เมื่อร้านที่ขายดี กลับกลายเป็นปัญหา ทำให้เจ้าของร้านเหนื่อยเกินไป หรือเมื่อขยายร้านเพิ่มขึ้น กลับควบคุมไม่ได้  หรือแม้กระทั่งขายแฟรนไชส์ออกไป นึกว่าจะไปได้สวย แต่กลับมีปัญหาสารพัดย้อนกลับมา จนทำให้ต้องเปลี่ยนใจเลิกขายแฟรนไชส์  นี่เป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเสมอ  

นั่นเป็นเพราะการขาดระบบการการดำเนินงานร้านที่ดีรองรับ ซึ่งเป็นจุดอ่อนของผู้ประกอบการส่วนใหญ่ ที่ขยายสาขาเพิ่ม หรือขายแฟรนไชส์  สมาคมแฟรนไชส์ไทย โดยการสนับสนุนของ 7-อีเลฟเว่น และ Free e-magazine โอกาสธุรกิจ ได้จัดอบรม ที่เน้นปฏิบัติการ Training&Coaching  ระบบบริหารร้านสาขา จำนวน 30 ชั่วโมง เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการ และผู้จัดการร้าน ที่ต้องการระบบที่ก้าวหน้า เพื่อรองรับการขยายสาขา  และการขายแฟรนไชส์ที่ยืนยาว

 

นางสาว สมจิตร ลิขิตสถาพร นายกสมาคมแฟรนไชส์ไทยกล่าวว่า “ปัญหาของกิจการค้าปลีก หรือ การขยายแฟรนไชส์ในบ้านเรานั้น  เรามีกิจการที่ดีๆ มีเสน่ห์ โดนใจลูกค้ามากมาย แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องขยายสาขามากขึ้น กิจการเหล่านั้นกลับไม่สำเร็จ นั่นก็เพราะขาดความรู้วิธีการ  สร้างระบบงานที่ดี เพื่อขยายความสำเร็จจากร้านแรกไปสู่ร้านที่สอง ที่สาม หรือ ร้อยสาขา
 

ในขณะเดียวกันในบ้านเรามีผู้ที่มีความรู้ มีประสบการณ์ในเรื่องนี้มานับยี่สิบกว่าปี มีเจตนารมณ์ที่จะถ่ายทอดให้กับผู้อื่น และมีผู้ประกอบการจำนวนมาก ก็ต้องการที่จะเรียนรู้ในเรื่องนี้ สมาคมแฟรนไชส์ไทยจึงได้จัดกิจกรรมเพื่ออบรม เรื่องระบบการดำเนินงานร้านค้าปลีก เพื่อขยายสาขา 30 ชั่วโมง เพื่อตอบสนองความต้องการเรื่องนี้ และเป็นเรื่องที่ยังไม่มีใครเคยสอน” 

 

คุณกุลวัฒน์  วิชัยลักษณ์  เป็นอดีตผู้บริหาร ที่มีประสบการณ์ในการบริหารร้าน พิซซ่า คอมพานี ร้านสเว่นเซ่น เบอร์เกอร์คิงส์ และร้านซิซเลอร์มานานกว่า 20 ปี ซึ่งนับว่าเขาคือ ผู้บุกเบิก การขยายร้าน และดำเนินงานร้านเหล่านั้นให้มีระบบงานที่ดี มีมาตรฐารสูงให้เท่ากันทุกร้าน ถึงแม้ว่าเวลานี้เขาได้เกษียณตัวเอง และกลายมาเป็นแฟรนไชซี่เจ้าของร้าน สเว่นเซ่นเอง 5 สาขา แต่เขาก็ยังมีปณิธาน ที่จะนำประสบการณ์จากการทำงานจริง ในการบริหารร้านสาขา และแฟรนไชส์แบบมืออาชีพ  มาถ่ายทอด ร่วมกับสมาคมแฟรนไชส์ไทย
 

