แฟรนไชส์ พีดีเฮ้าส์ ส่งท้ายปีขาล

ตอกย้ำตลาดรับสร้างบ้านภูธรรุ่ง ปักธงอยุธยา สาขาที่ 18
ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ รุกขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด “อโยธยาโฮมบิลเดอร์” ซื้อสิทธิ์แฟรนไชส์ ปักธงพระนครศรีอยุธยา เปิดสาขาที่ 18 ส่งท้ายปี 2553 คาดตลาดรับสร้างบ้าน พื้นที่ภาคกลางแนวโน้มเติบโตสดใส เผยพร้อมขยายอีก 2 สาขา สมุทรสาคร และหาดใหญ่ ต้นปี 54
นายพิศาล ธรรมวิเศษ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป จำกัด หรือศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ กล่าวว่า บริษัทมีนโยบายที่จะให้บริการรับสร้างบ้านขยายออกไปทั่วประเทศ ภายใต้แบรนด์พีดีเฮ้าส์ ที่มีมาตรฐานเดียวกัน
ทั้งนี้สาขาจังหวัดพระนครศรีอยุธยานับเป็นสาขาที่ 18 บริหารงานโดย บริษัท อโยธยา โฮมบิลเดอร์ จำกัด เจ้าของแฟรนไชส์ศูนย์รับสร้างบ้าน พีดีเฮ้าส์ สาขาอยุธยา ที่พร้อมให้บริการสร้างบ้านแก่ลูกค้าและผู้บริโภคในพื้นที่จังหวัดอยุธยาและจังหวัดใกล้เคียง อาทิ อ่างทอง ลพบุรี สุพรรณบุรี เป็นต้น
ทั้งนี้ บริษัท มองว่าตลาดรับสร้างบ้านในจังหวัดพื้นที่ภาคกลางมีแนวโน้มเติบโตค่อนข้างสูง เนื่องเพราะผู้บริโภคที่ต้องการสร้างบ้านเอง หันมาใช้บริการจากบริษัทรับสร้างบ้านมืออาชีพแทนผู้รับเหมารายย่อยมากขึ้น

“ภายใต้แนวคิดการจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) และสร้างพันธมิตรผู้ประกอบการ SME (Alliance) ให้เกิดการรวมพลังและเกิดเป็น Economy of Scale เพื่อสร้างความเข้มแข็งในกลุ่มธุรกิจแบบยั่งยืน ซึ่งบริษัทได้เลือกนำเอาระบบแฟรนไชส์มาต่อยอดธุรกิจรับสร้างบ้าน ภายใต้แบรนด์ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ ถือว่าที่ผ่านมาประสบความสำเร็จด้วยดี
สำคัญที่สุดคือจะทำให้ผู้ประกอบการ SME ในเครือข่ายสามารถเริ่มต้นธุรกิจ และแข่งขันกับบริษัทรายใหญ่ได้อย่างไม่เสียเปรียบ นอกจากนี้บริษัทเตรียม เปิดสาขาที่ 19 และ 20 จังหวัดสมุทรสาคร และหาดใหญ่หรือสงขลาอย่างเป็นทางการภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ซึ่งนับว่าเป็นไปตามแผนการขยายสาขา ที่บริษัทวางไว้”
นายศิวเสกข์ พิพัฒนบวรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อโยธยา โฮมบิลเดอร์ จำกัด เจ้าของแฟรนไชส์ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ สาขาอยุธยา กล่าวว่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถือเป็นจังหวัดสำคัญทางเศรษฐกิจของภาคกลาง โดยเฉพาะเป็นเมืองท่องเที่ยวทางวัฒนธรรรมสำคัญ สำหรับภาพรวมของธุรกิจอสังหาฯ และที่อยู่อาศัย
ถือได้ว่าจังหวัดพระนครศรีอยุธยามีอัตราการเติบโตสูงมาก และเมื่อวิเคราะห์ถึงความต้องการสร้างบ้านเองของผู้บริโภคในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มหลักๆ คือ 1.สร้างบ้านหลังแรกเพื่ออยู่อาศัย หรือคือกลุ่มผู้บริโภคในท้องถิ่น 2.สร้างที่พักอาศัยหลังที่ 2 เพื่อเป็นธุรกิจ หมายถึงกลุ่มผู้บริโภค ในท้องถิ่นหรือนักลงทุนต่างถิ่นที่เข้ามาลงทุนสร้างอพาร์ตเมนต์ให้เช่า

ทั้งนี้ประเมินว่าน่าจะมีสัดส่วนประมาณ 80 : 20 ทำให้ตลาดบ้านสร้างเองและการสร้างที่อยู่อาศัย ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยามีโอกาสเติบโตสูงมาก และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ
เชื่อมั่นว่าการเปิดตัวของศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์สาขาอยุธยาครั้งนี้ จะสามารถตอบโจทย์และสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างตรงใจ ทั้งนี้คาดว่ามูลค่าหรือราคาค่าก่อสร้างบ้านโดยเฉลี่ยประมาณ 3-5 ล้านบาท/หลังจะได้รับความนิยมสูงสุด โดยในปีแรกนี้พีดีเฮ้าส์สาขาอยุธยา ตั้งเป้ายอดขายไว้ประมาณ 40 ล้านบาท เหตุที่ตั้งเป้ายอดขายไว้ไม่สูงนัก เป็นเพราะบริษัทต้องการ จะเน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ
อ้างอิงจาก สยามธุรกิจ