ความแตกต่างของน้ำผึ้ง และลักษณะของน้ำผึ้งที่ดีน้ำผึ้ง หมายถึง น้ำหวานจากธรรมชาติที่ผึ้งงานเลือกดูดน้ำหวานจากเกสรดอกไม้หรือจากพืชต่าง ๆ ในป่าที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ เช่น ดอกไม้ป่า หรือพืชและดอกไม้เศรษฐกิจที่ปลูกไว้ ซึ่งอาจนำผึ้งเข้ามาเลี้ยงเพื่อให้ดูดกินน้ำหวาน ทำให้น้ำผึ้งที่ได้มีด้วยกัน 2 ชนิด ได้แก่น้ำผึ้งป่าและน้ำผึ้งเลี้ยง ความแตกต่างของน้ำผึ้งป่า น้ำผึ้งเลี้ยง และลักษณะของน้ำผึ้งที่ดีควรเป็นอย่างไร บทความนี้มีคำตอบ
ความแตกต่างของน้ำผึ้งแต่ละชนิดความแตกต่างของน้ำผึ้ง นอกจากมีความแตกต่างกันจากแหล่งที่ได้มาซึ่งได้แก่ น้ำผึ้งป่าและน้ำผึ้งเลี้ยง โดยน้ำผึ้งทั้ง 2 ชนิดอาจมีข้อดีข้อด้อยและคุณลักษณะบางอย่างที่แตกต่างกันแล้ว ความแตกต่างของน้ำผึ้งหรือนมผึ้งสด ยังขึ้นอยู่กับชนิดของพืชอาหารที่ผึ้งงานไปดูดน้ำหวานมาเก็บสะสมไว้ในหลอดรวงผึ้ง ซึ่งปกติน้ำหวานที่ได้จากต่อมน้ำหวานของพืชแต่ละชนิด เช่น น้ำผึ้งจากดอกลำไย ดอกสาบเสื้อ และดอกไม้ป่า จะมีกลิ่น รส และสี แตกต่างกันไปตามองค์ประกอบโครงสร้างของน้ำตาลจากพืชและดอกไม้แต่ละชนิด ทำให้น้ำผึ้งหรือนมผึ้งสดมีความแตกต่างกันจนสามารถระบุน้ำผึ้งตามชนิดของพืชอาหารได้ เช่น น้ำผึ้งจากดอกลำไย น้ำผึ้งจากดอกลิ้นจี่ หรือน้ำผึ้งจากดอกสาบเสื้อ ซึ่งน้ำผึ้งแต่ละชนิดจะมีความแตกต่างกัน ดังนี้
1. ความแตกต่างในเรื่องของ รส กลิ่น และสี
ความแตกต่างในเรื่องของรส กลิ่น และสี ของนมผึ้งสด ขึ้นอยู่กับน้ำหวานจากเกสรดอกไม้หรือจากพืชแต่ละชนิดที่ผึ้งงานเก็บมา โดยเกสรของดอกไม้และพืชมีตั้งแต่สีเหลืองอ่อน สีน้ำตาลอ่อนไปจนถึงน้ำตาลไหม้ ตัวอย่างเช่น น้ำผึ้งจากดอกลำไย จะมีสีเข้ม มีกลิ่นหอมและมีรสหวานกว่าน้ำผึ้งที่ได้จากดอกลิ้นจี่หรือดอกเงาะ
2. ความแตกต่างจากองค์ประกอบของน้ำตาล
เมื่อผึ้งงานเก็บน้ำหวานที่ได้จากเกสรดอกไม้และพืชลงสู่กระเพาะ ภายในจะมีเอนไซม์จากต่อมน้ำลายขับออกมาเปลี่ยนน้ำตาลกลูโคสและฟลุกโทสให้เป็นน้ำตาลแปรรูป ปฏิกิริยาการเปลี่ยนแปลงนี้จะเกิดขึ้นตั้งแต่ผึ้งเริ่มบินกลับรัง เพราะในขณะที่ผึ้งกระพือปีกจะเกิดพลังงานความร้อนช่วยเร่งการทำงานของเอนไซม์ ตลอดจนช่วยเผาผลาญลดความชื้นในน้ำหวานให้กลายเป็นน้ำผึ้งเร็วขึ้น และเมื่อผึ้งบินกลับรังจะคายน้ำหวานแปรรูปนี้ให้กับผึ้งงานประจำรวงผึ้ง เพื่อนำไปเก็บในหลอดรวงน้ำผึ้ง ซึ่งน้ำหวานแปรรูปนี้ยังไม่เป็นน้ำผึ้งที่สมบูรณ์ เนื่องจากยังมีความชื้นในน้ำหวานจำนวนมาก โดยขั้นตอนนี้ผึ้งงานจะช่วยกันกระพือปีกเพื่อให้มีการระเหยของน้ำหวานและทำให้ความชื้นลดลงอย่างต่อเนื่องจนได้น้ำผึ้งที่สมบูรณ์ ก่อนที่จะปิดหลอดรวงผึ้งเก็บไว้เป็นอาหารต่อไป
