที่มีประสิทธิภาพสูงเนื่องจากประกอบไปด้วยส่วนผสมสำคัญหลากหลายชนิดที่มีสรรพคุณในการช่วยฟื้นบำรุงให้รอยแผลเป็นและรอยแดงรอยดำลดเลือนจางลง รอยหลุมสิวตื้นขึ้น พร้อมบำรุงดูแลผิวหลังจากทำเลเซอร์ได้ดีขึ้นด้วย
5.   บีแพนเธน แอนตี้สการ์ เจล ผลิตภัณฑ์รักษารอยแผลเป็นที่สามารถใช้ได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ดูแลรอยแผลเป็นให้เรียบขึ้น อ่อนนุ่มลง ความนูนและความแดงลดลง ทั้งยังช่วยลดอาการตึงและอาการคันของแผลได้ นอกจากนั้นเจลตัวนี้ยังเข้าไปช่วยรักษาความชุ่มชื้นของผิวและเก็บกักน้ำในผิวหนังได้อีกด้วย

เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 5 ครีมทาแผลเป็น ที่ได้แนะนำกันไปข้างต้น หากถูกใจและอยากไปหามาลองใช้สามารถเข้าไปเลือกซื้อกันได้ทางวัตสันออนไลน์ที่เว็บไซต์  https://www.watsons.co.th/ ภายในหน้าเว็บจะมี โปรโมชั่นวัตสัน ปัง ๆ อยู่หลากหลายโปรเลยทีเดียว สามารถเลือกซื้อพร้อมรับ โปรวัตสัน ที่ถูกใจได้เลย

ชมรายละเอียดที่
https://www.watsons.co.th/th/ครีมทาแก้คัน-bepenthen-บีแพนเธน-เซนซิเดิร์ม-ครีม-20-กรัม/p/BP_276187

3
เพื่อไม่ให้เงินในกระเป๋าหายไปกับค่ากาแฟในแต่ละเดือน หนึ่งในทางออกที่หลายคนเลือกแก้ปัญหาจึงเป็นการชงกาแฟดื่มเองที่บ้านเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย วันนี้จึงอยากจะมาแชร์ 5 สูตรชงกาแฟสดยอดฮิต ชงแบบไหนให้อร่อยมาให้ลองทำตามกัน

สูตรกาแฟทั้ง 5 แบบนี้ เราจะเรียงตามลำดับความเข้มของรสชาติ กาแฟอะไรเข้มสุด อันดับที่หนึ่งต้องยกให้ เอสเพรสโซ่

1. สูตรชงกาแฟ เอสเพรสโซ่ ร้อน รสเข้มเน้น ๆ  ไม่ปรุงแต่ง
วิธีชง
ใช้วิธีแรงอัดไอน้ำหรือด้วยน้ำร้อนผ่านไปยังเมล็ดกาแฟที่บดละเอียดแล้ว เทลงใส่แก้วทันทีโดยไม่เติมน้ำก็จะได้เอสเพรสโซ่ร้อน ๆ  สุดเข้มข้น

2. สูตรชงกาแฟอเมริกาโน่ร้อน ลดความเข้มด้วยการเติมน้ำร้อน
วิธีชง
วิธีการคือนำ เอสเพรสโซ่ ซ็อต 1 ส่วน ผสมกับน้ำอีก 1 ส่วน โดยการนำเอสเพรสโซ่ใส่แก้วรอไว้แล้วค่อยตามด้วยน้ำร้อนลงไป ก็จะช่วยไล่ระดับลดความเข้มของกาแฟลงมาอีกหน่อย

3. สูตรชงกาแฟ longblack ร้อน เข้มพอ ๆ  กับอเมริกาโน่ แต่วิธีชงตรงข้าม
วิธีชง
วิธีการชงเป็นการสลับขั้นตอนกับการชงอเมริกาโน่ เพราะจะเริ่มจากการใส่น้ำร้อนลงไปรอก่อนในแก้ว จากนั้นค่อย ๆ  เติมเอสเพรสโซ่ซ็อตตามลงไปก็จะได้กาแฟ longblack ที่มีครีมม่าบางเบาและเนียนนุ่มลอยอยู่บนผิวกาแฟเพิ่มอรรถรสในการดื่มไปอีกแบบ

4. สูตรชง กาแฟเย็นมัคคิอาโต เบรกความเข้มลงไปอีกหน่อยด้วยการผสมนมให้ได้รสละมุนขึ้น
วิธีชง
กาแฟตั้งต้นคือ เอสเพรสโซ่ เตรียมเอสเพรสโซ่ไว้ 2 ช็อต จากนั้นเตรียมแก้วใส่น้ำแข็งรอไว้ จากนั้นให้เทฟองนมลงไปในแก้วที่เตรียมไว้ แล้วจบด้วยการค่อย ๆ  เทเอสเพรสโซ่ช็อตตามลงไปในแก้วเหนือชั้นขึ้นมาจากฟองนม ก็จะได้ กาแฟมัคคิอาโต รสนุ่ม ๆ  ละมุนจากส่วนผสมของฟองนมที่ไม่เข้มมาก

5. สูตรชงกาแฟ คาปูชิโน่ ร้อน เป็นกาแฟที่มีความนุ่มละมุนจากนม ใกล้เคียงกับ กาแฟมัคคิอาโต
วิธีชง
ชงเอสเพรสโซ่ซ็อตไว้เหมือนเดิม จากนั้นเทลงใส่แก้ว ตามด้วยเติมนมอุ่นลงไป บางคนราดฟองนมตามไปด้วย ปิดท้ายด้วยการโรยหน้าด้วยผงโกโก้หรือผงอบเชยตามความชอบ ก็จะได้กาแฟ คาปูชิโน่ ร้อนรสนุ่ม ๆ ไว้ดื่มแล้ว

คราวนี้ก็คงทราบกันแล้วว่ากาแฟแต่ละรสชาติมีความแตกต่างกันอย่างไร กาแฟอะไรเข้มสุด แต่สูตรกาแฟยังมีอีกหลากหลายให้ได้ลิ้มลอง เพราะการปรับปรุงสายพันธุ์และสูตรกาแฟนั้นพัฒนาไม่หยุด สมกับเป็นเครื่องดื่มสุดคลาสสิกที่คนทั่วโลกหลงรัก

4
ใครที่เป็นคอกาแฟดำ  วันนี้ Nespresso จะพาคุณมาชงกาแฟให้พิเศษกว่าเดิมด้วยเมนูกาแฟพิเศษซึ่งมีกลิ่นหอมของผลไม้นานาชนิดผสานเข้ากับรสชาติของเมล็ดกาแฟ ซึ่งคุณสามารถชงดื่มเองหรือชงเพื่อขายให้กับลูกค้าด้วยการเสิร์ฟเป็น longblack หรืออเมริกาโน่ก็ทำได้!

7 สูตรชงกาแฟ longblack และ Americano กลิ่นหอม รสชาติเข้มข้นถูกใจ
1. สูตรอเมริกาโน่ เย็น
ต้องการเติมความสดชื่นไปกับเมนูกาแฟอเมริกาโน่ทำเองได้ง่าย ๆ ที่บ้าน เริ่มต้นด้วยการเลือกแคปซูลกาแฟที่ถูกใจใส่ลงในเครื่องชงกาแฟ จากนั้นกดปุ่มเพื่อสั่งทำเอสเพรสโซ่ พร้อมเสิร์ฟด้วยแก้วใส่น้ำแข็งตามด้วยเอสเพรสโซ่และเติมน้ำเย็นลงไป
2. สูตรอเมริกาโน่ น้ำมะพร้าว
สูตรเติมความสดชื่นด้วยกาแฟผสานกลิ่นหอมละมุนของน้ำมะพร้าวที่ให้รสชาติอมหวานนิด ๆ เริ่มต้นด้วยการเลือกแคปซูลกาแฟแสนอร่อยด้วยฟังก์ชันเอสเพรสโซ่ จากนั้นเทลงในแก้วทรงยาวใส่น้ำแข็งตามด้วยกาแฟที่เตรียมไว้และน้ำมะพร้าวลงไป
3. สูตรอเมริกาโน่ น้ำส้ม
ร่างกายอ่อนล้าเพราะอากาศร้อนจะสดชื่นขึ้นด้วยเมนูนี้ เริ่มต้นด้วยการเตรียมเอสเพรสโซ่ 1 ช็อตและน้ำส้มคั้นสดเอาไว้ จากนั้นเสิร์ฟด้วยแก้วกาแฟทรงสูงใส่น้ำแข็ง เติมเอสเพรสโซ่ลงไปและปิดท้ายด้วยน้ำส้มคั้นรสชาติเปรี้ยวอมหวานแสนอร่อย
4. กาแฟดำ น้ำผึ้งมะนาว
เริ่มต้นเมนูกาแฟแสนอร่อยด้วยการสกัดแคปซูลกาแฟเอสเพรสโซ่ ผสมน้ำผึ้ง น้ำมะนาว และน้ำเย็น คนให้เข้ากัน เทลงในแก้วทรงยาวเติมน้ำแข็งให้เรียบร้อย
5. Longblack น้ำผึ้ง
คนชอบดื่มกาแฟรสชาติเข้ม ๆ ผสานกับรสชาติของน้ำผึ้งแท้หวานเป็นธรรมชาติทำได้ง่ายมาก เริ่มต้นด้วยการระดับการคั่วกาแฟ เตรียม กาแฟดำ เอสเพรสโซ่จากแคปซูลกาแฟที่ชอบ นำมาเติมความหวานด้วยน้ำผึ้งตามต้องการ เตรียมแก้วทรงยาวใส่น้ำแข็งและเทน้ำเย็นตามลงไปปิดท้ายด้วยกาแฟเอสเพรสโซ่ช็อตเป็นอันเสร็จเรียบร้อย
6. อเมริกาโน่ลิ้นจี่
เตรียมกาแฟเอสเพรสโซ่จากแคปซูลกาแฟระดับความเข้มข้นที่ถูกใจผสมกับไซรัปลิ้นจี่ที่ให้รสชาติเข้มข้นและกลิ่นหอม จากนั้นเทเสิร์ฟลงในแก้วใส่น้ำแข็ง แต่งหน้าด้วยลิ้นจี่สดให้สวยงาม
7. อเมริกาโน่น้ำมันมะกอก
ใครอยากเติมไขมันดีพร้อมเพิ่มประสิทธิภาพของระบบเผาผลาญขอแนะนำสูตรนี้! เริ่มต้นด้วยการเตรียมกาแฟเอสเพรสโซ่ที่ต้องการ จากนั้นนำมาเติมน้ำมันมะกอกคนให้เข้ากัน จะดื่มแบบร้อนหรือแบบเย็นก็ได้ตามที่ชื่นชอบ

ทั้ง 7 สูตรกาแฟสดสามารถเสิร์ฟได้ทั้งแบบ longblack หรือ Americano ได้ตามความชอบและเลือกแคปซูลกาแฟ Nespresso ที่คุณชื่นชอบเพื่อยกระดับรสชาติให้กลมกล่อมและกลิ่นหอมละมุนระดับพรีเมียมมากขึ้นกว่าเดิม

5
ผมร่วง หนึ่งในปัญหาที่สร้างความหนักใจไม่น้อย เพราะยิ่งผมร่วงเยอะมากเท่าไหร่ จะส่งผลให้เกิดปัญหาผมบางหรือรุนแรงถึงขั้นศีรษะล้านได้ แต่ไม่ต้องกังวลไปเพราะวันนี้เรารวบรวมเอา วิธีแก้ผมร่วง มาให้ทุกคนได้ทำตามกัน จะมีวิธีไหนน่าสนใจบ้างนั้น ตามมาอ่านพร้อม ๆ กันได้เลย

ผมร่วงเกิดจากอะไรกันแน่
ผมร่วงเกิดจาก หลายสาเหตุด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น
-   กรรมพันธุ์ที่สมาชิกในครอบครัวมีประวัติผมบาง ศีรษะล้าน
-   ระดับฮอร์โมนที่ผิดปกติ เช่น ผู้หญิงวัยทอง ผู้ที่อยู่ในช่วงตั้งครรภ์ หรือหลังคลอดบุตร
-   โรคภัยไข้เจ็บบางอย่าง เช่น โรคที่เกี่ยวข้องกับภูมิคุ้มกัน โรคผิวหนังที่ส่งผลต่อสุขภาพหนังศีรษะ
-   พฤติกรรมชีวิตประจำวันที่เสี่ยงทำลายสุขภาพเส้นผมและหนังศีรษะ เช่น การหวีผมแรงเกินไป การรวบผมตึง
-   การใช้สารเคมีหรือความร้อนกับเส้นผม เช่น การดัดผม การทำสีผม การยืดผม

วิธีแก้ผมร่วงช่วยเรียกคืนผมหนา 
เมื่อรู้ว่า ผมร่วงเกิดจาก สาเหตุอะไรก็สามารถมองหาวิธีแก้ปัญหาผมขาดหลุดร่วงที่เหมาะสมได้ เช่น
1.   รับประทานอาหารที่มีส่วนช่วยบำรุงเส้นผม
เพื่อให้สุขภาพเส้นผมและหนังศีรษะแข็งแรงจากภายในสู่ภายนอก วิธีแก้ผมร่วง ที่ง่ายที่สุดก็คือการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ มีวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็น เช่น ธาตุเหล็ก สังกะสี ไบโอติน วิตามิน A 
2.   นวดศีรษะกระตุ้นการไหลเวียนเลือด
การนวดหนังศีรษะไม่เพียงแต่จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดเพื่อให้เลือดไปเลี้ยงรูขุมขนและกระตุ้นให้รากผมแข็งแรงมากขึ้นแล้ว ยังช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายได้ด้วย แนะนำนวดศีรษะวันละ 4 นาที ต่อเนื่อง 24 สัปดาห์ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
3.   เลี่ยงการใช้ความร้อนหรือสารเคมีกับเส้นผม
การทำสีผม ยืดผม ดัดผม นั้นทำให้ความร้อนและสารเคมีทำให้เส้นผมอ่อนแอและส่งผลเสียต่อสุขภาพหนังศีรษะได้ ฉะนั้นถ้าไม่อยากเผชิญกับปัญหาผมร่วงควรเลี่ยงการใช้ความร้อนหรือสารเคมีกับเส้นผมบ่อยครั้ง
4.   เลี่ยงพฤติกรรมทำร้ายเส้นผม
การหวีผมที่ผิดวิธีหรือการรัดผมแน่นเกินไปก็มีส่วนทำให้ผมร่วงได้ ฉะนั้นควรหวีผมให้ถูกวิธี เช่น ไม่ใช้หวีธรรมดาผมตอนผมเปียก ให้ใช้wetbrush  หวีผมอย่างเบามือ รวมถึงเลี่ยงการรวบผมตึง มัดผมแน่นเกินไป
5.   เลือกใช้แชมพูลดผมร่วง
ปัญหารูขุมขนบนหนังศีรษะอุดตันก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ผมร่วงได้ จึงจำเป็นต้องทำความสะอาดหนังศีรษะให้หมดจด แนะนำว่าควรเลือกแชมพูสูตรที่สามารถลดผมร่วงได้ และมีส่วนผสมช่วยฟื้นบำรุงสุขภาพเส้นผมและหนังศีรษะ

แนะนำ 5 แชมพูแก้ปัญหาผมร่วง
1.   Eucerin Dermo Capillaire Re-Vitalizing Shampoo Thinning Hair
บอกลาปัญหา ผมร่วง ตั้งแต่ต้นเหตุด้วยแชมพูลดผมร่วงจากยูเซอรีน ที่ผสานการทำงานของ Licochalcone A หรือสารสกัดจากรากชะเอมเทศ มีส่วนช่วยต้านการอักเสบ เสริมความแข็งแรงให้หนังศีรษะ พร้อมด้วยส่วนผสมของ Carnitine และ Creatine ช่วยดูแลเส้นผมให้หนาและแข็งแรงตั้งแต่โคนจรดปลาย บอกลาปัญหาผมขาดหลุดร่วงง่ายไปได้เลย
2.   Pantene Hair Fall Control Shampoo
แชมพูลดผมร่วงราคาย่อมเยา ที่สามารถช่วยบำรุงผมให้แข็งแรงตั้งแต่โคนจรดปลาย พร้อมลดการขาดหลุดร่วงของเส้นผมได้มากถึง 98% เพียงใช้อย่างเป็นประจำ โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี Keratin Damage Blocker พร้อมผสาน Pro-Vitamin บำรุงเส้นผมนานาชนิด เพื่อเส้นผมที่แข็งแรงสุขภาพดีกว่าที่เคย
3.   Tresemme Hair Fall Control Shampoo
ยาสระผมลดผมร่วงคุณภาพเยี่ยมที่มาในราคาย่อมเยา ผสานเทคโนโลยี Bond Repair เพื่อการฟื้นบำรุงสุขภาพเส้นผมที่อ่อนแอจากการยืด ดัด และทำสี ให้กลับมาสุขภาพดีอย่างล้ำลึก สัมผัสได้ถึงปัญหาผมร่วงลดน้อยลงมากถึง 98% ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้
4.   Lyo Anti-Hair Loss Shampoo
ไม่ว่าปัญหา ผมร่วงเกิดจาก สาเหตุไหนก็ตัดจบได้ด้วยแชมพูสูตรเภสัชฯ ที่ช่วยลดการขาดหลุดร่วงของเส้นผมได้อย่างตรงจุด เพราะอัดแน่นไปด้วยสารสกัดจากธรรมชาตินานาชนิด เช่น Tea Tree Oil ช่วยลดความมันบนหนังศีรษะ AHA ช่วยทำความสะอาดหนังศีรษะได้อย่างหมดจด Pro Vitamin B5 เสริมเกราะป้องกันหนังศีรษะ Vitamin E และสารสกัดว่านหางจระเข้ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น
5.   Clear Scalpceuticals Hair Fall Resist Shampoo
เสริมการยึดเกาะของผมกับหนังศีรษะเพื่อลดการขาดหลุดร่วงของเส้นผมอย่างมีประสิทธิภาพด้วยแชมพูสูตรลด ผมร่วง จากเคลียร์ ที่ผสานเทคโนโลยี Follilock หรือกลุ่มสารต้านอนุมูลอิสระบำรุงสุขภาพเส้นผมและหนังศีรษะอย่างล้ำลึก ที่สำคัญเป็นสูตรอ่อนโยน ปราศจากพาราเบนและสีสังเคราะห์ สามารถใช้ได้ทุกวัน

หากใครที่กำลังเผชิญกับปัญหาผมขาดหลุดร่วงอยู่ สามารถนำ วิธีแก้ผมร่วง ที่เรานำมาฝากในวันนี้ไปปรับใช้กันได้ และใครที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะเพื่อลดปัญหาการขาดหลุดร่วงของเส้นผม สามารถเข้ามาเลือกชมเลือกช้อปได้ที่ watson online มีให้เลือกหลายยี่ห้อ พร้อม โปรวัตสัน ที่ช่วยให้การช้อปคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น

6
   cold brew คือ ของ Nespresso กาแฟที่ใช้น้ำเย็นในการสกัดเอาน้ำกาแฟ เป็นวิธีการชงกาแฟแบบใหม่เพราะความขมและความเปรี้ยวของกาแฟถูกตัดทอนออกไป ทำให้ได้รสชาติของกาแฟที่ไม่เข้มเกินไป ดื่มง่าย หากใช้ กาแฟแคปซูล ก็ทำกาแฟแบบนี้ได้เช่นกัน บรรยายขนาดนี้คงทำให้หลายคนอยากลิ้มรองรสชาติ วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักเสน่ห์ของ กาแฟสกัดเย็น มากขึ้น

สูตรชง กาแฟสกัดเย็น ของ Nespresso เสน่ห์ที่คุณต้องลอง
•   ขั้นตอนแรกให้เลือกใช้กาแฟแบบใดก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นซื้อเมล็ดคั่วมาบดเองหรือจะเป็นแบบผงบดหยาบบรรจุในรูปแบบ กาแฟแคปซูล สำเร็จมาแล้วก็ได้
•   นำกาแฟบดหยาบที่ได้มาใส่ในสัดส่วนที่ต้องการว่าอยากให้เข้มมากหรือน้อย เลือกได้ตามต้องการ เช่น 1:5 หรือ 250 กรัม ต่อน้ำ 1,250 กรัม (42 ออนซ์)
•   จากนั้นนำกาแฟบดหยาบมาแช่ในน้ำตามปริมาณที่บอกไป จะใส่เป็นน้ำเย็นหรืออุณหภูมิห้องก็ได้ แช่ทิ้งไว้ประมาณ 8 – 24 ชั่วโมง จากเวลาในการแช่จะเห็นว่ากว่าจะได้กาแฟสักแก้วที่อร่อย ต้องใส่ใจกรรมวิธีมาก ๆ
•   เมื่อครบตามเวลาแล้ว ให้กรองเทเอาเพียงน้ำกาแฟใส่แก้ว หากชิมแล้วรสชาติเข้มไป สามารถเพิ่มนมสดเข้าไปหรือแล้วแต่จะรังสรรค์ตามใจชอบ

ทริกการเลือกใช้เมล็ดกาแฟ
ในการรังสรรค์เมนูเครื่องดื่มกาแฟแบบสกัดเย็นนั้น ไม่เพียงต้องใส่ใจกรรมวิธีในการทำเท่านั้น อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญคือการเลือกวัตถุดิบที่เหมาะสม สำหรับเมนูนี้จะเลือกใช้เมล็ดกาแฟคั่วอ่อนไปจนถึงกลาง จะส่งผลในเรื่องของรสสัมผัสที่มีความนุ่มนวล ไม่เข้มเกินไปมีความลงตัว สำหรับสายพันธุ์ของเมล็ดกาแฟที่บาริสต้านิยมใช้คือเมล็ดกาแฟอาราบิก้า เนื่องจากมีความเข้มน้อย เมื่อมามาทำ กาแฟสกัดเย็น จะทำให้รสชาติซอฟท์ลงไปอีก

ประโยชน์และความพิเศษในเมนูที่ชื่อ กาแฟโคลด์บริว (cold brew)
    รสสัมผัสของกาแฟสกัดเย็นที่มีความเป็นกาแฟแท้ ๆ ไร้การปรุงแต่งในเวอร์ชั่นที่มีความขมแบบซอฟท์ ๆ หวานปลาย เป็นความละมุนที่ทำให้วางไม่ลง ซึ่งในการชง 1 ครั้ง สามารถเก็บได้นานเป็นเวลา 1 สัปดาห์ โดยที่รสชาติและประโยชน์ยังคงอยู่ไม่หายไปไหน ประโยชน์ที่ว่า ได้แก่ รักษาโรคกระเพาะได้ดีเพราะมีปริมาณคาเฟอีนต่ำ ลดความเครียด ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ ช่วยเพิ่มระดับการเผาผลาญไขมันเพราะมีสารเมตาบอลิซึม เป็นต้น

   คงได้รู้แล้วว่า cold brew คือ กาแฟสกัดเย็นที่มีรสชาติเบาบาง เหมาะกับคนที่พึ่งหัดเริ่มต้นดื่มและเต็มไปด้วยประโยชน์ จึงเรียกได้ว่าเป็นเมนูเครื่องดื่มสุขภาพ และมีคาเฟอีนต่ำ อย่างไรก็ดีควรดื่มในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อให้ส่งผลดีต่อร่างกาย

7
หน้าร้อนปีนี้มีวิธีคลายร้อนแบบง่าย ๆ มาฝาก ด้วย สูตรชงกาแฟสด ของ Nespresso ที่รับรองสดชื่นได้แบบง่าย ๆ
1.  กาแฟมัคคิอาโต้เย็น กาแฟเย็น ของ Nespresso รสนุ่มด้วยฟองนมเบาบางที่ผสานอย่างลงตัวกับความเข้มของกาแฟ
ส่วนผสม
- กาแฟดำ 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำร้อน 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนโต๊ะ
- นมไขมันต่ำแช่เย็น 160 มล.
วิธีทำ
1. ชงกาแฟกับน้ำร้อน คนให้เข้ากัน
2. ตีฟองนมด้วยเครื่องตีฟอง เติมน้ำตาลทราย
3. เทฟองนมลงในแก้วที่มีน้ำแข็ง เพียงเท่านี้เมนูกาแฟก็พร้อมดื่ม

2. ลาเต้ เชค เอาใจคอกาแฟที่ชอบความนุ่มละมุน ที่ได้ทั้งความหอมมันเพื่อดับร้อนให้สดชื่น
ส่วนผสม
- กาแฟดำ 1 ซอง
- น้ำเย็น 30 มล.
- น้ำแข็ง
- นมสดรสจืด 90 มล.
วิธีทำ
1. เติมน้ำเย็นลงไปในกระบอกเชค เทกาแฟซองและใส่น้ำแข็ง
2. ปิดฝาแล้วเขย่าให้เข้ากัน พักทิ้งไว้
3. เทนมสดใส่แก้ว เทน้ำแข็งตามลงไป
4. เทกาแฟจากกระบอกเชคลงไปรวมในแก้วนมสดเพียงเท่านี้ก็จะได้ลาเต้ เชค แก้วอร่อย

3. สูตรกาแฟ ของ Nespresso กาแฟสกัดเย็น  รสชาติไม่เปรี้ยวมีความขมน้อย ละมุนกว่ากาแฟเย็นทั่วไป
ส่วนผสม
- ขวดโหลที่มีฝาปิดสนิทสำหรับแช่กาแฟ
- กาแฟบดปานกลาง 100 กรัม
- น้ำเปล่า 500 มล.
- ตาชั่ง
- ถ้วยตวง
วิธีทำ
1. เตรียมกาแฟบด 100  กรัม  กับน้ำเปล่า 500 มล. (อัตราส่วน 5:1)
2. เทน้ำเปล่าลงในขวดโหล ตามด้วยกาแฟบด คนให้เข้ากัน
3. ปิดฝาให้สนิท แล้วนำไปแช่ตู้เย็น 16 ชม.
4. ครบ 16 ชม. แล้ว นำกาแฟมากรองด้วยชุดกรองหยาบก่อน
5.  กรองอีกครั้งด้วยชุดกรองละเอียด
6.  เพียงเท่านี้ก็จะได้ กาแฟสกัดเย็น เก็บไว้ดื่มคลายร้อนได้หลายวัน

4. สูตรชงกาแฟ ของ Nespresso อเมริกาโน่เย็น กาแฟเย็น เรียบง่ายที่หลายคนชอบ ทำไม่ยาก แต่รสชาติกินขาดแน่นอน
ส่วนผสม
- กาแฟดำ 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำร้อน 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทรายแดง 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเย็น 195 มล.
วิธีทำ
1. ชงกาแฟกับน้ำร้อน
2. เติมน้ำตาลทรายแดง
3. เตรียมน้ำแข็ง เติมน้ำเย็นลงในแก้ว เผื่อพื้นที่ว่างสำหรับกาแฟ
4. ใส่กาแฟที่ชงไว้ลงไป เพียงเท่านี้ก็จะได้ กาแฟเย็น แสนอร่อย

5. กาแฟน้ำมะพร้าว ปิดท้ายด้วย สูตรกาแฟเย็น แสนสดชื่นที่หอมหวานด้วยน้ำมะพร้าว
ส่วนผสม
- กาแฟดำ 2 ช้อนชา
- น้ำร้อน 30 มล.
- ไซรัปน้ำมะพร้าว 30 มล.
- น้ำมะพร้าวสด 150 มล.
วิธีทำ
1. ผสมไซรัปน้ำมะพร้าวกับน้ำมะพร้าวสด คนให้เข้ากัน เติมน้ำแข็งพักไว้
2. ชงกาแฟกับน้ำร้อน คนให้ละลาย
3. เทกาแฟใส่แก้วผสมกับน้ำมะพร้าว เพียงเท่านี้ก็พร้อมเซิร์ฟ

5 สูตรกาแฟที่แนะนำนี้ ทำให้การดื่มด่ำกาแฟเย็นในหน้าร้อนนี้มีสีสัน อร่อยมากขึ้นแน่นอน

8
   ในเมนูกาแฟหลาย ๆ เมนู อย่าง ลาเต้ คาปูชิโน่ มอคค่า มีฟองนมเป็นองค์ประกอบ หากเราเป็นมือใหม่คิดอยากจะเปิดร้านกาแฟ หรืออยากหัดชงกาแฟสดดื่มเองที่บ้าน นอกจากเราจะต้องใส่ใจกับการชงกาแฟแล้ว วิธีทำฟองนม ของ Nespresso ก็สำคัญไม่แพ้กัน กาแฟถ้วยนั้นถึงจะออกมาอร่อยถูกใจ อย่างทริก 5 เคล็ดลับทำฟองนมให้เนียนนุ่มแบบที่มือใหม่ก็ทำได้มาฝากนี้ช่วยในการทำฟองนมสำหรับมือใหม่ เพื่อเพิ่มรสชาติ อรรถรสให้กับเมนูกาแฟแก้วโปรดของคุณ

   1.เลือกนมที่ใช่
   การเลือกนมสดควรเลือกนมที่มีไขมันพอสมควร ไม่ควรเลือกนมที่มีไขมันต่ำหรือนมโลว์แฟต เพราะจะตีแล้วขึ้นฟูยาก ส่วนใครที่แพ้นมวัวจะใช้นมชนิดอื่น ๆ อย่างนมธัญพืช นมอัลมอนด์ นมถั่วเหลืองก็สามารถนำมาตีฟองนมได้เช่นเดียวกัน แต่เนื้อสัมผัสและความเนียนนุ่มของฟองนมจะมีความแตกต่างกันได้
   2.อุณหภูมิของนม
   วิธีตีฟองนม ของ Nespresso ให้นุ่มฟูและเบานั้นจะต้องอัดแรงอากาศเข้าไปซึ่งนมที่อากาศจะเข้าไปแทรกให้นุ่มฟูได้เร็วนั้นจะเป็นนมที่เย็น ดังนั้นเราควรนำนมที่ประมาณ 2-4 องศาเซลเซียส มาทำฟองนมก็จะทำให้ตีฟองนมแล้วขึ้นฟูได้ไว แถมยังคงรูปอยู่ตัวได้นาน
   3.วิธีตีฟองนม
   การตีฟองนมด้วยที่ตีหรือก้านสตรีมฟองนมที่ติดมาพร้อมกับเครื่องชงกาแฟ วิธีการเหล่านี้ วิธีทำฟองนม แบบแมนนวล จำเป็นต้องอาศัยท่าทางและความชำนาญในการฝึกฝน เพราะต้องมีจังหวะและองศาในการตีฟองนมที่ถูกต้องถึงจะทำให้นมขึ้นฟูได้ไวและเนียนนุ่ม หากจับไม่ถูกก็อาจจะทำให้อากาศเข้าไปได้ไม่ดี นมอาจไม่ขึ้นฟูหรือขึ้นฟูได้ไม่เต็มที่ทำให้แฟบยุบตัวเร็วแถมยังไม่เนียนละเอียดด้วย
   4. ทำตามสูตร
   การทำฟองนมนั้นจำเป็นต้องตวงปริมาตรนมตามสูตรเป๊ะ อุณหภูมิก็ต้องเป๊ะ เพื่อให้ได้ฟองนมที่มีคุณภาพและพอดีกับเมนูกาแฟนั้น ๆ ไม่เช่นนั้นก็จะได้ฟองนมน้อยไปบ้างไม่ขึ้นฟูบางทำให้เสียเวลาต้องทำเพิ่มกว่าจะได้เสิร์ฟก็ยุบตัวกันพอดี
   5.เครื่องตีฟองนม ของ Nespresso
   เครื่องตีฟองนม อัตโนมัติ คือทางแก้ไขที่สะดวกที่สุด เพียงแค่เราใส่นมลงไปให้เครื่องจัดการโดยที่เราไม่ต้องมานั่งจับจังหวะตีฟองนมเอง เครื่องจะจัดการให้เราทั้งหมด เราก็แค่รอให้ เครื่องตีฟองนม แล้วตักฟองนมนั้นมาใช้เท่านี้เอง

   นี่คือทริกดี ๆ 5 วิธีทำฟองนม ให้เนียนนุ่มที่เรานำมาฝาก เชื่อว่าถ้าเอาไปทำตามยังไงก็ประสบความสำเร็จได้ฟองนมเนียนนุ่มสมใจแน่นอนขอรับประกัน

9
หากคุณชอบรสชาติ กาแฟดำ Nespresso ห้ามพลาดเมนูกาแฟแสนพิเศษกว่าเดิมด้วยกลิ่นหอมของผลไม้นานาชนิดผสานเข้ากับรสชาติของเมล็ดกาแฟที่ผ่านการคั่วอย่างพิถีพิถัน ซึ่งคุณสามารถชงดื่มเองหรือชงเพื่อขายด้วยการเสิร์ฟเป็น longblack หรืออเมริกาโน่ก็ทำได้!