 
 

เราเคยสงสัย หรือไม่ว่า  ทำไมพนักงานในร้านสเว่นเซ่น จึงให้บริการต่างไปจากพนักงานในสวนอาหาร ทำไม อาหารในร้านแฟรนไชส์ จากต่างประเทศ จึงสามารถทำให้รสชาติอาหารเหมือนกันทุกครั้งที่ทาน และสาขามารถขยายสาขาได้ทั่วโลก และทำไมร้านจึงคงความสะอาดสะอ้านได้ตลอดเวลา  และทำไมมีแฟนคลับที่เหนียวแน่น  เรื่องนี้ มีคำตอบ

 

คุณกุลวัฒน์บอกว่า “ไม่ว่ากิจการค้าปลีกประเภทใหนก็ตาม จะมีผลวิจัยออกมาเหมือนกันหมดว่า หัวใจของความสำเร็จ ของธุรกิจค้าปลีก ขึ้นอยู่กับ 3 เรื่อง คือ

 

“ ยกตัวอย่าง Q คุณภาพ คือ ตั้งแต่กระบวนการหาสินค้าว่า คุณภาพเป็นแบบใหน สมมุติ ว่าการทอดไข่เจียว ซึ่งการทอดไข่เจียวของแต่ละร้าน ก็ไม่เหมือนกัน เริ่มตั้งแต่กระบวนการเลือกไข่ ต้องใช้เบอร์อะไร วิธีการจัดเก็บต้องทำอย่างไร การตีไข่ต้องตีเบา แรงอย่างไร นานแค่ใหน ใช้อุปกรณ์อะไร แม้กระทั่งเครื่องมือทอด จะใช้กระทะแบน กระทะกลม คุณภาพที่ได้ก็ออกมาไม่เหมือนกัน ถ้าเราไม่เข้าใจว่าอุปกรณ์ที่เราใช้  แบบใหนตอบโจทย์ได้ดีที่สุด หรือมีวิธีการใดทำให้สินค้าเรามีคุณภาพมากที่สุด เราก็กำลังไปผิดทาง  

ฉะนั้น เรื่องของ Q ก็คือทำอย่างไร หรือมีระบบอย่างไรทั้งหมด ถึงจะได้มาตัวซึ่งตัว Q คือคุณภาพสินค้า ถ้าเราไม่กำหนดสิ่งนี้ สินค้าของเราจะไปถึงมือลูกค้าอย่างมีคุณภาพได้อย่างไร” นี่คือตัวอย่างของการสร้างระบบคุณภาพให้กับสินค้าที่ต้องมีมาตรฐานเท่ากันทุกร้าน ไม่ว่าร้านจะมีกี่สาขาก็ตาม นี่เป็นตัวอย่างหนึ่งที่คุณกุลวัฒน์ชี้ให้เข้าใจ
 

 
 

นอกจากกระบวนการสร้าง QSC ให้เกิดขึ้นได้จริงแล้ว สิ่งที่จำเป็นในใช้เป็นเครื่องมือก็คือ คู่มือการดำเนินงาน  หรือที่เรียกว่า Operation manual “ในธุรกิจมีเรื่องการสื่อสารถ้าไม่มีคู่มือ คุณจะสื่อสารกับพนักงาน และร้านสาขาอย่างไร คุณจะสร้างให้เขามีความรู้ได้ยังไง การสร้าง QSC ก็ไม่เกิด เราต้องให้เขาได้รู้จักคำว่า Why?  ทำไมถึงต้องทำ คนส่วนใหญ่จะบอกแต่ขั้นตอน มีคำที่ผมชอบมาก

