3.1K
9 ตุลาคม 2556
WEB MANAGER สัมภาษณ์ แฟรนไชส์ HIGH-SPEED ทำแฟรนไชส์อย่างไรให้รุ่ง

 
 
จากบทสัมภาษณ์ ใน ASTVผู้จัดการออนไลน์ ใน SPECIAL SCOOPE เมื่อ 03 ตุลาคม 2556 ได้ให้เกียรติสัมภาษณ์ “ครูบุ๋ม” ชวพัฒน์ อัจฉริยกุล ผู้อำนวยการ High-Speed Math Center เปิดเผยว่า ได้ก้าวเข้ามาสู่ธุรกิจโรงเรียนกวดวิชากว่า 20 ปีแล้ว ซึ่งได้ดำเนินธุรกิจโรงเรียนกวดวิชาเพราะมีความชอบสอนหนังสือเป็นสิ่งสำคัญมากกว่าไปทำธุรกิจเกี่ยวกับด้านวิศวกรรมที่ตนเองเรียนจบมา ซึ่งได้ตั้งสถาบันกวดวิชาของตัวเองมา 18 ปีแล้ว
       
ความสำเร็จของโรงเรียนกวดวิชาที่จะเกิดขึ้นได้นั้น “ครูบุ๋ม” มองว่า การสร้างแบรนด์เป็นอันดับ 1 ที่จะทำให้ธุรกิจนี้ประสบความสำเร็จได้จากตัวคนที่จะมาเป็นอาจารย์สอนเอง จะต้องมีทั้งฝีมือและชื่อเสียง
       
เหตุนี้ทำให้สถาบันกวดวิชา High-Speed Math Center ได้ก้าวขึ้นสู่อันดับ Top 5 ของสถาบันกวดวิชาด้านคณิตศาสตร์
       
การสะสมชื่อเสียง เทคนิคการถ่ายทอดส่วนตัวของครูผู้สอนหลัก จะเป็นส่วนสำคัญที่สุดที่จะทำให้ brand โรงเรียนกวดวิชาเข้มแข็ง และแน่นอนว่าจะต้องมีผลงานเป็นตัวการันตีด้วย คือสถิติสอบติดคณะที่เด็กนิยมไปเรียนในสถาบันรัฐชื่อดัง เช่น สอบติดคณะแพทยศาสตร์
       
อย่างไรก็ดี การเข้ามาทำธุรกิจโรงเรียนกวดวิชาไม่ใช่เรื่องง่ายเลย สำหรับคนที่ไม่ได้มีทักษะการสอน และไม่รู้เรื่องธุรกิจ เพราะธุรกิจนี้ในด้านการแข่งขันแล้ว ถือว่าเป็นธุรกิจที่แข่งขันสูง ดังนั้นผู้ที่ทำธุรกิจนี้จะต้องปรับตัวอยู่ตลอด และหาวิธีขยายไลน์ของธุรกิจที่แตกต่างกันไป

สำหรับตัว “ครูบุ๋ม” แล้ว ครูบุ๋มเลือกวิธี “ขายแฟรนไชส์” โรงเรียนกวดวิชา โดยเอาตัวเขาเองการันตี
 
“การสร้างชื่อเสียงและฝีมือของครูผู้สอนหลัก เป็นสิ่งสำคัญมากที่สุดที่การกวดวิชาต้องมี ดังนั้นในการทำธุรกิจแฟรนไชส์ จะทำแค่ซื้อมาขายไปไม่ได้ ต้องเข้าไปช่วย ในส่วนของผม ผมขายแฟรนไชส์ให้คนต่างจังหวัด แต่ผมไม่ได้ทิ้งเขา ผมเข้าไปทำ Road show ช่วยในการทำตลาด โดยไปสาธิตวิธีการสอนจริงให้ทุกที่”
 
นอกจากนั้น อย่าคิดว่าการทำแฟรนไชส์เป็นเรื่องง่าย แค่อัดวิดีโอการสอนแล้วส่งไปให้แต่ละสาขา เพราะว่าสิ่งสำคัญที่ต้องเข้าใจคือ การสอนในแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกัน
 
“คนที่ทำธุรกิจโดยมีจิตวิญญาณความเป็นครูด้วย จะเข้าใจว่า เด็กต่างจังหวัดกับเด็กในกรุงเทพฯ หรือแม้กระทั่งเด็กในกรุงเทพฯ เองก็มีหลายกลุ่ม บางกลุ่มต้องการคนสอนที่ต้องเน้นการแข่งขัน เนื้อหาที่เรียนต้องการที่จะเอาไปสอบ ขณะที่เด็กบางกลุ่มต้องการการปูพื้นฐานให้ความรู้ตัวเองแน่นหนา”
 
จุดนี้ครูบุ๋มยอมรับว่า คนที่เป็นแม่แบบเรื่องนี้ที่ดีคือ “อ.อุ๊” เคมี ที่เป็นโรงเรียนกวดวิชาอันดับ 1 วิชาเคมี และชิงส่วนแบ่งการตลาดเกือบ 100%
 
“อาจารย์อุ๊ เป็นคนมีพรสวรรค์ในการสอน สอนเด็กได้ตั้งแต่คนที่ไม่รู้จักเคมีเลย กระทั่งเอาไปสอบได้ ทุกวันนี้พูดได้ว่าใครไปเรียนกวดวิชาเคมีที่อื่น ก็ต้องมาเรียนกวดวิชาของอาจารย์อุ๊ด้วย”
 
นี่เป็นความสำเร็จที่ไม่ใช่ใครจะทำตามได้ง่ายๆ!
 