7 สูตรกาแฟสด longblack และ Americano กลิ่นหอม รสชาติเข้มข้นถูกใจ
1. สูตรอเมริกาโน่ เย็น
สายรักสุขภาพและผู้ชื่นชอบความเข้มข้นของกาแฟอเมริกาโน่ทำเองได้ง่าย ๆ ที่บ้าน เริ่มต้นด้วยการเลือกแคปซูลกาแฟที่ถูกใจใส่ลงในเครื่องชงกาแฟ จากนั้นกดปุ่มเพื่อสั่งทำเอสเพรสโซ่ พร้อมเสิร์ฟด้วยแก้วใส่น้ำแข็งตามด้วยเอสเพรสโซ่และเติมน้ำเย็นลงไป
2. Longblack น้ำผึ้ง
คนชอบดื่มกาแฟรสชาติเข้ม ๆ ผสานกับรสชาติของน้ำผึ้งแท้หวานเป็นธรรมชาติทำได้ง่ายมาก เริ่มต้นด้วยการเตรียม กาแฟดำ เอสเพรสโซ่จากแคปซูลกาแฟที่ชอบ นำมาเติมความหวานด้วยน้ำผึ้งตามต้องการ เตรียมแก้วทรงยาวใส่น้ำแข็งและเทน้ำเย็นตามลงไปปิดท้ายด้วยกาแฟเอสเพรสโซ่ช็อตเป็นอันเสร็จเรียบร้อย
3. สูตรอเมริกาโน่ น้ำส้ม
ร่างกายอ่อนล้าเพราะอากาศร้อนจะสดชื่นขึ้นด้วยเมนูนี้ เริ่มต้นด้วยการเตรียมเอสเพรสโซ่ 1 ช็อตและน้ำส้มคั้นสดเอาไว้ จากนั้นเสิร์ฟด้วยแก้วกาแฟทรงสูงใส่น้ำแข็ง เติมเอสเพรสโซ่ลงไปและปิดท้ายด้วยน้ำส้มคั้นรสชาติเปรี้ยวอมหวานแสนอร่อย
4. กาแฟดำ น้ำผึ้งมะนาว
เริ่มต้นเมนูกาแฟแสนอร่อยด้วยการสกัดแคปซูลกาแฟเอสเพรสโซ่ที่ชอบผสมน้ำผึ้ง น้ำมะนาว และน้ำเย็น คนให้เข้ากัน เทลงในแก้วทรงยาวเติมน้ำแข็งให้เรียบร้อย
5. สูตรอเมริกาโน่ น้ำมะพร้าว
สูตรเติมความสดชื่นด้วยกาแฟผสานกลิ่นหอมละมุนของน้ำมะพร้าวที่ให้รสชาติอมหวานนิด ๆ เริ่มต้นด้วยการเลือกแคปซูลกาแฟระดับการคั่วกาแฟเข้มแสนอร่อย กดฟังก์ชันทำเอสเพรสโซ่ จากนั้นเทลงในแก้วทรงยาวใส่น้ำแข็งตามด้วยกาแฟที่เตรียมไว้และน้ำมะพร้าวลงไป
6. อเมริกาโน่ลิ้นจี่
หากคุณต้องการเติมความสดชื่นแนะนำสูตรนี้ เตรียมกาแฟเอสเพรสโซ่จากแคปซูลกาแฟระดับความเข้มข้นที่ถูกใจผสมกับไซรัปรสลิ้นจี่ที่ให้รสชาติเข้มข้นและกลิ่นหอม จากนั้นเทเสิร์ฟลงในแก้วใส่น้ำแข็ง แต่งหน้าด้วยลิ้นจี่สดให้สวยงาม
7. อเมริกาโน่น้ำมันมะกอก
ใครอยากเติมไขมันดีพร้อมเพิ่มประสิทธิภาพของระบบเผาผลาญขอแนะนำสูตรนี้! เริ่มต้นด้วยการเตรียมกาแฟเอสเพรสโซ่ที่ต้องการ จากนั้นนำมาเติมน้ำมันมะกอกคนให้เข้ากัน จะดื่มแบบร้อนหรือแบบเย็นก็ได้ตามที่ชื่นชอบ

เมนูกาแฟทั้ง 7 สูตรทำได้ทั้งแบบ longblack หรือ Americano ได้ตามความชอบและเลือกแคปซูลกาแฟ Nespresso ที่คุณชื่นชอบเพื่อยกระดับรสชาติให้กลมกล่อมและกลิ่นหอมละมุนระดับพรีเมียมมากขึ้นกว่าเดิม

10
สุขภาพ | Health / รวม 10 ถุงยางอนามัย แนะนำ
« เมื่อ: กันยายน 22, 2024, 09:25:30 PM »
การสวมถุงยางอนามัยเป็นที่รู้กันดีว่าสามารถช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และช่วยคุมกำเนิดได้ ซึ่งในท้องตลาดปัจจุบันก็มีถุงยางให้เลือกหลากหลายรูปแบบ แล้วจะเลือกซื้อ ถุงยางยี่ห้อไหนดี วันนี้เราก็รวบรวมมาให้ทำความรู้จักกันแบบเน้น ๆ 10 รุ่นด้วยกันว่า ถุงยางอนามัยยี่ห้อไหนดี บอกเลยครบทั้งแบบบาง และแบบขรุขะ
1)   Durex Airy
เป็นถุงยางที่สัมผัสได้ถึงความแนบชิดระหว่างกันและกันได้แบบจัดเต็ม บางเฉียบจนเหมือนไม่ได้ใส่ ขอแนะนำถุงยางอนามัยจากดูเร็กซ์รุ่นนี้ที่ออกแบบให้มีความบางเพียง 0.044-0.047mm เท่านั้น โดยผลิตจากยางธรรมชาติที่มีความยืดหยุ่นสูง ลักษณะโปร่งแสง ไม่เจือสี ภายนอกมีลักษณะผิวเรียบ ผนังขนาน กระชับสรีสระได้พอดี แถมมีสารหล่อลื่นในตัว
2)   Durex Perfoma
ถุงยางขนาดมาตรฐาน 52.5mm ทำจากน้ำยางธรรมชาติ มีความยืดหยุ่นสูง พร้อมเคลือบด้วยสารหล่อลื่นให้พร้อมใช้งานทุกสถานการณ์ และยืดระยะเวลากิจกรรมให้นานมากยิ่งขึ้นด้วยสารเบนโซเคนที่ใส่มาถึง 5% ช่วยชะลอการหลั่ง ลดความไวต่อการสัมผัสได้เป็นอย่างดี
3)   Onetouch Sweet Romance Condom
ถุงยางอนามัย แบบบาง ผิวเรียบ ผนังขนาน ขนาด 52mm ทำจากน้ำยางธรรมชาติได้มาตราฐานระดับ ISO ที่มาพร้อมกับตัวถุงยางสีชมพู และมีกลิ่นหอมแนววานิลลา-แคนดี้ ช่วยสร้างความประทับใจในกิจกรรมรักได้ดีเยี่ยม แถมใส่สารหล่อลื่นมามากกว่า 550ml เลยทีเดียว
4)   myOne Khao Niew Ma Muang
ถ้าพูดถึง ถุงยางยี่ห้อไหนดี ที่จะช่วยเปิดประสบการณ์ทำกิจกรรมรักแบบไม่เคยมีมาก่อน ต้องลองถุงยางจาก myOne กลิ่นข้าวเหนียวมะม่วงรุ่นนี้เลย ซึ่งไม่เพียงแต่จะมีกลิ่นที่น่าสนใจแล้ว ตัวถุงยางยังออกแบบให้มีความนุ่มและยืดหยุ่นมากขึ้น ทำให้สวมง่ายใสสบายไม่บีบรัดคับแน่นเกินไป พร้อมด้วยสารหล่อลื่นใส่มาเต็ม ๆ ทั่วชิ้น
5)   Okamoto 003 Cool Condom
ถุงยางแบบบาง ผสมสารหล่อลื่นสูตรน้ำกลิ่นเมนทอลช่วยชะลอการหลั่งได้ยาวนานมากขึ้น ถุงยางอนามัยทำจากยางธรรมชาติ ปราศจากการเจือสี ออกแบบให้มีความบางเพียง 0.03mm เท่านั้น
6)   Durex Chocolate
ถุงยางอนามัยผนังขนาน ผิวขรุขระระดับตำนานจาก Durex ที่มาพร้อมกับผิวสัมผัสแบบขรุขระเพิ่มความน่าตื่นเต้น และกลิ่นหอมหวานยั่วยวนของช็อกโกแลตแบบจัดเต็ม โดยตัวถุงยางทำจากยางธรรมชาติคุณภาพสูง มีความยืดหยุ่นสูง รองรับขนาดได้มากถึง 53mm
7)   Okamoto Dot De Cool
ใครที่กำลังมองหา ถุงยางอนามัยยี่ห้อไหนดี ที่สามารถช่วยเพิ่มรสชาติรักได้มากกว่าที่เคย ขอแนะนำถุงยางจาก Okamoto รุ่นนี้ เพราะออกแบบให้มีผิวขรุขระ แบบปุ่มอัดแน่นกว่า 1,350 ปุ่ม พร้อมด้วยเจลหล่อลื่นกลิ่นเมนทอลหอม ช่วยเติมความน่าตื่นเต้นให้กิจกรรมรักได้อย่างเต็มที่
8)   Durex Dual Pleasure
ถ้ากำลังมองหา ถุงยางยี่ห้อไหนดี ที่ช่วยให้กิจกรรมกระชับความสัมพันธ์ดำเนินไปได้ยาวนานแบบไม่มีสะดุด แถมเร้าใจกว่าที่เคย ขอแนะนำถุงยางอนามัยดูเร็กซ์ขนาดใหญ่ 56mm ที่ออกแบบพิเศษให้มีลักษณะผิวขรุขระ ผสมผสานทั้งแบบขีดแบบปุ่มในชิ้นเดียว แถมด้านในบรรจุสารเบนโซเคนเข้มข้น 5% เพื่อชะลอการหลั่งอีกด้วย
9)   myONE Lube Plus
ไม่ต้องกลัวว่าอีกฝ่ายจะระคายเคือง หรือเกิดอาการบาดเจ็บ เสียดสีขณะมีเพศสัมพันธ์ ด้วย ถุงยางอนามัย ที่เพิ่มปริมาณสารหล่อลื่นมากขึ้นถึง 50% เพื่อให้การมีเพศสัมพันธ์ลื่นไหลมากที่สุด ขณะเดียวกันตัวถุงยางก็มีขนาดมาตรฐาน 52mm ลักษณะผิวเรียบ แถมบางเพียง 0.05mm กระชับสรีระได้ดีเยี่ยม
10)   Durex Excita
เพิ่มความน่าตื่นเต้นเร้าใจตลอดกิจกรรมรักได้ง่าย ๆ ด้วยถุงยางอนามัยจาก Durex ทำจากยางธรรมชาติ สีโปร่งแสงเจือสีชมพูเล็กน้อยน่าใช้งาน และมีการออกแบบพิเศษให้มีผนังขนาน สัมผัสผิวไม่เรียบเป็นแบบขีด เพิ่มสัมผัสแปลกใหม่ได้เป็นอย่างดี และทุกชิ้นมีสารหล่อลื่นมาพร้อม

หมดห่วงเรื่องโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และสามารถคุมกำเนิดไปในตัว ด้วยการเลือกใช้ถุงยางที่เหมาะสมจากที่แนะนำไว้แล้วข้างต้น ก็คงเลือกได้ว่า ถุงยางอนามัยยี่ห้อไหนดี ที่ watson online ก็มีให้เลือกช้อปครบครัน พร้อม โปรโมชั่นวัตสัน สุดคุ้มอีกมากมาย

11
   ใครที่ช่วงนี้อยากใช้ชีวิตได้ราบรื่นมาทางนี้ มาอัพเดตดวงชะตาชีวิตกันสักหน่อย แต่ไม่ต้องจองคิวหมอดูนาน ๆ ไม่ต้องเสียเงินให้มากความ เพราะวันนี้เรามี 5 เว็บไซต์ ดูดวง ออนไลน์มาแนะนำ เป็นเว็บไซต์ดูดวงฮอตฮิตมาแรงที่ทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าแม่นมาก ถ้าคุณยังไม่เคยลองแนะนำให้ลองสักครั้ง

 1. sanook
   หลายคนอาจจะไม่ทราบมาก่อนว่าเว็บไซต์ sanook มีหมวดดูดวงออนไลน์ไว้บริการด้วยนะ ภายในนั้นครอบคลุมทุกศาสตร์การดูดวงไม่ว่าจะเป็น ดูดวง รายวัน ดูดวงแบบรายเดือน ดูดวงความรัก ให้คุณได้เช็คดวงกันแบบละเอียด ไม่เพียงเท่านั้นเขายังมีศาสตร์การดูดวงอื่น ๆ อย่างดูดวงจีน 12 นักษัตร ดูดวงสมพงษ์ตมราศี ไพ่ยิบซี วิเคราะห์เลขศาสตร์ ไฝพยากรณ์ เบอร์มงคล นอกจากนั้นยังมีบทความเกี่ยวกับการเสริมดวงมากมายไว้เสริมความปังรับความเฮง

   2. watson
   watson online ก็เป็นอีกแพลตฟอร์มหนึ่งที่มีบริการดูดวงออนไลน์ ซึ่งคุณสามารถเข้าไปช้อปสินค้าและรับ โปรโมชั่นวัตสัน กันได้แบบเพลิน ๆ และอ่านคำพยากรณ์ของแต่ละราศีอย่างละเอียดจากหมอช้าง ทศพร หมอดูชื่อดังได้ตลอดทุกเดือน พร้อม ๆ กับ โปรวัตสัน ที่เขามีมาแจกความคุ้มค่าตลอดทุกเดือนเหมือนกัน

   3. a ดวง
   อีกหนึ่งแพลตฟอร์มดูดวงออนไลน์อีกหนึ่งแพลฟอร์มมาแรง เข้ามีบริการ ดูดวง รายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน และรายปีไว้บริการ ส่วนใครที่ต้องต้องการดูเฉพาะเจาะจงอย่างละเอียดเข้าก็มีหมอดูนักพยากรณ์มากหน้าหลายตาให้คุณเลือก นอกจากนั้นถ้าใครเป็นสายควิซ หรือ pick a card ก็มีให้เลือกหลากหลายหมวด เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของสายมูเลยก็ว่าได้

   4. Myhora
   อีกหนึ่งเว็บไซต์ดูดวงออนไลน์ที่มีศาสตร์การพยากรณ์ครอบคลุม เรียกได้ว่าครบจบที่เว็บเดียว คุณสามารถเลือกดูได้ตั้งแต่โหราศาสตร์ไทย โหราศาสตร์สากล โหราศาสตร์ยูเรเนียน คำนวณหาลักขณาราศีเกิด คำนวณหามหาทักษาเทวดาเสวยอายุ ไปจนถึงดูดวงไพ่ยิบซีที่ครอบคลุมทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ นอกจากนั้นยังมีบริการทำนายฝัน วิเคราะห์ชื่อ และวิเคราะห์เบอร์โทร

   5. Astro Meemodel
   เว็บไซต์ เช็คดวง ออนไลน์ที่รวบรวมเอาศาสตร์การดูดวงหลากหลายไว้ในที่เดียว เริ่มจากไพ่ยิบซีที่มีทั้งรายวัน รายเดือน หรือจะเจาะจงเฉพาะเรื่องอย่างความรัก การงาน การเงินเขาก็มีไว้บริการ ส่วนใครที่ชอบโหราศาสตร์เขาก็มีเหมือนกันไม่ว่าจะเป็นดูดวงหาลักขณาราศี ศาสตร์เลข 7 ตัว 9 ฐาน ทำนายกราฟชีวิต เป็นต้น ไม่เพียงเท่านั้นเขายังมีดูดวงวิเคราะห์ชื่อ วิเคราะห์เลขบัตรประจำตัวประชาชน และวิเคราะห์เบอร์โทรศัพท์ไว้บริการด้วย

   ทั้ง 5 เว็บไซต์ดูดวงออนไลน์ที่เรานำมาฝากในวันนี้เชื่อว่าสายมูสายดูดวงทุกคนต้องชอบ เชิญเข้าไปพิสูจน์ความแม่นความปังด้วยตัวคุณเองกันได้เลย

12
มีหลายคนที่อยากเริ่มหัดแต่งหน้าด้วยตัวเองแต่ก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มที่ไหนดี วิธีการแต่งหน้า สำหรับมือใหม่ไม่ใช่เรื่องยาก ใคร ๆ ก็เริ่มด้วยตัวเองได้ ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับไอเทมจำเป็นในการแต่งหน้ากันก่อนดีกว่า

เปิดกรุ! ไอเทมเครื่องสำอางที่ควรรู้จักสำหรับมือใหม่หัดแต่งหน้า

1. ไอเทมสำหรับงานผิว
•   ไพรเมอร์: ไพรเมอร์เป็นผลิตภัณฑ์เนื้อเจล ครีม หรือสเปรย์ ช่วยเติมเต็มร่องตื้นและรูขุมขนบนผิวหน้า ทำให้ผิวเรียบเนียน แต่งหน้าง่าย และเพิ่มความติดทน
•   รองพื้น: ไม่ว่าจะเป็น วิธีการแต่งหน้า สำหรับมือใหม่หรือมือโปรก็มักจะมีรองพื้นเป็นไอเทมที่ต้องใช้อยู่ด้วยเสมอ เพราะรองพื้นช่วยปกปิดจุดบกพร่องบนใบหน้า ทำให้ผิวเรียบเนียน สีผิวสม่ำเสมอ และทำให้เมกอัปติดทน
•   คอนซีลเลอร์: ตัวช่วยปกปิดเฉพาะจุดที่ต้องการเน้นเป็นพิเศษ เช่น รอยคล้ำใต้ตาหรือรอยสิว
•   ไฮไลต์และคอนทัวร์: เป็นตัวช่วยสร้างมิติให้กับใบหน้า แต่ วิธีการแต่งหน้า แบบ Everyday Look หรือการแต่งหน้าเน้นความธรรมชาติอาจไม่จำเป็นเท่าใดนัก
•   บลัชและบรอนเซอร์: บลัชออนคือตัวช่วยสร้างสีสันให้พวงแก้มและใบหน้าของเรา ส่วน วิธีแต่งหน้า สายฝอมักใช้บรอนเซอร์ด้วยเพื่อสร้างโทนผิวให้ดูอบอุ่น เหมือนผิวสุขภาพดีมีเลือดฝาดเพราะกระทบแสงแดด

2. ไอเทมสำหรับเซ็ตผิว
•   สเปรย์น้ำแร่ฉีดหน้า: สเปรย์น้ำแร่สามารถช่วยเติมความสดชื่นให้ผิว ใช้ฉีดก่อนลงรองพื้นเพื่อให้เกลี่ยง่ายขึ้น ไปจนถึงเพื่อเซ็ตผิวหลังแต่งหน้าเสร็จเพื่อให้เมกอัปติดทน
•   แป้งฝุ่นโปร่งแสง: แป้งฝุ่นเป็นตัวช่วยเซ็ตผิวให้พร้อมก่อนเริ่มแต่งหน้า ช่วยให้รองพื้นเซ็ตตัวและหน้าไม่มันเยิ้ม

3. ไอเทมสำหรับดวงตาและคิ้ว
•   ที่เขียนคิ้ว: มีทั้งแบบดินสอเนื้อครีม แบบเจล และแบบฝุ่น นอกจากนี้ยังมีมาสคาร่าคิ้วที่ช่วยทำให้คิวเรียงตัวสวยอีกด้วย
•   อายแชโดว์ไพรเมอร์: รองพื้นสำหรับรอบดวงตา มีความอ่อนโยน ช่วยเติมเต็มริ้วรอยและปรับสีผิวรอบดวงตา ทำให้อายแชโดว์ติดทนขึ้น
•   อายแชโดว์: ใช้เพื่อแต้มสีสันให้ดวงตา มีทั้งแบบสีแมตต์ เนื้อครีม และแบบมีกลิตเตอร์หรือชิมเมอร์
•   มาสคาร่า: ช่วยเติมขนตาให้งอนยาวและดูดกหนา
•   อายไลน์เนอร์: ดินสอเขียนขอบตา มีทั้งแบบดินสอและเนื้อเจล

4. ไอเทมสำหรับริมฝีปาก
•   ดินสอเขียนขอบปาก: ช่วยให้ริมฝีปากได้รูป ป้องกันลิปเลอะออกนอกบริเวณที่ต้องการ
•   ลิปสติก: ลิปสติกมีลักษณะเป็นแท่งเนื้อครีม สีที่ทาออกมามีทั้งแบบแมตต์และแบบมันวาว
•   ลิปกลอส ลิปทินต์: ลิปเนื้ออ่อนใส มีความมันวาว

วิธีแต่งหน้า สำหรับมือใหม่ สวยได้ใน 7 ขั้นตอน

1. เตรียมผิวให้พร้อม
ขั้นตอนแรกให้เริ่มจากการเตรียมผิว โดยเริ่มจากล้างหน้าให้สะอาด จากนั้นเช็ดโทนเนอร์และทาครีมตามลำดับปกติที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน การทาครีมเป็นการทำให้ผิวชุ่มชื้น อิ่มฟู ช่วยให้แต่งหน้าง่ายและทำให้เครื่องสำอางติดผิวดีขึ้น
2. ลงไพรเมอร์
หลังจากเตรียมผิวเพิ่มความชุ่มชื้นเรียบร้อยแล้ว เริ่มแต่งหน้าด้วยการทาไพรเมอร์เพื่อเตรียมผิวให้เรียบเนียน โดยเกลี่ยเนื้อไพรเมอร์บาง ๆ ทั่วใบหน้าเพื่อปรับสีผิว เติมเต็มริ้วรอยและรูขุมขน
3. ลงรองพื้นและคอนซีลเลอร์
หลังไพรเมอร์เซ็ตตัว ขั้นต่อไปคือการลงรองพื้นและคอนซีลเลอร์ เราควรเลือกใช้รองพื้นให้เหมาะกับสภาพผิว เช่น หากผิวมันควรใช้รองพื้นเนื้อมูส เนื้อเจล หรือสูตร oil-free ส่วนผิวแห้งควรใช้รองพื้นเนื้อครีมหรือโลชั่นเพื่อให้ผิวชุ่มชื้น การเกลี่ยรองพื้นสามารถทำได้โดยใช้นิ้วเกลี่ยเบา ๆ ให้ทั่วใบหน้า จากนั้นใช้ฟองน้ำชุบน้ำแล้วบิดหมาด ๆ กดเบา ๆ ให้ทั่วเพื่อความเรียบเนียน (อย่าลืมเกลี่ยบริเวณลำคอด้วย) ถ้าใครมีจุดที่ต้องการปกปิดเป็นพิเศษสามารถแต้มคอนซีลเลอร์เพิ่มได้
4. ลงแป้งฝุ่นเพื่อเซ็ตผิว
รอให้รองพื้นเซ็ตตัวสักพัก จากนั้นลงแป้งฝุ่นศรีจันทร์โปร่งแสงให้ทั่วใบหน้าและลำคอเพื่อให้รองพื้นติดทน เป็นธรรมชาติ พร้อมสำหรับการแต่งหน้าขั้นต่อไป
5. เติมสีสันให้ใบหน้า
เริ่มเติมสีสันให้ใบหน้าด้วยการใช้บลัชออน ปัดวนเป็นวงกลมบริเวณโหนกแก้มทั้งสองข้าง ใครต้องการลุคน่ารัก ดูอ่อนวัย และมีลูกเล่น สามารถปัดบลัชออนบริเวณปลายจมูกเพื่อสร้างกิมมิกเก๋ ๆ ได้
6. ลงสีอายแชโดว์
ทาตาโดยเริ่มจากการลงสีเบสให้ทั่วเลือกตา จากนั้นทาสีเข้มขึ้นมา 1 เฉดบริเวณขอบตา ปิดท้ายด้วยการแต้มไฮไลต์สีสว่างหรือกลิตเตอร์ที่หัวตาและกึ่งกลางเปลือกตา
7. ทาลิปให้ปากจึ้ง
ขั้นสุดท้ายคือการทาลิป แล้วอย่าลืมปิดท้ายด้วย สเปรย์น้ำแร่ฉีดหน้า เพื่อล็อกเมกอัปให้ติดทนด้วยล่ะ

5 ไอเทมแนะนำสำหรับมือใหม่หัดแต่งหน้า

1. วาย.โอ.ยู นูทริ แวร์พลัส ฟลอเลส คุชชั่น ฟาวน์เดชั่น SPF40 PA+++
เอาใจมือใหม่หัดแต่งหน้าด้วย คุชชั่น you คุชชั่นเนื้อลิควิดมอบการปกปิดผิวเหนือระดับ เกลี่ยง่าย เหมาะกับมือใหม่ ช่วยเบลอริ้วรอย รูขุมขน พร้อมปกปิดจุดบกพร่องบนใบหน้า นอกจากนี้ คุชชั่น you ยังช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีด้วย SPF 40 PA+++ เป็นไอเทมที่สะดวกสุด ๆ สำหรับมือใหม่เพราะใช้แทนไพรเมอร์และรองพื้นได้เลย ราคา: 359 บาท
2. บีเอสซี ยีนส์ มินิมอล เมคอัพ อายพาเลท
หัดแต่งหน้าทั้งทีต้องมีอายพาเลทโทนสี Everyday Look ติดโต๊ะเครื่องแป้ง ซึ่งพาเลทของ bsc รุ่นนี้ก็ตอบโจทย์ เพราะมีถึง 6 สีให้เลือกแมตช์ ด้วยโทนมินิมอล เรียบง่าย ใช้ได้ทุกวันและทุกโอกาสตามแบบฉบับ bsc เนื้อนุ่มเกลี่ยง่าย ให้สีชัดติดทนเหมาะกับมือใหม่ ราคา: 351 บาท
3. ศรีจันทร์ โรสเซส ออล อราวด์ ฮอตชีค บลัชพาเลท
บลัชออนสีสวยมี 2 โทนสีในตลับเดียว พร้อมเทคโนโลยี Moist Fixation ช่วยให้เม็ดสีติดทน ไม่หลุดร่วงระหว่างวัน ราคา: 250 บาท
4. เรฟลอน ซุปเปอร์ ลัสทรัส ลิปสติก
ลิปสติกเนื้อสีเนียนละเอียด ทาง่าย สัมผัสบางเบาสบายริมฝีปาก พร้อมบำรุงเรียวปากด้วยมอยซ์เจอไรเซอร์ ราคา: 189 บาท
5. เอเวียง สเปรย์น้ำแร่ บำรุงผิวหน้า
สเปรย์น้ำแร่ฉีดหน้า จากน้ำแร่ธรรมชาติเทือกเขาแอลป์ ประเทศฝรั่งเศส พกพาง่าย ใช้ได้ตลอดวัน เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว ละอองสเปรย์เนียนละเอียด ซึมง่าย เติมความสดชื่นให้ผิวได้ทุกเวลา ราคา: 299 บาท

วิธีแต่งหน้า สำหรับมือใหม่มีแนวทางง่าย ๆ ที่สำคัญอย่าลืมเลือกช้อปที่ วัตสันออนไลน์ เพราะสะดวกกว่า มี โปรโมชั่นวัตสัน ให้เลือกเยอะ แถมยังรวมสกินแคร์และเครื่องสำอางแบรนด์ดังให้เลือกแบบจุใจ

13
หากคุณเป็นคอกาแฟที่อยากลิ้มลองรสชาติใหม่ ๆ ให้ความสดชื่นระหว่างวันได้ cold brew คือ ทางเลือกใหม่ที่ทั้งดีต่อสุขภาพ รสชาติกลมกล่อม และได้รับความนิยมมากในตอนนี้! แต่ถ้าคุณยังไม่รู้จักเมนูกาแฟแก้วนี้ เราจะมาแนะนำให้คุณรู้จักกับเมนูนี้มากยิ่งขึ้น

กาแฟ cold brew คือ อะไร? ต่างจากกับ Americano ไหม?
กาแฟ Cold brew หรือ กาแฟสกัดเย็น เป็นเมนูกาแฟที่เลือกใช้เมล็ดกาแฟคั่วหยาบมาชงด้วยน้ำเย็นเพื่อสกัดเอารสชาติความขมและเปรี้ยวของกาแฟออกไป เหมาะสำหรับคอกาแฟมือใหม่และคนที่ไม่ชอบดื่มกาแฟที่มีรสชาติเปรี้ยวและขมที่ทำให้ดื่มยาก รวมถึงเหมาะสำหรับการดื่มเติมความสดชื่นช่วงกลางวัน ซึ่งใครที่ไม่มีเวลาเลือกเมล็ดกาแฟคุณภาพมาผ่านกรรมวิธีในการสกัดเย็น แนะนำ กาแฟแคปซูล Nespresso

ความแตกต่างระหว่าง กาแฟ Cold Brew กับ Americano
ด้วยลักษณะการชงของกาแฟ Cold Brew ใช้น้ำเย็นในการชงจึงแตกต่างจากการชงเมนูกาแฟอเมริกาโนที่ใช้น้ำร้อน ซึ่งรสชาติที่ได้ Cold Brew จะมีความบางเบา ดื่มง่ายแต่ให้ปริมาณคาเฟอีนเพียงพอต่อการเติมเต็มความสดชื่นระหว่างวันไม่แพ้ Americano

ความแตกต่างระหว่าง Cold Brew กับ Nitro Cold Brew
Cold Brew และเมนูกาแฟ Nitro Cold Brew เป็น กาแฟสกัดเย็น เหมือนกันเพียงแต่มีการเพิ่มเทคนิคในการอัดก๊าซไนโตรเจนเข้าไปเพื่อให้ได้เมนูกาแฟสกัดเย็นที่ให้รสชาติเบาสบายดื่มง่ายและสัมผัสกับฟองกาแฟละเอียดเนียนนุ่มที่ช่วยเพิ่มความพิเศษให้กับเมนูกาแฟ Cold Brew ยิ่งขึ้น

พาส่อง 3 ขั้นตอนทำกาแฟโคลด์บริว หรือ กาแฟสกัดเย็น
สำหรับใครที่อยากทดลองทำกาแฟ Cold Brew ด้วยตัวเอง ขอแนะนำให้เลือกเมล็ดกาแฟอารบิกาแบบคั่วกลาง - คั่วเข้ม เพราะจะทำให้เมนูกาแฟ Cold Brew มีรสชาติที่บางเบาดื่มง่ายและยังเหมาะสำหรับผู้ที่ร่างกายไวต่อคาเฟอีนด้วย โดยขั้นตอนในการทำกาแฟ Cold Brew มีดังนี้
1. นำกาแฟบดหยาบที่เตรียมไว้ใส่ลงในแก้วและเทน้ำเย็นใส่ลงไป
2. นำกาแฟที่เตรียมไว้ใส่ในตู้แช่เย็นทิ้งเอาไว้ 12 – 24 ชั่วโมง
3. นำกาแฟสกัดเย็นที่ได้มาดื่มได้เลย
เทคนิคช่วยเพิ่มรสชาติกาแฟแก้วนี้ให้อร่อยกลมกล่อมยิ่งขึ้นควรเลือกน้ำสะอาดที่ผ่านการต้มสุกและนำไปแช่เย็น หรือน้ำแร่จะช่วยเพิ่มรสชาติที่แสนพิเศษยิ่งขึ้น

cold brew คือ กาแฟที่ชงด้วยน้ำเย็นที่ทำให้รสชาติความขมและเปรี้ยวของกาแฟหายไป รวมถึงปริมาณคาเฟอีนน้อย จึงไม่ทำให้ตาค้างแต่ช่วยเติมความสดชื่นระหว่างวันได้ เหมาะสำหรับเป็นเมนูกาแฟแก้วที่ 2 ของวัน โดยคุณสามารถเลือกความสบายในการชงกาแฟ Cold brew ได้ด้วย กาแฟแคปซูล Nespresso Cold Brew Style Intense กลิ่นหอมหวานคาราเมลและซีเรียล

ชมเพิ่มเติมที่
https://www.nespresso.com/th/th/what-is-cold-brew
https://www.nespresso.com/th/th/what-is-cold-brew

