|
|
20 สิงหาคม 2554 |
พาณิชย์เตรียมข้อมูลเสนอรัฐบาลใหม่เคาะกฎหมายประกอบธุรกิจแฟรนไชส์
นายบรรยงค์ ลิ้มประยูรวงศ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวว่า กรมฯ อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลหลังจากได้มีการจัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ในช่วงที่ผ่านมา เพื่อหาข้อสรุปต่อการผลักดันกฎหมายแฟรนไชส์ให้เกิดความเป็นธรรมสูงสุดกับเจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ (แฟรนไชส์ซอร์) และผู้ซื้อแฟรนไชส์ (แฟรนไชส์ซี) คาดว่าจะนำเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และเสนอต่อรัฐบาลใหม่พิจารณาได้แน่นอน
ทั้งนี้ ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดระเบียบธุรกิจแฟรนไชส์ในประเทศไทยให้เป็นระบบ ซึ่งผู้ซื้อ และเจ้าของแฟรนไชส์ต้องแจ้งต่อนายทะเบียนภายในระยะเวลา 180 วัน นับตั้งแต่วันที่กฎหมายมีผลบังคับใช้ รวมทั้งกำกับดูแลไม่ให้มีการโฆษณาที่เกินกว่าความเป็นจริง
สัญญาต้องมีความเป็นธรรม และยังคงให้ความสำคัญในการคุ้มครองแฟรนไชส์ซี มากกว่าแฟรนไชส์ซอร์ เช่น กำหนดให้แฟรนไชส์ซอร์ต้องเปิดเผยข้อมูลที่เพียงพอเพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อแฟรนไชส์ ห้ามเรียกเงินมัดจำค่าตอบแทนก่อนทำสัญญา มีคู่มือประกอบธุรกิจที่ชัดเจน และห้ามไม่ให้มีการบังคับเช่า หรือเช่าซื้ออุปกรณ์ สินค้า หรือบริการจากแฟรนไชส์ซี เป็นต้น
ในส่วนของกฎหมายที่ให้ความคุ้มครองแฟรนไชส์ซอร์ ได้แก่ ห้ามเปิดเผยข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจที่ได้รับสิทธิมาจากแฟรนไชส์ซอร์ ซึ่งกรมฯ สามารถเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการกระทำผิด และลงโทษบุคคลตามที่กำหนดในกฎหมายฉบับนี้ได้ ถือเป็นบทบัญญัติให้คุ้มครองทั้งสองฝ่าย
อย่างไรก็ตาม มีหลายประเด็นที่เจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ และผู้ซื้อแฟรนไชส์ ขอให้มีการนำมาพิจารณาปรับปรุงแก้ไขในร่างกฎหมายฉบับนี้ เช่น เจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ต้องจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ซึ่งเป็นการสร้างภาระให้กับธุรกิจ การกำหนดบทบัญญัติให้ความคุ้มครองเจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากผู้ซื้อแฟรนไชส์ทำธุรกิจแข่งกับเจ้าของแฟรนไชส์ และดำเนินกิจการที่ไม่ได้มาตรฐาน รวมทั้งบทบัญญัติที่ยกเว้นไม่คุ้มครองผู้ซื้อแฟรนไชส์จากต่างประเทศ แต่ทุกฝ่ายมีความเห็นตรงกันรัฐควรผลักดันกฎหมายแฟรนไชส์ออกมากำกับดูแลธุรกิจประเภทนี้
อ้างอิงจาก สำนักข่าวไทย
|
|
|