ในการสื่อสารให้นึกถึงคำว่า Kiss ย่อมาจาก Keep it simple s อีกตัวมาจาก stupid สื่อสารยังไงให้ง่ายให้คนที่โง่ที่สุดเข้าใจ  เพราระคนที่นำคู่มือไปใช้มีหลายระดับ ป3 ม8 หรือแรงงานต่างชาติ เราจะทำอะไรก็แล้วแต่ ต้องมีความคาดหวัง ต้องถ่ายทอดให้คนที่ทำงานรู้ว่าเราคาดหวังอะไร ทุกอย่างคือระบบต้องเขียนออกมาเป็นเอกสาร มีการวัดผลที่ชัดเจน ในคู่มือจะไม่มีพื้นที่สีเทา มันคือสีขาว และสีดำ คือ ทำ และไม่ทำ มันไม่มีอะไรอยู่ตรงกลาง คือถ้าคุณไม่มีมาตรฐาน ไม่มีวิธีการที่ถูกต้อง จะอลุ้มอล่วย รับรองไม่เกิด   ถ้าาคู่มือใหนมีพื้นที่สีเทา คู่มือนั้นไม่มีมาตรฐาน  ถ้าเรารู้จักสร้างมัน เอาระบบคือตัวตั้ง ชื่อเสียงมาทีหลัง แบรนด์มาทีหลัง”
 
“เสร็จแล้วคุณต้องสื่อสารการคาดหวังของคุณลงไปในเรื่องของการฝึกอบรม เวลาเข้าร้าน ผมให้ผู้จัดการหยิบคู่มือมาเดี๋ยวนั้น พอผมเอามาตรฐานจากคู่มือมาผมเปิดเลย มาตรฐานเขียนไว้อย่างนี้ ทำไมคุณไม่ทำตาม  ต้องย้ำ สร้างให้กลับไปหาจุดเริ่มต้น มันจะเกิด มาตรฐานมาจาก ขบวนการฝึกอบรม ก็จะมีตารางว่า วันแรกคุณทำอะไร สอนจากคู่มือ หน้านี้ถึงหน้านี้นะ ถ้าเรามีแค่คู่มือแล้วส่งไปที่ร้าน ไม่มีใครใช้แน่นอน ตัวเราเองต้องใช้ เราต้องเป็นตัวอย่าง ต้องทำซ้ำให้กระบวนการทั้งหมดเกิดขึ้น” 

 

“เมื่อมีสาขาเยอะ จะทำอย่างไรให้เกิดความสม่ำเสมอ ทุกวัน ทุกวินาที ตลอดเวลา การทำพวกนี้ เราต้องมีกระบวนการที่สามารถตรวจสอบได้ เวลาคุณมีคู่มือ ต้องมีกระบวนการตรวจสอบ ว่า ใน 1 วันต้องเช็คอะไร เพื่อ  ดูว่า QSC เกิดขึ้นหรือไม่ คือการตรวจสอบกระบวนการภายในว่า การทำงานมันถูกต้องครบถ้วนหรือเปล่า  การตรวจสอบ ตัวที่ 2 คือ Mystery Shopper หรือ ผู้ตรวจสอบร้านลับ ตรวจว่าสิ่งที่ทำนี้ไปสะท้อนผลสร้างความพึงพอใจลูกค้าหรือไม่ หรือเอาคนข้างนอกมาตรวจสอบ คือ คอมเม้นการ์ด หรือเดินสอบถามลูกค้า มีสารพัดวิธีการทำได้ โดยไม่ต้องใช้เงิน อันที่ 3 คือ การตรวจสอบทั้งกระบวนการทั้งระบบว่าทุกอย่างครบถ้วนไหม เอกสาร งานได้ทำไม๊ ในคู่มือดำเนินงานมีตรวจสอบ 3 ส่วน”

นี่คือส่วนหนึ่ง ของความรู้ที่นำถ่ายทอดจากการทำงานบริหารร้านสาขานับพันแห่ง ในประสบการณ์กว่า 20 ปี ของคุณกุลวัฒน์ ที่จะนำมาถ่ายทอดร่วมกับสมาคมแฟรนไชส์ไทย ใน 30 ชั่วโมง

 