14
เมื่อพูดถึงการชงกาแฟให้กลมกล่อม อาชีพที่หลายคนนึกถึงเป็นอาชีพแรกคือ บาริสต้า ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนจะเป็นบาริสต้าได้ ถ้าเช่นนั้น Barista คือใคร แล้วคุณมีสิทธิ์ที่จะเป็นอีกหนึ่งคนได้หรือไม่ เราไปหาคำตอบเรื่องนี้กันได้เลยครับ
บาริสต้าคือ ผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟ โดยไม่เพียงแต่ชงกาแฟได้เท่านั้น แต่ต้องเชี่ยวชาญเรื่องสายพันธุ์กาแฟ การใช้เครื่องชงแต่ละประเภท รวมถึงเมื่อจำเป็นต้องคิด สูตรชงกาแฟ ก็ต้องทำออกมาให้ดีได้ด้วย โดยบาริสต้าต้องเป็นคนที่สามารถ ชงกาแฟให้อร่อย ได้รับกาแฟในคุณภาพที่ดีไม่ต่างกัน เห็นแบบนี้แล้ว การเป็นบาริสต้าอาจฟังดูยาก แต่ไม่ถึงขั้นนั้นหรอกครับ เพราะ Nespresso ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าคนธรรมดาก็ชงกาแฟออกมาดีได้ โดยมีเทคนิค 5 ข้อต่อไปนี้
1. บาริสต้าต้องเข้าถึงรสชาติของกาแฟที่แตกต่างกัน
อย่างที่บอกไปแล้วว่า บาริสต้าคือ ผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟ ซึ่งการจะมีความเชี่ยวชาญเรื่องกาแฟได้นั้น คุณจำเป็นต้องเข้าใจก่อนว่ากาแฟต่างสายพันธุ์และต่างแหล่งที่มา ย่อมให้ทั้งกลิ่นและรสที่แตกต่างกัน หากอยากเริ่มต้นเข้าใจเรื่องนี้ วิธีง่ายที่สุดคือการลองชิมกาแฟจากแคปซูลสูตรต่าง ๆ ของ  Nespresso ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม single Origin (กาแฟจากแหล่งผลิตเดียว) และสูตร blend
2. เข้าใจส่วนผสมของเมนูพื้นฐานทั้งหมด
เมนูกาแฟ เริ่มจากช็อต Espresso ซึ่งถ้าคุณจะเป็นบาริสต้า ก็ต้องเริ่มจากการทำช็อต Espresso ให้ออกมาน่าดื่มทั้งสีสันและเครม่า จากนั้นก็ต้องเข้าใจว่าเมนูพื้นฐานแต่ละเมนูมีส่วนประกอบอะไรบ้าง เช่น Capuccino มีส่วนประกอบของกาแฟ นม และฟองนมในอัตราส่วนเท่ากัน เมื่อผ่านจุดนี้ไปได้ ก็จะถึงเทคนิคข้อที่ 3
3. มีความคิดริเริ่ม เพื่อรังสรรค์ สูตรชงกาแฟ ใหม่ ๆ
เมื่อเข้าใจส่วนผสมในเมนูพื้นฐานแล้ว ขั้นต่อมาคือถ้าจะเป็นบาริสต้า ก็ต้องคิดสูตรใหม่เองได้ด้วยเพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับเมนูกาแฟ และต้องรู้ด้วยว่าเมนูที่คิดขึ้นมาใหม่นั้นเหมาะกับกาแฟสายพันธุ์ไหน ความเข้มของกาแฟควรเป็นระดับเท่าไหร่ และส่วนผสมอื่นต้องใส่ในอัตราส่วนเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ต้องกลัวครับ เพราะการลองผิดลองถูก ช่วยคุณได้ ต่อให้ครั้งแรกทำออกมาไม่ดี ครั้งต่อไปก็จะต้องดีขึ้น เพราะรู้ความผิดพลาดจากครั้งที่ผ่านมา
4. ให้บริการด้วยความเป็นมิตร
ไม่ว่าคุณจะเปิดร้านกาแฟหรือเพียงแค่ชงกาแฟให้คนที่บ้าน หากทำด้วยความเป็นมิตรและจริงใจ คนที่ดื่มกาแฟฝีมือคุณก็จะสัมผัสได้
5. พร้อมรับ FeedBack
ความชอบของผู้คนจัดว่ามีความหลากหลาย เพราะฉะนั้นหากชงกาแฟแล้วลูกค้าไม่ถูกใจ บาริสต้ามืออาชีพก็ต้องพร้อมรับฟังความคิดเห็น และยิ่งไปกว่านั้นคือต้องรู้ว่าจะทำอย่างไรให้ลูกค้ากลับมามีความรู้สึกที่ดีขึ้น ซึ่งความเข้าใจเรื่องกาแฟจากสามเทคนิคแรกรวมกันจะช่วยให้จัดการกับ FeedBack ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่แน่ว่า feedback ในบางครั้งอาจทำให้คุณได้กาแฟเมนูใหม่ที่มีความอร่อยมากขึ้นอีกด้วย
เทคนิคการ ชงกาแฟให้อร่อย ตามแบบของบาริสต้า ที่เรานำมาให้ในวันนี้ ไม่ได้เหมาะเฉพาะกับคนที่ฝันอยากเป็นบาริสต้าในร้านกาแฟเท่านั้น แต่คนที่เพียงแค่ชงกาแฟดื่มเองหรือชงให้คนในบ้านก็สามารถนำไปปรับใช้ได้เช่นกัน และถ้าจะเริ่มเข้าสู่วงการนักชงกาแฟรวมถึงนักชิมกาแฟ เครื่องชงและแคปซูลกาแฟรวมถึงอุปกรณ์เสริมชนิดต่าง ๆ จาก Nespresso คือสิ่งที่เหมาะกับคุณ เพราะจะช่วยให้การชงกาแฟตามแบบฉบับของบาริสต้าทำได้อย่างสมบูรณ์แบบโดยที่คุณก็ทำด้วยตัวเองได้

ชมข้อมูลเพิ่ม
https://www.nespresso.com/th/th/types-of-coffee
https://www.nespresso.com/th/th/types-of-coffee
https://www.nespresso.com/th/th/types-of-coffee
https://www.nespresso.com/th/th/types-of-coffee

15
   กาแฟคือเครื่องดื่มที่ต้องใส่ใจรายละเอียดในทุกขั้นตอนของการชงเพื่อให้ได้รสชาติที่ลง ซึ่งไม่ใช่แค่ สูตรกาแฟสด ของ Nespresso เท่านั้นที่ต้องศึกษาในเรื่องของสายพันธุ์ สถานที่ปลูก การดูแล ซึ่งขั้นตอนสำคัญ คือ ระดับการคั่วกาแฟ ของ Nespresso รวมไปถึงอุณหภูมิ ที่ส่งผลต่อรสชาติของกาแฟโดยตรงและในวันนี้เรากำลังจะพูดถึงช็อตกาแฟ 3 แบบ มีรสชาติเข้มข้น เพื่อให้ได้ลิ้มลองอย่างเต็มอรรถรส เราไปศึกษาพร้อม ๆ กันถึงความต่างที่ว่ากัน
1.   longblack หรือ สูตรอเมริกาโน่ ของ Nespresso คือ รูปแบบการชงกาแฟด้วยการเทผสมระหว่าง espresso 1 shot ในอัตราส่วนของ espresso shot และน้ำร้อน เป็น 1:2 , 1:3 หรือ 1:4 เลือกได้ตามใจชอบ ในเรื่องของอรรถรสมีกลิ่นหอมเมล็ดกาแฟคั่ว longblack คือ มีความ Crema หรือฟองจาง ๆ ในถ้วยกาแฟ ของ Nespresso ไม่หนามากจากกรรมวิธีที่ผ่านเครื่องเอสเพรสโซ่ ด้วยการคั่วน้อย สิ่งนี้เองที่ทำให้กาแฟมีความกลมกล่อมลงตัว
2.   ristretto คือ กาแฟที่มีรสชาติสดชื่น ความเข้มข้นน้อย กรรมวิธีจะใช้เครื่องสกัดช๊อตในอัตราส่วน 1:1 หรือน้ำหนักกาแฟ 8-10 กรัม จากนั้นสกัดน้ำกาแฟออกมา 22 ml ใช้เวลาภายใน 20-30 วินาที ปล่อยให้น้ำร้อนค่อย ๆ ไหลผ่านผงกาแฟช้า ๆ ซึ่งขั้นตอนนี้จะช่วยให้ได้รสชาติที่เข้มข้น มีกลิ่นหอมของเมล็ดกาแฟคั่ว เรียกได้ว่า ristretto คือ สายกลางของคอคอฟฟี่
3.   lungo คือ เมนูโปรดของคอกาแฟที่ชื่นชอบความเข้มข้นไร้การปรุงแต่งหรือเรียกสั้น ๆ ว่ากาแฟดำ ใช้กรรมวิธีการสกัดน้ำกาแฟด้วยเครื่องเอสเพรสโซลากช็อตกาแฟให้ยาวได้ปริมาณ 90 ml ถือเป็นสุดยอดกาแฟที่มีรสชาติความเข้มข้นมาก ๆ กว่าทั้ง 2 แบบแรกที่เรากล่าวมา โดยกรรมวิธีการทำ lungo คือ ทำ espresso shot ปล่อยให้น้ำไหลผ่านรอจนได้น้ำกาแฟปริมาณ 3-4 ออนซ์ รสชาติที่ได้จะมีความเข้ม ขมและฝาด ใครที่เป็นคอกาแฟตัวจริงหรือชอบลองอะไรใหม่ ๆ เชื่อว่าต้องประทับใจ ถือเป็นการเปิดใจเพื่อเข้าสู่โลกของกาแฟอย่างแท้จริง นอกจากนี้ในชื่อเรียก lungo หรือ่านว่า ลุงโก้ มาจากภาษาอิตาลีที่แปลว่า ยาว (long) ซึ่งความหมายของชื่อก็สัมพันธ์กับกรรมวิธีการทำที่ต้องใช้เวลามากกว่าวิธีอื่น ๆ

เห็นได้ว่าทั้ง 3 รูปแบบมีความแตกต่างกันในเรื่องกรรมวิธี ระยะเวลา ทำให้ได้รสชาติที่แตกต่างกัน สำหรับใครที่ชื่นชอบการจิบกาแฟแบบเข้ม ๆ แนะนำ lungo มีปริมาณเอสเพรสโซ่มากที่สุด ถ้าใครชอบความเข้มน้อย สามารถเลือกดื่ม ristretto และ LongBlack มาพร้อมกลิ่นหอมของกาแฟ รสชาติกลมกล่อม หรือถ้าใครอยากได้ กาแฟเปรี้ยว สามารถเลือกระดับการคั่วเอง ยิ่งคั่วน้อยกาแฟยิ่งมีความเปรี้ยวนั้นเอง และนี่ก็คือ 3 กรรมวิธีชงกาแฟที่ดึงวัตถุดิบจากเมล็ดกาแฟได้ดี และยังคงเสน่ห์ ถือเป็นศาสตร์การดื่มกาแฟที่น่าหลงใหล

16
เมื่อไหร่ที่รู้ตัวว่าเป็นแผล เพื่อไม่ให้มีรอยแผลเป็นเหลือทิ้งไว้บนผิวควรมองหาตัวช่วยในการสมานแผล 10 ยาทาลดรอยแผลเป็น ยอดนิยมที่ช่วยทำให้แผลเป็นทุกชนิดแลดูจางลง ไม่เว้นแม้แต่แผลเป็นจากสิว จะมียาทาลดรอยแผลเป็นแบบไหนน่าสนใจบ้างนั้น ลองดูในลิสต์นี้ได้เลย
1.   Plantnery Bio Advance Target Scar Gel
เจลลดรอยแผลพร้อมสารสกัดจาก dragonblood หรือต้นเลือดมังกรอเมซอนความเข้มข้นสูงถึง 5.4% สามารถช่วยปรับสีเข้ม ๆ ของรอยแผลเป็นให้จางลงและดูกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมนวัตกรรมเจลฟิล์มออกแบบพิเศษเพื่อเคลือบและเกาะผิวได้ยาวนานกว่าเจลลดรอยแผลเป็นทั่วไป ทั้งยังกันน้ำและทนเหงื่ออีกด้วย
2.   Hiruscar Post Acne
สำหรับใครที่กังวลปัญหารอยแผลเป็นจากสิว ทั้งรอยดำ รอยแดง หรือแม้แต่รอยหลุมสิวตื้น ๆ ที่ทำให้ผิวหน้าไม่เรียบเนียน แนะนำ Hiruscar หลอดนี้เลย ที่มาในรูปแบบของเจลกลิ่นหอมอ่อน ๆ ทาแล้วซึมซาบสู่ผิวรวดเร็ว อัดแน่นไปด้วยสารสกัดจากหัวหอมเข้มข้นกว่า 34 เท่า พร้อมด้วย MPS สามารถช่วยดูแลปัญหาสิวไปในตัวได้อีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้นยังสามารถปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนและกระจ่างใสกว่าเดิม
3.   Dermatix Ultra Gel
ยาทาลดรอยแผลเป็นจาก dermatix ตัวท็อปสุดฮิตที่สามารถช่วยรักษารอยแผลเป็นได้หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นแผลเป็นชนิดไฮเปอร์โทรฟิก คีลอยด์ หรือแผลเป็นนูน รวมไปถึงรอยแผลเป็นจากเหตุน้ำร้อนลวกและไฟไหม้ก็สามารถช่วยทำให้ดูจางลงได้ ด้วยคุณสมบัติของ CPX ผสานการทำงานร่วมกับ Vitamin C Eater ในส่วนของเนื้อเจลเกลี่ยง่าย ใช้งานแล้วไม่เหนอะหนะผิว
4.   Dermatix Acne Scar
อีกหนึ่งยาทาลดเลือนรอยแผลเป็นจาก dermatix แต่จะเป็นสูตรที่ออกแบบมาเพื่อลดเลือนรอยแดง รอยดำ หรือรอยแผลเป็นจากสิวโดยเฉพาะ ซึ่งโดดเด่นทั้งนวัตกรรม CPX Technology และสารสกัดเมือกหอยทาก สามารถช่วยสมานแผลตามธรรมชาติของผิวไปพร้อม ๆ กับปรับสภาพรอยแผลเป็นให้แลดูจางลง เผยผิวที่กระจ่างใสมากกว่าเก่า
5.   Acne-Aid Gel Scare Care
สำหรับใครที่เป็นสิวแล้วทิ้งรอยแผลเป็นจากสิวกวนใจไว้ แนะนำให้เลือกใช้เจลใสสูตรเข้มข้นลดรอยสิว ลดรอยแผลเป็นจาก Acne-Aid หลอดนี้เลย ที่อัดแน่นไปด้วยน้ำมันจากธรรมชาตินานาชนิด ทั้งน้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน ทีทรีออยล์ น้ำมันมะกอก และว่านหางจระเข้ ที่สามารถช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ปรับสภาพรอยแผลเป็นให้ดูจางลงมากยิ่งขึ้นได้ภายใน 5 วัน
6.   Puricas Plus Advanced Dragon's Blood C & E Scar Gel
ยาทาลดเลือนรอยแผลเป็นที่มีส่วนผสมของ dragonblood แต่สำหรับสูตรนี้จะเป็นสูตร Advanced ที่บอกเลยว่ามีความเข้มข้นสูง ผสานการทำงานร่วมกับอนุพันธุ์วิตามิน C และ E สามารถช่วยลดเลือนรอยแผลเป็นทั้งใหม่และเก่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ แนะนำทาทันทีก่อนที่แผลจะตกสะเก็ด จะช่วยลดโอกาสการเกิดรอยแผลเป็นนูนหรือคีลอยด์ได้
7.   Smooth E Acne Scar Serum
หลายคนน่าจะคุ้นเคยกับสมูทอีครีมกันเป็นอย่างดี แต่สำหรับ Smooth E Acne Scar Serum นี้ออกแบบมาเพื่อดูแลแผลเป็นที่เกิดจากสิวโดยเฉพาะ สามารถช่วยสมานแผลที่เกิดจากสิวให้หายเร็วขึ้น ป้องกันการเกิดหลุมสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยอัดแน่นไปด้วยมอยส์เจอไรเซอร์เข้มข้นถึง 3 ชนิด ทั้งว่านหางจระเข้ วิตามิน E และโซเดียมไฮยาลูรอเนต รวมถึงผสานเข้ากับเทคโนโลยีเปปไทด์ช่วยให้แผลเป็นเหล่านั้นอ่อนตัวและเรียบเนียนไปกับผิวมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
8.   Klean & Kare Scar & Spot Gel
ยาทาลดรอยแผลเป็นจากสิวที่มาพร้อมกับนวัตกรรม Bright Drone ผสานเข้ากับวิตามิน B3 และ Rainbow Algae ช่วยปรับสภาพผิวที่มีปัญหารอยแดง รอยดำ หรือรอยแผลเป็นจากสิวให้แลดูจางลง และเพิ่มความกระจ่างใสให้แก่ผิวได้อย่างเป็นธรรมชาติ ทั้งยังอ่อนโยนต่อผิว ผิวบอบบางแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้ไร้กังวล
9.   Uderma Bio Scar Care Gel
เจลลดรอยแผลเป็นที่ผสานการทำงานของ sH-Oligopeptide-1 พร้อมด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ อย่างหัวหอมแดง ใบบัวบก อลันโทอิน และโซเดียมไฮยาลูรอเนต มีคุณสมบัติช่วยปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่ม รอยแผลเป็นต่าง ๆ แลดูจางลง เคลียร์ทุกรอยแผลเป็นกวนใจ
10.   Stratamed Advanced Film-Forming Wound Scar Silicon Gel
stratamed ซิลิโคนเจล 100% จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่ได้รับการยอมรับจากแพทย์ทั่วโลกว่าสามารถช่วยสมานแผลและลดเลือนรอยแผลเป็นต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นแผลเปิด แผลศัลยกรรม แผลอุบัติเหตุ ตลอดจนแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก stratamed หลอดสีฟ้านี้ก็เอาอยู่

ทั้งหมดนี้ก็เป็น ยาทาแผลเป็น ที่ช่วยลดเลือนรอยแผลเป็นได้ทุกรูปแบบ รวมไปถึงแผลเป็นจากสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฉะนั้นแล้วถ้าใครที่กำลังเผชิญกับรอยแผลเป็นอยู่ สามารถเข้ามาเลือกช้อปยาทาลดรอยแผลเป็นได้ที่ วัตสันออนไลน์ มีให้เลือกหลายยี่ห้อและมี โปรโมชั่นวัตสัน สุดคุ้มรออยู่

17
กาแฟคือเมนูที่มีการประยุกต์ให้มีหลากหลายรูปแบบมากขึ้น ซึ่งหนึ่งในกาแฟยอดฮิตตลอดกาล ต้องมีชื่อของ กาแฟ cappuccino ของ Nespresso  อยู่ในนั้นด้วย เพราะรสชาติของกาแฟคาปูชิโน่นั้นเป็นการผสมผสานกันของความเข้มข้นและความละมุนในแก้วเดียว วันนี้เลยมีสูตรชง คาปูชิโน่ หลากหลายรูปแบบมาให้ลองทำกัน
1. สูตร คาปูชิโน่ร้อน รสชาติละมุนที่จะมาแก้ง่วงในช่วงบ่ายได้ดีเลยทีเดียว
ส่วนผสม
- กาแฟดำ 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำร้อน 2 ช้อนโต๊ะ
- นมไขมันต่ำ 190 มล.
- ผงซินนาม่อน หรือ ผงโกโก้
วิธีทำ
1. ชงกาแฟกับน้ำร้อน คนให้เข้ากัน
2. เทกาแฟใส่แก้ว ตามด้วยนมอุ่น
3. ตีฟองนมด้วยเครื่องตีฟองนม ของ Nespresso ให้ฟองขึ้นหนา
4. จากนั้นนำฟองนมเทราดลงไปในแก้วกาแฟ
ผงซินนาม่อน หรือผงโกโก้ ก็จะได้ คาปูชิโน่ร้อน  รสนุ่มละมุนลิ้นไว้ดื่ม

2. สูตรคาปูชิโน่พิตาชิโอ เพิ่มลูกเล่นความหอมมันด้วยถั่วพิตาชิโอ
ส่วนผสม
- กาแฟดำ 2 ช้อนชา
- นมพิตาชิโอร้อน 150 มล.
- ทีรามิสุไซรับ 10 มล.
- ฟองนมพิตาชิโอ 3 ช้อนโต๊ะ
- พิตาชิโอบด 3 ช้อนชา
วิธีทำ
1. เทนมพิตาชิโอใส่แก้ว แล้วตีฟองให้หนานุ่ม พักไว้ก่อน
2. ผสมกาแฟกับนมพิตาชิโอร้อนให้เข้ากัน เต็มทีรามิสุไซรับตามที่ต้องการ
3. ตักฟองนมพิตาชิโอที่ตีไว้ นำมาราดลงในแก้วกาแฟ
4. โรยหน้าด้วยถั่วพิตาชิโอบด พร้อมดื่ม

3. สูตรคาปูชิโน่เย็น  เมนูที่ 3 เสิร์ฟแบบเย็นให้คลายหายร้อนกันบ้าง
ส่วนผสม
- กาแฟเอสเพรโซ่ช็อต 70 มล.
- นมข้นจืด 30 มล.
- น้ำตาลทราย 3 ช้อนชา
- นมจืดสำหรับชง 100 มล.
- นมจืดสำหรับตีฟอง 200 มล.
- ผงซินนาม่อน หรือ ผงโกโก้
- น้ำแข็ง
วิธีทำ
1. เตรียมเอสแพรสโซ่ช็อตใส่แก้ว เติมน้ำตาลลงไป
2. ใส่นมข้นจืด และนมจืดตามลงไป คนให้เข้ากัน
3. ตีฟองน้ำนมในภาชนะให้ขึ้นฟองตามที่ต้องการ
4. ตักน้ำแข็งใส่แก้ว เทส่วนผสมกาแฟที่ชงไว้แล้วตามลงไป
5. ราดหน้าด้วยฟองนม
6. โรยหน้าด้วยผงซินนาม่อน หรือ ผงโกโก้ ตามใจชอบ เพียงเท่านี้ก็จะได้ สูตรคาปูชิโน่เย็น specialtycoffee ของ Nespresso รสชาติกลมกล่อม

กาแฟคาปูชิโน่ 3 แบบ มีสีสันมากขึ้น ทำง่ายทำเองก็ได้ที่บ้านก็ได้ สะดวกสบายและอร่อยเองได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องง้อร้านกาแฟเลยล่ะ

18
ถึงแม้การระวังการแพร่ระบาดของโควิดจะถูกให้ความสำคัญน้อยลง แต่หลาย ๆ คนยังเคยชินกับการใส่หน้ากากอนามัย และหมั่นล้างมือเพื่อลดความเสี่ยงให้มากที่สุด วันนี้เรามีไอเทมสุดปัง 5 ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยแอนตี้แบคทีเรีย พร้อมโปรเด็ด ๆ ในวัตสันมาแนะนำ

1.   เดทตอล ผ้าเช็ดทำความสะอาดผิวแบบเปียก
ทิชชู่เปียกเดทตอล สูตรแอนตี้แบคทีเรีย ช่วยยับยั้งเชื้อโรคได้สูงถึง 99.9% เนื้อผ้านุ่มละเอียด ทำความสะอาดได้อย่างหมดจด กลิ่นหอมสะอาด และทำให้ผิวเนียนนุ่มสะอาดอย่างมีสุขอนามัยดี แถมยังใช้เช็ดสิ่งของต่าง ๆ อย่างกุญแจ ลูกบิดประตู หรือราวบันไดได้อีกด้วย ขนาด 50 แผ่น ราคา 125 บาท
2.   บีไวลด์ เจนเทิล คลีน ไวพ์
ผลิตภัณฑ์ ทิชชู่เปียกแอลกอฮอล์ 75% ช่วยลดการสะสมเชื้อโรคและแบคทีเรียได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญปราศจากน้ำหอมและพาราเบน ไม่ก่อให้เกิดการแพ้ระคายเคืองผิว นอกจากนั้นยังมี Hyaluronic Acid คาโมมายล์ และอโลเวร่า ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว จำนวน 10 ชิ้น ราคาเพียง 34 บาท
3.   ก๊กเลี้ยง แฮนด์ แซนิไทเซอร์
ผลิตภัณฑ์ เจลล้างมือ แอลกอฮอล์ 70% มาพร้อมกับสารสกัดจากสมุนไพรนานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันมะพร้าว ชาเขียว อโลเวร่า และวิตามินอี ที่นอกจากจะช่วยยับยั้งแบคทีเรียและทำความสะอาดมือให้สะอาดหมดจดแล้วยังไม่ทำให้มือแห้ง ใช้แล้วไม่ก่อให้เกิดการแสบแดง เหมาะกับทุกคนในครอบครัว ขนาด 100 มิลลิลิตร ราคา 75 บาท ขณะนี้วัตสันจัดโปร 1 แถม 1 อยู่ คุ้มมาก ๆ
4.   เดทตอล โฟมล้างมือ
สบู่เหลวล้างมือสูตรวิปโฟมจาก เดทตอล โฟมนุ่มละเอียด ทำความสะอาดและกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้อย่างหมดจด มือหอมสะอาดไม่แห้งกร้าน ผสานด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว แถมยังช่วยลดแบคทีเรียได้มากถึง 99.9% ขนาด 250 มิลลิลิตร ราคาเพียง 87 บาท
5.   น้ำยาฆ่าเชื้อโรคเดทตอล (Antiseptic Liquid)
ผลิตภัณฑ์น้ำยาฆ่าเชื้อโรคสูตร เดทตอลมงกุฎ เพราะตรงฉลากจะมีรูปมงกุฎติดอยู่ เพื่อแสดงให้เห็นว่าใช้กับร่างกายโดยไม่ก่อให้เกิดอันตราย สามารถใช้ล้างแผล ผสมน้ำอาบ หรือใช้สระผม เพื่อทำความสะอาดร่างกายจากเชื้อโรคและแบคทีเรีย ซึ่งประสิทธิภาพสูงถึง 99.9% ในการยับยั้งการสะสมของแบคทีเรีย ที่สำคัญยังมีหลากขนาดหลายราคาให้เลือกอีกด้วย

ทั้ง 5 ผลิตภัณฑ์รวมถึงสินค้ามากมายสบู่ล้างมือ แบรนด์คิเรอิ หาซื้อติดบ้านกันด่วน ๆ โดยสามารถเข้าไปช้อปกันง่าย ๆ ได้ที่ วัตสันออนไลน์ พร้อมรับโปรโมชันพิเศษ  เช่น วัตสันชิ้นที่ 2 1 บาท หรือซื้อ 1 แถม 1 ได้

19
   การ เช็คดวง ชะตานับเป็นวิธีการที่ใครหลาย ๆ คนนิยมกัน เพราะช่วยให้สามารถรับมือกับปัญหาต่าง ๆ ได้ดีมากยิ่งขึ้น หรือหากในช่วงนั้นมีเกณฑ์ที่ดีในด้านใดก็ตาม ทั้งการเงิน โชคลาภ หรือความรัก ก็จะได้กำหนดแนวทางปฏิบัติตัวอย่างถูกต้องและเหมาะสม จนสามารถเพิ่มพูนโอกาสและสิ่งดี ๆ ให้เข้ามาในชีวิตได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย ซึ่งในปัจจุบันสามารถ ดูดวงรายเดือน ผ่านทางเว็บไซต์มากมายก็ทำให้สะดวกมากขึ้น โดยเว็บไซต์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความแม่นยำตามที่จะแนะนำต่อไปนี้ ขอแนะนำเลยว่าสายมูที่ชอบดูดวงไม่ควรพลาด
1.   DEK-D เว็บไซต์ที่มีชื่อเสียงเรื่องคอนเทนต์ที่สนุกสนาน โดยเฉพาะในหมู่เด็ก ๆ วัยรุ่น เรียกว่าเกือบทุกคนล้วนเคยเข้าไปอ่านเนื้อหาในเว็บไซต์นี้กันมาแล้วทั้งนั้น และขอบอกเลยว่าในส่วนของการดูดวง เว็บไซต์นี้ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กันเลย โดยจะเป็นการตรวจดวงชะตาตามราศีเกิดทั้งแบบรายวัน รายเดือน และรายสัปดาห์อีกด้วย
2.   Sanook เป็นเว็บไซต์ที่มี Category เนื้อหาต่าง ๆ ให้อ่านมากมาย รวมถึงการดูดวงด้วย นับเป็นเว็บไซต์ของไทยที่ให้บริการมานานแล้ว เหมาะสำหรับสายมูเป็นอย่างมาก ด้วยเนื้อหาการดูดวงแบบจัดเต็ม ทั้งการดูดวงรายวัน การดูดวงรายสัปดาห์ การดูดวงรายปักษ์ การ ดูดวงรายเดือน หรือการดูดวงรายปี รวมถึงการตรวจกราฟชีวิต และดวงชะตาด้วยไพ่ยิปซี ที่รับประกันความแม่นยำไว้คอยให้บริการอย่างครบครัน
3.   watson online และ เพจของ หมอช้าง ทศพร ศรีตุลา อีกหนึ่งช่องทางที่ผู้คนนิยมมาใช้บริการ ดูดวงหมอช้าง หมอดูดวงที่มีชื่อเสียง การันตีด้วยผู้ติดตามที่มีมากกว่า 2 ล้านคน ซึ่งทางเพจจะมีการอัปเดตเรื่องราวที่น่าสนใจอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นดวงชะตาของแต่ละราศีแบบรายเดือน หรือข้อควรระวัง และโอกาสของเจ้าชะตาในเดือนต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ หรือจะติดตามผ่านทาง watson online ก็สะดวกเช่นกัน เพราะเป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมคำทำนายของหมอช้างมาให้ผู้สนใจได้อ่านกันอย่างสม่ำเสมอ
4.   หมอดูแม่เล่า เป็นเพจที่ให้บริการเช็กดวงแบบจัดเต็มและยังมีเอกลักษณ์เพราะใช้ภาษาอีสานเป็นหลัก ด้วยภาษาที่สนุกสนาน ทำให้ได้ทั้งสาระและความสนุกสนานมากมาย พร้อมข้อแนะนำเพื่อเสริมดวงชะตาต่าง ๆ อย่างสีมงคลที่ควรใช้ในสไตล์จัดจ้านไม่เหมือนใคร หรือบทสวดมนต์เพื่อแก้กรรม ทำให้ผ่านพ้นอุปสรรคต่าง ๆ ไปได้ นอกจากนี้ยังรับบริการดูดวงเป็นรายบุคคลอีกด้วย
5.   meemodel เป็นอีกเว็บไซต์ที่ให้บริการดูดวงที่ได้รับความนิยมมาก มีรูปแบบการดูดวงให้เลือกอย่างหลากหลาย ทั้งศาสตร์โหราศาสตร์แบบไทย ๆ (สามารถดูดวงบ้านดวงเมืองได้) การทำนายความฝัน ด้วยเลข 7 ตัว 9 ฐาน หรือการดูดวงไพ่ยิปซี และการใช้หลักนามศาสตร์ หรือเลขศาสตร์ เพื่อเช็กเบอร์โทรศัพท์และเบอร์บ้านที่เป็นมงคล เรียกว่าหลากหลายครบทุกด้านที่สายมูสนใจเลยทีเดียว
   นอกจากการเช็กดวงในด้านต่าง ๆ แล้ว ด้านการเงินก็สามารถเริ่มประหยัดได้ทันทีด้วยการเลือกของดีในราคาที่ถูกลง อย่างเช่นที่ วัตสันออนไลน์ที่มีโปรโมชั่นจัดเต็มมาให้เลือกแบบคุ้ม ๆ ทั้งโปร วัตสัน 1 แถม 1  และโปร ชิ้นที่ 2 1 บาท ทำให้ใช้เงินได้อย่างคุ้มค่า ได้สินค้าคุณภาพดีไปใช้และยังเหลือเงินในกระเป๋ามากขึ้น

20
บาริสต้าคือ ผู้ที่มีความรอบรู้เรื่องกาแฟเป็นอย่างดีตั้งแต่สายพันธุ์กาแฟ วิธีคั่ว รวมไปถึงการปรุงและชงกาแฟทุกรูปแบบ อธิบายง่าย ๆ  ก็คือผู้เชี่ยวชาญรอบด้านในเรื่องกาแฟนั่นเอง ซึ่งในการชงกาแฟมีหลายวิธีการหลายสูตรรอให้ลิ้มลอง

