นางสาวนรินทร์ จิยารมณ์ ประธานกลุ่มบริษัทเฟรช มาร์ท อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากที่บริษัทฯ ได้ทำธุรกิจแฟรนไชส์ร้านสะดวกซื้อ “เฟรชมาร์ท” มาตั้งแต่ปี 2543 ถึงปัจจุบัน มีสาขาให้บริการแล้วทั้งสิ้นกว่า 400 สาขาทั้งประเทศ โดยในปี 2549 ที่ผ่านมาได้ขยายประมาณ 80 สาขา หรือ ประมาณ 20%

 

ทั้งนี้เพื่อจะต่อยอดธุรกิจในปีนี้ (2550) ทางบริษัทฯ ได้เปิดตัวธุรกิจในรูปแบบขายตรง “เฟรชไลฟ์” ดำเนินงานภายใต้บริษัทเฟรชไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เนื่องจากเห็นว่าปัจจุบันธุรกิจขายตรง เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการขยายธุรกิจดังกล่าว จะช่วยเปิดโอกาสให้ผู้สนใจอยากมีอาชีพเสริมควบคู่กับงานประจำ รวมถึงจะช่วยเอื้อกับธุรกิจร้านสะดวกซื้อแฟรนไชส์เฟรชมาร์ทด้วย

 

ทั้งนี้สินค้าของเฟรชไลฟ์จะนำร่องด้วยผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ 8 รายการ เช่น ผลิตภัณฑ์จากคลอโรฟิลล์, ผลิตภัณฑ์ลดความอ้วน และผลิตภัณฑ์เอ็นไซม์จากผลไม้ เป็นต้น ซึ่งเหตุผลที่นำร่องด้วยผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพเป็นอย่างมาก

รวมถึงเป็นสินค้าที่เติบโตด้วยการบอกปากต่อปาก โดยในอนาคตจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง ให้ตรงกับความต้องการของกระแสนิยม เช่น ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภค สินค้าเกี่ยวกับไอที และโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น ซึ่งขอยืนยันว่าสินค้าที่นำมาขายในเฟรชไลฟ์มา จากโรงงานหรือแหล่งผลิตที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และมีมาตรฐาน 

 

ส่วนนโยบายการขายตรงของเฟรชไลฟ์ เน้นขายสินค้าเพียงอย่างเดียว ไม่เน้นการระดมทุน โดยใช้ร้านเฟรชมาร์ท ที่มีอยู่กว่า 400 สาขาทั่วประเทศ เป็นศูนย์กระจายสินค้า และเป็นแหล่งรับสมัครสมาชิก โดยทั้ง 2

ส่วนจะมีผลประโยชน์ที่เอื้อต่อกันและกันโดยสมาชิกเฟรชไลฟ์ จะได้กำไรจากส่วนแบ่งยอดขาย 20-25% ต่อหน่วย ในขณะที่เจ้าของร้านเฟรชมาร์ท จะได้ผลตอบแทนค่ารับสมัครสมาชิกรายละ 20 บาท และค่าบริการเบิกสินค้าอีก 2% ของยอดขาย

 

 

 

นางสาวนรินทร์ กล่าวต่อว่า ได้เตรียมงบประชาสัมพันธ์ ในปีแรกไว้ที่ 50 ล้านบาท โดยคาดว่าจะมียอดสมาชิกในปีแรกไม่ต่ำกว่า 10,000 ราย ซึ่งจะช่วยส่งผลให้สามารถขยายสาขาของเฟรชมาร์ทได้เพิ่มขึ้น ไม่ต่ำกว่า 100 สาขา และคาดว่าจะทำรายได้ให้บริษัทฯ ได้ 800 ล้านบาท ในปีนี้

โดยแบ่งเป็นในส่วนของร้านเฟชรไลฟ์ 500 ล้านบาท และเฟรชมาร์ท 300 ล้านบาท ส่วนเกณฑ์ ในการเข้าเป็นสมาชิกเฟรชไลฟ์ ค่าใบสมัคร 300 บาท ค่าสินค้าเบื้องต้น 2,000 บาท รวมทั้งสิ้น 2,300 บาท โดยกำหนดให้สมาชิกควรมียอดการขายไม่ต่ำกว่าเดือนละ 2,000 บาท 

 

นอกจากนี้ ในส่วนของแฟรนไชส์เฟรช มาร์ท มีรูปแบบการลงทุน 650,000 บาท และล่าสุดได้เปิดตัวรูปแบบการลงทุนในราคา 390,000 บาท สำหรับร้านโชวห่วยเดิมที่ต้องการยกระดับ ซึ่งบริษัทฯ จะเข้าไปปรับปรุงหน้าร้าน ระบบการจัดการ ระบบคอมพิวเตอร์ เป็นต้น

ซึ่งต้องใช้แบรนด์เฟรชมาร์ท เพื่อให้ร้านโชวห่วย ซึ่งขณะนี้กำลังประสบวิกฤต สามารถต่อสู้กับมินิมาร์ทต่างชาติได้ รวมถึงเพื่อเป็นฐานสำหรับกระจายสินค้าของเฟรชไลฟ์ด้วย

 

 

 

 
ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์