ยามเมื่ออายุมากขึ้นสิ่งที่ตามมาก็คืออาการ โรคบ้านหมุน ที่อาจทำให้ผู้สูงอายุเกิดอุบัติเหตุล้ม เกิดการบาดเจ็บ หรือ กระดูกหัก ได้ โดยสิ่งที่ต้องระวังเป็นอย่างมากเนื่องจากอายุที่สูงขึ้น มวลกระดูกลดลงทำให้เกิดอาการกระดูกเปราะ ผุกร่อน และกระดูกไม่แข็งแรง ภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรง ส่งผลให้ผู้สูงวัยมีความเสี่ยงในการเกิดโรคกระดูกพรุน จึงทำให้เมื่อเกิดการหกล้ม ก็มีโอกาสที่จะ
กระดูกหัก ได้ง่ายกว่าวัยอื่น ๆ และทำให้รักษาหายได้ช้ากว่าวัยอื่น
โดยเราสามารถดูแลพ่อแม่หรือผู้สูงวัยได้ด้วย ประกันอุบัติเหตุ หรือถ้าจะให้ดีก็ทำ ประกันอุบัติเหตุผู้สูงอายุ ซึ่งมีความเหมาะกับช่วงวัย ซึ่งทั้ง 2 แบบมีความคล้ายและแตกต่างกัน ดังนี้
1)
ประกัน อุบัติเหตุ โดยทั่วไปจะให้ความคุ้มครองครอบคลุมเรื่องของ
- คุ้มครองการเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพถาวร เนื่องจากอุบัติเหตุทั่วไป ถูกฆาตกรรมหรือถูกทำร้ายร่างกาย รวมถึงการเกิดอุบัติเหตุขณะขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์
- รับผิดชอบในส่วนของค่ารักษาพยาบาลที่เกิดจากอุบัติเหตุทั่วไปที่มักจะเกิดได้บ่อย เช่น ไฟดูด ไฟไหม้ กระดูกหัก หรือโดนรถเฉี่ยวชน โดยจะเป็นการจ่ายตามจริงสูงสุดไม่เกินตามที่กรมธรรม์กำหนด ซึ่งเป็นการคุ้มครองต่ออุบัติเหตุที่เกิดขึ้นแต่ละครั้ง
- มีการให้เงินชดเชยรายได้ในกรณีที่บาดเจ็บจากอุบัติเหตุจนต้องเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน
2) ประกันอุบัติเหตุผู้สูงอายุ
ส่วนใหญ่จะเพิ่มความคุ้มครองที่มีความจำเพาะต่อช่วงวัยมากขึ้น เหมาะกับวัยผู้สูงอายุ โดยพิจารณาโอกาสของอุบัติเหตุต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในผู้สูงอายุ และโรคที่มักพบในผู้สูงอายุ
- คุ้มครองเมื่อมีกระดูกแตกหัก บาดแผลจากไฟไหม้ น้ำร้อนลวก และการบาดเจ็บที่อวัยวะภายใน
- บางแผนประกันอาจมีความคุ้มครองเพิ่มเติมโรคเฉพาะที่สามารถพบได้บ่อยในผู้สูงอายุ เช่น อาหารเป็นพิษ โรคไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออก อาการปอดอักเสบ หรือกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
สำหรับเบี้ย ประกันอุบัติเหตุผู้สูงอายุ นั้นก็มีให้เลือกหลากหลายที่เหมาะสมกับความต้องการ เริ่มต้นตั้งแต่ 1,000 บาท ถือว่าไม่เกินกำลังที่เราจะมอบสิ่งดี ๆ เพื่อดูแลคนสำคัญในชีวิตของเรา
นอกจากการหากรมธรรม์ดี ๆ มาดูแลผู้สูงวัยแล้ว ลูกหลานก็ควรมีการป้องกันและระมัดระวังไม่ให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ อันจะทำให้ผู้สูงอายุบาดเจ็บจนกระดูกหักได้ โดยมีแนวทาง ดังนี้
1. ชักชวนให้ผู้สูงอายุออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
2. ไม่วางสิ่งของในบ้านทิ้งไว้อย่างไม่เป็นระเบียบ เพราะอาจทำให้เกิดการสะดุด ล้มได้
3. แนะนำให้ผู้สูงอายุหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคกระดูกพรุน เช่น การสูบบุหรี่ หรือการดื่มสุรา
4. ให้ผู้สูงอายุกินอาหารที่มีแคลเซียมสูง เช่น ปลาเล็กปลาน้อย นม และให้ร่างกายได้รับปริมาณแคลเซียมที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
5. พาผู้สูงอายุไปเดินรับแสงแดดยามเช้า ออกกำลังกายเบา ๆ เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายมีการสร้างวิตามินดี โดยวิตามินดีจะมีผลให้ลำไส้ดูดซึมแคลเซียมได้ดีขึ้น
ชมรายละเอียดเพิ่ม
https://online.scbprotect.co.th/personal-accident