5 สูตรกาแฟ ของ Nespresso ที่สามารถ ชงกาแฟให้อร่อย ด้วยตัวเองได้

1. อเมริกาโน่เชค ลิ้นจี่โซดา (กาแฟดำ 1 ซอง + น้ำเย็น 20 มล. + น้ำเชื่อมกลิ่นลิ้นจี่ 30 มล. + โซดา 90 มล. + เกล็ดน้ำแข็งบิงซู 1 แก้ว)
วิธีทำ
1. ชงกาแฟกับน้ำเย็น คนให้ละลาย พักไว้
2. เทน้ำเชื่อมกลิ่นจี่ลงแก้วเสิร์ฟ ตามด้วยโซดา คนให้เข้ากัน
3. จากนั้นเทน้ำแข็งบิงซูลงแก้วเสิร์ฟ ตามด้วยกาแฟที่ชงไว้ ก็จะได้ลิ้มรสจาก สูตรชงกาแฟ ของ Nespresso  อร่อย ๆ  แบบบาริสต้ามาเอง
2. ฮันนี่ คอฟฟี่ เชค (กาแฟดำ 1 ซอง + น้ำร้อน 90 มล. + น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ + น้ำแข็ง + ชิ้นส้มสำหรับตกแต่ง)
วิธีทำ
1. ใส่น้ำร้อนลงกระบอกเชค
2. เทผงกาแฟลงไป ตามด้วยน้ำผึ้ง
3. ปิดฝากระบอกเชค แล้วเขย่าให้เข้ากัน
4. เทลงแก้วที่ใส่น้ำแข็งเตรียมไว้
5. บิดชิ้นส้มให้กลิ่นหอมลงไปที่กาแฟ แล้วตกแต่งไว้ที่ปากแก้ว ถือเป็นการ ชงกาแฟให้อร่อย ด้วยกลิ่นหอมสดชื่นของส้ม

3. กาแฟเย็นเวียดนาม (ผงกาแฟ 1 ช้อนชา + น้ำร้อน 100 มล.+ นมข้นหวาน 1 ช้อนโต๊ะ + น้ำแข็ง)
วิธีทำ
1. ผสมผงกาแฟกับน้ำร้อนลงในแก้ว คนให้ละลายเข้ากัน
2. เติมนมข้นหวานลงไป คนให้เข้ากัน
3. เตรียมน้ำแข็งใส่แก้ว เทกาแฟที่ชงแล้วตามลงไป เพียงเท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟกาแฟเย็น ของ Nespresso

4. ไวท์มอลล์ คอฟฟี่ เชค (กาแฟดำ 1 ซอง + น้ำร้อน 40 มล. + นมยูเอชทีผสมอัลมอนด์ 60 มล. + น้ำแข็ง)
วิธีทำ
1. เติมน้ำร้อนลงในกระบอกเชค ใส่ผงกาแฟตามลงไป
2. ใส่น้ำแข็ง ปิดฝากระบอก แล้วเชค ๆ  เขย่าให้เข้ากัน
3. เติมนมยูเอชทีผสมอัลมอนด์ ลงไปในกระบอก ปิดฝาแล้วเขย่าให้เข้ากันอีกครั้ง
4. เตรียมน้ำแข็งใส่แก้ว จากนั้นเทกาแฟที่ผสมแล้วลงแก้ว พร้อมดื่มอร่อยหวานมัน

5. เอสเปรสโซ (ผงกาแฟ 7-9 กรัม + น้ำร้อน 1 ออนซ์)
วิธีทำ
1. ตวงผงกาแฟตามปริมาณที่ต้องการ กดกาแฟให้แน่น
2. นำด้ามอัดเข้าเครื่องชงกาแฟ
3. กดปุ่มชง กดน้ำให้ได้ปริมาณ 1 ออนซ์ ก็จะได้เอสเปรสโซร้อน ๆ  แบบมืออาชีพ


บาริสต้าคือ ผู้ที่รังสรรค์กาแฟออกมาได้อร่อยตามแบบฉบับผู้เชี่ยวชาญการจะ ชงกาแฟให้อร่อย ขั้นเทพแบบบาริสต้าได้นั้น คงต้องใช้เวลาฝึกฝนเรียนรู้ ถ้าอยากลองก็สามารถเริ่มต้นทำตาม สูตรชงกาแฟสด ของ Nespresso  ในบทความนี้ เพื่อฝึกฝนฝีมือในขั้นแรกกันได้เลย

21
การดื่มกาแฟเย็นเป็นที่นิยมในประเทศไทยเพราะอากาศที่ร้อนตลอดทั้งปี กาแฟเย็นจะช่วยดับร้อนแล้วยังเพิ่มความสดชื่น ดังนั้น สูตรกาแฟเย็น จึงเป็นที่นิยมมาก เพราะช่วยเติมความสดชื่นระหว่างวันที่อากาศร้อนอบอ้าวพร้อมกระตุ้นการทำงานของสมองได้เป็นอย่าง โดยวันนี้เรามีวิธีชงกาแฟสดให้อร่อยด้วยเครื่องชงกาแฟอัตโนมัติมาฝาก
5 สูตรชงกาแฟเย็น ชงขายดี ชงดื่มเองก็อร่อย
1. เอสเพลสโซ่เย็น (Espresso On Ice)
เมนูที่ทำให้คอกาแฟสัมผัสกับรสชาติเข้มข้นของกาแฟได้ดีที่สุด ชงง่ายส่วนผสมไม่เยอะ
ส่วนผสม
-   กาแฟ
-   น้ำร้อน ปริมาณ 40 มล.
-   น้ำแข็ง
วิธีทำ
เริ่มต้นด้วยการใส่กาแฟผสมกับน้ำร้อนคนให้เข้ากันและเทลงในแก้วเสิร์ฟที่ใส่น้ำแข็งเอาไว้ พร้อมเสิร์ฟ
2. อเมริกาโน่เย็น (Ice Amaricano)
เมนูกาแฟยอดฮิตตลอดกาลเหมาะสำหรับคนรักสุขภาพและอยากเติมเต็มความสดชื่นระหว่างวัน
ส่วนผสม
-   กาแฟ
-   น้ำร้อน ปริมาณ 40 มล.
-   น้ำเย็น ปริมาณ 60 มล.
-   น้ำแข็ง
วิธีทำ
 ชงกาแฟและน้ำร้อนคนให้เข้ากันเทลงในแก้วเสิร์ฟใส่น้ำแข็งตามด้วยน้ำเย็นเป็นอันเสร็จเรียบร้อย
3. กาแฟสกัดเย็น โคลด์บริว
หากคุณเป็นคอกาแฟที่ไม่ชอบรสชาติความขมและเปรี้ยวของกาแฟ เมนูกาแฟนี้จะทำให้คุณได้สัมผัสกับความสดชื่นของเมนูกาแฟที่คุณต้องการได้
ส่วนผสม
-   กาแฟสกัดเย็น
-   น้ำร้อน ปริมาณ 40 มล.
-   น้ำเย็น ปริมาณ 60 มล.
-   น้ำแข็ง
วิธีทำ
 โดยวิธีการทำกาแฟสกัดเย็นพร้อมชงมาผสมกับน้ำร้อนเทใส่แก้วเสิร์ฟที่ใส่น้ำแข็งและตามด้วยน้ำเย็น หรือเลือก Cold Brew Style Intense 1 แคปซูลมาสกัดกาแฟลงในแก้วตามด้วยน้ำแข็งพร้อมเสิร์ฟ
4. สูตรเมนูลาเต้เย็น (Ice Latte)
ใครที่ชอบความนุ่มละมุนหรือเพิ่งหัดดื่มกาแฟขอแนะนำเมนูลาเต้ เพราะรสชาติหอมหวานละมุนลิ้นดื่มง่ายแต่ให้ความสดชื่นไม่แพ้เมนูอื่น
ส่วนผสม
-   กาแฟ
-   น้ำร้อน ปริมาณ 40 มล.
-   น้ำตาลหรือไซรัปตามชอบ
-   นมสด ปริมาณ 30 มล.
-   นมสดสำหรับทำฟองนม
-   น้ำแข็ง
วิธีทำ
เริ่มต้นชงกาแฟลาเต้ ด้วยการชงกาแฟกับน้ำร้อนเติมความหวานตามต้องการผสมกับนมสดและเทลงในแก้วน้ำแข็งตามด้วยฟองนมบาง ๆ
5. ไวท์ มอคค่า (White Mocca)
เตรียมความอร่อยให้กับคนรักกาแฟที่อยากได้เมนูกาแฟดื่มง่าย สดชื่นและให้รสชาติหวานหอมช็อกโกแลต
ส่วนผสม
-   กาแฟ
-   น้ำร้อน ปริมาณ 40 มล.
-   น้ำตาลหรือไซรัปตามชอบ
-   นมสด ปริมาณ 50 มล.
-   น้ำแข็ง
-   ซอสไวท์ช็อกโกแลต
-   วิปปิ้งครีม
วิธีทำ
ใส่ซอสไวท์ช็อกโกแลตลงในแก้วที่จะเสิร์ฟตามด้วยนมสดแช่เย็นและน้ำแข็ง จากนั้นใส่กาแฟที่ชงกับน้ำร้อนและเติมความหวานตามต้องการตามลงไปและปิดท้ายด้วยวิปปิ้งครีมเพิ่มความหวานมัน

สูตรกาแฟเย็น เหล่านี้เป็นเมนูกาแฟยอดนิยม รสชาติอร่อยและตอบโจทย์คอกาแฟที่อยากเติมความสดชื่นด้วยตัวเองที่บ้าน

ชมเพิ่มเติมที่
https://www.nespresso.com/th/th/nespresso-iced-coffee
https://www.nespresso.com/th/th/nespresso-iced-coffee
https://www.nespresso.com/th/th/nespresso-iced-coffee
https://www.nespresso.com/th/th/nespresso-iced-coffee

22
   เคยไหมที่อยากจะลองชงกาแฟดื่มเองที่บ้านเพราะอยากประหยัดค่ากาแฟร้านข้างนอก โดยปัจจุบันนี้ทุกคนเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ง่าย สูตรจึงมีอยู่ทั่วไป โดยวันนี้เรามี 5 สูตรที่มีรสชาติใกล้เคียงบาริสต้าชงเอง ฉะนั้นหากอยากรู้ว่าแต่ละสูตรใส่อะไรในสัดส่วนเท่าไหร่บ้าง ต้องติดตามไปพร้อมกัน

สูตรที่ 1 คาปูชิโน่ เมนูกาแฟที่มีนมในสัดส่วนที่เท่า ๆ กับกาแฟ พร้อมฟองนมออนท็อป เพิ่มความละมุนที่สัมผัสริมฝีปาก บวกกับกลิ่นหอมของกาแฟที่ชัดเจนยังคงอรรถรสของการดื่มได้ดี ใครที่ชอบดื่มกาแฟที่มีความเข้มข้นน้อยต้องเมนูนี้เลย
ส่วนผสมของการชง
•   เอสเปรสโซ 1/3 ส่วน
•   นมร้อนผ่านไอน้ำ 1/3 ส่วน
•   และนมตีเป็นโฟมละเอียด 1/3 ส่วน

สูตรที่ 2 มอคค่า อีกหนึ่งเมนูที่หลายคนชอบ เพราะมีรสชาติของช็อกโกแลตผสมผสานอย่างลงตัว เพิ่มเท็กเจอร์การดื่มด้วยวิปครีมบีบด้านบนสุด ถือเป็นจุดเด่นของเมนูก็ว่าได้ที่ทำให้คนทั่วไปเข้าถึง
ส่วนผสมของการชง
•   เอสเปรสโซ 1/3 ส่วน
•   นมร้อนผ่านไอน้ำ 2/3
•   ช็อคโกแลต

สูตรที่ 3 ลาเต้ กาแฟที่มีรสชาติความละมุนเป็นเอกลักษณ์ พร้อมลวดลายบนฟองนม เพิ่มอรรถรสในการดื่มมากยิ่งขึ้น หากใครที่อยากลิ้มลองสามารถดื่มได้ง่าย ๆ เพราะมีความเข้มข้นน้อยที่สุดในบรรดาทุกเมนูกาแฟ
ส่วนผสมของการชง
•   เอสเปรสโซ 1 ส่วน
•   นมร้อน 2 – 3 ส่วน ฟองนม

สูตรที่ 4 อเมริกาโน่ เมนูที่คล้ายกับ longblack ของความเข้มข้นและวิธีการทำ สำหรับอเมริกาโน่เหมาะกับคอคอฟฟี่ที่ชื่นชอบการสัมผัสรสชาติที่แท้จริง มีการปรุงแต่งเพียงเล็กน้อย แต่ถ้าใครอยากเพิ่มความแปลกใหม่สามารถครีเอทผสมกับไซรัปหรือน้ำผลไม้ได้ในแบบที่ชอบ
ส่วนผสมของการชงสูตรอเมริกาโน่ ของ Nespresso
•   เอสเปรสโซ 1 ส่วน
•   ผสมกับน้ำร้อน 1 ส่วน

สูตรที่ 5 เอสเพรสโซ่
เมนูกาแฟที่เข้มข้นที่สุด เพราะไม่มีการปรุงแต่งอะไรเข้าไปผสมเลย ได้สัมผัสอรรถรสในการดื่มกาแฟอย่างเต็มอารมณ์ แต่ถ้าใครคิดว่าเอสเพรสโซ่เข้มไป ทำ กาแฟมัคคิอาโต ได้ไม่ยาก เพียงเลือกเพิ่มนมและคาราเมลเข้าไปก็จะกลายเป็น กาแฟมัคคิอาโต เมนูที่มีความหอมละมุน

ส่วนผสมของการชง เอสเพรสโซ่
•   อย่างที่เรากล่าวไปตั้งแต่ต้นว่า เป็นเมนูที่ไม่ผสมอะไรเข้าไปเพิ่ม โดยการชงจะใช้แรงอัดไอน้ำหรือน้ำร้อนผ่านเมล็ดกาแฟคั่วบดละเอียด เพื่อให้มีรสชาติเข้มและกลิ่นหอมมากที่สุด แน่นอนว่าเป็นคำตอบแล้วว่า กาแฟอะไรเข้มสุด

สูตรกาแฟสด ของ Nespresso ชงไม่ยากเลย สำหรับใครที่อยากลองดื่มกาแฟ เราแนะนำเมนู คาปูชิโน่ เพราะมีรสชาติอ่อนที่สุด แต่ยังคงเอกลักษณ์ของกาแฟไว้ได้ดี หรือถ้าใครอยากให้สัมผัสแรกได้รู้จักรสชาติของกาแฟแท้ ๆ เริ่มต้นที่ longblack ไร้ซึ่งการปรุงแต่งวัตถุดิบอื่น แถมมีกรรมวิธีที่พิถีพิถันที่สุด จึงได้รสและกลิ่นอย่างมีเอกลักษณ์ จะเห็นได้ว่ากาแฟแต่ละเมนูมีเสน่ห์ต่างกันออกไป

23
การสร้างความประทับใจให้ลูกค้าที่มาเยือนโรงแรมนั้นเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากพนักงานต้อนรับที่เป็นมิตรแล้ว การเสิร์ฟ welcome drink โรงแรม เย็น ๆ ชื่นใจ เพื่อต้อนรับแขกก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สร้างความประทับใจแรกพบได้ โดย welcome drink นั้นต้องเป็นเมนูไหน พร้อมแชร์สูตรอร่อยที่รับรองมัดใจลูกค้าอยู่หมัด วันนี้เรามาดูไปพร้อมกัน
Welcome drink
คือการเสิร์ฟเครื่องดื่มเพื่อเป็นการต้อนรับลูกค้า นิยมทำในโรงแรม ธุรกิจที่พัก สปา หรือแม้แต่ร้านอาหาร เมื่อลูกค้ามาถึงจะได้รับเครื่องดื่มมาเป็นการผ่อนคลายจากการเดินทางมาเหนื่อย ๆ และยังสามารถสร้างความประทับใจเมื่อแรกพบได้เป็นอย่างดี
welcome drink เน้นเสิร์ฟเครื่องดื่มที่ให้ความสดชื่น อาจเป็นน้ำเปล่าเย็น ๆ เครื่องดื่มสมุนไพร น้ำผลไม้ หรือ อิตาเลี่ยนโซดา เพื่อเพิ่มความสดชื่น แต่วันนี้เรามีสูตรเด็ด welcome drink โรงแรม ที่อยากแนะให้ลอง เพื่อเพิ่มความแปลกใหม่และสร้างความประทับใจไม่รู้ลืม จากเครื่อง ชงกาแฟ ที่สามารถรังสรรค์ welcome drink สูตรพิเศษออกมาได้หลายรสชาติ
Latta marine blue
กาแฟ ลาเต้ ที่สร้างความตื่นตาด้วยเลเยอร์สีฟ้าขาว ให้ความสดชื่นและกลิ่นหอมจากโรสเมรี่
วิธีทำ
1. นำบลูคูราเซาไซรัป และซูก้าไซรัปลงไปในแก้ว
2. เติมน้ำแข็งตามลงไปในแก้ว
3. ใส่นมตามลงไปในแก้ว
4. ทำการสกัดกาแฟ freddo intenso ปริมาณ 40 ml. (ใช้ 2 แคปซูล)
5. ใส่กาแฟลงไปในแก้ว ตกแต่งด้วยโรสเมรี่ เพียงเท่านี้ก็จะได้ ลาเต้ มารีน บลูเอาไว้เสิร์ฟ

Mild cappuccino
กาแฟ cappuccino ผสานรสละมุนของฟองนมและกาแฟ ที่เหมาะเป็นเครื่องดื่มต้อนรับ
วิธีทำ
1. ใช้นมเย็น 60 ml. ตีฟองนมเตรียมไว้
2. เทฟองนมที่ได้ลงไปรอในแก้ว
3. สกัดแคปซูลกาแฟ Chiaro ให้ได้ 25 ml.
4. เทลงไปในแก้วที่เตรียมไว้ ก็จะได้ คาปูชิโน่ นุ่ม ๆ รสละมุน

Iced americano
อเมริกาโน่ หอมกรุ่นสุดเข้มข้นที่โดนใจหลาย ๆ คน
วิธีทำ
1. ใส่น้ำแข็งไว้ในแก้ว
2. สกัดแคปซูล Kazaar 2 แคปซูล แล้วใส่ลงในแก้ว
4. เติมน้ำเย็นลงไปเล็กน้อย เครื่องดื่ม อเมริกาโน่ เย็น ๆ ปลุกความตื่นตัวก็พร้อมเสิร์ฟ

Espersso macchiato
ปิดท้ายด้วยสูตรเด็ด เอสเพรสโซ่ มัคคิอาโต้ ที่ชงได้ง่ายๆ เหมาะกับการเสิร์ฟด่วน แบบไม่ต้องรอนาน
วิธีทำ
1. ตีฟองนมรอไว้
2. สกัดกาแฟแคปซูล Roma หรือ Volluto เลือกให้เป็น เอสเพรสโซ่ 40 ml.
3. เติมหวานด้วยน้ำตาล หรือ ไซรัป
4. ใส่น้ำแข็ง เทกาแฟตามลงไป แล้วราดด้วยฟองนมที่เตรียมไว้

welcome drink โรงแรม ลองเสิร์ฟเครื่องดื่มเมนูกาแฟที่คนทั่วโลกหลงรัก ที่สำคัญทุกวันนี้แสนสะดวกด้วยเครื่องชงกาแฟ เป็นหนึ่งไอเดีย Welcome drink ที่น่าประทับใจแน่นอน

ชมข้อมูลเพิ่มเติมที่
https://www.nespresso.com/th/th/aeroccino-accessories-collection
https://www.nespresso.com/th/th/what-is-cappuccino

24
   แค่การแปรงฟันไม่สามารถทำความสะอาดช่องปากได้ 100% ซึ่งสิ่งสกปรกตกค้างเป็นต้นเหตุของปัญหากลิ่นปาก ฟันผุ เหงือกอักเสบ หรือโรคอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับช่องปากตามมามากมาย   ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่องของการทำความสะอาดภายในช่องปากนั้นมีหลายชนิด เช่น น้ำยาบ้วนปาก ยาสีฟัน แปรงสีฟัน ไหมขัดฟัน ของ Watsons มีให้เลือกในท้องตลาดอยู่หลายยี่ห้อ วันนี้เราจะมาบอกต่อ 5 ยี่ห้อน้ำยาบ้วนปากที่ได้รับความนิยมกัน
1)   SYSTEMA Fresh Mint Plus Fluoride Cool Caribbean Mouthwash
   ซิสเท็มมา สูตร เฟรชมินต์ คูล คาริบเบียน มีส่วนผสมของ Mansaku Extract สารสกัดธรรมชาติจากใบ Mansaku ประเทศญี่ปุ่น Fluoride IPMP และ GK2 ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย ทำให้ปากหอม สะอาด สดชื่น ดูแลเหงือกให้แข็งแรงสุขภาพดี ป้องกันฟันผุ ลดการสะสมของแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุสำคัญของกลิ่นปาก
2)   Sparkle Ionic Mouthwash Fresh & Cool Extra White
   น้ำยาบ้วนปาก เอกสิทธิ์เฉพาะของ Sparkle จากประเทศเยอรมนี เมื่อเขย่าจะทำให้น้ำยาเกิดอนุภาคของประจุลบ มีส่วนผสมของ Organic White , Minus Ion Active Mouthwash , Poly Vinyl Pyrrolidone ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และน้ำตาล ช่วยยับยั้งเชื้อ S.Mutans ที่เป็นสาเหตุของคราบพลัค คราบหินปูน โรคเหงือก และกลิ่นปาก ช่วยขจัดคราบชา กาแฟ ทำให้ฟันขาวสะอาดขึ้น ช่องปากชุ่มชื้นและลดอาการปากแห้ง อ่อนโยนไม่ทำลายช่องปาก
3)   Emoform
   อีโมฟอร์ม ผลิตภัณฑ์ลดอาการเสียวฟันสูตรเข้มข้นที่มีส่วนประกอบของ Potassium Nitrate ช่วยดูแลเหงือก ลดกลิ่นปาก ลมหายใจหอมสดชื่น ไม่ทำให้ระคายเคืองในจุดที่เสียวฟัน สามารถซึมและซอกซอนเข้าถึงบริเวณที่เสียวฟันได้เป็นอย่างดี กรณีเสียวฟันมากจนแปรงฟันไม่ได้ ใช้อมบ้วนปากเพื่อบรรเทาอาการได้ดี ลดอาการอักเสบของเหงือก ช่วยกระชับคอฟัน เมื่อเหงือกแข็งแรง ฟันก็จะแข็งแรง ลดความเป็นกรดในช่องปาก
4)   Colgate Optic White Stain Shield with Charcoal Extract
   คอลเกต อ๊อพติค ไวท์ ชาร์โคล เฟรชมิ้นท์ มีเทคโนโลยี Stain Shield และส่วนผสมจากถ่านชาร์โคล ป้องกันการเกิดคราบบนผิวฟัน เพื่อรอยยิ้มขาวเป็นประกาย ลมหายใจหอมสดชื่น ลดการเกิดพลัคและหินปูน ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย เป็นสูตรชาร์โคล เฟรชมินท์ ไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่แสบปาก
5)   MYSEPTIC MYBACIN Breath Mouthwash
   มายเซพติค มายบาซิน เบรท สูตรโฟร์ทเวนตี้โฟร์ฮาวส์ มีสารสกัดจากธรรมชาติทั้งหมด 4 ชนิด คือ สารสกัดคลอโรฟิลด์ ใบฝรั่ง ชาเขียว และว่านหางจระเข้ ช่วยลดกลิ่นปาก ลดเชื้อแบคทีเรียในช่องปาก ปกป้องดูแลเหงือกและภายในช่องปากให้แข็งแรง มี Menthol , Mint ทำให้ลมหายใจหอมสดชื่น และมีส่วนประกอบของไซลิทอล ปราศจากน้ำตาล Thymol ช่วยลดการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย
   ไม่ว่าจะเป็น ของใช้ส่วนตัว ประเภท ไหมขัดฟัน ยาสีฟัน แปรงสีฟัน ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพกายและผิว ก็สามารถหาซื้อได้ที่ วัตสันออนไลน์ ได้ทุกที่ทุกเวลา และยังมีโปรโมชั่นมากมายให้เลือกได้ตามใจ เช่น วัตสันโปร ชิ้นที่ 2 1 บาท และโปร วัตสัน 1 แถม 1 ทั้งสะดวกและคุ้มค้าคุ้มราคาขนาดนี้ ต้องรีบเข้ามาช้อปกันก่อนที่โปรโมชั่นจะหมด

25
การแต่งหน้าให้สวยปังนั้นนอกจากการเลือกรองพื้นเพื่อโชว์งานผิวที่ดีแล้วงานแต่งตาก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะละเลยไปไม่ได้ เพราะการเนรมิตดวงตาให้ดูคมโตและสวยเฉี่ยวนั้นจะเพิ่มความดูดีและน่าค้นหาให้กับเราเป็นอย่างมาก วันนี้เราเลยมี เครื่องสำอาง สำหรับแต่งแต้มดวงตาอย่างอายไลเนอร์และ มาสคาร่า มาแนะนำ รับประกันว่าใช้แล้วติดทน ไม่หลุดไหลเยิ้มเป็นตาแพนด้า สาว ๆ วางใจแล้วไปหามาใช้ตามกันได้เลย

1.   บีไวลด์ เดย์ ทู ไนท์ ดับเบิ้ล แบล็ค อายไลเนอร์
ผลิตภัณฑ์อายไลเนอร์ขนาดเหมาะมือใช้งานง่ายควบคุมทิศทางการเขียนได้อย่างแม่นยำ มาพร้อมกับแปรงพู่กันที่ช่วยให้การกรีดเส้นง่ายกว่าที่เคย ให้คุณเขียนลื่นไม่มีสะดุด ไม่ตกร่อง ให้เส้นขอบตาที่คมกริบสม่ำเสมอ เหมาะกับมือใหม่มาก ๆ ที่สำคัญมีส่วนประกอบของ Scutellaria Baicalensis Root Extract และ Illicum Verum (Anise) Fruit Extract อ่อนโยนต่อดวงตา ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง แถมยังกันน้ำกันเหงื่อได้อีกด้วย
2.   เมเบอลีน ไฮเปอร์เคิร์ล วอเตอร์พรูฟ มาสคาร่า
ผลิตภัณฑ์มาสคาร่าที่จะช่วยเนรมิตขนตาโค้งงอนขึ้นได้  75% ทันทีที่ปัด ช่วยให้ขนตาของคุณหนาขึ้นได้ 3 เท่า เพราะโดดเด่นด้วยขนแปรงพิเศษนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยเข้าถึงขนตาได้เส้นต่อเส้น ทำให้เนื้อมาสคาร่าเคลือบขนตาได้ทุกเส้นตั้งแต่โคนจรดปลาย ให้ขนตางอนเด้งยาวนานถึง 36 ชั่วโมง ไม่หลุด ไม่จับตัวเป็นก้อน ปัดง่าย ที่สำคัญไม่หลุดไหลเยิ้มเป็นตาแพนด้าระหว่างวัน ทั้งยังเป็นสูตรกันน้ำ กันเหงื่อ ช่วยให้ดวงตาสวยเช้งได้ตลอดวัน
3.   มี ไบร์ทลี่ ชาร์ป อายไลเนอร์
ผลิตภัณฑ์อายไลเนอร์ชนิดปากกานวัตกรรมใหม่ล่าสุดจากเกาหลี เป็นหัวลิควิดพู่กันเส้นเล็กและเรียบทำให้กรีดง่าย กรีดได้ไหลลื่นไม่มีสะดุด แห้งเร็วไม่เลอะขอบตา ช่วยทำให้ขอบตาสวยคมชัด โดดเด่น และสะกดทุกสายตาที่มอง ที่สำคัญเป็นสูตรฟิล์มพิเศษติดทนนานถึง 10 เท่า ติดแน่นติดทนได้ยาวนานถึง 24 ชั่วโมง ไม่หลุดไหลเยิ้มระหว่างวัน
4.   แคนเมค ควิก ลาช เคอเลอร์
ผลิตภัณฑ์มาสคาร่าเนื้อแวกซ์จากแบรนด์ canmake ที่ช่วยล็อกขนตาให้งอนเด้ง มาพร้อมกับหัวแปรงแบบหวี 2 ด้าน ช่วยยกโคนและงัดขนตาให้ขนตาแผ่แยกออกจากกันเพื่อให้ขนตาดูอ่อนนุ่ม เป็นธรรมชาติ และเด้งงอนขึ้นไม่มีตกตลอดวัน ที่สำคัญเป็นมาสคาร่าที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ จึงช่วยมอบความชุ่มชื้นให้กับขนตา ทำให้ขนตาดูเปล่งประกายธรรมชาติไม่แข็งทื่อ  แถมยังช่วยกันน้ำกันเหงื่อด้วย
5.   เมอร์เรซกา อินเนอร์ ไลน์เนอร์ อาย เพนซิล
อายไลน์เนอร์ในรูปแบบดินสอออโตเมติคจากแบรนด์  merrezca ซึ่งจะมีเส้นเรียวเล็กเพียง 2 มิลลิเมตรเท่านั้น สามารถเป็นได้ทั้ง Inner Liner และ Eye liner เม็ดสีแน่นคมชัด ที่สำคัญเนื้อนุ่มเขียนง่ายไม่ระคายดวงตา มาพร้อมคุณสมบัติติดทน กันน้ำ กันเหงื่อ ไม่หลุดเลอะเปื้อนรอบดวงตาในระหว่างวัน
   
หากสนใจสินค้าข้างต้นนี้สามารถไปช้อปสินค้าได้เลยที่ watson online พร้อมทั้งเลือกรับ โปรวัตสัน สุดคุ้มมากมายที่จะช่วยเพิ่มความคุ้มค่าในทุกการสั่งซื้อ


ชมเพิ่มเติมที่
https://www.watsons.co.th/th/all-brands/b/160079/in-2-it
https://www.watsons.co.th/th/all-brands/b/164249/merrez-ca
https://www.watsons.co.th/th/วาย.โอ.ยู-นูทริ-แวร์พลัส-ฟลอเลส-คุชชั่น-ฟาวน์เดชั่น-spf40-pa-11ก-w805-เยลโล่ว-เบจ/p/BP_300268
https://www.watsons.co.th/th/ศรีจันทร์-ซูเปอร์-คัฟเวอเรจ-ฟาวน์เดชั่น-spf50-pa-6มล.-130-เนเชอรัล/p/BP_296609

26
   เคยไหมเกิดอาการขี้เกียจออกไปซื้อกาแฟนอกบ้าน จะสั่งเดลิเวอรี่ก็แสนแพง อยากจะลองทำดื่มเองได้เท่าที่ต้องการ แต่สิ่งเหล่านี้จะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป เพราะวันนี้เรามี 5 สูตรกาแฟสดที่มีรสชาติใกล้เคียงบาริสต้าชงเอง ฉะนั้นหากอยากรู้ว่าแต่ละเมนูต้องชงอย่างไรบ้าง ลองไปชมพร้อมกัน

สูตรที่ 1 คาปูชิโน่ ใครที่ชอบดื่มกาแฟที่มีความเข้มข้นน้อยต้องเมนูนี้เลย เพราะมีนมในสัดส่วนที่เท่า ๆ กับกาแฟ พร้อมกับออนท็อปฟองนมเป็นความละมุนที่สัมผัสริมฝีปาก พร้อมกลิ่นหอมของกาแฟที่ชัดเจน
ส่วนผสมของการชง
•   เอสเปรสโซ 1/3 ส่วน
•   นมร้อนผ่านไอน้ำ 1/3 ส่วน
•   และนมตีเป็นโฟมละเอียด 1/3 ส่วน

สูตรที่ 2 มอคค่า อีกหนึ่งเมนูที่ถูกใจใครหลายคน เพราะมีรสชาติของช็อกโกแลตผสมผสานอย่างลงตัว เพิ่มเท็กเจอร์การดื่มด้วยวิปครีมบีบด้านบนสุด ถือเป็นจุดเด่นของเมนูก็ว่าได้ที่ทำให้คนทั่วไปเข้าถึง
ส่วนผสมของการชง
•   เอสเปรสโซ 1/3 ส่วน
•   นมร้อนผ่านไอน้ำ 2/3
•   ช็อคโกแลต

