เงินเป็นสิ่งสำคัญ ที่ใช้ในการดำเนินชีวิต จับจ่ายใช้สอย ชำระหนี้ ทุกอย่างจำเป็นต้องใช้เงิน โดยเฉพาะการเริ่มธุรกิจ หรือการซื้อบ้าน รถ ของที่มีมูลค่าเเพง จำเป็นต้องใช้เงินก้อน แต่การไปกู้ขอสินเชื่อส่วนบุคคลจากธนาคาร จำนวนเงินที่ได้ไม่มาก แถมดอกเบี้ยก็สูง และเราจะทำอย่างไรได้บ้าง เพื่อให้ได้เงินก้อนมา โดยไม่สร้างภาระที่หนักจนเกินไป
สิ่งที่ตอบโจทย์เราได้ ก็คือ สินเชื่อบ้านเเลกเงิน หากเรามีบ้านเป็นของตนเอง เราสามารถใช้บ้านเป็นหลักประกัน เพื่อยื่นขอสินเชื่อได้ จะทำให้เราได้วงเงินกู้ที่สูง ดอกเบี้ยต่ำ มาถึงตรงนี้ คนอาจจะตกใจว่า มันจะมีปัญหาอะไรตามมาหรือไม่ เราจะยังอาศัยอยู่ที่บ้านได้ตามปกติหรือเปล่า มาหาคำตอบที่คาใจในเรื่องสินเชื่อบ้านเเลกเงินกันจากบทความนี้
สินเชื่อบ้านแลกเงิน คืออะไร ?สินเชื่อบ้านแลกเงิน คือ สัญญาเงินกู้แบบมีหลักทรัพย์ค้ำประกันประเภทหนึ่ง ซึ่งผู้กู้จะต้องนำบ้านไปจำนอง กับธนาคาร แล้วผ่อนส่งกับธนาคารตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ โดยเงื่อนไขคือ ต้องเป็นบ้านที่ไม่มีสถานะติดจำนอง หรือติดภาระหนี้อื่นๆ จะเป็นบ้านเดี่ยว คอนโด ทาวน์โฮม อาคารพาณิชย์ ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์สามารถนำไปยื่นได้หมด สำหรับบางธนาคารอนุมัติสำหรับที่ดินเปล่าได้เช่นกัน
สำหรับบ้านที่ถูกนำไปเป็นหลักประกันนั้น จะยังคงเป็นกรรมสิทธิของผู้กู้ ดังนั้นผู้กู้ยังสามารถพักอาศัยที่บ้าน ของตนได้ตามปกติ เเม้จะเอาไปใช้เป็นหลักประกันก็ตาม แต่ในกรณีที่ผู้กู้ไม่สามารถใช้เงินให้ธนาคารได้ตามกำหนด ธนาคารก็มีสิทธิ์ที่จะส่งฟ้อง เพื่อทำการยึดหลักประกัน เพื่อนำไปขายทอดตลาดได้
สินเชื่อบ้านแลกเงิน เหมาะกับใครสินเชื่อบ้านเเลกเงิน เหมาะกับผู้ที่มีคุณสมบัติเหล่านี้
- มีอสังหาริมทรัพย์เป็นของตัวเอง เป็นสิ่งปลูกสร้างประเภทไหนก็ได้ ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น
- อสังหาริมทรัพย์ที่มี ต้องไม่ติดสถานะจำนอง หรือมีพันธะอื่นๆ
- มีความจำเป็นต้องใช้เงินก้อน เพื่อไปใช้จ่าย
ขั้นตอนขอสินเชื่อบ้านแลกเงินการขอสินเชื่อบ้านแลกเงิน เมื่อเราได้เลือกเเล้วว่าจะขอสินเชื่อบ้านเเลกเงิน กับธนาคารไหน ขั้นตอนในการขอสินเชื่อบ้านเเลกเงิน ก็จะมีขั้นตอน ดังต่อไปนี้
1. เตรียมประวัติการเงินตัวให้พร้อม เนื่องจากธนาคารต้องการข้อมูลเพื่อพิจารณาว่า ผู้กู้มีความน่าเชื่อถือหรือไม่ ควรจะปล่อยสินเชื่อให้กู้หรือเปล่า ดังนั้นเราต้องมีการเตรียมข้อมูลประวัติการเงินของเราให้พร้อม รายได้ ประวัติการชำระหนี้ในอดีต หลักทรัพย์ที่มี และอสังหาริมทรัพย์ที่เราจะยื่นเพื่อขอสินเชื่อ
2. เช็คโปรโมชั่นสินเชื่อบ้านแลกเงินแต่ละธนาคารก็มีเงื่อนไขของโปรโมชันที่แตกต่างกันไป ผู้กู้ควรศึกษารายละเอียดเงื่อนไข และสิทธิประโยชน์ จากการขอสินเชื่อบ้านเเลกเงินของเเต่ละธนาคาร โดยเลือกธนาคารที่สามารถให้ประโยชน์กับเราได้มากที่สุด ซึ่งวิธีการหาข้อมูลเรื่อง
สินเชื่อบ้านเเลกเงินธนาคารไหนดีที่สุด อย่างง่ายที่สุด เราสามารถหาได้จากเว็บไซต์ต่างๆ ที่ให้บริการด้านนี้ เช่น refinn
