โรคกระดูกพรุน อีกหนึ่งภัยเงียบแฝงมาในร่างกาย โดยปกติเราจะพบในรายที่อาการแสดงชัดเจน โดยจะมีอาการ ปวดหลัง ปวดตื้อๆ ไม่สามารถระบุตำแหน่งที่ชัดเจนได้ ปวดร้าวจากหลังไปด้านข้าง ลักษณะหลังโก่ง หลังค่อม มวลกระดูกเปราะบาง อ่อนแอและหักง่ายกว่าคนปกติ
สาเหตุที่จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับโรคกระดูกพรุน เพราะอัตราการเกิดกระดูกหัก เนื่องจากกระดูกพรุนในแต่ละปีมีจำนวนมากขึ้น ประมาณร้อยละ 50 ของผู้หญิง และร้อยละ 20 ของผู้ชายที่มีอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป มักมีแนวโน้มของโรคมากกว่าคนปกติทั่วไป ผลของโรคนี้เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะส่งผลให้กิจวัตรประจำวันของผู้ป่วยเปลี่ยนไปทั้งสภาพร่างกายและจิตใจ โดยต้องพึ่งพาคนรอบข้างและใช้อุปกรณ์เสริมเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน
สำหรับแนวทางหรือวิธีรักษาโรคกระดูกพรุนนั้น ปัจจุบันมีสองแนวทางรักษา ทั้งแบบใช้ยาและแบบไม่ใช้ยา โดยการรักษาแบบใช้ยา เช่น ยาต้านการสลายกระดูก ยาเพิ่มการสร้างกระดูก และยาที่ออกฤทธิ์ทั้งต้านการสลายกระดูกและเพิ่มการสร้างกระดูก แนวโน้มการรักษานั้นเป็นระยะเวลานานและยาที่ใช้อาจเกิดผลข้างเคียงได้ ส่วนการเลือกวิธีรักษาแบบไม่ใช้ยา คือ การเลือก
ทานอาหารเสริมแคลเซียม อาหารประเภทแคลเซียมสูง เช่น นม เนยแข็ง ปลาที่กินได้ทั้งกระดูก (เช่น ปลาไส้ตัน) กุ้งแห้ง เต้าหู้แข็ง ถั่วแดง ผักสีเขียวเข้ม (เช่น คะน้า ใบชะพู) งาดำคั่ว
ในผู้ใหญ่บางรายที่มีข้อจำกัดในการดื่มนม (เช่น มีภาวะไขมันในเลือดสูง อ้วน เป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจขาดเลือด) ให้เลือกกินเนยแข็ง นมเปรี้ยว นมพร่องมันเนย แทน หรือเลือกบริโภคอาหารที่มีแคลเซียมสูงในแต่ละมื้อให้มากขึ้น สามารถเลือกทาน
แคลเซียมบำรุงกระดูกแบบเม็ดเสริมได้เช่นเดียวกัน
ด้วยคำกล่าวที่ว่า “ ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ ” เรื่องจริงที่เราไม่สามารถฝืนได้ แต่เราสามารถดูแลรักษาอวัยวะภายในร่างกายทุกๆ ส่วนให้แข็งแรงอยู่สม่ำเสมอ สำหรับใครที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับโรคกระดูกพรุน ไขข้อ ปวดหลัง ปวดเข่า รวมไปถึงวิธีการเลือกทานแคลเซียมแบบไหนที่ช่วยชะลออาการของโรคกระดูก สามารถเข้ามาพูดคุย ปรึกษากับทางเราได้ตลอดเวลา และในเร็วๆนี้ ทาง
แคลที กำลังจะจัดกิจกรรมดีๆเกี่ยวกับการตรวจสุขภาพและวัดความหนาแน่นของมวลกระดูกในผู้สูงอายุ พร้อมรับผลิตภัณฑ์แคลเซียมฟรีๆ ติดตามกิจกรรมได้ผ่านช่องทาง
https://www.facebook.com/CAL-T-872106819604543/ หรือ Line@ :
https://line.me/R/ti/p/%40cal-t