สูตรที่ 3 ลาเต้ กาแฟที่มีจุดเด่นที่รสชาติความละมุน พร้อมลวดลายบนฟองนม เพิ่มอรรถรสในการดื่มมากยิ่งขึ้น หากใครที่อยากลิ้มลองสามารถดื่มได้ง่าย ๆ เพราะมีความเข้มข้นน้อยที่สุดในบรรดาทุกเมนูกาแฟ
ส่วนผสมของการชง
•   เอสเปรสโซ 1 ส่วน
•   นมร้อน 2 – 3 ส่วน ฟองนม

สูตรที่ 4 อเมริกาโน่ เป็นเมนูกาแฟที่มีความคล้ายกับ longblack ของความเข้มข้นและวิธีการทำ สำหรับอเมริกาโน่เหมาะกับคอคอฟฟี่ที่ชื่นชอบการสัมผัสรสชาติที่แท้จริง มีการปรุงแต่งเพียงเล็กน้อย แต่ถ้าใครอยากเพิ่มความแปลกใหม่สามารถครีเอทผสมกับไซรัปหรือน้ำผลไม้ ทำเป็นกาแฟสดเย็นในแบบที่ชอบได้ตามใจ
ส่วนผสมของการชง
•   เอสเปรสโซ 1 ส่วน
•   ผสมกับน้ำร้อน 1 ส่วน

สูตรที่ 5 เอสเพรสโซ่
เมนูกาแฟที่เข้มข้นที่สุด เพราะไม่มีการปรุงแต่งอะไรเข้าไปผสมเลย เหมาะกับคอคอฟฟี่สายเข้มที่อยากสัมผัสอรรถรสในการดื่มกาแฟอย่างเต็มอารมณ์ แต่ถ้าใครคิดว่าเอสเพรสโซ่เข้มไป ทำ กาแฟมัคคิอาโต ได้ไม่ยาก เพียงเลือกเพิ่มนมและคาราเมลเข้าไปก็จะกลายเป็น กาแฟมัคคิอาโต เมนูที่มีความหอมละมุน

ส่วนผสมของการชง เอสเพรสโซ่
•   เอสเพรสโซ่เป็นเมนูที่ไม่ผสมอะไรเข้าไปเพิ่ม โดยการชงจะใช้แรงอัดไอน้ำหรือน้ำร้อนผ่านเมล็ดกาแฟคั่วบดละเอียด เพื่อให้มีรสชาติเข้มและกลิ่นหอมมากที่สุด แน่นอนว่าเป็นคำตอบแล้วว่า กาแฟอะไรเข้มสุด

สูตรชงกาแฟแต่ละเมนูไม่ยากเกินความสามารถแน่นอน สำหรับใครที่ไม่เคยลิ้มลองเมนูเหล่านี้เลย เราอยากให้เริ่มต้นที่การชิม คาปูชิโน่ เพราะมีรสชาติอ่อนที่สุด แต่ยังคงเอกลักษณ์ของกาแฟไว้ได้ดี หรือถ้าใครอยากสัมผัสถึงรสชาติของกาแฟแท้ ๆ เริ่มต้นที่ longblack ไร้ซึ่งการปรุงแต่งวัตถุดิบอื่น แถมมีกรรมวิธีที่พิถีพิถันที่สุด จึงได้รสและกลิ่นอย่างมีเอกลักษณ์ จะเห็นได้ว่ากาแฟจะเผยรสชาติที่มีเสน่ห์ได้ก็ต่อเมื่อใส่ใจรายละเอียด รวมไปถึงการใช้อุปกรณ์ที่เหมาะกับสูตรชงกาแฟสดแต่ละประเภท เรียกได้ว่าทำดื่มแต่ละทีคล้ายกับกำลังเปิดคาเฟ่ในบ้านตัวเองเลยทีเดียว

27
จุดกำเนิดของกาแฟอเมริกาโน่ เกิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง  เมื่อทหารอเมริกันที่ประจำการอยู่ในอิตาลีได้พบว่ากาแฟเอสเพรสโซ่จากร้านกาแฟในท้องถิ่นของอิตาลีมีรสชาติเข้มจนเกินไป ดังนั้นเพื่อให้ได้กาแฟที่มีรสชาติที่พวกเขาคุ้นเคยและถูกปาก ทหารอเมริกันเหล่านั้น จึงทำการเจือจางเอสเพรสโซ่ด้วยน้ำร้อน และนั่นเองที่ทำให้เกิดสูตรกาแฟ americano จนในที่สุดกลายเป็นกาแฟเมนูใหม่ที่นิยมกันไปทั่วโลก

สูตรชงกาแฟ americano นั้นแตกต่างจากกาแฟ longblack อย่างไร
อเมริกาโน่เป็นกาแฟดำที่นิยมและโด่งดังกันมาก แล้ว เมนู longblack ซึ่งเป็นกาแฟดำอีกประเภทหนึ่งนั้น แตกต่างจากอเมริกาโน่อย่างไร คำตอบก็คือ ทั้งคู่นั้นเป็นเครื่องดื่มกาแฟที่คล้ายกันมาก โดยปรุงจากเอสเปรสโซ่และน้ำร้อนเหมือนกัน แต่จะแตกต่างกันในขั้นตอนการปรุง สำหรับอเมริกาโน่นั้น จะเป็นการเติมน้ำร้อนลงบนช็อตของเอสเปรสโซ่ ส่วน longblack จะใส่น้ำร้อนลงไปก่อน แล้วค่อยเติมช็อตเอสเพรสโซ่ตามลงไป
รสชาติเข้มข้นแต่นุ่มนวล ของอเมริกาโน่ และ longblack จึงมอบประสบการณ์การดื่มกาแฟที่แสนจะน่ารื่นรมย์ไปพร้อม ๆ กัน เครื่องดื่มประเภทนี้ ยังมีความยืดหยุ่น สามารถปรับแต่งให้เหมาะกับรสนิยมที่แตกต่างกันของแต่ละบุคคลได้ จึงเป็นที่ชื่นชอบโดยทั่วไป
ดังนั้นวันนี้เรามานำเสนอ สูตรอเมริกาโน่ ระดับบาริสต้า ที่คุณเองก็สามารถทำได้ไม่ยากนักดังนี้

สูตรอเมริกาโน่ long black ชงได้ง่าย ๆ ที่บ้าน และทำขาย
1. สูตรกาแฟอเมริกาโน่ร้อน จะมีส่วนผสมดังนี้ กาแฟเอสเพรสโซ่  หนึ่งแคปซูล และน้ำร้อน ส่วนวิธีการชง คือ กดแคปซูลเอสเพรสโซ่ เพื่อให้ได้ช็อตกาแฟ 40 มล. และเติมน้ำร้อนตามต้องการ

2. สูตรกาแฟอเมริกาโน่เย็น จะมีส่วนผสมดังนี้ กาแฟเอสเพรสโซ่  หนึ่งแคปซูล น้ำเย็น และ น้ำแข็ง ส่วนวิธีการชง คือ กดแคปซูลเอสเพรสโซ่ เพื่อให้ได้ช็อตกาแฟ 40 มล. และเติมน้ำเย็น พร้อมใส่น้ำแข็ง

3. สูตรกาแฟอเมริกาโน่น้ำส้ม จะมีส่วนผสมดังนี้ กาแฟเอสเพรสโซ่ หนึ่งแคปซูล น้ำส้ม 80-100 มล. และน้ำแข็ง ส่วนวิธีการชง คือ กดแคปซูลเอสเพรสโซ่ เพื่อให้ได้ช็อตกาแฟ 40 มล. และเติมน้ำส้ม พร้อมใส่น้ำแข็ง
4. สูตรกาแฟอเมริกาโน่มะนาว จะมีส่วนผสมดังนี้ กาแฟเอสเพรสโซ่ หนึ่งแคปซูล น้ำมะนาว 5-10 มล. น้ำแข็งและน้ำเปล่า ส่วนวิธีการชง คือ เลือก ระดับการคั่วของกาแฟ ตามชอบ กดแคปซูลเอสเพรสโซ่ จะได้ช็อตกาแฟ 40 มล. เติมน้ำมะนาวและน้ำเปล่า พร้อมใส่น้ำแข็ง
5. สูตรกาแฟอเมริกาโน่น้ำผึ้ง จะมีส่วนผสมดังนี้ กาแฟเอสเพรสโซ่ หนึ่งแคปซูล น้ำผึ้ง 5-10 มล. น้ำแข็งและน้ำเปล่า ส่วนวิธีการชง คือ กดแคปซูลเอสเพรสโซ่ เพื่อให้ได้ช็อตกาแฟ 40 มล. เติมน้ำผึ้งและน้ำเปล่า พร้อมใส่น้ำแข็ง

สูตรอเมริกาโน่เหล่านี้สามารถปรับได้ตามใจชอบเพื่อรสชาติที่ถูกใจ และหากใครสนใจ กาแฟ  longblack หรือ อเมริกาโน่ สำเร็จรูป ก็สามารถเลือกกาแฟแคปซูลได้ที่ เนสเพรสโซ  ประเทศไทย เลือก Nespresso หรือคลิกที่นี่ https://www.nespresso.com/th/th พร้อมรับประสบการณ์กาแฟระดับพรีเมี่ยม

28
   หลายคนที่ชอบดื่มกาแฟคงรู้จักเมนูมอคค่ามาบ้าง ซึ่งถือว่าเป็นเมนูกาแฟที่ทุกคาเฟ่ทุกร้านกาแฟจะต้องมี วันนี้เราเลยอยากจะมาแชร์ถึงเสน่ห์ของเมนู มอคค่า คือ อะไร พร้อมกับแนะนำวิธีชงกาแฟมอคค่าให้อร่อยกลมกล่อม

กาแฟ มอคค่า คือ อะไร

   มอคค่าเป็นรูปแบบกาแฟผสมนมที่มีองค์ประกอบของช็อตเอสเพรสโซ่ นม และช็อกโกแลต เรียกให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือเป็นกาแฟผสมกับช็อกโกแลตนั่นเอง

   ต้นกำเนิดของกาแฟมอคค่ามาจากเมืองอัลมาคา (al-Makha) หรือเมืองมอคค่า (Mocha) เมืองชายฝั่งทะเลในเยเมน ซึ่งเป็นตลาดศูนย์กลางการค้ากาแฟในช่วงศตวรรษที่ 15 ถึงต้นศตวรรษที่ 18 เมล็ดกาแฟที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองนี้มีกลิ่นคล้ายช็อกโกแลต จึงทำให้กลยเป็นที่นิยม แล้วมีการตั้งเมนูกาแฟที่มีกลิ่นความเป็นช็อกโกแลตตามชื่อเมืองว่า “มอคค่า”

ต่อมาก็ได้พัฒนาไปเป็นรูปแบบการชงกาแฟที่ผสมผงโกโก้หรือช็อกโกแลตลงไปในลักษณะของการดื่มกาแฟสไตล์อิตาเลียนที่ชื่อ Bicerin ที่ส่วนผสมในถ้วยกาแฟชั้นล่างสุดคือเอสเปรสโซร้อน ชั้นกลางคือช็อกโกแลตร้อน และออนท็อปด้วยฟองนม เป็นที่มาของกาแฟมอคค่าที่นิยมกันในปัจจุบัน

   ในทุกสูตรชงกาแฟ ของ Nespresso มอคค่า ต้องมีองค์ประกอบอย่าง เอสเพรสโซ่ นม ช็อกโกแลต และฟองนม เสน่ห์ของเมนูนี้ก็คือเป็นกาแฟที่มีกลิ่นของช็อกโกแลต เข้ากันมาอย่างลงตัวกับกลิ่นคั่วบดของกาแฟ หอมเข้มข้นรวมถึงมีนมและฟองนมมาช่วยปรับให้เกิดความหวานมัน การชงเมนูกาแฟมอคค่าให้อร่อยก็คืออัตราส่วนของนม เอสเพรสโซ่ และช็อกโกแลตจะต้องเบลนด์กันออกมาอย่างลงตัว ไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้รสชาติไม่กลมกล่อมได้

ชงกาแฟมอคค่ายังไงให้อร่อย
   การชงมอคค่าให้ออกมาอร่อย สูตรกาแฟ ของ Nespresso เริ่มจากการเตรียมชงช็อตเอสเพรสโซ่โดยเลือกระดับการคั่วเมล็ดกาแฟได้ตามชอบแต่อย่าให้เข้มเกินกว่าช็อกโกแลต ไม่เช่นนั้นกลิ่นและความขมของกาแฟอาจไปกลบกลิ่นของช็อกโกแลตได้ จากนั้นก็ใส่ผงช็อกโกแลตลงไปในช็อตกาแฟ หรือใครจะใช้เป็นช็อกโกแลตแท่งหรือช็อกโกแลตชิปลงไปคนให้ละลายในขั้นตอนนี้แทนการใช้ผงช็อกโกแลตก็ได้เช่นกัน หลังจากนั้นก็ตามด้วยนม หากชอบหวานอาจจะเติมไซรัปลงไปสักเล็กน้อย พร้อมกับสตีมฟองนมตักออนท็อปแล้วโรยผงโกโก้หรือผงช็อกโกแลตปิดท้าย ใครจะราดซอสช็อกโกแลตตามลงไปก็ได้เช่นกันถือว่าเป็นอันเสร็จสิ้นเมนูมอคค่าร้อน ถ้าใครที่ชอบดื่มแบบกาแฟเย็น ของ Nespresso ก็เติมน้ำแข็งลงไปก็อร่อยได้เช่นเดียวกัน

   ทั้งหมดนี้ก็เป็นสาระดี ๆ เกี่ยวกับเมนูกาแฟมอคค่า รับรองวีรู้จักเมนูนี้มากขึ้น กาแฟมอคค่าของคุณจะอร่อยกลมกล่อมขึ้นอย่างแน่นอน

29
หากคุณเป็นคอกาแฟดำ ลองเพิ่มความพิเศษกว่าเดิมด้วยกลิ่นหอมของผลไม้นานาชนิดผสานเข้ากับรสชาติของเมล็ดกาแฟที่ผ่านการคั่วอย่างพิถีพิถัน จะ longblack หรืออเมริกาโน่ก็ทำได้!

7 สูตรกาแฟสด ของ Nespresso เมนู longblack และ Americano
1. สูตรอเมริกาโน่ เย็น
กาแฟอเมริกาโน่ทำเองได้ง่าย ๆ ที่บ้าน เริ่มต้นด้วยการเลือกแคปซูลกาแฟที่ถูกใจใส่ลงในเครื่องชงกาแฟ จากนั้นกดปุ่มเพื่อสั่งทำเอสเพรสโซ่ พร้อมเสิร์ฟด้วยแก้วใส่น้ำแข็งตามด้วยเอสเพรสโซ่และเติมน้ำเย็นลงไป
2. Longblack น้ำผึ้ง
คนชอบดื่มกาแฟรสชาติเข้ม ๆ ผสานกับรสชาติของน้ำผึ้งแท้หวานเป็นธรรมชาติทำได้ง่ายมาก เริ่มต้นด้วยการเตรียม กาแฟดำ เอสเพรสโซ่จากแคปซูลกาแฟที่ชอบ นำมาเติมความหวานด้วยน้ำผึ้งตามต้องการ เตรียมแก้วทรงยาวใส่น้ำแข็งและเทน้ำเย็นตามลงไปปิดท้ายด้วยกาแฟเอสเพรสโซ่ช็อตเป็นอันเสร็จเรียบร้อย
3. กาแฟดำ น้ำผึ้งมะนาว
เริ่มต้นเมนูกาแฟแสนอร่อยด้วยการสกัดแคปซูลกาแฟเอสเพรสโซ่ เลือกระดับการคั่วกาแฟ ของ Nespresso ที่ชอบ ผสมน้ำผึ้ง น้ำมะนาว และน้ำเย็น คนให้เข้ากัน เทลงในแก้วทรงยาวเติมน้ำแข็งให้เรียบร้อย
4. สูตรอเมริกาโน่ ของ Nespresso ผสมน้ำส้ม
เผชิญอากาศร้อนลองเติมความสดชื่นขึ้นด้วยเมนูนี้ เริ่มต้นด้วยการเตรียมเอสเพรสโซ่ 1 ช็อตและน้ำส้มคั้นสดเอาไว้ จากนั้นเสิร์ฟด้วยแก้วกาแฟทรงสูงใส่น้ำแข็ง เติมเอสเพรสโซ่ลงไปและปิดท้ายด้วยน้ำส้มคั้นรสชาติเปรี้ยวอมหวานแสนอร่อย
5. สูตรอเมริกาโน่ น้ำมะพร้าว
สูตรเติมความสดชื่นด้วยกาแฟผสานกลิ่นหอมละมุนของน้ำมะพร้าวที่ให้รสชาติอมหวานนิด ๆ เริ่มต้นด้วยการเลือกแคปซูลกาแฟแสนอร่อยด้วยฟังก์ชันเอสเพรสโซ่ จากนั้นเทลงในแก้วทรงยาวใส่น้ำแข็งตามด้วยกาแฟที่เตรียมไว้และน้ำมะพร้าวลงไป
6. อเมริกาโน่น้ำมันมะกอก
ใครอยากเติมไขมันดีพร้อมเพิ่มประสิทธิภาพของระบบเผาผลาญขอแนะนำสูตรนี้! เริ่มต้นด้วยการเตรียมกาแฟเอสเพรสโซ่ที่ต้องการ จากนั้นนำมาเติมน้ำมันมะกอกคนให้เข้ากัน จะดื่มแบบร้อนหรือแบบเย็นก็ได้ตามที่ชื่นชอบ
7. อเมริกาโน่ลิ้นจี่
ต้องการความสดชื่นพร้อมรสชาติเปรี้ยวหวานลงตัวแนะนำสูตรนี้ เตรียมกาแฟเอสเพรสโซ่จากแคปซูลกาแฟระดับความเข้มข้นที่ถูกใจผสมกับไซรัปรสลิ้นจี่ที่ให้รสชาติเข้มข้นและกลิ่นหอม จากนั้นเทเสิร์ฟลงในแก้วใส่น้ำแข็ง แต่งหน้าด้วยลิ้นจี่สดให้สวยงาม


เมนูกาแฟทั้ง 7 สูตรสามารถเสิร์ฟได้ทั้งแบบ longblack หรือ Americano ได้ตามความชอบและเลือกแคปซูลกาแฟ Nespresso ที่คุณชื่นชอบเพื่อยกระดับรสชาติให้กลมกล่อมและกลิ่นหอมละมุนระดับพรีเมียมมากขึ้นกว่าเดิม

30
   กาแฟคาปูชิโน่ เป็นเมนูที่ได้รับความนิยมมายาวนาน ด้วยรสชาติและเอกลักษณ์ซึ่งสามารถสัมผัสด้วยการจิบกาแฟไปพร้อมกับฟองนมที่ออนท็อปด้านบน เพื่อเวลาดื่มน้ำกาแฟจะไหลผ่านฟองละเอียด แต่ทั้งสองจะไม่ผสมเป็นเนื้อเดียวกัน ต้องเหลือฟองนมที่ก้นแก้วสามารถใช้ช้อนตักเข้าปากตบท้าย นี่คือสิ่งที่บอกว่าบาริสต้าปรุงแต่งอย่างใส่ใจ แต่หากชงกาแฟแบบไร้ซึ่งคุณภาพฟองนมจะเหลวผสมกันไปหมดนั้นเอง ดังนั้น เพื่อให้ได้ กาแฟคาปูชิโน่ คุณภาพระดับพรีเมียม ลองมาดูสูตรเหล่านี้

สูตรที่ 1 คาปูชิโน่สูตรคลาสสิก
   ใครอยากสัมผัสรสชาติกาแฟ คาปูชิโน่ แบบคลาสสิกออริจินอล วันนี้ต้องลองชงจากสูตรที่เรากำลังจะกล่าวถึง ซึ่งวัตถุดิบไม่ยุ่งยาก มีไม่กี่อย่าง ผสมในสัดส่วนที่ลงตัว จะได้รสชาติหอมละมุนตามฉบับที่ควรเป็น รสชาติไม่แพ้คาเฟ่หรือร้านไหนแน่นอน
สูตรการชงและสัดส่วนวัตถุดิบ
•   เตรียมกาแฟแคปซูลเอสเปรสโซ่ (40 มล. /1.5 ออนซ์ )
•   นมเย็น 50-70 มล. / 2 -2.5 ออนซ์
•   น้ำตาลทราย
•   ผงโกโก้
วิธีการชง
•   กาแฟแคปซูลใส่ในสัดส่วนที่เราบอกไปแล้วลงในแก้ว
•   ในการตีฟองนมจะต้องใช้หัวฉีดไอน้ำจากเครื่องชงกาแฟหรือเครื่องทำฟองนมก็ได้
•   เทฟองนมลงถ้วยกาแฟ ของ Nespresso ตามด้วยเติมน้ำตาล พร้อมกับออนท็อปด้วยการโรยผงโกโก้


สูตรที่ 2 เฮเซลนัท คาปูชิโน่ (HAZELNUT cappuccino ของ Nespresso )
   กาแฟสีน้ำตาลนวลรสชาตินุ่ม ถือเป็นเมนูแนะนำสำหรับคนที่ชอบความละมุนละมัย ด้วยเบสเป็นเอสเปรสโซ่ บวกนมและฟองนม เพิ่มความตราตรึงด้วยเฮเซลนัทเคลือบคาราเมล กลิ่นอ่อน ๆ จากถั่วชนิดนี้ทำให้เมนูมีความหอมกลุ่นอย่างเป็นเอกลักษณ์ ส่งเสริมให้รสชาติกลมกล่อมจนมิอาจวางได้
สูตรการชงและสัดส่วนวัตถุดิบ
•   กาแฟแคปซูล Livanto หรือ Volluto
•   น้ำเชื่อมเฮเซลนัท 3 ซล. / 1 ออนซ์
•   ผงเฮเซลนัทปริมาณเล็กน้อย
•   นม 10 ซล. / 3.5 ออนซ์
•   น้ำตาล
วิธีการชง
•   นำเฮเซลนัทและน้ำตาลเข้าเตาอบรอจนได้สีน้ำตาลทอง
•   ในการทำฟองนมจะต้องเทน้ำเชื่อมและนมลงในเครื่องตีฟองนม ของ Nespresso เพื่อให้มีรสชาติ
•   จากนั้นนำกาแฟใส่ในแคปซูล Livanto หรือ Volluto ขนาด (40 มล. / 15 ออนซ์)
•   สุดท้ายเทเอสเปรสโซในถ้วยคาปูชิโน่ ตามด้วยฟองนม ออนท็อปด้วยผงเฮเซลนัทเคลือบคาราเมล

สูตรที่ 3 คาปูชิโน่ร้อน ช็อกโกแลต
   คาปูชิโน่ ผสมช็อกโกแลตเป็นเมนูเครื่องดื่มที่มีความเข้มข้นของรสชาติระหว่างกาแฟและช็อกโกแลต มีทั้งรสขมจากกาแฟ ตามด้วยความหวานของช็อกโกแลต เพิ่มความมันจากนม ทั้งสองมีกลิ่นที่เข้ากันสุด ๆ จึงทำให้ได้รสชาติที่ลงตัว
สูตรการชงและสัดส่วนวัตถุดิบ
•   ผงช็อกโกแลต 2 ช้อนชา
•   นม 20 มล.
วิธีการชง
•   ชงช็อกโกแลตด้วยน้ำร้อนประมาณครึ่งแก้ว (แก้วคาปูชิโน่) ตามด้วยนมร้อนและโรยด้วยผงช็อกโกแลต
•   ในการทำน้ำกาแฟจะใช้แคปซูล BARISTA Scuro ในปริมาณ 40 มล. ลงไปผสมกับช็อกโกแลตร้อนที่เตรียมเอาไว้ในตอนแรก สุดท้ายตกแต่งเมนูด้วยการใส่วิปครีมทำให้รสชาติละมุนมากขึ้น

สูตรเหล่านี้สามารถปรับเปลี่ยน สูตรคาปูชิโน่เย็น และสามารถเพิ่มความหวานได้ตามชอบ แต่ถ้าอยากสัมผัสรสชาติที่แท้จริงก็ต้องลองชงตามสูตรที่เราแนะนำไว้ รับรองรสชาติถูกปากไม่แพ้การไปดื่มที่คาเฟ่

31
ครีมทาแผลเป็น ช่วยจัดการกับร่องรอยที่เกิดจากสิว การอักเสบ หรือแผลต่าง ๆ ตามร่างกาย มีหลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้ตามความชอบ ด้วยงบประมาณที่หลากหลายและยังสามารถหาซื้อได้ไม่ยาก แต่สำหรับ ครีมทาแผลเป็น ที่ขึ้นชื่อว่าช่วยจัดการกับปัญหาได้อย่างน่าทึ่ง ทั้งยังมีราคาสบายกระเป๋านั้นต้องยกให้ 5 ผลิตภัณฑ์เด็ดต่อไปนี้
1.   ฮีรูดอย
เป็น ยาทาแผลเป็น ที่ได้รับความนิยมในการใช้จัดการกับร่องรอยแผลเป็น สามารถใช้สำหรับการรักษารอยแผลเป็นทุกรูปแบบ ซึ่งในกรณีที่เป็นแผลใหม่เพิ่งตกสะเก็ดหากใช้ฮีรูดอยทันทีจะทำให้รอยแผลเป็นจางลงเร็วมาก ส่วนแผลเป็นที่เคยเป็นก้อนแข็งก็จะค่อย ๆ อ่อนนุ่มขึ้นจนสัมผัสได้ถึงความแตกต่าง
2.   เดอร์มาติกซ์ อัลตร้า เจล
เจล ลดรอยแผลเป็น ที่มีส่วนผสมของวิตามินซี ช่วยให้สีของรอยแผลเป็นจางลงได้อย่างรวดเร็ว ผสานเข้ากับนวัตกรรม CPX มีประสิทธิภาพสูงในการช่วยให้รอยแผลเป็นนุ่มขึ้นและยุบตัวลง โดยใช้ได้กับรอยแผลเป็นหลายประเภท อาทิ รอยแผลเป็นจากการผ่าตัด ไฟไหม้ น้ำร้อนลวก รวมถึงรอยแผลและจุดด่างดำจากสิว โดยใช้ทาบาง ๆ บริเวณรอยแผลเป็นจะทำให้รอยแผลเป็นค่อย ๆ จางหายไปได้อย่างเป็นธรรมชาติ 
3.   โปรวาเมด สการ์ โซน แอคเน่
เป็นอีกผลิตภัณฑ์สำหรับการรักษารอยแผลเป็นที่เห็นผลได้อย่างรวดเร็ว ด้วยประสิทธิภาพของสารสกัด Allium Cepa เข้มข้นสูงสุด 15% ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว พร้อมกับปรับสีของรอยแผลเป็นให้ค่อย ๆ จางลงอย่างเป็นธรรมชาติ ส่งผลให้สีผิวสม่ำเสมอขึ้น ทั้งยังมีวิตามินอีเข้มข้นจากธรรมชาติที่จะช่วยให้รอยแผลเป็นมีความนุ่มนวลขึ้นอีกด้วย 
4.   เพียวริก้าส์ ดราก้อน บลัด สกาเจล
puricas เป็นเจลที่มีส่วนผสมสำคัญมาจากสารสกัด ดราก้อนบลัด ของต้น Croton Leacheri ผสานเข้ากับสารสกัดจากหัวหอม ว่านหางจระเข้ ใบบัวบก และผักบุ้งทะเล  มีคุณสมบัติช่วยฟื้นคืนสภาพผิวที่เป็นรอยแผลเป็นหรือมีจุดด่างดำจากสิว ทำให้ผิวกลับมานุ่มเนียนได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียง ทั้งยังกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ช่วยสมานแผลสด และยังต้านอนุมูลอิสระได้ด้วย
5.   มีเดอม่า อินเท้นส์ เจล
เป็นเจลที่ช่วยจัดการกับรอยแผลเป็นได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงช่วยจัดการกับปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ โดยเนื้อเจลของ Mederma Intense ตัวนี้จะทำหน้าที่บำรุงผิวอย่างล้ำลึก พร้อมช่วยสมานและรักษารอยแผลเป็น หากต้องการให้เจลทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเต็มที่ควรนวดเนื้อเจลบริเวณรอยแผลเป็นทุกครั้งที่ทา

ผลิตภัณฑ์ทั้ง 5 ยี่ห้อนี้มีราคาเพียงหลักร้อยเท่านั้น และยังสามารถหาซื้อได้ง่าย ๆ ผ่านช่องทาง วัตสันออนไลน์ ที่เว็บไซต์ www.watsons.co.th และยังมีสินค้าและสิทธิพิเศษต่าง ๆ มากมายจาก โปรโมชั่นวัตสัน ทั้ง แผ่นประคบเย็น หรือ สินค้า Propoliz ให้การใช้จ่ายคุ้มค่ามากขึ้น

32
กาแฟดำ ทั้ง longblack และ Americano นั้นจะประกอบด้วย เอสเปรสโซช็อต และน้ำร้อนเท่านั้น กาแฟดำจึงมีคาร์โบไฮเดรตไขมันและแคลอรี่ต่ำ เหมาะกับการบริโภคในชีวิตประจําวันสําหรับคนที่รักสุขภาพ โดยสองเมนูกาแฟดัง หากคุณสั่ง longblack ของ Nespresso คุณจะได้เมนูกาแฟดำที่มีครีม่าลอยอยู่ด้านบน ส่วน Americano นั้นจะกาแฟดำที่ไม่มีครีม่าลอยฟูฟ่องอยู่ด้านบน
โดยประโยชน์ของกาแฟดําต่อสุขภาพนั้นมีมากมาย บทความนี้เราจะได้ทราบว่า ประโยชน์ของกาแฟดำ มีอะไรบ้าง

ประโยชน์ของกาแฟดำ
1. กาแฟดำ สามารถทำให้การออกกำลังกายมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ทั้งยังช่วยเพิ่มระดับอะดรีนาลีนในเลือด ทำให้ร่างกายทนต่อการออกกำลังกายหนักได้ดียิ่งขึ้น และชยังช่วยเผาผลาญไขมันอีกด้วย
2. ช่วยลดความเครียด เพราะสภาวะการทำงานที่แสนจะกดดันในแต่ละวันนั้น ก็อาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้ ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านจึงได้แนะนำให้ดื่มกาแฟดำ เพราะจะช่วยให้สภาวะอารมณ์นั้นคงที่ อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นระบบประสาท พร้อมกับเพิ่มอัตราการสร้างสารโดพามีน ซึ่งเป็นสารแห่งความสุข จึงช่วยลดความตึงเครียดได้อย่างดี
3. กาแฟดำเป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ และยังอุดมไปด้วยวิตามิน B2, B3, B5, รวมทั้ง แมกนีเซียม, โพแทสเซียม และแมงกานีส อีกด้วย
4. กาแฟดำมีส่วนช่วยลดน้ำหนัก ช่วยเพิ่มการเผาผลาญของคุณได้ถึง 50% ถ้าหากคุณดื่มกาแฟดำก่อนออกกำลังกาย 30 นาที อีกทั้งการดื่มกาแฟดำ ยังช่วยกระตุ้นระบบประสาท ซึ่งจะส่งสัญญาณบอกร่างกายให้ทำลายเซลล์ไขมัน และดึงไปใช้เป็นพลังงานได้อีกด้วย สารคาเฟอีนในกาแฟดำนั้น จะพบได้ในเกือบทุกอาหารเสริมลดน้ำหนักนั่นก็เพราะ คาเฟอีนเป็นหนึ่งในสารไม่กี่ชนิดที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการเผาผลาญไขมัน
5. ดื่มเป็นประจำมีผลดีต่อตับ โดยมีส่วนช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งตับ ไวรัสตับอักเสบ ลดไขมันสะสมที่ตับ และลดการเกิดโรคตับแข็งจากการดื่มสุรา อีกทั้งยังช่วยลดภาวะซึมเศร้าได้อีกด้วย
6. กาแฟดำช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคเบาหวาน เพราะกาแฟดำจะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และช่วยเพิ่มการสร้างอินซูลิน ไม่ว่าจะเป็นกาแฟแคปซูลดีแคฟ ซึ่งเป็นกาแฟได้สกัดคาเฟอีนออก หรือกาแฟธรรมดา คุณก็จะได้ดื่มด่ำพร้อมลดความเสี่ยงของการเป็นโรคเบาหวานได้เช่นกัน
7. กาแฟดำดีต่อหลอดเลือด และหัวใจ การดื่มกาแฟดำวันละหนึ่งถึงสองแก้ว จะช่วยลดการอักเสบในร่างกาย และช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจได้อีกด้วย
เพราะคุณสามารถดื่มด่ำกับรสชาติชั้นเลิศ พร้อมกับรับ ประโยชน์ของกาแฟดำ ประโยชน์ของกาแฟดำได้ในคราวเดียว เมื่อรู้เช่นนี้แล้วสายสุขภาพทั้งหลายจึงห้ามพลาด ที่จะลองมาเป็นสาวกกาแฟกันดูสักครั้ง



