"บอดี้เชพ"ขย่มหนักกาแฟลดอ้วน ซุ่มลุยกาแฟพร้อมดื่ม-ส่งตัวใหม่เจาะนิชมาร์เก็ต

"บอดี้เชพ" เพิ่มน้ำหนักรุกตลาดเครื่องดื่มรับเทรนด์สุขภาพ เตรียมส่งทรีอินวันตัวใหม่เจาะนิชมาร์เก็ต ซุ่มบุกตลาดกาแฟพร้อมดื่ม เร่งโรดโชว์เปิดบูทชงชิม โปรโมชั่น กระตุ้นทดลองดื่ม ก่อนออนแอร์โฆษณา พร้อมเดินหน้าขยายสาขาร้านกาแฟสด

นายภูพงษ์ สืบวงศ์ลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท บอดี้เชพ คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า จากแนวโน้มการขยายตัวรวดเร็วของสินค้าในกลุ่มเครื่องดื่ม ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้ 18-20% ของรายได้รวม โดยเฉพาะกาแฟทรี อินวันเพื่อสุขภาพสำหรับผู้หญิงและผู้ชาย บริษัทมีแผนจะส่งเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ใหม่ ๆ เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยไตรมาส 4 เตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์กาแฟ ทรีอินวันเจาะตลาดนิชมาร์เก็ต อาทิ กาแฟสำหรับผู้หญิงสูงวัยหรือกลุ่มเป้าหมายที่ต้องใช้สมองและดูแลสุขภาพองค์รวม รวมทั้งมีแผนจะแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ไปยังกลุ่มชาด้วย

ที่ผ่านมากาแฟทรีอินวันบอดี้เชพคอฟฟี่มีอัตราเติบโตที่ดี และปัจจุบันมีวางจำหน่ายในช่องทางต่าง ๆ ค่อนข้างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ซูเปอร์มาร์เก็ต สเปเชียลตี้สโตร์ นอกจากนี้ยังมีตลาดส่งออกกว่า 10 ประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น เกาหลี อเมริกา ฯลฯ ปีนี้คาดว่ากลุ่มกาแฟทรีอินวันจะมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 70%

ปัจจุบันกาแฟทรีอินวันมีฐานลูกค้าจำนวนหนึ่ง และจากนี้ไปจะเน้นการขยายฐานกลุ่มลูกค้าออกไปยังกลุ่มใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น ด้วยการใช้นิวมีเดียเข้ามาช่วย ล่าสุดได้พัฒนาเว็บไซต์เป็นช็อปปิ้งออนไลน์ โดยที่ลูกค้าสามารถเลือกสั่งซื้อสินค้าผ่านเว็บและชำระผ่านบัตรเครดิตได้
 

"ตลาดกาแฟเพื่อสุขภาพมีโอกาสเติบโตได้อีก ถึงแม้จะมีสัดส่วน 10% ของตลาดกาแฟทั้งหมด แต่มั่นใจว่าภายใน 2-3 ปีจากนี้จะเติบโตแบบก้าวกระโดด เพราะกระแส ผู้บริโภคให้ความสนใจเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ นอกจากผู้เล่นหลักที่อยู่ในตลาดแล้ว หากสังเกตจะเห็นว่ายังมีผู้เล่นรายใหม่ ๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยสˆวนใหญˆจับตลาดแมส ขณะที่ตลาดกาแฟพรีเมี่ยมมีไม่กี่ราย"

นายภูพงษ์กล่าวว่า นอกจากนี้บริษัทได้ทดลองวางตลาดกาแฟสำเร็จรูปพร้อมดื่ม (RTD) มาเป็นระยะหนึ่ง โดยวางตำแหน่งสินค้าเป็นกาแฟระดับพรีเมี่ยม เน้นจับกลุ่มเป้าหมายวัยเริ่มต้นทำงานอายุ 20-40 ปี นักศึกษาที่สนใจเรื่องสุขภาพ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีขนาดใหญ่มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตเร่งรีบและต้องการบริโภคเครื่องดื่มที่มีความสะดวก เบื้องต้นวางจำหน่ายตามช่องทางซูเปอร์ มาร์เก็ตเป็นหลัก

"เบื้องต้นจะมุ่งไปที่กิจกรรมบีโลว์เดอะไลน์ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง และสามารถรับฟีดแบ็กได้ทันที อาทิ การโรดโชว์ การออกบูทจัดกิจกรรมชงชิม จัดโปรโมชั่นกระตุ้นให้เกิดการทดลอง เป็นต้น ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาทดลองตลาดไปจนถึงต้นปี 2554 จากนั้นก็จะขยายช่องทางจำหน่ายเพิ่ม รวมทั้งการมีสื่อโฆษณาทางโทรทัศน์ตามมา"
 

ด้านร้านกาแฟสด บอดี้เชพคาเฟ่ นาย ภูพงษ์กล่าวว่า ปัจจุบันเปิดไปแล้ว 12 สาขา และมีการขยายสาขาลักษณะแฟรนไชส์อย่างต่อเนื่อง ภายในปีนี้คาดว่าจะมีสาขาทั้งสิ้น 20-30 สาขา โดยมีแผนเพิ่มกิมมิก ใหม่ ๆ กระตุ้นและดึงลูกค้าเข้าร้าน ซึ่งลูกค้าเหล่านี้จะเป็นลูกค้าในอนาคตที่จะต่อยอดการบริโภคไปยังโปรดักต์อื่น ๆ ในเครือบอดี้เชพ และร้านกาแฟก็จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการสร้างการรับรู้และจดจำแบรนด์ รวมทั้งเชื่อมโยงประสบการณ์ร่วมระหว่างลูกค้ากับผลิตภัณฑ์

"จุดแข็งของบอดี้เชพเป็นแบรนด์อยู่ในตลาดมานาน 17 ปี ชื่อติดตลาด คุ้นหูติดปากอยู่แล้ว การนำเสนอสินค้ากลุ่ม ใหม่ ๆ จึงได้รับความเชื่อถือ กลุ่มเป้าหมายตัดสินใจซื้อง่าย"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันตลาดกาแฟสำเร็จรูปมีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 26,000 ล้านบาท แบ่งเป็นกาแฟ 4,500 ล้านบาท กาแฟทรีอินวัน 12,000 ล้านบาท กาแฟพร้อมดื่ม มูลค่า 8,300 ล้านบาท และตลาดกาแฟเพื่อสุขภาพ 1,300 ล้านบาท


อ้างอิงจาก  ประชาชาติธุรกิจ