กระบวนการนี้หากทำการเก็บรวงผึ้งเร็ว น้ำหวานที่ได้ยังมีความชื้นและยังไม่เป็นน้ำผึ้งที่สมบูรณ์ ทำให้องค์ประกอบของน้ำตาล เช่น สัดส่วนของน้ำตาลกลูโคส และน้ำตาลฟลุกโทส ไม่เท่ากันซึ่งมีผลต่อความแตกต่างทางด้านกายภาพของน้ำผึ้ง เช่นทำให้เกิดการตกผลึก
การตกผลึกของน้ำผึ้ง เป็นการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติของน้ำผึ้งที่ยังมีปริมาณความชื้นอยู่มาก ตัวอย่างเช่น น้ำผึ้งที่ได้จากการเลี้ยงผึ้งในสวนยางพาราเมื่อนำไปเก็บในตู้เย็นเป็นเวลานานสามารถตกผลึกได้หมด แตกต่างจากน้ำผึ้งที่ได้จากดอกลำไยหากเก็บในลักษณะเดียวกันจะไม่ตกผลึก
ส่วนประกอบและลักษณะของน้ำผึ้งที่ดี 1. น้ำผึ้งที่ดีควรมีปริมาณความชื้นไม่เกินร้อยละ 21 จะทำให้ได้น้ำผึ้งที่มีรสหวานเข้มข้น สามารถเก็บไว้ได้นานโดยไม่เปลี่ยนสภาพ
2. น้ำผึ้งที่ดีควรมีน้ำตาลกลูโคส และน้ำตาลฟลุกโทส ไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 สำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก สามารถใช้น้ำผึ้งเป็นสารให้ความหวานแทนแทนน้ำตาลได้ เพราะนอกจากมีความหวานมากกว่าร่างกายยังดูดซึมได้ช้า
3. แร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายและพบมากในน้ำผึ้งได้แก่ แคลเซียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัสแมกนีเซียม โซเดียม สังกะสี เหล็ก แมงกานิส ทองแดง แร่ธาตุต่าง ๆแม้จะมีปริมาณไม่มากแต่ก็อยู่ในสัดส่วนที่เหมาะสม การเติมน้ำผึ้งลงในอาหารแทนน้ำตาล จึงเป็นการเพิ่มคุณค่าทางอาหารและเพิ่มปริมาณแร่ธาตุที่จำเป็นแก่ร่างกายอีกด้วย
4. ในน้ำผึ้งมีวิตามินหลายชนิด เช่น วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินบี6 วิตามินซี และอื่น ๆ ซึ่งปริมาณวิตามินแต่ละชนิดที่มีอยู่ในน้ำผึ้งจะแตกต่างกันตามที่มาของน้ำผึ้ง เช่น น้ำผึ้งจากดอกลำไย ดอกสาบเสื้อ และดอกไม้ป่า คุณสมบัติของวิตามินเหล่านี้เป็นส่วนที่ทำให้น้ำผึ้งชุ่มคอและเคลือบผิว
5. ในน้ำผึ้งมีสารแขวนลอย โดยเมเลกุลของสารแขวนลอยจะไม่ตกตะกอนทำให้น้ำผึ้งที่เก็บไว้มีสารแขวนลอยให้เห็น ซึ่งสารแขวนลอยในน้ำผึ้งส่วนใหญ่เป็นเกสรดอกไม้
6. น้ำผึ้งมีส่วนประกอบของสารอินฮิบิท มีคุณสมบัติในการต่อต้านเชื้อโรคของน้ำผึ้ง ทำให้มีการนำน้ำผึ้งมาใช้ในการรักษาแผลสด ไฟไหม้ น้ำร้อนลวก และแผลติดเชื้อ
7. ลักษณะของน้ำผึ้งที่ดีและมีคุณภาพ ไม่ควรมีน้ำเป็นส่วนผสมเกินกว่าร้อยละ 21 เพราะหากมีน้ำเจือปนมากกว่านั้น จะทำให้จุลินทรีย์สามารถเจริญเติบโตและทำลายคุณค่าของน้ำผึ้งได้ ลักษณะของน้ำผึ้งที่ดีควรมีความเข้มข้นและหนืด ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีส่วนผสมของน้ำหรือความชื้นไม่มาก
8. สีของน้ำผึ้งควรเป็นสีเหลืองอ่อนถึงสีน้ำตาลเข้มตามธรรมชาติของเกสรดอกไม้หรือพืช มีลักษณะใสไม่ขุ่น