33
หากพูดถึงเมนูกาแฟที่ทุกร้านกาแฟต้องมี หนึ่งในนั้นต้องรวมเมนูอเมริกาโน่ เพราะเป็นเมนู Black Coffee ยอดนิยม มีทั้งแบบร้อนและเย็น และยังปรับสูตรได้อย่างหลากหลาย โดยในวันนี้เราได้นำ สูตรอเมริกาโน่ ของ Nespresso มาให้คุณถึง 7 รูปแบบ สูตรทั้งหมดนี้ไม่ว่าจะทำกินเองหรือทำขายก็ถือว่าเหมาะ เป็นเมนูง่าย ๆ ขั้นตอนไม่ยุ่งยากเพราะไม่ต้องใช้เครื่องตีฟองนม ของ Nespresso  โดยสิ่งที่ทุกสูตรกาแฟสด ของ Nespresso จะต้องมีเหมือนกันคือ Espresso 1 ช็อตสำหรับร้อนและ 1 หรือ 2 ช็อตสำหรับแบบเย็น (แล้วแต่ความเข้มข้นที่ต้องการ)
1. สูตรคลาสสิก
วิธีทำ americano สูตรนี้คือเตรียม Espresso 1 ช็อตใส่ไว้ในแก้วกาแฟ จากนั้นเติมน้ำร้อนลงไปประมาณ 120 มิลลิลิตร หากเป็นสูตรเย็นก็เพิ่มน้ำแข็งลงไปและเพิ่ม Espresso เป็นสองช็อต หากต้องการเมนูแบบคลาสสิก จะต้องไม่เติมไซรัปใด ๆ ลงไป เพื่อให้ได้รสชาติและกลิ่นอโรม่าของกาแฟอย่างเต็มที่
สำหรับกาแฟสูตรนี้ โดยเฉพาะแบบร้อน หากเราเปลี่ยนวิธีการชงโดยเติมน้ำร้อนลงไปในแก้วก่อนที่จะเติมช็อตเอสเพรสโซลงไป จะได้เมนูที่เรียกว่า longblack ซึ่งโดดเด่นด้วยกลิ่นอโรม่าที่มีมากกว่าเพราะช็อตเอสเพรสโซถูกเติมลงไปหลังจากน้ำร้อนทำให้อยู่ด้านบนและกลิ่นไม่ถูกทำให้ระเหยออกไป
2. Coconut americano
วิธีเริ่มด้วยการชง Espresso 2 ช็อตเตรียมไว้ ใส่น้ำแข็งลงในแก้ว เติมน้ำมะพร้าวลงไปในปริมาณตามชอบ ราดด้วย Espresso ที่เตรียมไว้และตกแต่งด้วยเนื้อมะพร้าว
3. Chocolate americano
สูตรนี้เริ่มด้วยการใส่ไซรัปช็อกโกแลตลงไปในแก้ว จากนั้นราดช็อตเอสเพรสโซที่เตรียมไว้ลงไป ตามด้วยน้ำร้อนเช่นเดียวกับสูตรคลาสสิก จากนั้นคนให้เข้ากัน และตกแต่งด้านบนถ้วยกาแฟ ของ Nespresso ด้วยวิปครีมก่อนเสิร์ฟ
4. Mocha americano
สำหรับสูตรนี้ ยังคงใช้ไซรัปช็อกโกแลตในสูตรก่อนหน้า ขั้นตอนเริ่มต้นเหมือนกัน เพียงแต่หลังจากเติมน้ำร้อนแล้วให้เติมนมลงไปและคนให้เข้ากันโดยไม่ต้องตกแต่งด้วยวิปครีม
5. สูตรอเมริกาโน่ ที่เติมน้ำผลไม้
สูตรนี้จะใช้น้ำผลไม้มาให้ความสดชื่นและรสสัมผัสที่แตกต่าง เริ่มด้วยใส่น้ำแข็งลงในแก้ว เติมน้ำผลไม้ที่ชอบลงไป จากนั้นราดด้วยช็อต Espresso ด้านบน เพียงเท่านี้ก็ได้อีกหนึ่งเมนูเพิ่มความสดชื่น
6. Honey Lemon americano
อีกหนึ่ง สูตรอเมริกาโน่ ที่ช่วยคลายร้อนได้เป็นอย่างดี โดยเราใช้ Espresso 2 ช็อต ผสมให้เข้ากับน้ำผึ้งและน้ำมะนาว จากนั้นเติมลงในแก้วที่มีน้ำเปล่า ตามด้วยน้ำแข็ง เพียงเท่านี้ก็ได้เมนูคลายร้อนเพิ่มความสดชื่นได้ในทุก ๆ วัน
7. Caramel americano
เริ่มด้วยการเทไซรัปคาราเมลลงในแก้ว จากนั้นเติมช็อตเอสเพรสโซลงไป เติมน้ำร้อน และคนให้เข้ากัน โดยสูตรนี้อาจเปลี่ยนเป็นไซรัปวานิลลาก็ได้ โดยถ้าเพิ่มช็อตเอสเพรสโซและเติมน้ำแข็ง ก็กลายเป็นเมนูเย็นที่เพิ่มความสดชื่นได้ นอกจากนี้เมนูร้อนสำหรับสูตรนี้ยังเปลี่ยนเป็นเมนู longblack ได้ด้วยโดยเปลี่ยนวิธีการชงตามที่เราได้อธิบายไปแล้วในสูตรคลาสสิก
สูตรทั้งหมดที่เรานำมาให้ในวันนี้ สามารถทำกินเองก็ได้หรือทำขายก็ได้ และเพื่อให้การเตรียมช็อตเอสเพรสโซง่ายขึ้น ก็ควรเลือกใช้กาแฟแคปซูลพร้อมเครื่องชงจาก Nespresso ซึ่งสามารถสั่งซื้อทั้งเครื่องชง แคปซูลกาแฟ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ผ่านช่องทางออนไลน์

34
มนุษย์เงินเดือนอยากจะประหยัดค่ากาแฟให้น้อยลง หนึ่งในทางออกในการแก้ปัญหาคือการชงกาแฟดื่มเองที่บ้าน เรามี 5 สูตรกาแฟ ของ Nespresso เมนูยอดฮิต กาแฟอะไรเข้มสุด และชงแบบไหนให้อร่อยมาให้ลองทำตามกัน

โดย 5 สูตรกาแฟเรียงตามลำดับความเข้มของรสชาติ กาแฟอะไรเข้มสุด อันดับที่หนึ่งต้องยกให้ เอสเพรสโซ่

1. สูตรชงกาแฟ เอสเพรสโซ่ ร้อน รสเข้มเน้น ๆ  ไม่ปรุงแต่ง
วิธีชง
ชงด้วยวิธีการใช้แรงอัดไอน้ำหรือด้วยน้ำร้อนผ่านไปยังเมล็ดกาแฟที่บดละเอียดแล้ว เทลงใส่แก้วทันทีโดยไม่เติมน้ำก็จะได้เอสเพรสโซ่ร้อน ๆ  สุดเข้มข้น

2. สูตรชงกาแฟอเมริกาโน่ร้อน ลดความเข้มด้วยการเติมน้ำร้อน
วิธีชง
วิธีการคือนำ เอสเพรสโซ่ ซ็อต 1 ส่วน ผสมกับน้ำอีก 1 ส่วน โดยการนำเอสเพรสโซ่ใส่แก้วรอไว้แล้วค่อยตามด้วยน้ำร้อนลงไป ก็จะช่วยไล่ระดับลดความเข้มของกาแฟลงมาอีกหน่อย

3. สูตรชงกาแฟ longblack ร้อน เข้มพอ ๆ  กับอเมริกาโน่ แต่วิธีชงตรงข้าม
วิธีชง
วิธีการชงสลับขั้นตอนกับการชงอเมริกาโน่ เพราะจะเริ่มจากการใส่น้ำร้อนลงไปรอก่อนในแก้ว จากนั้นค่อย ๆ  เติมเอสเพรสโซ่ซ็อตตามลงไปก็จะได้กาแฟ longblack ที่มีครีมม่าบางเบาและเนียนนุ่มลอยอยู่บนผิวกาแฟเพิ่มอรรถรสในการดื่มไปอีกแบบ

4. สูตรชง กาแฟมัคคิอาโต กาแฟเย็น ของ Nespresso เบรกความเข้มลงไปอีกหน่อยด้วยการผสมนมให้ได้รสละมุนขึ้น
วิธีชง
เตรียมชงเอสเพรสโซ่ไว้ 2 ช็อต จากนั้นเตรียมแก้วใส่น้ำแข็งรอไว้ จากนั้นให้เทฟองนมลงไปในแก้วที่เตรียมไว้ แล้วปิดจบตบท้ายด้วยการค่อย ๆ  เทเอสเพรสโซ่ช็อตตามลงไปในแก้วเหนือชั้นขึ้นมาจากฟองนม ก็จะได้ กาแฟมัคคิอาโต รสนุ่ม ๆ  ละมุนจากส่วนผสมของฟองนมที่ไม่เข้มมาก

5. สูตรชงกาแฟ ของ Nespresso คาปูชิโน่ ร้อน เป็นกาแฟที่ผสานความนุ่มละมุนจากนมด้วย ใกล้เคียงกับ กาแฟมัคคิอาโต
วิธีชง
ชงเอสเพรสโซ่ซ็อตไว้เหมือนเดิม จากนั้นเทลงใส่แก้ว ตามด้วยเติมนมอุ่นลงไป บางคนราดฟองนมตามไปด้วย ปิดท้ายด้วยการโรยหน้าด้วยผงโกโก้หรือผงอบเชยตามความชอบ ก็จะได้กาแฟ cappuccino ของ Nespresso ร้อนรสนุ่ม ๆ ไว้ดื่มแล้ว

สูตรกาแฟมีอีกหลากหลายให้ได้ลิ้มลอง เพราะการปรับปรุงสายพันธุ์และสูตรกาแฟนั้นพัฒนาไม่หยุด สมกับเป็นเครื่องดื่มสุดคลาสสิกที่คนทั่วโลกหลงรัก

35
เครื่องดื่มที่สามารถพลิกแพลงได้หลากหลายอย่างเมนูกาแฟ มีภาพจำก็คือ เมล็ดสีดำ รสขม เมื่อนำวัตถุดิบคุณภาพ มีความสดใหม่มาคั่วบดด้วยกรรมวิธีที่ใส่ใจกลิ่นจะมีความหอมชัดเจน พร้อมนำไปชงได้หลากหลายเมนู อาทิ เมนูกาแฟเย็น กาแฟร้อน เอสเปรสโซ่ คาปูชิโน่ อเมริกาโน มัคคิอาโต้ เป็นต้น แต่ความพิเศษนั้นจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากไร้ซึ่งการมองข้ามรายละเอียดเล็ก ๆ รวมไปถึง สูตรชงกาแฟ เทคนิควิธีการที่จะทำให้กาแฟมีรสชาติแตกต่างและน่าประทับใจ ถ้าอยากรู้ว่าจะ ชงกาแฟให้อร่อยได้อย่างไร เราพร้อมเปิดเผย 5 ทริกดี ๆ

1.คัดสรรค์และเลือกใช้กาแฟหรือวัตถุดิบที่มีคุณภาพ
สิ่งสำคัญในการเนรมิตเครื่องดื่มให้มีรสชาติดี หอมกลมกล่อมจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อนำวัตถุดิบคุณภาพมารังสรรค์ โดยเฉพาะเมล็ดกาแฟต้องสดใหม่ ถ้าเป็นแบบแห้งจะต้องเก็บรักษามาเป็นอย่างดีหรือบางร้านเลือกแหล่งปลูกที่ใส่ใจเป็นพิเศษ เพื่อให้ได้รสชาติกลิ่นหอมที่ถูกใจ แน่นอนส่งผลให้ราคาสูงยิ่งขึ้น ซึ่งนิยมใช้ สูตรชงกาแฟสด ไร้การปรุงแต่งเพื่อส่งเสริมรสชาติได้ดีมากขึ้น

2.เพื่อรสชาติที่ลงตัว ต้องใส่ใจในเรื่องของอุณหภูมิน้ำ
หากขึ้นต้นว่าการชงหลายคนต้องคิดเป็นแน่ว่าน้ำต้องร้อนจัด แต่สำหรับเมนูเครื่องดื่มเช่นกาแฟ เพื่อให้ได้รสชาติที่กลมกล่อม ลงตัว จะต้องใส่ใจในเรื่องของการใช้อุณหภูมิในการชง นั้นคือน้ำต้องไม่ร้อนจัดเพราะอาจทำให้เกิดรสขมโดดหรือน้ำอุณภูมิต่ำรสชาติของกาแฟจะไม่ออกมามากนัก อุณหภูมิที่ดีคือ 91-96 องศาเซลเซียส

3.เลือกเครื่องชงกาแฟที่มีคุณภาพ ตัวช่วยสำคัญในการรังสรรค์รสชาติตามฉบับกาแฟ
แม้ว่าจะมี สูตรชงกาแฟ มากมายทั้งแบบโฮมเมดไม่ใช้เครื่อง แท้จริงแล้วรสชาติของกาแฟจะโดดเด่นและอร่อยลงตัวจะต้องพึ่งเครื่องชงกาแฟที่มีคุณภาพสูง พร้อมเทคโนโลยีเหมาะแก่การรังสรรค์เมนู ส่งเสริมให้ได้กาแฟรสชาติดีเยี่ยม เช่น สามารถปรับอุณหภูมิได้ตามต้องการ ระบบควบคุมน้ำ สามารถระบุปริมาณน้ำเองหรือจะใช้ระบบอัตโนมัติ กดเพียงปุ่มเดียวเท่านั้นก็ชงกาแฟได้เลย พร้อมรสชาติยังคงที่ ซึ่งปัจจุบันหลายแบรนด์ก็สร้างตัวช่วยที่ทำหน้าที่ได้ครบจบในเครื่องเดียว

4.ทำให้ฟองนมอยู่ตัวนานด้วยเทคนิคการสตีมแบบมืออาชีพ ท็อปปิ้งที่ขาดไม่ได้บนกาแฟแก้วโปรด
กาแฟเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ต้องการความนุ่มจากฟองนมมาเติมเต็มให้รสชาติมีความละมุน โดยเทคนิคการทำท็อปปิ้งนี้จะต้องเตรียมนมที่อุณหภูมิเย็นจัด ประมาณ 2-4 องศาเซลเซียส จากนั้นจึงเริ่มทำการสตีมนมด้วยเครื่องตีไฟฟ้า รอจนได้ความร้อนที่อุณหภูมิ 65-70 องศาเซลเซียส ถือเป็นกรรมวิธีที่สำคัญ ทำเพียงเท่านี้ก็จะได้ฟองนมที่อยู่ตัวนาน

5.เพื่อรสชาติที่ดีและได้กลิ่นหอม ก่อนการชงต้องอุ่นด้ามชงและถ้วย
สำหรับเทคนิคสุดท้าย สูตรชงกาแฟสด เป็นรายละเอียดเล็ก ๆ ที่ไม่ควรมองข้าม การอุ่นอุปกรณ์อย่างด้ามชงและแก้วใส่เครื่องดื่มก็สำคัญ สิ่งนี้คือตัวส่งเสริมให้กาแฟมีกลิ่นหอม ส่วนด้ามชงเมื่อโดนแอร์นาน ๆ จะมีความเย็น เมื่อนำไปชงอาจทำให้วัตถุดิบอื่นละลายตัวไม่ดีเท่าที่ควร แม้จะเพียงเล็กน้อย แต่ก็ส่งผลมากทีเดียว

จากทริกในการชงกาแฟที่เราแนะนำ คงทำให้หลายคนได้รู้แล้วว่า บาริสต้าคือ บุคคลที่สำคัญที่ต้องมีความรู้ ประสบการณ์ หากอยากดื่มกาแฟรสชาติเยี่ยมและ ชงกาแฟให้อร่อย บาริสต้าคือ ผู้ที่ต้องไปศึกษาอย่างจริงจัง ที่สำคัญใส่ใจทุกขั้นตอน รับรองรสชาติออกมาดีแน่นอน

ชมเพิ่มเติมที่
https://www.nespresso.com/th/th/types-of-coffee
https://www.nespresso.com/th/th/types-of-coffee
https://www.nespresso.com/th/th/types-of-coffee

36
ประเทศที่มีอากาศร้อนแทบทั้งปีอย่างประเทศไทยนั้น ทำให้การดื่มกาแฟเย็นเป็นที่นิยมเพราะช่วยดับร้อน ดังนั้น สูตรกาแฟเย็น เป็นที่นิยมมากในหมู่นักดื่มคนไทย เพราะช่วยเติมความสดชื่นระหว่างวันที่อากาศร้อนอบอ้าวพร้อมกระตุ้นการทำงานของสมองได้เป็นอย่างดี ซึ่งวิธีชงกาแฟสดให้อร่อยด้วยเครื่องชงกาแฟอัตโนมัติมี 5 สูตรดังนี้
5 สูตรชง สูตรกาแฟเย็น ชงขายดี ชงดื่มเองก็อร่อย
1. เอสเพลสโซ่เย็น (Espresso On Ice)
เมนูที่ชงง่ายที่สุด ใช้เวลาทำน้อยที่สุดแต่ได้รสชาติเข้มข้นของกาแฟ
ส่วนผสม
-   กาแฟ
-   น้ำร้อน ปริมาณ 40 มล.
-   น้ำแข็ง
วิธีทำ
เริ่มต้นด้วยการใส่กาแฟผสมกับน้ำร้อนคนให้เข้ากันและเทลงในแก้วเสิร์ฟที่ใส่น้ำแข็งเอาไว้ พร้อมเสิร์ฟ
2. อเมริกาโน่เย็น (Ice Amaricano)
เมนูกาแฟยอดฮิตตลอดกาลเหมาะสำหรับคนรักสุขภาพและอยากเติมเต็มความสดชื่นระหว่างวัน
ส่วนผสม
-   กาแฟ
-   น้ำร้อน ปริมาณ 40 มล.
-   น้ำเย็น ปริมาณ 60 มล.
-   น้ำแข็ง
วิธีทำ
 เริ่มต้นชงกาแฟแก้วโปรดด้วยกาแฟและน้ำร้อนคนให้เข้ากันเทลงในแก้วเสิร์ฟใส่น้ำแข็งตามด้วยน้ำเย็นเป็นอันเสร็จเรียบร้อย
3. ไวท์ มอคค่า (White Mocca)
เตรียมความอร่อยด้วยเมนูกาแฟดื่มง่าย สดชื่นและให้รสชาติหวานหอมช็อกโกแลต
ส่วนผสม
-   กาแฟ
-   น้ำร้อน ปริมาณ 40 มล.
-   น้ำตาลหรือไซรัปตามชอบ
-   นมสด ปริมาณ 50 มล.
-   น้ำแข็ง
-   ซอสไวท์ช็อกโกแลต
-   วิปปิ้งครีม
วิธีทำ
ใส่ซอสไวท์ช็อกโกแลตลงในแก้วที่จะเสิร์ฟตามด้วยนมสดแช่เย็นและน้ำแข็ง จากนั้นใส่กาแฟที่ชงกับน้ำร้อนและเติมความหวานตามต้องการตามลงไปและปิดท้ายด้วยวิปปิ้งครีมเพิ่มความหวานมัน
4. สูตรลาเต้เย็น ของ Nespresso
ใครที่ชอบรสชาติที่แฝงความนุ่มละมุนขอแนะนำลาเต้ ของ Nespresso เพราะรสชาติหอมหวานละมุนลิ้นดื่มง่ายแต่ให้ความสดชื่นไม่แพ้เมนูอื่น
ส่วนผสมกาแฟลาเต้ ของ Nespresso
-   กาแฟ
-   น้ำร้อน ปริมาณ 40 มล.
-   น้ำตาลหรือไซรัปตามชอบ
-   นมสด ปริมาณ 30 มล.
-   นมสดสำหรับทำฟองนม
-   น้ำแข็ง
วิธีทำ
ชงกาแฟกับน้ำร้อนเติมความหวานตามต้องการผสมกับนมสดและเทลงในแก้วน้ำแข็งตามด้วยฟองนมบาง ๆ
5. กาแฟสกัดเย็น โคลด์บริว
ใครที่ไม่ชอบรสชาติความขมและเปรี้ยวของกาแฟ สูตรกาแฟเย็น ของ Nespresso นี้จะทำให้คุณได้สัมผัสกับความสดชื่นของเมนูกาแฟที่คุณต้องการได้
ส่วนผสม
-   กาแฟสกัดเย็น
-   น้ำร้อน ปริมาณ 40 มล.
-   น้ำเย็น ปริมาณ 60 มล.
-   น้ำแข็ง
วิธีทำ
 โดยวิธีการทำกาแฟสกัดเย็นพร้อมชงมาผสมกับน้ำร้อนเทใส่แก้วเสิร์ฟที่ใส่น้ำแข็งและตามด้วยน้ำเย็น หรือเลือก Cold Brew Style Intense 1 แคปซูลมาสกัดกาแฟลงในแก้วตามด้วยน้ำแข็งพร้อมเสิร์ฟ

สูตรกาแฟเย็น เหล่านี้เป็นเมนูกาแฟยอดนิยม รสชาติอร่อยและตอบโจทย์คอกาแฟที่อยากเติมความสดชื่นด้วยตัวเองที่บ้าน

37
   หน้าร้อนนี้อยากได้เครื่องดื่มมาดับกระหาย ลองดู 5 สูตรเมนู กาแฟเย็น ที่ทำเองได้ง่าย ๆ เพื่อชงดื่มคลายร้อนปลุกความกระปรี้กระเปร่า รีบจดสูตรแล้วเอาไปทำตามกันได้เลย
   1.อเมริกาโน่เย็น
   วัตถุดิบ
-   กาแฟ
-   น้ำปล่า
-   น้ำแข็ง
-   ไซรัปหรือน้ำผึ้ง
วิธีทำ
เมนูกาแฟดำเบสิคอย่างอเมริกาโน่เย็นเป็นอะไรที่น่าสนใจมาก  เริ่มง่าย ๆ เลยก็คือมีช็อตเอสเพรสโซ่ที่เราจะชงเองหรือชงจากเครื่องชงกาแฟก็ได้ แนะนำให้ชงแบบ กาแฟสกัดเย็น  หรือ Cold Brew จะได้รสชาติที่อร่อยกลมกล่อมและสดชื่นกว่าแล้วนำช็อตกาแฟนั้นมาผสมน้ำเปล่าเติมน้ำแข็ง ใครชอบหวานก็อาจจะเติมน้ำผึ้งหรือไซรัปตามลงไปรับรองอร่อยสดชื่น

   2. อเมริกาโน่น้ำส้ม
   วัตถุดิบ
-   กาแฟ
-   น้ำปล่า
-   น้ำแข็ง
-   น้ำส้ม

วิธีทำ
สูตรทำกาแฟเย็น ที่อยากให้ลอง ต่อยอดมาจากการทำเมนูอเมริกาโน่เย็นแต่เพิ่มรสชาติหลากหลาย ยังคงชง กาแฟสกัดเย็น ให้ได้ช็อตกาแฟดำเหมือนเดิม แค่เปลี่ยนจากน้ำเปล่ามาเป็นน้ำส้มในการเจือจางกาแฟดู รับรองออกมาเข้ากันอย่างลงตัว ได้ความหอมเปรี้ยวและสดชื่นจากน้ำส้ม ได้ความกลมกล่อมจากกาแฟ คลายร้อนได้ดีเลยทีเดียว

   3. มอคค่าเย็น
   วัตถุดิบ
-   กาแฟ
-   น้ำปล่า
-   น้ำแข็ง
-   นมสด
-   ช็อกโกแลตแท่ง
-   ผงช็อกโกแลต

   วิธีทำ
   ชงช็อตกาแฟเอสเพรสโซ่ แล้วนำมาผสมกับช็อกโกแลตแท่งคนเข้ากันจนละลาย ผสมนมสดลงไป จากนั้นก็ใส่น้ำแข็งแล้วก็ตีฟองนมมาออนท็อปพร้อมโรยด้วยผงช็อกโกแลตเป็นอันเสร็จ ให้ความหอมและเข้มข้นลงตัวพอดีของกาแฟและช็อกโกแลต

   4.กาแฟเย็นไทยสไตล์
วัตถุดิบ
-   กาแฟ
-   น้ำปล่า
-   น้ำแข็ง
-   นมข้นหวาน
-   นมสด
-   น้ำตาล

วิธีทำ
   กาแฟเย็น ยกล้อแบบไทยสไตล์ เริ่มจากชงกาแฟดำแบบทั่วไปก่อน หรือจะต่อยอดมาจากอเมริกาโน่เลยก็ได้ นำมาเติมนมข้นหวานและน้ำตาลให้หวานหอม จากนั้นก็เทใส่แก้วเติมน้ำแข็ง ราดด้วยนมสดปิดท้ายความอร่อย หวานมันกลมกล่อมที่สุดเมนูนี้

   5. เมนูลาเต้เย็น
   วัตถุดิบ
-   กาแฟ
-   น้ำปล่า
-   น้ำแข็ง
-   นม
-   ไซรัป
   วิธีทำ
   สูตรทำลาเต้เย็น เตรียมฟองนมนุ่ม ๆ เตรียมไว้รอก่อนเลย จากนั้นชงกาแฟ เตรียมนมผสมกับไซรัปเทลงไปในแก้วกาแฟ เทกาแฟที่ชงแล้วลงไปคนผสมให้เข้ากัน ตามด้วยน้ำแข็ง จากนั้นก็ออนท็อปปิดท้ายด้วยฟองนมหนานุ่มเป็นอันเสร็จ สูตรลาเต้เย็น นี้สามารถโรยผงช็อกโกแลต หรือจะเพิ่มวิปครีมเข้าไปด้วยก็ได้

   ทั้งหมดนี้ก็เป็น 5 สูตรกาแฟเย็น เพื่อน ๆ สามารถนำไปชงดื่มคลายร้อนด้วยตนเองได้ รับรองว่าอร่อย สดชื่น ดื่มแล้วดับกระหาย กระปรี้กระเปร่าขึ้นแน่นอน

ชมข้อมูลเพิ่มที่
https://www.nespresso.com/th/th/nespresso-iced-coffee
https://www.nespresso.com/th/th/nespresso-iced-coffee
https://www.nespresso.com/th/th/nespresso-iced-coffee

38
   มอยเจอไรเซอร์คือสกินแคร์ที่ให้ความชุ่มชื้น เติมน้ำให้ผิวหน้า ช่วยลดปัญหาผิวแห้ง รูขุมขนกว้าง และชะลอการเกิดริ้วรอย หลายคนเลือกไม่ถูกว่าจะเลือกใช้ มอยเจอร์ไรเซอร์ยี่ห้อไหนดี ก่อนจะไปรู้จักกับ 10 มอยเจอร์ไรเซอร์ตัวดัง เราควรรู้ก่อนว่าควรใช้มอยเจอร์ไรเซอร์แบบใดให้เหมาะกับผิว เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุด

เลือกมอยเจอไรเซอร์ให้เหมาะกับสภาพผิวหน้า
   การเลือกมอยเจอไรเซอร์ให้เหมาะสมกับสภาพผิวหน้ามีความสำคัญพอ ๆ กับการจะเลือกใช้ มอยเจอร์ไรเซอร์ยี่ห้อไหนดี เพื่อให้ผิวหน้าได้ผลลัพธ์ที่ดีตามที่เราต้องการ

•   ผิวมัน เลือกที่มีส่วนผสมบางเบา มีความมันน้อย
•   ผิวแห้ง เลือกที่มีส่วนผสมที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น มีส่วนผสมของน้ำมัน
•   ผิวผสม เลือกที่มีส่วนผสมที่เหมาะสมทั้งสำหรับผิวมันและผิวแห้ง เพื่อปรับสมดุลให้ผิวหน้า
•   ผิวแพ้ง่าย เลือกที่ไม่มีส่วนผสมที่เป็นสารเคมี ปราศจากน้ำหอม เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดการแพ้

   การเลือกใช้มอยเจอไรเซอร์ที่เหมาะสมสำหรับสภาพผิวหน้า ไม่ว่าจะเป็น เซรั่มแก้ปัญหา รูขุมขนกว้าง เจลให้ความชุ่มชื้น ครีมหน้าขาวใส หรือโลชั่นบำรุง จะช่วยให้ผิวหน้าดูสุขภาพดี และมีความชุ่มชื้นอย่างเหมาะสม

10 มอยเจอร์ไรเซอร์ตัวดังเติมความชุ่มชื้น ให้ผิวอิ่มน้ำ บอกลาปัญหารูขุมขนกว้าง
   มาถึงตรงนี้จะได้รู้กันเสียทีว่าจะเลือกใช้ มอยเจอร์ไรเซอร์ยี่ห้อไหนดี ที่จะทำให้ผิวหน้าสวยใส ฉ่ำวาวดูสุขภาพดี
1.   Cetaphil Moisturizing Cream เซตาฟิล มอยส์เจอร์ไรซิ่งครีม เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวหน้าแห้งถึงแห้งมาก สารสำคัญ Sweet Almond Oil วิตามินบี 3 โปรวิตามินบี 5 และกลีเซอรีน ใน เซตาฟิล มอยส์เจอร์ไรซิ่งครีม ช่วยในการบำรุงที่ดีสำหรับผิวแพ้ง่าย
2.   CeraVe Moisturizing Cream เซราวีมอยเจอร์ไรซิ่ง มีเซราไมด์ที่จำเป็นต่อผิวถึง 3 ชนิด เพื่อช่วยชดเชยความชุ่มชื้น สำหรับผิวหน้าที่มีปัญหาแห้ง แดง ไม่สบายผิว
3.   Olay โอเลย์ รีเจนเนอรีส เปปไทด์ 24 มอยเจอร์ไรเซอร์ ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวยาวนาน 24 ชั่วโมง ให้ผิวเด้ง อิ่มฟู
4.   Olay โอเลย์ ลูมินัส ไนอะซินาไมด์ + วิตามินซี มอยส์เจอร์ไรเซอร์ ครีมโอเลย์ ช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ลดเลือนจุดด่างดำอย่างเห็นได้ชัดใน 8 สัปดาห์
5.   Physiogel Ai Cream ฟิซิโอเจล เอไอ ครีม ด้วย Triple relief ผสาน BioMimic Technology ช่วยลดปัญหาผิวแห้งคันและระคายเคือง
6.   L'Oreal ลอรีอัล ปารีส รีไวทัลลิฟท์ มอยส์เจอร์ไรซิ่ง เดย์ครีม SPF35 PA++ ครีมบำรุงลดริ้วรอย 8 จุดสำคัญทั่วใบหน้าและลำคอ ให้หน้าตึง เด้ง กระชับ
7.   Deleaf เดอ ลีฟ ทานาคา เอ็กซ์ตร้า มอยเจอร์ไรซิ่ง แอนด์ ไวท์เทนนิ่ง ครีม ใครอยากได้ ครีมหน้าขาวใส ลองใช้ตัวนี้ได้ ช่วยให้หน้ากระจ่าง ขาวใสขึ้น
8.   Neutrogena นูโทรจีนา ไฮโดร บูสท์ ไฮยาลูโรนิค แอซิด วอเทอร์เจล ผสาน Natural Moisturizing Factor (NMF) Complex เสริมเกราะป้องกันผิว ให้ผิวนุ่มเด้ง โกลว์ใส รูขุมขนกว้าง จะเรียบเนียนขึ้น
9.   L'Oreal ลอรีอัล ปารีส ไกลโคลิค-ไบรท์ โกลว์อิ้ง ครีม ไนท์ ช่วยให้ผิวหน้าโกลว์ใสและนุ่มชุ่มชื้นด้วยส่วนผสมพิเศษของ ไบรท์เทนนิ่ง ไกลโคลิค แอซิด และแอนตี้ออกซิแดนซ์ วิตามิน อี
10.   Neutrogena นูโทรจีน่า ไฮโดรบูสท์ แอคทิเวทติ้ง เอสเซนท์ โลชั่น โลชั่นบำรุงผิวหน้าเนื้อเจลบางเบาตัวนี้เลย ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นเข้าสู่ผิวได้ทันที