สำหรับการอบรมครั้งนี้ จะจัดขึ้น 5 วัน ในจำนวนเวลา 30 ชั่วโมง ที่อาคารซีพีทาวเวอร์ ชั้น 11 ถนนสีลม บริเวณ จุดขึ้น-ลง ของสถานีรถไฟฟ้า BTS สถานีศาลาแดง (รับสมัครรุ่นละ 50 ท่านเท่านั้น) โดยมีหัวข้อดังนี้

(ตารางอบรมอาจมีการปรับบ้างตามความเหมาะสม)

 

การอบรมครั้งนี้ จะทำให้ผู้เข้าอบรม เข้าใจ และเห็นภาพชัด ถึงวิธีการบริหารจัดการ้านอย่างมืออาชีพ  ที่จะนำไปสู่การรองรับการเติบโตที่มั่นคงได้ในอนาคต นอกจากนี้แล้ว ผู้เข้าอบทุกท่าน ยังจะได้ลงมือสร้าง Manaul หรือ คู่มือในการดำเนินงานร้าน ซึ่งเป็นเครื่องมือที่สำคัญที่ต้องมี สำหรับใช้ในการควบคุมมาตรฐานการทำงาน และบริหารร้านสาขาต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพเหมือนกัน พร้อมทั้งออกแบบการอบรม และเรียนรู้การจัดทำแบบประเมินร้าน อันเป็นขบวนการที่ควรมีในระบบบริหารร้านสาขา
 

 
 

สำหรับการจัดทำ Operation Manual โดยสมาคมแฟรนไชส์ไทยนั้น จะต้องใช้เวลาในการจัดทำมากพอสมควร แต่เพื่อช่วยให้ง่ายขึ้น ผู้เข้าอบรมจะได้รับตัวอย่าง และแบบฟอร์มต่างๆ  เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ให้เข้ากับกิจการของตัวเองได้ง่ายยิ่งขึ้น ในการจัดทำ คู่มือการดำเนินงานร้านนี้ นอกจากจะมีประโยชน์อย่างยิ่งในการบริหารร้าน และ ลดปัญหาได้มากแล้ว ยังจะทรัพย์สินทางปัญญาอย่างหนึ่ง ซึ่งผู้ที่ต้องการขายแฟรนไชส์ นั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมี เพื่อมอบให้กับผู้ซื้อแฟรนไชส์นำไปใช้ 

 

การแข่งขันสูงทางธุรกิจ ทำให้เจ้าของกิจการต้องปรับตัว  หรือ เมื่อธุรกิจขยายออกไปมากขึ้น  อาจกลับกลายเป็นปัญหาเพราะการจัดการที่สับสน หรือ ผู้ขายแฟรนไชส์ ไม่สามารถไปถึงเป้าหมายที่ต้องการได้ เพราะขาดระบบที่ดีในการดำเนินงาน  

การอบรมเรื่องระบบบริหารร้านสาขา 30 ชั่วโมง เป็นความมุ่งมั่นของสมาคมแฟรนไชส์ไทย และทีมผู้เชี่ยวชาญที่ต้องการพัฒนาผู้ประกอบการไทย ผู้บริหาร และผู้จัดการร้าน ให้ได้เรียนรู้ระบบงานที่ดี เพื่อให้มีความสามารถสูงขึ้นทางลัด และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ทั้งในระดับประเทศ และระดับสากลได้ เพื่อสร้างโอกาสให้กิจการของประเทศ ได้ก้าวหน้า และเติบโตได้อย่างมั่นคง  จนกระทั่งมีความพร้อมที่ขยายไปสู่ต่างประเทศได้มากขึ้น ในอนาคต

ต้องการสอบถาม หรือข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อที่ ฝ่ายอบรมสัมมนา 089-8955665, 02-8967330
คลิกจองคอร์สสมัครเรียน ได้ที่นี่ https://www.thaifranchisecenter.com/seminar/show.php?etID=2521