9. มีกลิ่นตามแหล่งที่ได้มาของน้ำหวาน โดยเฉพาะน้ำผึ้งเลี้ยงจะมีกลิ่นหอมของน้ำผึ้งและดอกไม้ตามแหล่งที่ได้มาอย่างชัดเจน ปกติดอกไม้หรือพืชที่ใช้เลี้ยงผึ้งเพื่อผลิตน้ำหวานมีหลายชนิด ที่นิยมนมได้แก่ น้ำผึ้งจากดอกลำไย เพราะมีรสหอมหวานมากกว่าพรรณไม้ชนิดอื่น ๆ
10. ลักษณะของน้ำผึ้งที่ดี แม้จะเป็นน้ำผึ้งแท้ที่มีคุณภาพ ต้องปราศจากไขผึ้งหรือเศษตัวผึ้งและเศษวัสดุแขวนลอยอื่น ๆ ปะปนอยู่
11. ลักษณะของน้ำผึ้งที่ดีจะต้องไม่มีกลิ่นบูดเปรี้ยว และไม่มีฟอง
พืชและเกสรดอกไม้ที่เป็นแหล่งอาหารของผึ้งน้ำหวานจากพืชและจากเกสรของดอกไม้ เป็นแหล่งอาหารที่สำคัญของผึ้งและพืชอาหารที่ดียังได้จากพันธุ์ไม้หลายประเภท เช่น ไม้ป่า ไม้ผล พืชไร่ พืชผัก พืชอาหารสัตว์ พืชคลุมดิน ตลอดจนวัชพืชต่าง ๆ โดยพืชบางชนิดให้น้ำหวานในปริมาณมากแม้จะเป็นดอกไม้เล็ก ๆ ในขณะที่พืชบางชนิดให้เกสรมาก เช่น
1. พืชที่ให้ปริมาณน้ำหวานมากแต่เกสรน้อย ได้แก่ ดอกสาบเสื้อ ดอกลิ้นจี่ เงาะ มะกอกน้ำ และมันสำปะหลัง
2. พืชที่ให้ปริมาณเกสรมากแต่ให้น้ำหวานน้อย ได้แก่ วัชพืช พืชตระกูลหญ้า ข้าวโพด หางนกยูงนนทรี ดอกโสน
3. พืชที่ให้ทั้งปริมาณเกสรและปริมาณน้ำหวานอย่างสมดุล ได้แก่ ดอกลำไย ดอกหญ้า ตีนตุ๊กแกดอกงิ้ว และดอกทานตะวัน
ผลิตผลจากผึ้งที่นำไปใช้ประโยชน์น้ำผึ้ง นอกจากเป็นผลิตผลจากธรรมชาติที่มีประโยชน์ในหลาย ๆ ด้านรวมทั้งยังมีสรรพคุณเป็นยาอายุวัฒนะที่นำมาเป็นส่วนประกอบในพืชสมุนไพรเพื่อบำรุงดูแลสุขภาพมาแต่โบราณ ผลิตผลจากผึ้ง เช่น เกสรผึ้ง ไขผึ้ง นมผึ้งสด รวมทั้งรวงผึ้ง ยังสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ได้อีกมากมาย ดังนี้
1. น้ำผึ้ง เป็นผลิตผลจากผึ้งงาน ที่นอกจากให้ความหวานนิยมทานน้ำผึ้งสดแล้ว ยังใช้ในอุตสาหกรรมยาทั้งแผนปัจจุบันและยาแผนโบราณประเภทสมุนไพร เป็นส่วนประกอบในเวชสำอาง เครื่องสำอางต่าง ๆ น้ำผึ้งมีคุณค่าทางอาหารสูงใช้แทนน้ำตาลปรุงอาหารได้เกือบทุกชนิด ใช้เป็นส่วนประกอบในการทำขนมหวาน ขนมปัง ลูกกวาด และผสมเครื่องดื่ม เช่น น้ำมะนาว
2. เกสรผึ้ง คือ ละอองเม็ดเล็ก ๆ คล้ายฝุ่นแป้งที่เกิดและหลุดจากช่อเกสรตัวผู้ของดอกไม้ เมื่อผึ้งงานเข้าไปดูดน้ำหวานจากเกสรดอกไม้ ก็จะติดไว้ที่ปลายขาหลังทั้งสองข้างบริเวณอวัยวะที่เรียกว่า ตะกร้าเก็บเกสร และนำกลับมาเก็บยังรังเพื่อเป็นโปรตีนสำหรับใช้เลี้ยงตัวอ่อน เพราะเป็นแหล่งคุณค่าทางโภชนาการอย่างดี สรรพคุณของเกสรผึ้งช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อ ผิวหนัง กระตุ้นให้เลือดไปเลี้ยงเซลล์ได้อย่างทั่วถึง และยังให้ความชุ่มชื้นต่อผิวหนังที่แห้ง ทำให้มีการนำเกสรผึ้ง ไปเป็นส่วนผสมในในเครื่องสำอางต่าง ๆ เช่น ครีมล้างหน้า ครีมรองพื้น และครีมบำรุงผิว นอกจากนั้นยังเชื่อว่าเกสรผึ้งมีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย จึงเป็นผลิตภัณฑ์อีกชนิดหนึ่งของผึ้งที่ได้รับความนิยมในวงการผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