ไปเลือกดูมอยเจอไรเซอร์ทั้ง 10 ตัวกันได้เลยที่ watson online พบข้อเสนอราคาที่พิเศษสุด ๆ จาก โปรโมชั่นวัตสัน ได้สินค้าคุณภาพดีในราคาคุ้มค่า

39
   การแปรงฟันไม่สามารถทำความสะอาดช่องปากของได้ 100% เมื่อมีสิ่งสกปรกตกค้างที่เหงือก ลิ้น กระพุ้งแก้ม และเพดานปาก ทำให้ปัญหากลิ่นปาก ฟันผุ เหงือกอักเสบ หรือโรคอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับช่องปากตามมา หากเราทำความสะอาดไม่ทั่วถึง
   ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่องของการทำความสะอาดภายในช่องปากนั้นมีหลายชนิด เช่น น้ำยาบ้วนปาก ไหมขัดฟัน ยาสีฟัน แปรงสีฟัน ของใช้ส่วนตัว เหล่านี้มีให้เลือกในท้องตลาดอยู่หลายยี่ห้อ วันนี้เราจะมาบอกต่อ 5 ยี่ห้อน้ำยาบ้วนปากที่ได้รับความนิยมกัน
1)   Colgate Optic White Stain Shield with Charcoal Extract
   คอลเกต อ๊อพติค ไวท์ ชาร์โคล เฟรชมิ้นท์ มีเทคโนโลยี Stain Shield และส่วนผสมจากถ่านชาร์โคล ป้องกันการเกิดคราบบนผิวฟัน เพื่อรอยยิ้มขาวเป็นประกาย ลมหายใจหอมสดชื่น ลดการเกิดพลัคและหินปูน ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย เป็นสูตรชาร์โคล เฟรชมินท์ ไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่แสบปาก
2)   SYSTEMA Fresh Mint Plus Fluoride Cool Caribbean Mouthwash
   ซิสเท็มมา สูตร เฟรชมินต์ คูล คาริบเบียน มีส่วนผสมของ Mansaku Extract สารสกัดธรรมชาติจากใบ Mansaku ประเทศญี่ปุ่น Fluoride IPMP และ GK2 ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย ทำให้ปากหอม สะอาด สดชื่น ดูแลเหงือกให้แข็งแรงสุขภาพดี ป้องกันฟันผุ ลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุสำคัญของกลิ่นปาก
3)   MYSEPTIC MYBACIN Breath Mouthwash
   มายเซพติค มายบาซิน เบรท ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติทั้งหมด 4 ชนิด คือ สารสกัดคลอโรฟิลด์ ใบฝรั่ง ชาเขียว และว่านหางจระเข้ ช่วยลดกลิ่นปาก ลดเชื้อแบคทีเรียในช่องปาก ปกป้องดูแลเหงือกและภายในช่องปากให้แข็งแรง มี Menthol , Mint ทำให้ลมหายใจหอมสดชื่น และมีส่วนประกอบของไซลิทอล ปราศจากน้ำตาล Thymol ช่วยลดการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย
4)   Emoform
   อีโมฟอร์ม ผลิตภัณฑ์ลดอาการเสียวฟันสูตรเข้มข้นที่มีส่วนประกอบของ Potassium Nitrate สามารถซึมและซอกซอนเข้าถึงบริเวณที่เสียวฟันได้เป็นอย่างดี ช่วยดูแลเหงือก ลดกลิ่นปาก ลมหายใจหอมสดชื่น ไม่ทำให้ระคายเคืองในจุดที่เสียวฟัน กรณีเสียวฟันมากจนแปรงฟันไม่ได้ ใช้อมบ้วนปากเพื่อบรรเทาอาการได้ดี ลดอาการอักเสบของเหงือก ช่วยกระชับคอฟัน เมื่อเหงือกแข็งแรง ฟันก็จะแข็งแรง ลดความเป็นกรดในช่องปาก
5)   Sparkle Ionic Mouthwash Fresh & Cool Extra White
   น้ำยาบ้วนปาก เอกสิทธิ์เฉพาะของ Sparkle จากประเทศเยอรมนี เมื่อเขย่าจะทำให้น้ำยาเกิดอนุภาคของประจุลบ มีส่วนผสมของ Organic White , Minus Ion Active Mouthwash , Poly Vinyl Pyrrolidone ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และน้ำตาล ช่วยยับยั้งเชื้อ S.Mutans ที่เป็นสาเหตุของคราบพลัค คราบหินปูน โรคเหงือก และกลิ่นปาก ช่วยขจัดคราบชา กาแฟ ทำให้ฟันขาวสะอาดขึ้น ช่องปากชุ่มชื้นและลดอาการปากแห้ง อ่อนโยนไม่ทำลายช่องปาก
   ของใช้ส่วนตัว อย่างยาสีฟัน แปรงสีฟัน หรือของใช้ต่าง ๆ ภายในบ้าน ที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน ยาดมพกพา pastel ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพกายและผิว เจลประคบ ครีมบีแพนเธน หรือ =https://www.watsons.co.th/th/หมวดหมู่สินค้า/c/1?text=:productBrandCode:productBrandCode:171181&masterBrandCode=171181
ครีมtiger balm
ก็สามารถหาซื้อได้ที่ วัตสันออนไลน์ ได้ทุกที่ทุกเวลา และยังมีโปรโมชั่นมากมายที่รอทุกท่านอยู่ เช่น วัตสันโปร ชิ้นที่ 2 1 บาท และโปร วัตสัน 1 แถม 1 ทั้งสะดวกและคุ้มค้าคุ้มราคาขนาดนี้ ต้องรีบเข้ามาช้อปกันก่อนที่โปรโมชั่นจะหมด

40
   ที่แปะสิว หรือ แผ่นแปะสิว เป็นไอเทมที่ช่วยดูแลผิวหน้าในช่วงเป็นสิว ทำหน้าที่ช่วยดูดซับของเหลวและสิ่งสกปรกบนผิว ทำให้สิวยุบไวขึ้น ไม่ทิ้งรอยสิวไว้บนใบหน้า และยังช่วยขจัดสิวเสี้ยนบนใบหน้าด้วย ที่แปะสิวเสี้ยน ที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน
   แผ่นแปะสิว หรือ ที่แปะสิว มีหลายประเภท ดังนี้
-   แผ่นแปะสิวหัวช้าง แผ่นแปะสิวชนิดนี้จะมีเข็มขนาดเล็กมาก ๆ ที่ด้านที่แปะลงไปบนผิว ซึ่งจะเจาะลงไปในผิว เพื่อช่วยให้ตัวยาที่อยู่ในแผ่นแปะสิวเข้าไปรักษาสิวได้ลึกมากขึ้นเพื่อรักษาสิวหัวช้าง
-   แผ่นแปะสิวอักเสบ ช่วยดูดซับของเหลวจากสิวที่กำลังอักเสบให้ออกมาจนหมด ทำให้สิวแห้งเร็ว มีส่วนผสมของสารที่ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และบรรเทาสิวอักเสบ ใน แผ่นแปะสิว เช่น กรดซาลิไซลิก และน้ำมัน tea tree oil เป็นต้น
-   แผ่นแปะสิวที่กำลังฟื้นฟู ไม่มีสารที่ออกฤทธิ์ใด ๆ บนแผ่นปิดสิว คล้ายที่ปิดแผล ช่วยไม่ให้สิวสัมผัสกับมือหรือสิ่งสกปรก ให้สิวมีอาการดีขึ้นอย่างรวดเร็ว
-   แผ่นแปะสิวเสี้ยน ส่วนใหญ่เป็นแบบลอกออก แปะลงไปบริเวณที่ต้องการกำจัดสิวเสี้ยน ทิ้งไว้ประมาณ 15 – 20 นาที แล้วลอกออก จะมีสิวเสี้ยนติด ที่แปะสิวเสี้ยน ออกมา
   
ก่อนใช้แผ่นแปะสิว ควรพิจารณาประเภทของสิวและความต้องการในการรักษาเพื่อเลือกประเภทที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการดูแลสิว

แนะนำแผ่นแปะสิวใช้ดี ดูดสิวยุบไว คืนหน้าใสอย่างไว 2024
1.   3M Nexcare 3M เน็กแคร์ แผ่นซับสิว รุ่นใส ขอบบาง รูปทรงโดม ขอบบาง มีแผ่นบางเฉียบทำให้เนียนเรียบไปกับผิว สามารถแต่งหน้าทับได้ ช่วยดูดซับของเหลวจากสิว ทำให้สิวแห้งเร็ว ผลิตจากสารไฮโดรคอลลอยด์ ติดแน่น และยังช่วยลดการเกิดรอยดำ รอยแดงจากสิวได้ แผ่นซับสิวมีขนาดใหญ่สามารถแปะสิวได้พอดี และช่วยดูดซับของเหลวจากสิวได้มากขึ้น
2.   Derma angel แผ่นแปะสิว สำหรับกลางคืน แผ่นซับสิวสำหรับกลางคืน สูตรดูดซับสิวได้ดีเยี่ยม ลดการอักเสบของผิว ทำให้สิวหายได้เร็ว แผ่นซับสิวบางเฉียบ ปกปิดเรียบเนียนไปกับผิวหน้า ลดโอกาสการเกิดรอยแผลเป็นจากสิว
3.   The Original ดิ ออริจินัล ชาร์โคล 3 สเต็ปส์ คลีน เคลียร์ โนส พอร์ สตริบส์ เซ็ตแผ่นแปะสิวเสี้ยนชนิดลอกออก มี 3 ขั้นตอนในการใช้งาน 1. ใช้แผ่นทำความสะอาดรูขุมขน แปะไว้ 10 นาทีแล้วลอกออก 2. ใช้แผ่นแปะสิวเสี้ยน แปะทิ้งไว้ 15 - 20 นาทีแล้วค่อย ๆ ดึงออก สิวเสี้ยนจะหลุดติดแผ่นแปะขึ้นมาเป็นจำนวนมาก 3.ใช้แผ่นมาสก์กระชับรูขุมขน แปะทิ้งไว้ 10 นาทีแล้วลอกออก ช่วยขจัดสิวเสี้ยนบริเวณจมูกและทำให้รูขุมขนกระชับ ผิวเรียบเนียน ไม่มีตอดำ ๆ ของสิวเสี้ยนบริเวณจมูกอีกต่อไป
4.   WATSONS ออยล์ คอนโทรล โนส พอร์ สตริป วิธ ที ทรี ออยล์ ที่แปะสิวเสี้ยน ช่วยขจัดสิ่งอุดตันและลอกสิวเสี้ยนบริเวณจมูก ด้วยคุณสมบัติ Cleansing Power Double Up มีสารสกัดสำคัญจาก Witch Hazel Extract & Jojoba Oil พร้อม Tea Tree Leaf Oil ช่วยขจัดสิวหัวดำหรือสิวเสี้ยนได้เป็นอย่างดี
5.   Dermedy เอซี เคลียร์ แพทช์ แผ่นแปะสิวแบรนด์เดียวในประเทศไทยที่มีคุณสมบัติเป็นยารักษาสิว ด้วยส่วนผสมหลัก คือ Salicylic Acid 0.4% ในแผ่นฟิล์มไฮโดรคอลลอยด์ที่มีขนาดเพียง 0.13 มม. บางเฉียบ ปกปิดแนบสนิท ติดแน่น กันน้ำ

   หากใครกำลังมองหา ที่แปะสิว ดี ๆ ไว้ใช้ เข้าไปเลือกดูกันได้ที่ watson online พบ โปรโมชั่นวัตสัน ให้เลือกซื้อในราคาพิเศษกันไปเลย   

41
หากคุณเป็นคอกาแฟที่ใฝ่หารสชาติใหม่ ๆ มาเติมเต็ม ลองมารู้จัก cold brew คือ ทางเลือกใหม่ที่ไม่เพียงแต่ให้รสชาติสุดพิเศษแต่ยังดีต่อสุขภาพและได้รับความนิยมมากขึ้น แต่ถ้าคุณยังไม่รู้จักเมนูกาแฟแก้วนี้ เราจะมาแนะนำให้คุณรู้จักกับเมนูนี้มากยิ่งขึ้น

กาแฟ cold brew คือ อะไร? ต่างจากกับ Americano ไหม?
กาแฟ Cold brew หรือ กาแฟแบบสกัดเย็น เป็นเมนูที่ใช้เมล็ดกาแฟคั่วหยาบมาชงด้วยน้ำเย็นเพื่อสกัดเอารสชาติความขมและเปรี้ยวของกาแฟออกไป เหมาะสำหรับคอกาแฟที่ไม่ชอบดื่มกาแฟที่มีรสชาติเปรี้ยวและขมที่ทำให้ดื่มยาก รวมถึงเหมาะสำหรับการดื่มเติมความสดชื่นช่วงกลางวัน ซึ่งใครที่ไม่มีเวลาเลือกเมล็ดกาแฟคุณภาพมาผ่านกรรมวิธีในการสกัดเย็น แนะนำ กาแฟแคปซูล Nespresso

ความแตกต่างระหว่าง กาแฟ Cold Brew กับ Americano
การชงกาแฟ Cold Brew ใช้น้ำเย็นในการชงจึงแตกต่างจากการชงเมนูกาแฟอเมริกาโนที่ใช้น้ำร้อน ซึ่งรสชาติที่ได้ Cold Brew จะมีความบางเบา ดื่มง่ายแต่ให้ปริมาณคาเฟอีนเพียงพอต่อการเติมเต็มความสดชื่นระหว่างวันไม่แพ้ Americano

ความแตกต่างระหว่าง Cold Brew กับ Nitro Cold Brew
เมนูกาแฟ Nitro Cold Brew ต่อยอดมาจาก Cold Brew ซึ่งเป็น กาแฟสกัดเย็น เหมือนกันเพียงแต่มีการเพิ่มเทคนิคในการอัดก๊าซไนโตรเจนเข้าไปเพื่อให้ได้เมนูกาแฟสกัดเย็นที่ให้รสชาติเบาสบายดื่มง่ายและสัมผัสกับฟองกาแฟละเอียดเนียนนุ่มที่ช่วยเพิ่มความพิเศษให้กับเมนูกาแฟ Cold Brew ยิ่งขึ้น

พาส่อง 3 ขั้นตอนทำกาแฟโคลด์บริว หรือ กาแฟสกัดเย็น
สำหรับใครที่อยากทดลองทำกาแฟ Cold Brew ด้วยตัวเอง ขอแนะนำให้เลือกเมล็ดกาแฟอารบิกาแบบคั่วกลาง - คั่วเข้ม เพราะจะทำให้เมนูกาแฟ Cold Brew มีรสชาติที่บางเบาดื่มง่ายและยังเหมาะสำหรับผู้ที่ร่างกายไวต่อคาเฟอีนด้วย โดยขั้นตอนในการทำกาแฟ Cold Brew มีดังนี้
1. นำกาแฟบดหยาบที่เตรียมไว้ใส่ลงในแก้วและเทน้ำเย็นใส่ลงไป
2. นำกาแฟที่เตรียมไว้ใส่ในตู้แช่เย็นทิ้งเอาไว้ 12 – 24 ชั่วโมง
3. นำกาแฟสกัดเย็นที่ได้มาดื่มได้เลย
เทคนิคช่วยเพิ่มรสชาติกาแฟแก้วนี้ให้อร่อยกลมกล่อมยิ่งขึ้นควรเลือกน้ำสะอาดที่ผ่านการต้มสุกและนำไปแช่เย็น หรือน้ำแร่จะช่วยเพิ่มรสชาติที่แสนพิเศษยิ่งขึ้น

กาแฟแบบ cold brew ทำให้รสชาติความขมและเปรี้ยวของกาแฟหายไป รวมถึงปริมาณคาเฟอีนน้อย จึงไม่ทำให้ตาค้างแต่ช่วยเติมความสดชื่นระหว่างวันได้ เหมาะสำหรับเป็นเมนูกาแฟแก้วที่ 2 ของวัน โดยคุณสามารถเลือกความสบายในการชงกาแฟ Cold brew ได้ด้วย กาแฟแคปซูล Nespresso Cold Brew Style Intense กลิ่นหอมหวานคาราเมลและซีเรียล

42
   ในการทำเมนูกาแฟมีรายละเอียดที่ต้องใส่ใจมากมาย ซึ่งไม่ใช่แค่ในเรื่องของสายพันธุ์ สถานที่ปลูก การดูแล แต่รวมถึงระยะเวลาการคั่ว รวมไปถึงอุณหภูมิ ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลต่อรสชาติของกาแฟอย่างมากและในวันนี้เรากำลังจะพูดถึงช็อตกาแฟ 3 แบบ ที่ว่ากันว่ามีรสชาติเข้มข้น เพื่อให้ได้ลิ้มลองรสชาติได้อย่างเต็มอรรถรส เราไปศึกษาพร้อม ๆ กันถึงความต่างที่ว่ากัน
1.   Americano หรือ เมนู longblack คือ รูปแบบการชงกาแฟด้วยการผสมระหว่าง espresso 1 shot ในอัตราส่วนของ espresso shot และน้ำร้อน เป็น 1:2 , 1:3 หรือ 1:4 ซึ่งสามารถเลือกรสชาติความเข้มข้นได้ตามใจชอบ ในเรื่องของอรรถรสมีกลิ่นหอมเมล็ดกาแฟคั่ว เมนู longblack คือ มีความ Crema หรือฟองจาง ๆ ไม่หนามากจากกรรมวิธีที่ผ่านเครื่องเอสเพรสโซ่ ด้วยการคั่วน้อย สิ่งนี้เองที่ทำให้กาแฟมีความกลมกล่อมลงตัว
2.   ristretto คือ กาแฟที่มีรสชาติสดชื่น ความเข้มข้นน้อย กรรมวิธีจะใช้เครื่องสกัดช๊อตในอัตราส่วน 1:1 หรือน้ำหนักกาแฟ 8-10 กรัม จากนั้นสกัดน้ำกาแฟออกมา 22 ml ใช้เวลาภายใน 20-30 วินาที ปล่อยให้น้ำร้อนค่อย ๆ ไหลผ่านผงกาแฟช้า ๆ ซึ่งขั้นตอนนี้จะช่วยให้ได้รสชาติที่เข้มข้น มีกลิ่นหอมของเมล็ดกาแฟคั่ว เรียกได้ว่า ristretto คือ สายกลางของคอคอฟฟี่
3.   lungo เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบความเข้มข้นไร้การปรุงแต่งหรือเรียกสั้น ๆ ว่ากาแฟดำ ใช้กรรมวิธีการสกัดน้ำกาแฟด้วยเครื่องเอสเพรสโซลากช็อตกาแฟให้ยาวได้ปริมาณ 90 ml ถือเป็นสุดยอดกาแฟที่มีรสชาติความเข้มข้นมาก ๆ กว่าทั้ง 2 แบบแรกที่เรากล่าวมา โดยกรรมวิธีการทำ lungo คือ ทำ espresso shot ปล่อยให้น้ำไหลผ่านรอจนได้น้ำกาแฟปริมาณ 3-4 ออนซ์ รสชาติที่ได้จะมีความเข้ม ขมและฝาด ใครที่ชอบลองอะไรใหม่ ๆ เชื่อว่าต้องประทับใจ ถือเป็นการเปิดใจเพื่อเข้าสู่โลกของกาแฟอย่างแท้จริง นอกจากนี้ในชื่อเรียก lungo หรือ่านว่า ลุงโก้ มาจากภาษาอิตาลีที่แปลว่า ยาว (long) ซึ่งความหมายของชื่อก็สัมพันธ์กับกรรมวิธีการทำที่ต้องใช้เวลามากกว่าวิธีอื่น ๆ

เห็นได้ว่าทั้ง 3 รูปแบบมีความแตกต่างกันในเรื่องกรรมวิธี ระยะเวลา ทำให้ได้รสชาติที่แตกต่างกัน สำหรับใครที่ชื่นชอบการจิบกาแฟแบบเข้ม ๆ แนะนำ lungo มีปริมาณเอสเพรสโซ่มากที่สุด ถ้าใครชอบความเข้มน้อย สามารถเลือกดื่ม ristretto และ LongBlack มาพร้อมกลิ่นหอมของกาแฟ รสชาติกลมกล่อม หรือถ้าใครอยากได้ กาแฟเปรี้ยว สามารถเลือกระดับการคั่วเอง ยิ่งคั่วน้อยกาแฟยิ่งมีความเปรี้ยวนั้นเอง และนี่ก็คือ 3 กรรมวิธีชงกาแฟที่ดึงวัตถุดิบจากเมล็ดกาแฟได้ดี และยังคงเสน่ห์ ถือเป็นศาสตร์การดื่มกาแฟที่น่าหลงใหล

43
ในปัจจุบันคนเริ่มหันมาชงกาแฟดื่มเองที่บ้านหรือออฟฟิศมากขึ้น เพราะมีเครื่องชงกาแฟที่มีให้เลือกมากมายหลายราคา ผลิตภัณฑ์กาแฟที่มีให้เลือกมากมายทั้งแบบเมล็ดที่ต้องบดเองและกาแฟแคปซูลที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย ทำให้การชงกาแฟสดไม่ยุ่งยากเหมือนสมัยก่อน ซึ่งสำหรับหลายคน เมื่อชงกาแฟดื่มเองแล้วอร่อย ก็อยากลองทำเมนูได้อย่างหลากหลาย หนึ่งในนั้นคือ กาแฟคาปูชิโน่ (Cappuccino) ทั้งแบบร้อนและเย็น เพราะเป็นเมนูที่หลายคนนิยมสั่ง ซึ่งในวันนี้เรามี สูตรคาปูชิโน่เย็น มาให้ถึง 4 สูตรครับ

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักก่อนว่า คาปูชิโน่ ต่างกับลาเต้อย่างไร โดยเมนูลาเต้มีส่วนประกอบเป็นนมร้อนมากกว่าช็อต Espresso ในขณะที่ กาแฟ cappuccino มีสัดส่วนระหว่างช็อตเอสเพรสโซ นมร้อนและฟองนมในอัตราส่วนเท่ากันคือ 1 ใน 3 ทำให้เมื่อเทียบกันแล้วลาเต้มีรสชาติอ่อนกว่า และทั้งสองเมนูต่างจากมัคคิอาโตตรงที่มัคคิอาโตจะเพิ่มชั้นฟองนมให้มากกว่าลาเต้และมีไซรับเพิ่มด้านบนซึ่งจะเป็นสัญลักษณ์ของเมนูนี้ ดังนั้นเราไปดู 4 สูตรคาปูชิโน่เย็น กันดีกว่า
1. Classic Capuccino
เริ่มด้วยเมนูคาปูชิโน่แบบคลาสสิก ทำได้โดยการเตรียม espresso 1 ช็อตจากแคปซูล Nespresso ที่ชอบใส่ลงในแก้ว จากนั้นเติมนมที่ได้จากที่ตีฟองนมลงไป (หรือเลือกฟังก์ชัน Capuccino จากรุ่นที่ทำกาแฟเมนูนี้ได้แบบอัตโนมัติ) ปิดท้ายด้วยการเติมน้ำตาลด้วยระดับความหวานตามชอบ เพียงเท่านี้ก็จะได้ Capuccino ร้อนแบบคลาสสิก หากจะทำแบบเย็นก็เพียงแค่เพิ่มน้ำแข็ง โดยใส่น้ำแข็งลงในแก้วก่อน จากนั้นเติมช็อต Espresso ที่เพิ่มปริมาณเป็นสองเท่า และปิดท้ายด้วยการเติมนมสดและฟองนมลงไป
2. Vanilla Iced Cappuccino
เริ่มด้วยการใส่น้ำแข็งลงในแก้ว จากนั้นเตรียมช็อต Espresso เช่นเดียวกับเมนูคลาสสิก ตามด้วยการเพิ่มไซรับวานิลลาหนึ่งช็อตลงไปบนช็อตเอสเพรสโซ ปิดท้ายด้วยการเทฟองนมเย็นตามลงไปเพื่อให้กลิ่นวานิลลาผสมกับฟองนมอย่างลงตัว
3. Caramel Iced Cappuccino
เตรียมช็อตเอสเพรสโซเช่นเดียวกับสูตรก่อนหน้านี้ จากนั้นผสมคาราเมลไซรับเข้ากับกาแฟที่เตรียมไว้ เทลงในแก้วและปิดท้ายด้วยฟองนม
4. Mocha Iced Cappuccino
เพียงแค่เปลี่ยนจากไซรับคาราเมลมาเป็นไซรับช็อกโกแลตหรือผงโกโก้ ผสมให้เข้ากับช็อตเอสเพรสโซ จากนั้นเทลงในแก้วที่มีน้ำแข็งและปิดท้ายด้วยฟองนม ก็จะได้เมนูนี้แล้ว
นี่คือ 4 สูตร กาแฟคาปูชิโน่ ที่เรานำมาให้ในวันนี้ มีตั้งแต่แบบคลาสสิกและแบบที่เติมไซรับเพื่อเพิ่มรสชาติ ซึ่งคุณยังสามารถพลิกแพลงสูตรเหล่านี้ได้อย่างหลากหลาย เช่นหากใช้น้ำมะพร้าว ก็จะได้ Coconut Iced Cappuccino หรือหากเลือกใช้ไซรับเฮเซลนัท ก็จะได้เมนู Hazelnut Iced Cappuccino เมนูทั้งหมดนี้จะชงดื่มเองหรือทำขายก็ถือว่าเหมาะ เหลือเพียงแค่เลือกแคปซูล Nespresso ที่ชอบและเครื่องชงที่เหมาะกับการใช้งานของคุณเท่านั้น

44
คอกาแฟที่ชอบทำกาแฟดื่มเองหลาย ๆ  คนมักเจอปัญหาใหญ่ในการทำฟองนม ที่ไม่ว่าจะทำด้วยวิธีใดก็ไม่ได้ดั่งใจ ทำให้ไม่ได้ฟองนมสวย ๆ  ใส่แก้วกาแฟสักที แสนขัดใจ พลอยเสียอรรถรสในการดื่มไปเลย วันนี้เลยอยากจะมาแชร์ทริค วิธีตีฟองนม ให้คอกาแฟมือใหม่ได้ฝึกฝีมือและทำตาม

ปัญหาการตีฟองนม ที่หลายคนพบเจอ
1. ฟองนมไม่ฟู อาจมีสาเหตุมาจาก
- ตีฟองไม่ขึ้นเพราะนมเย็นไม่พอ
- นมเจือจางตีฟองขึ้นยาก
- เติมนมในพิชเชอร์มากเกินไป จนไม่เหลือที่ว่างให้ฟองนมขยายตัว
- ใช้นมใกล้หมดอายุ
- การสตีมนม ต้องให้ก้านสตีมไม่ลงไปลึกหรืออยู่ตื้นเกินไป

2. ฟองนมไม่เนียน
- สาเหตุมาจากระหว่างกระบวนการ วิธีตีฟองนม อาจจะมีฟองอากาศขนาดใหญ่แทรกเข้าไปได้ หรือเกิดจาก เครื่องตีฟองนม ที่กำลังไม่พอ จึงตีฟองนมได้ไม่สม่ำเสมอ

3. ฟองนมยุบตัวเร็ว
- สาเหตุมาจากการตีฟองในช่วงที่นมยังไม่ได้ที่ อุณหภูมิของนมไม่เย็นเพียงพอ เมื่อนำไปแต่งบนแก้วกาแฟจึงยุบตัวเร็วกว่าปกติ

ก่อนที่จะไปเรียนรู้ วิธีตีฟองนม ต้องมาทำความรู้จักฟองนมที่ดีก่อนว่าควรมีลักษณะอย่างไร
1. ฟองนมที่ดี ควรมีชั้นโฟมเนียนละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน ไร้ซึ่งฟองอากาศที่เป็นจุด ๆ  หรือพยายามให้มีฟองอากาศน้อยที่สุด
2. ควรมีรสสัมผัสที่เนียนนุ่มและเนื้อแน่น ยังได้รสชาติความครีมมี่ของนมที่โดดเด่นอยู่ จึงควรเลือกใช้นมที่มีคุณภาพ

เคล็ดลับ วิธีทำฟองนม สำหรับมือใหม่
1. วิธีตีฟองนมด้วย เครื่องตีฟองนม
- เทนมสดลงในแก้ว ปริมาณประมาณ 1 ใน 3 แล้วนำไปต้ม หรืออุ่นด้วยไมโครเวฟให้ได้อุณหภูมิ 60-70 องศาเซลเซียส หรือใช้เวลาประมาณ 30 วินาที
- เทนมลงใส่แก้วที่เตรียมไว้ในปริมาณ 1 ใน 3 ของแก้ว จากนั้นเตรียมก้านตีฟองนม
- นำก้านตีฟองนมจุ่มลงไปในนมระดับหนึ่ง ไม่ลึกหรือตื้นเกินไป ถ้าลึกไปจะทำให้ฟองนมขึ้นช้า ถ้าตื้นไปจะทำให้เกิดฟองอากาศใหญ่ไม่เนียนสวย
- เปิด เครื่องตีฟองนม ค่อย ๆ  วนมืออย่างช้า ๆ  ไปเรื่อย ๆ  จนฟู ใช้เวลาประมาณ 30 วินาที ก็จะได้ฟองนมเนียนสวย

2. ตีฟองนม ด้วยเครื่องอุ่นนมร้อน
- เตรียมเครื่องอุ่นนมที่มีฟังก์ชันตีฟองนม เปิดฝาเทนมลงไป
- ปิดฝาเครื่อง ตั้งอุณหภูมิที่ต้องการแล้วกดฟังก์ชันตีฟองนม เพียงเท่านี้ก็เรียบร้อย

วิธีทำฟองนม ให้เนียนสวยไม่ใช่เรื่องยาก มือใหม่ก็เรียนรู้ได้ เพราะฟองนมที่ดีจะช่วยส่งเสริมให้กาแฟแก้วโปรดของเราสวยงามน่าดื่ม รู้เคล็ดลับในการตีฟองนมแล้ว สิ่งสำคัญคืออย่าลืมฝึกฝนบ่อย ๆ  เพียงเท่านี้ก็จะสามารถทำฟองนมได้แบบมืออาชีพ

ชมรายละเอียดที่
https://www.nespresso.com/th/th/aeroccino-accessories-collection

45
   ร้อน ๆ แบบนี้คงจะดีถ้าหากได้ดื่มอะไรเย็น ๆ วันนี้เราเลยมี 5 สูตรเมนู กาแฟเย็น ที่ทำเองได้ง่าย ๆ มาฝาก เอาไว้ให้เพื่อน ๆได้ไปชงดื่มคลายร้อนปลุกความกระปรี้กระเปร่า รีบจดสูตรแล้วเอาไปทำตามกันได้เลย
   1.อเมริกาโน่เย็น
   วัตถุดิบ
-   กาแฟ
-   น้ำเปล่า
-   น้ำแข็ง
-   ไซรัปหรือน้ำผึ้ง
วิธีทำ
เมนูกาแฟสุดคลาสสิคดื่มง่ายชงง่ายใครก็ทำได้อย่างอเมริกาโน่เย็นเป็นอะไรที่น่าสนใจมาก  เริ่มง่าย ๆ เลยก็คือมีช็อตเอสเพรสโซ่ที่เราจะชงเองหรือชงจากเครื่องชงกาแฟก็ได้ แนะนำให้ชงแบบ กาแฟสกัดเย็น  หรือ Cold Brew จะได้รสชาติที่อร่อยกลมกล่อมและสดชื่นกว่าแล้วนำช็อตกาแฟนั้นมาผสมน้ำเปล่าเติมน้ำแข็ง ใครชอบหวานก็อาจจะเติมน้ำผึ้งหรือไซรัปตามลงไปรับรองอร่อยสดชื่น

   2. อเมริกาโน่น้ำส้ม
   วัตถุดิบ
-   กาแฟ
-   น้ำปล่า
-   น้ำแข็ง
-   น้ำส้ม

วิธีทำ
สูตรกาแฟเย็น ที่อยากให้ลองสักครั้ง เมนูนี้ต่อยอดมาจากการทำเมนูอเมริกาโน่เย็น ยังคงชง กาแฟสกัดเย็น ให้ได้ช็อตกาแฟดำเหมือนเดิม แค่เปลี่ยนมาใช้น้ำส้มในการเจือจางกาแฟดู รับรองออกมาเข้ากันอย่างลงตัว ได้ความหอมเปรี้ยวและสดชื่นจากน้ำส้ม ได้ความกลมกล่อมจากกาแฟ คลายร้อนได้ดีเลยทีเดียว

