|
|
19 มิถุนายน 2554 |
ฮอทพอท สยายปีก ตปท.เข้าตลาดหุ้นระดมทุนเพิ่ม “สาขา-ครัวกลาง”
“ฮอทพอท” เปิดเกมรุก เข้าตลาดหุ้น ระดมทุน 130 ล้านบาท สยายปีก พร้อมรุกตปท.ทั้งแฟรนไชส์และร่วมทุน ปีนี้ทุ่มงบลงทุน-ตลาดอีก 300 ล้านบาท เปิดอีก 25 สาขา ดันรายได้รวมโต 30%
นางสาวสกุณา บ่ายเจริญ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮอทพอท จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯมีแผนขยายธุรกิจในไทยและต่างประเทศต่อเนื่อง จึงต้องการเม็ดเงินลงทุนมากขึ้นเพื่อสร้างการเติบโต จึงมีแผนที่จะนำบริษัทฯเข้าจดทะเบียนในตลาดMAI โดยได้มอบหมายให้บริษัทแอดไวเซอร์รี่ เป็นเอฟเอ หรือที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์บัวหลวงเป็นอันเดอร์ไรท์เตอร์ คาดว่าจะยื่นไฟล์ลิ่งได้เดือนหน้า และคาดว่า จะเข้าซื้อขายในตลาดได้ประมาณตุลาคมนี้
โดยมีแผนที่จะระดมทุนอีกเบื้องต้น 130 ล้านบาท จากปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 101 ล้านบาท ที่มีผู้ถือหุ้นเดิมแบ่งเป็น กลุ่มตระกูลบ่ายเจริญ 65% กองทุนออริออสจากอังกฤษ 35% ซึ่งจะทำการกระจายหุ้นประมาณ 10% ทั้งนี้เจ้าของเดิมยังคงถือหุ้นใหญ่อยู่แต่สัดส่วนลดลงประมาณ 5-10%
ทั้งนี้ แผนรุกตลาดต่างประเทศ จะขยายธุรกิจในเอเชียก่อน เบื้องต้นเช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย ซึ่งมีความเป็นไปได้ทั้งการร่วมทุนกับการขายแฟรนไชส์ แต่ยังไม่สรุป ซึ่งเร็วๆนี้ก็มีกลุ่มผู้สนใจเดินทางมาเจรจาบ้างแล้ว โดยผ่านทางกองทุนออริออที่ลงทุนอยู่ในประเทศเหล่านี้เหมือนกัน คาดว่า สิ้นปีนี้น่าจะสรุปได้
ขณะที่แผนธุรกิจในไทยยังคงเน้นการลงทุนเองต่อไปไม่ได้ขายแฟรนไชส์ โดยปีนี้ตั้งงบลงทุนสาขาไว้ที่ 200 ล้านบาท เป้าหมายเดิมปีนี้จะเปิด 12 สาขา ครึ่งปีแรกเปิดไปแล้ว 5 สาขา อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พื้นที่ที่ได้มามีมากและสภาพเศรษฐกิจเอือ้อำนวยจึงจะลงทุนเพิ่ม คาดว่าจะเปิดเพิ่มมากกว่าเดิมเป็น 25 สาขา แบ่งเป็นร้านฮอทพอทบุฟเฟ่ต์แวลู 21 สาขา และร้านฮอทพอทอินเตอร์บุฟเฟ่ต์ 4 สาขา ส่วนครัวกลางที่ลำลูกกายังมีพื้นที่เหลืออีก
คาดว่าปีหน้าคงจะต้องลงทุนขยายเพิ่มเติมรองรับสาขาที่มากขึ้น ลงทุนขั้นต่ำ 20 ล้านบาท ปัจจุบันมีสาขารวมทุกแบรนด์ 84 สาขา คาดว่าสิ้นปีจะขยายครบเป็น 100 สาขา จากสิ้นปีที่แล้วมีสาขารวม 79 สาขา
![](https://www.thaifranchisecenter.com/info/franchise/fr_pic01739.gif)
ด้านแผนการตลาดปีนี้ตั้งงบประมาณไว้ 100 ล้านบาท รวมทั้งบีโลว์เดอะไลน์ และอะโบฟเดอะไลน์ ล่าสุด ร่วมมือกับโค้กจัดแคมเปญลุ้นชมฟุตบอลคู่ เชลซี กับ แมนเชสเตอร์ ที่อังกฤษ และคาดว่า ปลายปีนี้จะมีหนังโฆษณาชุดใหม่อีกเรื่อง และตั้งเป้าสมาชิกสิ้นปีนี้จะมี 100,000 ราย จากต้นปีมีประมาณ 30,000 ราย
นางสาวสกุณา กล่าวว่า จากการทำธุรกิจเชิงรุกปีนี้ คาดว่า จะมีรายได้รวม 1,500-1,600 ล้านบาท เติบโต 30% จากปีที่แล้วรายได้รวม 1,100 ล้านบาท กำไร 30 ล้านบาท ซึ่งครึ่งปีแรกทำรายได้แล้ว 330 ล้านบาท กำไร 8% หรือ 20 ล้านบาท
“ตอนนี้ปัญหาคือต้นทุนผลิตยังสูงขึ้นเฉลี่ย 1.5% แต่เราก็ต้องพยายามควบคุมจัดการให้ดีที่สุด อย่างน้ยอการขยายสาขามากทำให้อำนาจซื้อต่อรองมากขึ้น ก็ยังทำให้ได้ราคาที่ยังดีได้อยู่ ซึ่งเราเคยขึ้นราคาไปแล้วเมื่อต้นปี เช่น แบรนด์บุฟเฟต์แวลู จากเดิม 199 บาท เป็น 219 บาทต่อคน แต่เพิ่มอาหารมากขึ้น จึงยังไม่อยากจะปรับราคาอีก” นางสาวสกุณา กล่าว
อ้างอิงจาก ผู้จัดการออนไลน์
|
|
|