3. ไขผึ้ง หากเป็นไขผึ้งแท้ต้องเป็นส่วนที่ได้มาจากรวงรังผึ้งเท่านั้น ผลิตออกมาจากต่อมผลิตไขผึ้ง ที่อยู่ที่ผิวด้านล่างส่วนท้องของผึ้ง ปัจจุบันไขผึ้งส่วนใหญ่นิยมใช้เป็นส่วนประกอบในการทำเทียน เนื่องจากมีคุณประโยชน์เพราะควันน้อยและมีกลิ่นหอม นอกจากนั้นยังใช้ผลิต กาว หมากฝรั่ง และดินสอสี รวมทั้งใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอาง เช่น ครีมล้างหน้า น้ำมันทาผิว และลิปสติก
4. นมผึ้งสด ผลิตโดยผึ้งงานที่มีอายุประมาณ 5-15 วัน ซึ่งผึ้งงานที่อยู่ในวัยนี้จะมีหน้าที่เลี้ยงดูตัวอ่อน นมผึ้งสดหรือรอยัลเยลลีจึงเป็นอาหารของผึ้งตัวอ่อนและผึ้งนางพญา มีลักษณะสีขาวคล้ายครีม หรือนมข้นหวาน ผึ้งงานจะนำรอยัลเยลลีที่ผลิตขึ้นมาไปเลี้ยงตัวอ่อนของผึ้งทุกวรรณะ ตั้งแต่แรกเกิดจนมีอายุครบ 3 วัน เฉพาะตัวอ่อนที่จะเจริญไปเป็นผึ้งนางพญาเท่านั้น
การศึกษาของนักวิทยาศาสตร์ทางด้านชีวเคมีพบว่า ในรอยัลเยลลี มีวิตามินอยู่หลายชนิด เช่น วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 5 วิตามินบี 6 และวิตามินอื่น ๆ อีกหลากหลายชนิด ทำให้นมผึ้งสดมีราคาแพงกว่าน้ำผึ้งทั่วไป และมีการนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและเครื่องสำอางต่าง ๆ มากมาย
5. รวงผึ้ง หรือรังผึ้ง มีสารพรอพโพลิส ซึ่งเป็นสารสกัดจากรังผึ้งประกอบด้วยยางไม้และขึ้ผึ้งประมาณร้อยละ 50-55 มีลักษณะเหนียวข้นเป็นยาง ซึ่งได้มาจากยางของเปลือกไม้ที่ ผึ้งงานรวบรวมไว้ และนำมาผสมกับไขผึ้งเพื่อซ่อมแซมรัง อุดรอยรั่ว ตลอดจนรักษาความสะอาดและป้องกันการระบาดของเชื้อโรคในรังของผึ้ง ถือเป็นสารปฏิชีวนะที่ดีที่สุดตามธรรมชาติ มีคุณสมบัติต่อต้านการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส เชื้อรา และยับยั้งการอักเสบได้ดี นิยมนำมาเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ ต่าง ๆ เช่น สบู่ และยาสีฟัน เพื่อช่วยป้องกันและยับยั้งแบคทีเรีย
ปัจจุบันน้ำผึ้งเป็นผลผลิตจากผึ้งงานที่นำมาใช้ประโยชน์ในหลาย ๆด้าน ทั้งด้านสุขภาพและความงาม เพื่อให้ได้น้ำผึ้งที่มีคุณภาพตามความต้องการ จึงมีการเลี้ยงผึ้งโดยเฉพาะการเลี้ยงในสวนลำไยเพื่อให้ได้น้ำผึ้งจากดอกลำไย ที่เชื่อกันว่าเป็นน้ำผึ้งที่มีคุณภาพดีที่สุดและการเลี้ยงผึ้งยังสามารถนำผลิตผลจากผึ้ง เช่น เกสรผึ้ง ไขผึ้ง นมผึ้งสด และรวงผึ้งไปใช้ประโยชน์ด้านอื่น ๆ ได้อีกมากมาย
https://suwanfarmphueng.com/articles/best-honey-bee/