   3. ลาเต้เย็น
   วัตถุดิบ
-   กาแฟ
-   น้ำปล่า
-   น้ำแข็ง
-   นม
-   ไซรัป
   วิธีทำ
   สูตรลาเต้เย็น เริ่มจากตีฟองนมนุ่ม ๆ เตรียมไว้รอก่อนเลย จากนั้นชงกาแฟ เตรียมนมผสมกับไซรัปเทลงไปในแก้วกาแฟ เทกาแฟที่ชงแล้วลงไปคนผสมให้เข้ากัน ตามด้วยน้ำแข็ง จากนั้นก็ออนท็อปปิดท้ายด้วยฟองนมหนานุ่มเป็นอันเสร็จ สูตรลาเต้เย็น นี้สามารถโรยผงช็อกโกแลต หรือจะเพิ่มวิปครีมเข้าไปด้วยก็ได้

   4.กาแฟเย็นไทยสไตล์
วัตถุดิบ
-   กาแฟ
-   น้ำปล่า
-   น้ำแข็ง
-   นมข้นหวาน
-   นมสด
-   น้ำตาล

วิธีทำ
   กาแฟเย็น ยกล้อแบบไทยสไตล์ เริ่มจากชงกาแฟดำแบบทั่วไปก่อน หรือจะต่อยอดมาจากอเมริกาโน่เลยก็ได้ นำมาเติมนมข้นหวานและน้ำตาลให้หวานหอม จากนั้นก็เทใส่แก้วเติมน้ำแข็ง ราดด้วยนมสดปิดท้ายความอร่อย หวานมันกลมกล่อมที่สุดเมนูนี้

   5.มอคค่าเย็น
   วัตถุดิบ
-   กาแฟ
-   น้ำปล่า
-   น้ำแข็ง
-   นมสด
-   ช็อกโกแลตแท่ง
-   ผงช็อกโกแลต

   วิธีทำ
   รสชาติความหอมและเข้มข้นลงตัวพอดีของกาแฟและช็อกโกแลต วิธีทำคือชงช็อตกาแฟเอสเพรสโซ่ แล้วนำมาผสมกับช็อกโกแลตแท่งคนเข้ากันจนละลาย ผสมนมสดลงไป จากนั้นก็ใส่น้ำแข็งแล้วก็ตีฟองนมมาออนท็อปพร้อมโรยด้วยผงช็อกโกแลตเป็นอันเสร็จ

   ทั้งหมดนี้ก็เป็น 5 สูตรกาแฟเย็น เพื่อน ๆ สามารถนำไปชงดื่มคลายร้อนด้วยตนเองได้ รับรองว่าอร่อย สดชื่น ดื่มแล้วดับกระหาย กระปรี้กระเปร่าขึ้นแน่นอน

ชมเพิ่มเติมที่
https://www.nespresso.com/th/th/coffee-roast-levels
https://www.nespresso.com/th/th/nespresso-iced-coffee
https://www.nespresso.com/th/th/nespresso-iced-coffee

46
   กาแฟเป็นเมนูที่หลายคนเลือกดื่มทุกวันก่อนเริ่มงานเพื่อให้รู้สึกตื่นตัว ฉะนั้นเพื่อเอาใจคนที่อยากจะลองทำไว้ดื่มเองที่บ้าน วันนี้เรามีสูตรวิธีการทำว่ามีส่วนผสมใดบ้าง ควรใส่ในปริมาณเท่าไหร่ ลองไปดูว่า สูตรกาแฟเย็น ว่าแต่ละเมนูทำอย่างไร

สูตรชงกาแฟสด 5 สูตร
   สำหรับสูตรชงกาแฟในวันนี้ที่เราจะพูดถึงนั้นมีรสหวานน้อย ปริมาณ 16 ออนซ์ เป็นแก้วเครื่องดื่มขนาดกลางที่นิยมทานและมีปริมาณกาแฟที่ร่างกายต้องการ ทานแล้วมีประโยชน์ หากอยากรู้แล้วว่าแต่ละเมนูมีขั้นตอน สัดส่วนและส่วนผสมอย่างไร ไปดูกันเลย

สูตรที่ 1 กาแฟเอสเปรสโซเย็น
   เมนูที่มีความเข้มข้น แต่มีความละมุนด้วยนมสดที่ผสมในปริมาณเพียงเล็กน้อย ซึ่งสูตรนี้จะไม่ใส่น้ำตาลอะไรเลย เพื่อเอาใจสายดื่มที่อยากสัมผัสรสชาติกาแฟที่ไม่ขมมาก
   อัตราส่วนและวัตถุดิบ
•   น้ำกาแฟ 120 ml (4 ออนซ์)
•   นมสดรสจืด 60 ml (2 ออนซ์)

สูตรที่ 2 อเมริกาโน่เย็น
มีส่วนผสมเพียงน้ำกาแฟและน้ำเปล่าเท่านั้นเพื่อให้ได้สัมผัสรสชาติความเป็นกาแฟแท้ ๆ หรือถ้าใครอยากทำให้เมนูมีสีสันมากขึ้น ก็สามารถเลือกวัตถุดิบอื่นมาปรุงแต่เพิ่ม ซึ่งยังคงความเป็นกาแฟที่มีเสน่ห์น่าหลงใหลและถูกใจคอดื่มมาก ๆ นอกจากนี้ยังมีความคล้ายเมนู กาแฟสกัดเย็น ส่วนผสมมีเพียงน้ำเปล่าและน้ำกาแฟ เพียงแต่กรรมวิธีจะต่างกันที่ใช้อุณหภูมิเย็นสกัดเอาน้ำกาแฟ ในเรื่องของรสชาติดีไม่แพ้กัน
   อัตราส่วนและวัตถุดิบ
•   น้ำกาแฟ 90 ml (3 ออนซ์)
•   น้ำเปล่า (อุณหภูมิปกติ) 90 ml (3 ออนซ์)
 
สูตรที่ 3 สูตรชงกาแฟคาปูชิโน่เย็น
ความลงตัวของช็อตเอสเปรสโซกับนมสดร้อน ทำให้รสชาติกลมกล่อม ละมุนด้วยฟองนม ทั้งยังสามารถเพิ่มเสน่ห์ด้วยการโรยผงโกโก้หรืออบเชย เมื่อดื่มจะพบรสชาติในหลากมิติ สำหรับประเทศไทยนิยมดื่มแบบเป็น กาแฟเย็น ด้วยอากาศที่ร้อน หากได้ดื่มสักแก้วจะทำให้สดชื่น
   อัตราส่วนและวัตถุดิบ สูตรคาปูชิโน่เย็น
•   น้ำกาแฟ 90 ml (3 ออนซ์)
•   นมสดรสจืด 90 ml (3 ออนซ์)
•   ฟองนม
•   ผงโกโก้หรืออบเชย ใช้สำหรับโรยบนฟองนม
 
สูตรที่ 4 ลาเต้เย็น
สำหรับเมนูนี้ แม้ว่ากาแฟลาเต้จะโดดเด่นมากที่สุดคือลาเต้ร้อน เพราะมีรสชาติหอมละมุนลิ้นสุด ๆ แต่เมื่อมาในรูปแบบลาเต้เย็นรสชาติมีความพิเศษมากขึ้น ด้วยอุณหภูมิเย็นเมื่อทานแล้วจึงสดชื่น บวกกับฟองนมที่ถูกตีอย่างละเอียดจนทำให้ไม่อยากวางมือ เป็นเมนูกาแฟเย็นที่ยอดฮิตตลอดกาล
   อัตราส่วนและวัตถุดิบ
•   น้ำกาแฟ 60 ml (2 ออนซ์)
•   นมสดรสจืด 120 ml (4 ออนซ์)

สูตรที่ 5 มอคค่าเย็น
เป็นเมนูที่มีความหลากหลาย เพราะแต่ละประเทศหรือแต่ละร้านมักครีเอทต่างกันออกไป แต่โดยพื้นฐาน สูตรกาแฟเย็น มอคค่าจะเป็นการนำเอสเปรสโซ่ผสมกับผงโกโก้หรือช็อกโกแลต ตามด้วยนมหรือครีม ท็อปด้านบนด้วยฟองนมในส่วนนี้จะใส่ไม่ก็ได้ สำหรับรสชาติมีรสขมอ่อน ๆ ตามด้วยรสหวานจากช็อกโกแลต
   อัตราส่วนและวัตถุดิบ
•   น้ำกาแฟ 90 ml (3 ออนซ์)
•   ผงโกโก้ 1 ช้อนตวง (7 กรัม)
•   นมสดรสจืด 90 ml (3 ออนซ์)
•   ฟองนม (ไม่ใส่ก็ได้)

วิธีชงกาแฟจริง ๆ แล้วไม่ยาก เพียงแต่ต้องมีเครื่องทำกาแฟ ถือเป็นตัวช่วยสำคัญที่จะทำให้รสชาติ กาแฟ ใกล้เคียงร้านหรือคาเฟ่ รู้สูตรแบบนี้แล้วหากอยากดื่มกาแฟรสชาติดี ๆ เมื่อใดก็สามารถทำเองได้เลย

47
กาแฟคือเครื่องดื่มที่มีเอกลักษณ์และสามารถพลิกแพลงไปได้มากมาย กาแฟแต่ละชนิดก็ยังมีคาแรคเตอร์เฉพาะตัวของกลิ่นและรสชาติ มอบความสุขและประสบการณ์ที่แตกต่างออกไปได้เสมอ
โดยอีกปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อกลิ่นและรสชาติของกาแฟก็คือ ถ้วยกาแฟ ของ Nespresso เพราะถ้วยกาแฟที่เหมาะสม จะช่วยให้ผู้ดื่มสามารถได้รับรสชาติที่ซับซ้อนจากกาแฟได้ดีกว่า แล้วกาแฟแต่ละประเภทนั้น จะเหมาะกับถ้วยกาแฟแบบใด ลองมาดูเทคนิคง่าย ๆ ในการเลือกถ้วยกาแฟ ดังต่อไปนี้

เทคนิคการเลือก ถ้วยกาแฟ ให้เหมาะกับเมนูกาแฟ
   
1. สำหรับ กาแฟดำ อย่าง longblack และอเมริกาโน่นั้น ควรเสิร์ฟด้วยแก้วมัค ที่ให้ความหนาแข็งแรง สามารถคงรักษาครีมฟอง ครีม่า นุ่มๆ หอมๆ ได้ค่อนข้างนานกว่า ทำให้ผู้ดื่มได้กลิ่นและอโรม่าอันเป็นเอกลักษณ์ ของกาแฟ longblack และอเมริกาโน่ ได้อย่างชัดเจน โดยทั่วไปจะเป็นขนาด 6-8 ออนซ์ หรือขนาด 16-20 ออนซ์

2.กาแฟเอสเพรสโซ่ เป็นกาแฟร้อนเข้มข้น การเสิร์ฟกาแฟเอสเพรสโซ่ จึงควรใช้แก้วกาแฟขนาด 3 ออนซ์ที่มีปากแก้วที่บานออกเล็กน้อย ก็จะช่วยเก็บรักษากลิ่นหอมและคงอุณหภูมิที่อุ่นพอดีได้นานกว่า จึงช่วยให้ได้สัมผัสกลิ่นและรสของเอสเพรสโซ่ได้ดีที่สุด

3.กาแฟ cappuccino ของ Nespresso นอกจากกลิ่นและรสอันนุ่มละมุนของเมนูกาแฟนี้แล้ว ยังเป็นศิลปะที่จะต้องโชว์ชั้นที่สวยงามของกาแฟและนมอีกด้วย ดังนั้นจึงนิยมนำแก้วใสปากกว้าง ขนาดประมาณ 12 ออนซ์ หนาไม่เกิน 5 มม. เพราะผู้ดื่มจะได้สัมผัสความนุ่มของฟองนมพร้อมกับความสวยงาม และรสชาติอันหอมกรุ่นของคาปูชิโน่ได้อย่างชัดเจน

4. กาแฟลาเต้ และ มอคค่า ซึ่งเป็นกาแฟร้อนที่ให้ความนุ่มนวลจากนมและช็อกโกแลตที่ผสมลงไป ควรเลือกเป็นถ้วยเซรามิก เพราะจะคงทนต่อความร้อนได้ดีกว่า มีขนาดความหนาที่มากกว่า จึงสามารถคงรักษากลิ่นและอโรม่าของกาแฟที่ผสมนมหรือช็อกโกแลตได้นานกว่า และควรเลือกทรงตรงหรือแก้วปากกว้าง เวลาดื่มก็จะทำให้น้ำกาแฟถูกถ่ายเทออกมาสู่ช่องปากได้อย่างเต็มที่ จึงช่วยขยายการรับกลิ่นและเนื้อสัมผัสของกาแฟได้ดี ใช้ขนาด 12 ออนซ์เช่นกัน

5.สำหรับ กาแฟ dirty นั้นถือว่าเป็นเมนูกาแฟใหม่ที่มีความพิเศษเฉพาะตัว นั่นก็คือ กาแฟ dirty เป็นเมนูกาแฟนม ที่เสิร์ฟแยกชั้นกันอย่างชัดเจนระหว่างนมสดเย็นจัด ที่อยู่ด้านล่างของก้นแก้วกับ Shot Espresso ที่ทำการสกัดในระดับเข้มข้นกว่าปกติและอยู่ด้านบน ดังนั้นจึงต้องเสิร์ฟในแก้วใสแช่เย็นเท่านั้น เพื่อให้สามารถมองเห็นการแยกชั้นได้อย่างสวยงาม และเพื่อให้ยังคงรักษากลิ่น และอโรม่าของกาแฟเอาไว้ได้สมบูรณ์ ควรเลือกเป็นขนาด 12 ออนซ์

สามารถยกระดับกาแฟเดิม ๆ ของคุณ ให้กลมกล่อมหอมกรุ่นมากกว่าที่เคยได้อย่างง่าย เพียงแค่เตรียมแก้วกาแฟให้เหมาะกับแต่ละเมนูเท่านั้น ลองเลย!

48
   การชงกาแฟแบบ cold brew คือ กาแฟที่ใช้น้ำเย็นในการสกัดเอาน้ำกาแฟ ซึ่งในขั้นตอนนี้ความขมและความเปรี้ยวจะถูกตัดทอนออกไป ทำให้ได้สัมผัสรสชาติของกาแฟแท้ ๆ ที่มีความละมุนแม้จะไม่ได้ปรุงแต่งอะไรเลยก็ตาม หากใช้ กาแฟแคปซูล ก็ทำกาแฟแบบนี้ได้เช่นกัน แล้วรสชาติกาแฟจะหอมหวาน เบาบาง เข้าถึงง่ายแค่ไหน วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักเสน่ห์ของ cold brew หรือ กาแฟสกัดเย็น มากขึ้น

สูตรชง กาแฟสกัดเย็น เสน่ห์ที่คุณต้องลอง
•   เลือกใช้กาแฟแบบใดก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นซื้อเมล็ดคั่วมาบดเองหรือจะเป็นแบบผงบดหยาบบรรจุในรูปแบบ กาแฟแคปซูล สำเร็จมาแล้วก็ได้
•   นำกาแฟบดหยาบที่ได้มาใส่ในสัดส่วนที่ต้องการว่าอยากให้เข้มมากหรือน้อย เลือกได้ตามต้องการ เช่น 1:5 หรือ 250 กรัม ต่อน้ำ 1,250 กรัม (42 ออนซ์)
•   จากนั้นให้นำกาแฟบดหยาบมาแช่ในน้ำตามปริมาณที่บอกไป จะใส่เป็นน้ำเย็นหรืออุณหภูมิห้องก็ได้ แช่ทิ้งไว้ประมาณ 8 – 24 ชั่วโมง จากเวลาในการแช่จะเห็นว่ากว่าจะได้กาแฟสักแก้วที่อร่อย ต้องใส่ใจกรรมวิธีมาก ๆ
•   เมื่อแช่ทิ้งไว้ครบตามเวลาที่กำหนด ให้กรองเทเอาเพียงน้ำกาแฟใส่แก้ว หากชิมแล้วรสชาติเข้มไป สามารถเพิ่มนมสดเข้าไปหรือแล้วแต่จะรังสรรค์ตามใจชอบ

ทริกการเลือกใช้เมล็ดกาแฟ
นอกจากขั้นตอนในการทำกาแฟแบบสกัดเย็นแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญคือการเลือกวัตถุดิบที่เหมาะสม สำหรับเมนูนี้จะเลือกใช้เมล็ดกาแฟคั่วอ่อนไปจนถึงกลาง จะส่งผลในเรื่องของรสสัมผัสที่มีความนุ่มนวล ไม่เข้มเกินไปมีความลงตัว สำหรับสายพันธุ์ของเมล็ดกาแฟที่บาริสต้านิยมใช้คือเมล็ดกาแฟอาราบิก้า เนื่องจากมีความเข้มน้อย เมื่อมามาทำ กาแฟสกัดเย็น จะทำให้รสชาติซอฟท์ลงไปอีก

ประโยชน์และความพิเศษในเมนูที่ชื่อ กาแฟโคลด์บริว (cold brew)
    กาแฟ cold brew ให้รสสัมผัสที่มีความเป็นกาแฟแท้ ๆ ไร้การปรุงแต่งในเวอร์ชั่นที่มีความขมแบบซอฟท์ ๆ หวานปลาย เป็นความละมุนที่ทำให้วางไม่ลง ซึ่งในการชง 1 ครั้ง สามารถเก็บได้นานเป็นเวลา 1 สัปดาห์ โดยที่รสชาติและประโยชน์ยังคงอยู่ไม่หายไปไหน ประโยชน์ที่ว่า ได้แก่ รักษาโรคกระเพาะได้ดีเพราะมีปริมาณคาเฟอีนต่ำ ลดความเครียด ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ ช่วยเพิ่มระดับการเผาผลาญไขมันเพราะมีสารเมตาบอลิซึม เป็นต้น

   กาแฟแบบสกัดเย็นมีรสชาติเบาบาง คาเฟอีนต่ำ เหมาะกับคอกาแฟที่พึ่งหัดเริ่มต้นดื่มและเต็มไปด้วยประโยชน์ จึงเรียกได้ว่าเป็นเมนูเครื่องดื่มสุขภาพ ใคร ๆ ก็สามารถดื่มได้ไม่ว่าจะเป็นคนท้อง คนป่วยโรคหัวใจ ความดันโลหิตต่ำ เป็นต้น อย่างไรก็ดีควรดื่มในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อให้ส่งผลดีต่อร่างกาย

49
   การบำรุงและดูแลอย่างดีมีส่วนช่วยอย่างมากในการมีผิวดีขาวเนียนนุ่ม ซึ่งการเลือกใช้ โลชั่น บำรุงผิวที่ดี มีคุณสมบัติตรงกับความต้องการดูแลผิวของเราด้วย วันนี้มาแนะนำ 10 ครีมทาผิว น่าใช้ ใครที่อยากให้ผิวมีสุขภาพดี เปล่งปลั่งและนุ่มชุ่มชื้น ต้องห้ามพลาด

แนะนำ 10 ครีมทาผิวยี่ห้อไหนดี ช่วยบำรุงผิวขาวเนียนนุ่ม น่าใช้
1.   โลชั่นการ์นิเย่สีเหลือง บอดี้ ไบรท์ คอมพลีท เอ็กซ์ตร้า ไบรท์เทนนิ่ง รีแพร์ริ่ง เซรั่ม
   โลชั่นเนื้อเซรั่มมิลค์ สูตรผสาน 2 สารสกัดบริสุทธิ์ของเลม่อนและน้ำนม ช่วยให้ผิวกระจ่างใสไวขึ้นภายใน 7 วัน ช่วยลดจุดด่างดำและความหมองคล้ำ พร้อมช่วยกรองรังสี UVA และ รังสี UVB ปกป้องผิวจากแสง โลชั่นการ์นิเย่ ขนาด 400 มล. ราคาแพ็กคู่ในวัตสัน 285 บาท

2.   Jabs อินเทนซีฟ แคร์ ไฮยาลูรอน บอดี้ โลชั่น สำหรับผิวแห้งเป็นพิเศษ
   แจ๊บส์ อินเทนซีฟ แคร์ ไฮยาลูรอน บอดี้ โลชั่น สูตรเข้มข้นแต่ซึมซาบสู่ผิวได้ไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น ให้ผิวไม่แห้งกร้าน ด้วยคุณค่าจากสารสกัดจากเมล็ดฟักทอง ที่ช่วยเสริมอีลาสตินและคอลลาเจน ช่วยเติมร่องลึกให้ผิวแลดูเรียบเนียน เพิ่มความยืดหยุ่น ลดปัญหาเซลลูไลท์และผิวแตกลาย ทั้งลดเลือนริ้วรอยและจุดด่างดำ ปริมาณ 450 มล. ราคา 249 บาท ช่วงนี้วัตสันออนไลน์มีโปร ครีมทาผิว ซื้อ 1 แถม 1

3.   ครีมทาผิววาสลีน โปรเดอร์มา ไบรท์เทนนิ่ง วิธ ไบอาซินาไมด์ บอดี้ โลชั่น สูตร 3
   โลชั่นเนื้อเซรั่มเข้มข้น ที่มี 3 ส่วนประกอบสำคัญอย่าง ไนอาซินาไมด์บริสุทธิ์ 99 ช่วยกระชับรูขุมขนและปกป้องผิวจากการทำร้ายจากแสงแดด เรสเวอราทรอล ช่วยปรับสีผิวให้สว่างใสไวขึ้น และ เฮกซิลรีซอร์ซินอล ช่วยลดเลือนจุดด่างดำและปรับสีผิว ที่ไม่เรียบเนียน ให้สีผิวสม่ำเสมอ ช่วยจัดการต้นเหตุผิวหมองคล้ำและจุดด่างดำ เผยผิวให้ดูกระจ่างใสใน 7 วัน ครีมทาผิววาสลีน สูตร 3 ปริมาณ 250 มล. ราคา 359 บาท

4.   Grape Bella by Watsons ไวท์เทนนิ่ง บอดี้ โลชั่น
เกรพ เบลล่า บาย วัตสัน โลชั่นบำรุงผิวกาย ผสานคุณค่าอย่างลงตัวด้วย สารสกัดจากส่วนต่าง ๆ ขององุ่น Chardonay White ที่มีวิตามินชนิด Niacinamide และสารสกัด Wine Extract ที่มาพร้อมคุณค่าของ Particles Pollustop ช่วยคืนความอ่อนเยาว์ ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใส และปกป้องผิวจากมลภาวะ ปริมาณ 400 มล. ราคาปกติ 237 บาท โปรโมชั่น วัตสันออนไลน์ เหลือ 250 บาท

5.   ก๊กเลี้ยง เพิร์ล ยูวี ไวท์เทนนิ่ง แอนด์ แอนตี้เอจจิ้ง โลชั่น
ครีมทาผิว สูตรไข่มุก เหมาะกับผิวที่ต้องการการฟื้นฟูผิว ผิวที่มีปัญหารอยหมองคล้ำ ผิวคล้ำเสียสะสม ผิวไม่สม่ำเสมอและมีความไวต่อแสง พร้อมส่วนประกอบจากฉั่งฉิก และตังฉั่งเช่า ให้สารแอนตี้ออกซิเดนท์ ช่วยชะลอความหย่อนคล้อย ให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์ สุขภาพดี และสารสกัดจากชะเอมเทศและไป๋เช่า เข้าช่วยบำรุงลึกถึงชั้นผิว ให้ผิวแข็งแรง ช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวี ฟื้นฟูผิวขาวอย่างเต็มที่ ให้ผิวกระจ่างใส บำรุงผิวให้อ่อนโยน ลดริ้วรอยแห่งวัย ปริมาณ 200 มล. ราคา 89 บาท ที่วัตสันมีโปรช่วงนี้ ซื้อ 1 แถม 1 ด้วย

6.   Citra ไฮโดร คอลลาเจน โลชั่น สูตร TOMATO
ซิตร้า ไฮโดร คอลลาเจน ไบรท์ โลชั่น โทเมโท เนื้อเจล บางเบา มีส่วนผสมของเอสเซนส์จากธรรมชาติ 100% สารสกัดแบบเข้มข้นจากมะเขือเทศและทับทิม ให้ผิวขาวใส มีออร่า ผิวดูสดชื่นและไบรท์ยาวนาน โลชั่นบำรุงผิว โกลว์ 200 มล. ราคา 139 บาท

7.   DR.BIO ซูทติ้ง มอยส์เจอร์ โลชั่น
โลชั่น ดร.ไบโอ ซูทติ้ง มอยส์เจอร์ โลชั่น สูตรเพิ่มความชุ่มชื้นและสร้างความสมดุลให้ผิว มีความอ่อนโยนเพราะมีส่วนประกอบของสารสกัดจากพืช ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง จึงเหมาะที่จะใช้เป็น โลชั่นเด็ก และโลชั่นของทุกคนในครอบครัว ช่วยดูแลผิวที่แห้งกร้าน ช่วยเติมน้ำให้ผิวมีความชุ่มชื้น ด้วยส่วนผสมที่มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อผิว จึงช่วยปลอบประโลม และฟื้นฟูผิวจากความแห้งกร้านให้กลับมาสุขภาพดี ปริมาณ 500 กรัม ราคาปกติ 750 บาท ใครที่กำลังมองหา โลชั่นเด็ก ยี่ห้อที่สามารถใช้ได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่แนะนำเลย ในวัตสันออนไลน์ช่วงนี้ ราคา 420 บาท

8.   Nivea Extra Bright Radiant & Smooth Body Lotion
   โลชั่นบำรุงผิว สูตรผิวกระจ่างใสและเรียบเนียน มีส่วนประกอบในกลุ่มวิตซี สูงถึง 40 เท่า ที่มาจากสารสกัดจากส้ม, เลม่อน, พีช, แตงโม, คามู คามู, ชาเขียว, อะโวคาโด, และอะเซโรล่า เชอร์รี่ ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด ให้ผิวชุ่มชื้นยาวนานถึง 24 ชม. เนื้อครีมบางเบา ซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ Nivea Extra Bright Radiant & Smooth 1 ขวด ปริมาณ 380 มล. ราคา 189 บาท

9.   Cathy Doll กิฟ มีท ไวซ์ เพอร์ฟูม โลชั่น
เคที่ดอลล์ โลชั่นน้ำหอมเข้มข้น สูตร กิฟ มีท ไวซ์ เพอร์ฟูม เนื้อโลชั่นอุดมไปด้วยสารสกัดจากเมล็ดทับทิม วิตามินซี และอี ผสานพลังกับอาร์บูติน ช่วยบำรุงผิวกายให้เนียนนุ่ม ชุ่มชื้น ฟื้นฟูผิวที่หยาบกร้าน ให้ขาวกระจ่างใส ลดเลือนริ้วรอยและผิวที่หมองคล้ำ พร้อมกลิ่นน้ำหอมจากผลไม้ ที่หอมละมุน ติดทนนาน ปริมาณ 150 มล. ราคาปกติ 259 บาท วัตสันโปรช่วงนี้ 129 บาท

10.   St.Ives รีสโตร์ คอนลาเจน แอนด์ อิลาสติน บอดี้ โลชั่น
โลชั่น สำหรับฟื้นฟูผิว ส่วนประกอบสำคัญ ได้แก่ คอลลาเจนและโปรตีนอีลาสตินที่จำเป็นต่อผิว พร้อมกับมอยเจอร์ไรเซอร์จากธรรมชาติแบบ 100% อุดมไปด้วยสารสกัดที่ให้ความชุ่มชื้นอย่างเข้มข้น เพื่อช่วยฟื้นบำรุงผิว ให้มีความชุ่มชื้นตลอดวัน และเรียบเนียน ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง ปราศจากสารพาราเบน ซึมซาบเร็ว ปริมาณ 400 มล. ราคา 229 บาท


   สำหรับใครที่สนใจ โลชั่นที่ช่วยบำรุงผิวเพิ่มเติม สามารถดูข้อมูลได้ที่ www.watsons.co.th พร้อมรับ โปรวัตสัน และคูปองส่วนลดมากมายได้เฉพาะช่องทางวัตสันออนไลน์เท่านั้น

50
ใครที่กำลังอยากประหยัดเวลาในการไปซื้อกาแฟที่ร้าน Nespresso จะมาเผยเคล็ดลับ ชงกาแฟเองให้อร่อย พร้อมแนะนำเว็บไซต์ สูตรชงกาแฟสด รับรองว่าได้รสชาติเหมือนกับบาริสต้ามือทองมาชงให้ดื่มที่บ้าน
เผย 5 เคล็ดลับ ชงกาแฟให้อร่อย ของบาริสต้า
วิธี ชงกาแฟให้อร่อย ตามแบบฉบับของ บาริสต้าคือ เคล็ดลับสำคัญที่ช่วยยกระดับรสชาติของเมนูกาแฟแก้วโปรดของคุณได้ ซึ่งเคล็ดลับเหล่านี้สามารถทำตามได้เลย
1. เมล็ดกาแฟคุณภาพดี
การเลือกเมล็ดกาแฟคุณภาพดีผ่านการคัดสายพันธุ์และควบคุมระดับการคั่วที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มรสชาติของกาแฟให้กลมกล่อมยิ่งขึ้น ซึ่งหากคุณต้องการประหยัดเวลาในการชง สูตรกาแฟ ของ Nespresso แก้วโปรด ลองเลือกแคปซูลกาแฟ Nespresso ที่มีให้เลือกมากกว่า 100 รสชาติ, ผ่านการคัดสายพันธุ์เมล็ดกาแฟและคั่วด้วยความร้อนที่เหมาะสม จากนั้นนำมาบรรจุในแคปซูลให้คุณสามารถชงกาแฟระดับพรีเมียมได้ง่ายยิ่งขึ้น
2. อุณหภูมิถูกต้อง
น้ำร้อนที่ใช้สกัดกาแฟสดต้องมีความร้อนที่ถูกต้องเหมาะสมเพื่อดึงรสชาติและกลิ่นของกาแฟออกมา ซึ่งการใช้เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติจะช่วยให้คุณสามารถชงกาแฟได้ในระดับบาริสต้าแม้ไม่มีประสบการณ์ชงกาแฟแบบมืออาชีพมาก่อน รวมถึงเครื่องชงกาแฟจะช่วยกำหนดปริมาณน้ำร้อนที่เหมาะสมกับ สูตรชงกาแฟสด ของ Nespresso ของคุณด้วย
3. การเลือกเครื่องชงกาแฟ
เคล็ดลับสำคัญที่ช่วยเพิ่มความรวดเร็วและยกระดับเมนูกาแฟของ บาริสต้าคือ เครื่องชงกาแฟ Nespresso ที่มีฟังก์ชันการใช้งานที่สามารถเลือกให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของตัวเองได้ เพราะมีทั้งเครื่องชงสำหรับที่อยู่อาศัย, สำนักงาน, ร้านอาหาร, ร้านกาแฟหรือโรงแรม จึงทำให้คุณสามารถชงกาแฟได้ง่ายและรวดเร็วกว่าการเดินทางไปร้านกาแฟ
4. ฟองนมนุ่มละเอียด
Nespresso แบรรด์เครื่องชงกาแฟแคปซูลชั้นนำ มีทั้งเครื่องชงกาแฟที่สามารถทำฟองนมร้อน/เย็นได้ในตัวและเครื่องทำฟองนมอัตโนมัติที่ช่วยให้ฟองนมเนียนนุ่มละเอียดกว่าเดิมจึงช่วยยกระดับเมนูกาแฟที่มีฟองนมหรูหรายิ่งกว่าเดิม
5. รู้จักส่วนผสมของแต่ละเมนู
มองหา สูตรชงกาแฟ ของ Nespresso แก้วโปรดที่คุณต้องการไม่ว่าจะเป็นสูตรกาแฟคลาสสิก เช่น เมนูอเมริกาโน, คาปูชิโน่ร้อน/เย็น, เอสเพลสโซ่ หรือมัคคิอาโต้ เป็นต้น ไปจนถึงสูตรกาแฟตามเทศกาลที่คิดค้นขึ้นมาโดยบาริสต้าระดับโลกได้ที่เว็บไซต์ Nespresso
เคล็ดลับ ชงกาแฟให้อร่อย ไม่ว่าจะเมนูร้อนหรือกาแฟเย็น ของ Nespresso เหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณประหยัดเวลาในการเลือกซื้อกาแฟแต่ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย รับรองว่ารสชาติกาแฟได้อย่างที่ต้องการแน่นอน

หน้า: [1] 2 3 4 5 6 ... 9