3. ยื่นเอกสารสำหรับขอสินเชื่อ โดยจะมีเอกสารที่สำคัญอยู่ 3 อย่าง คือ
- เอกสารยืนยันตัวตนเรา เช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้านที่มีชื่อของเรา
- เอกสารยืนยันรายได้ เช่น หนังสือรับรองเงินเดือน ออกโดยบริษัทที่เรากำลังทำงานอยู่
- เอกสารยืนยันหลักทรัพย์ เช่น สำเนาโฉนดที่ดิน และให้ดีควรเตรียมรูปภาพบ้านที่จะมายื่นขอสินเชื่อให้ธนาคารได้ดูด้วย
4. ประเมินมูลค่าหลักทรัพย์เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนตรวจสอบ และการดูเอกสารทั้งหมดเเล้ว ธนาคารก็จะส่งตัวเเทนเพื่อเข้าไปประเมินสภาพบ้าน ว่าสมบูรณ์เเค่ไหน มีมูลค่าเท่าไหร่ เพื่อจะได้พิจารณาวงเงินที่ให้กู้
5. ธนาคารพิจารณาอนุมัติวงเงินหลังจากธนาคารได้รับข้อมูลครบทุกอย่างถ้วนเเล้ว จะใช้เวลาโดยประมาณ 1-2 สัปดาห์ในการพิจารณา และแจ้งผลการอนุมัติ ว่าวงเงินกู้ที่ได้เท่าไหร่ พร้อมแจ้งอัตราดอกเบี้ยให้ผู้กู้ทราบ โดยปกติจะได้อนุมัติวงเงิน 70 - 80% จากมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งหากไม่พอใจวงเงินที่ได้ เรามีสิทธิ์ปฏิเสธ และไปขอสินเชื่อจากธนาคารอื่นได้
6. ทำสัญญาและจดจำนองหลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการทั้งหมดเเล้ว ก็จะเข้าสู่กขั้นตอนสุดท้าย คือ การทำสัญญาเงินกู้กับธนาคาร มีการนัดเซ็นสัญญา ทำสัญญาจดจำนองที่ดินที่สำนักงานที่ดิน หลังจากนั้น ผู้กู้ก็จะได้รับเงินกู้ที่ขอไว้ แล้วก็จบสิ้นขั้นตอนการกู้ โดยก็ต้องมีการชำระเงินให้กับธนาคารตามกำหนด
สิ่งที่สำคัญที่สุดในการยื่นสินเชื่อบ้านแลกเงินในการยื่นขอสินเชื่อบ้านเเลกเงิน มีหลายอย่างที่สำคัญที่ต้องพิจารณา เพื่อให้เราได้สิ่งที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นธนาคารที่ เราจะไปยื่นขอสินเชื่อบ้านเเลกเงิน ว่าที่ไหรมีอัตราดอกเบี้ยต่ำที่สุด ให้วงเงินกู้ได้สูงที่สุด สามารถ ผ่อนได้นาน เพื่อผ่อนภาระเราให้ได้มากที่สุด เพราะการนำบ้านไปเป็นหลักประกันในการกู้ ควรเช็คทุกอย่างให้ละเอียดรอบคอบ เเละให้เราได้ประโยชน์จากการยื่นขอสินเชื่อนี้ให้มากที่สุด
โดยเงื่อนไขต่างๆที่เราตั้งไว้นั้น ว่าอยากได้อะไรบ้าง ไปจนถึงรายได้ที่มี ประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่เราถือครองอยู่ เราสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ค้นหา ธนาคารที่สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการให้เราได้ โดยดูได้จากเว็บไซต์ Refinn ได้เลย
สรุปค่าเล่าเรียน ค่าซ่อมบ้าน ใช้หนี้บัตรเครดิต หือการเริ่มธุรกิจส่วนตัว ทุกสิ่งที่กล่าวมาเหล่านี้ ล้วนต้องใช้เงินก้อน แต่ในภาวะเศรษฐกิจที่ตอนนี้ โอกาสที่รายได้จากงานหลักจะเพิ่มขึ้นก็น้อยลง เเค่รักษาสถานะให้มีงานทำอยู่ ก็อาจหืดขึ้นคอสำหรับหลายคน
เเต่หากมันจำเป็นจริงๆ เเล้วการกู้เงินมาใช้ก่อน ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำ เเต่เพื่อให้การกู้นั้นไม่สร้างภาระที่หนักจนเกินไป สินเชื่อบ้านเเลกเงิน ก็เป็นสิ่งที่ควรพิจารณาเป็นลำดับต้นๆ