|
|
|
|
4 สิงหาคม 2555 |
เบอร์เกอร์คิงคัมแบ็กผุดสาขา จัดทัพลุยขยายลูกค้าหน้าใหม่
นายประพัฒน์ เสียงจันทร์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เบอร์เกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทหยุดขยายสาขาไปประมาณ 2 ปี เพื่อรีวิวทิศทางการดำเนินธุรกิจของแบรนด์เบอร์เกอร์คิงในไทยใหม่ทั้งหมด
ถึงขณะนี้ถือว่ามีความพร้อมที่จะกลับมาขยายสาขาอีกครั้ง โดยจะกลับมาเปิดสาขาในไตรมาส 4 ปีนี้ จากปัจจุบันมี 27 สาขา ทั้งนี้ ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นมีทั้ง การจัดทัพบุคลากร แผนการตลาด โปรโมชั่น แนวทางเพิ่มลูกค้าใหม่ ฯลฯ เพื่อตอบโจทย์การเติบโตของแบรนด์ได้อย่างเต็มที่
ตั้งแต่ต้นปีที่บริษัทได้ปรับแผนการตลาดที่เข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น อาทิ จัดอีเวนต์เปิดตัวเมนูโดยเน้นให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วม ล่าสุดกับเมนู "โรดีโอ ชีส สแตคเกอร์" ที่สยามพารากอน ซึ่งมีการทำโปรโมชั่นผู้ที่มาเข้าคิว 100 คนแรกรับเบอร์เกอร์ฟรี ซึ่งได้รับการตอบรับล้นหลาม โดยช่วงครึ่งปีหลังบริษัทยังเดินหน้าส่งเมนูใหม่ ๆ เข้ามาสร้างความตื่นเต้น ขณะเดียวกันก็จะเน้นทำกิจกรรมผ่านโซเชียลมีเดียมากขึ้น
"ไมเนอร์ฟู้ดให้ความสำคัญกับเบอร์เกอร์คิงมาก เพราะเป็นแบรนด์ที่อันดับท็อปทรีของโลกในแง่ของจำนวนสาขาแฟรนไชส์ และยังมีศักยภาพที่จะเติบโตได้อีกมากในไทย" นายประพัฒน์กล่าวและว่า
โจทย์สำคัญจากนี้คือ การขยายฐานลูกค้าคนไทยเพิ่มขึ้นซึ่งจะเริ่มชัดเจนตั้งแต่ปีหน้า สัดส่วนปัจจุบันอยู่แค่ 30-40% ส่วนใหญ่ยังเป็นลูกค้าต่างชาติ ส่วนหนึ่งมาจากจำนวนสาขาที่เน้นในจังหวัด
ท่องเที่ยว ขณะที่ในกรุงเทพฯสาขาส่วนใหญ่ยังกระจุกอยู่ในใจกลางเมือง แต่จากนี้บริษัทจะเน้นขยายสาขาออกไปให้ครอบคลุมพื้นที่มากขึ้น รวมถึงราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ซึ่งที่ผ่านมามีเมนูที่เน้นความคุ้มค่า อาทิ 109 บาท ซึ่งทำในบางสาขา รวมถึงเมนู 99 บาท ปัจจุบันทำเฉพาะสาขา "พาราไดซ์ ปาร์ค" ช่วง 11.00-15.00 น. เจาะกลุ่มหมู่บ้านย่านดังกล่าว ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดี
 "จากนี้เรื่องราคาก็จะตอบโจทย์ลูกค้าชาวไทยมากขึ้น ให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น เพื่อเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ที่ไม่เคยทานเบอร์เกอร์คิง นอกจากนี้ เราพยายามสื่อสารให้ผู้บริโภครับรู้ว่าเบอร์เกอร์คิงไม่ได้มีแค่เนื้อ เพราะคนไทยจำนวนมากไม่นิยมทานเนื้อ จากนี้เราก็จะเน้นโปรโมตหมูและไก่มากขึ้น"
นายประพัฒน์กล่าวอีกว่า เป้าหมายของบริษัทคือ บาลานซ์สัดส่วนระหว่างลูกค้าคนไทยและต่างชาติอยู่ที่ 50 : 50 รวมถึงเพิ่มลูกค้าที่เป็นวัยรุ่น ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนแค่ 20% ของกลุ่มลูกค้าคนไทย โดยตั้งเป้าเพิ่มเป็น 40% ภายใน 1-2 ปีข้างหน้า เพื่อสร้างฐานลูกค้าของเบอร์เกอร์คิงในระยะยาว
ทิศทางจากนี้ จะเน้นเปิดโมเดลใหม่ที่มีในต่างประเทศ อาทิ รูปแบบไดรฟ์ทรู รวมถึงขยายรูปแบบ 24 ชั่วโมง ซึ่งปัจจุบันมี 10 สาขา และรุกดีลิเวอรี่มากขึ้น พร้อมเปิดตัวกลุ่มอาหารว่างเพื่ออุดช่องว่างในช่วงเวลาบ่ายที่ยังมียอดขายและจำนวนลูกค้าไม่มากนัก รวมถึงการโปรโมตอาหารเช้าซึ่งผู้บริโภคให้การตอบรับอย่างดีมากขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทยังสนใจที่จะเปิดสาขาในประเทศเพื่อนบ้านอย่างลาว, พม่า, เขมร รับกับเออีซีที่จะเกิดขึ้นในอีก 3 ปีข้างหน้า โดยปีนี้ตั้งเป้าเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก มากกว่าปีที่แล้ว
อ้างอิงจาก ประชาชาติธุรกิจ
|
|
|
