ประธานบริหารภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ของแมคโดนัลด์ "นายเดฟ ฮอฟฟ์แมนน์" ระบุว่า ในช่วงเวลาที่แมคโดนัลด์กำลังขยายตัวในเอเชียนั้น บริษัทก็กำลังมองหาพันธมิตร ที่มีการผสมผสานกันระหว่างความเฉียบแหลมทางเศรษฐกิจ กับความเข้าใจอย่างดีถึงแบรนด์ของบริษัท

 

ทั้งนี้ นายเฮนรี่ เหงียน หรือนายเหงียน เบา ฮวง บุตรเขยนายกรัฐมนตรีเวียดนาม เคยทำงานในร้านแมคโดนัลด์ ขณะใช้ชีวิตอยู่ในสหรัฐ หลังครอบครัวอพยพไปเมื่อสงครามเวียดนามยุติในปี 2518 ก่อนจะย้ายกลับมายังบ้านเกิดเมื่อสิบกว่าปีก่อน ปัจจุบันทำงานอยู่ในบริษัทร่วมทุน "ไอดีจี เวนเจอร์ส เวียดนาม" 
 

 
 

 

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สตาร์บัคส์ เชนร้านกาแฟชื่อดังจากสหรัฐ ก็เพิ่งเข้ามาเปิดสาขาแรกในนครโฮจิมินห์ และได้รับความนิยมอย่างสูง เห็นได้จากหนุ่มสาวชาวเวียดนามต่อแถวยาวเหยียด รอซื้อกาแฟและเครื่องดื่มสไตล์ตะวันตก 

 

 

การเข้าสู่ตลาดเวียดนามของแม็คโดนัลด์ ยังเน้นให้เห็นถึงความน่าสนใจของตลาดแห่งนี้ ที่มีประชากรเกือบ 90 ล้านคน และชนชั้นกลางเติบโตอย่างรวดเร็ว แม้ปัจจุบันเศรษฐกิจจะชะลอตัว และยังมีบาดแผลจากวิกฤติธนาคารหลงเหลืออยู่ 
 

 
 

ทั้งนี้ บรรดายักษ์ใหญ่ด้านอาหาร และเครื่องดื่มของสหรัฐ รวมถึงแบรนด์ชื่อดังอย่าง โคคา โคลา ล้วนแต่เคยเข้ามาในตลาดเวียดนามใต้ แต่ได้ถอนตัวออกไปหลังสงครามเวียดนามจบสิ้นลง และฝ่ายเหนือ ซึ่งเป็นฝ่ายคอมมิวนิสต์ เป็นผู้ประกาศชัยชนะ และรวมเวียดนามเป็นหนึ่งเดียวในปี 2518 

 

โคคา-โคลากลับเข้าสู่ตลาดเวียดนามอีกครั้งหนึ่ง หลังรัฐบาลเวียดนามมีนโยบายเปิดเสรีทางเศรษฐกิจ "ดอย เม่ย " และปรับความสัมพันธ์กับสหรัฐสู่ระดับปกติในทศวรรษ 90 แม้ปัจจุบันจะโดนกลุ่มผู้บริโภคท้องถิ่น รณรงค์คว่ำบาตร จากข้อกล่าวหาหลีกเลี่ยงภาษี

อ้างอิงจาก กรุงเทพธุรกิจ