อย่างไรก็ดี สำหรับครูบุ๋มเองนั้น เมื่อเข้าใจแล้วว่าเด็กแต่ละกลุ่มมีความแตกต่างกัน ดังนั้นแฟรนไชส์ของครูบุ๋มจึงเป็นลักษณะการสอนในแต่ละพื้นที่ไม่เหมือนกันด้วย คือการสอนเด็กกรุงเทพฯ จะเป็นการสอนแบบหนึ่ง และการสอนเด็กต่างจังหวัดจะเป็นการสอนอีกแบบหนึ่ง
 
“มันไม่ใช่ว่าเราจะทำให้ทุกคนเข้าใจได้หมด เพราะต้องเป็นครูที่มีพรสวรรค์มากๆ เหมือนครูอุ๊ แต่เราต้องเข้าใจว่าเด็กมีความแตกต่าง ดังนั้นที่ผ่านมาคนที่สอนเด็กกรุงเทพฯ เก่งมาก พอไปสอนต่างจังหวัดกลับสอบตก”


 
ครูบุ๋ม อ.ชวพัฒน์ อัจฉริยกุล แนะเทคนิคแฟรนไชส์กวดวิชารอด!
 
เทคนิคการสอนในกรุงเทพฯ คือการอัดเทคนิคต่างๆ อย่างเต็มที่ แต่การสอนในต่างจังหวัดต้องเน้นการสอนที่เด็กจะไปทำ GPA GPAX ในระดับชั้นเรียนให้ได้ดี เพื่อยื่นเกรด แต่ยังแข่งในกรุงเทพฯ ไม่ได้ คนที่จะมาสอบแข่งเข้ามหาวิทยาลัยชื่อดัง ได้แก่ จุฬาฯ ธรรมศาสตร์ เกษตรศาสตร์ ลาดกระบัง ฯลฯ นั้น จำเป็นต้องมาเรียนกวดวิชาอีกแบบหนึ่ง เพื่อเน้นทำข้อสอบอีกทีหนึ่งด้วย
 
“ติวกวดวิชาไม่ใช่ง่าย ต้องปรับพื้นฐานก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่มเนื้อหาแบบ advance เข้าไป”
 
ในฐานการจัดอันดับธุรกิจ ครูบุ๋มยอมรับว่า ในฐานของกลุ่มนักเรียนว่าชอบเรียนที่ไหน ในด้านคณิตศาสตร์ ทางโรงเรียนกวดวิชาของเขาเป็นอันดับ 5 ในกลุ่มธุรกิจกวดวิชาคณิตศาสตร์ แต่ในลักษณะของการทำแฟรนไชส์แล้ว เขากล่าวว่าในเรื่องแฟรนไชส์เขาได้รับการโหวตให้เป็นอันดับ 1 จาก Thaifranchisecenter.com โดยผู้ประกอบการด้านธุรกิจทำการโหวตให้
 
“ตอนนี้มี 20 สาขา 4 สาขาทำเอง อาจมีร่วมหุ้นบ้างแต่ทำเองเป็นส่วนใหญ่ แต่ 16 สาขาเป็นแฟรนไชส์ การขายแฟรนไชส์ไม่ได้ขายให้ใครก็ได้ จะมีการคัดคน จะมีการคุยกันอย่างละเอียด”
 
โดยเมื่อมีคนมาขอซื้อแฟรนไชส์ จะมีการสัมภาษณ์อย่างละเอียด เพราะจะต้องเป็นคนที่มีคุณสมบัติในการทำแฟรนไชส์ให้ดีด้วย โดยการสัมภาษณ์จะมีการดูวิสัยทัศน์ต่อธุรกิจการศึกษา ดูต้นทุน และดูลักษณะนิสัยว่าจู้จี้จุกจิกหรือไม่
 
“บางคนทำไป 1 ปีก็ไม่ทำแล้ว สุดท้ายเสียชื่อที่เรา ตรงนี้ต้องระวังมาก โดยเฉพาะกรณีที่มีการผิดสัญญา”

การผิดสัญญาที่พบว่ามีเกิดขึ้น คือ บางคนทำโรงเรียนกวดวิชาไปแล้ว เห็นเด็กมาน้อยในวันไหน ก็ปิดแอร์ไม่เปิดให้เด็ก หรือไม่ก็มีการไม่ลงทุนใช้หนังสือจากส่วนกลาง ซึ่งที่จริงแล้วไม่ได้ราคาแพงมากนัก แต่ใช้วิธีไปถ่ายเอกสารมาให้เด็ก ซึ่งเป็นเรื่องของความรู้สึกว่าไม่จริงใจ
 
“การผิดสัญญากับเราแบบนี้ มันไม่ได้เสียหายตรงที่เราขายหนังสือไม่ได้ แต่มันเสียหายมาก เพราะว่าคนที่ซื้อแฟรนไชส์ไปกำลังทำลายชื่อเสียงของแบรนด์ ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่มาก เรียกว่าคนคนนี้ทำธุรกิจไม่เป็น”
 
ทั้งนี้ จากการทำธุรกิจแฟรนไชส์มาหลายปี พบว่ามีหลายคนที่ตั้งใจทำธุรกิจนี้ และไม่เอาเปรียบเด็ก ส่วนนี้ครูบุ๋มบอกว่า ถ้าพบใครที่ตั้งใจจริง ธุรกิจนี้ก็จะยังทำด้วยกันได้
 
“บางคนไปไม่ไหว แต่นิสัยดี ตั้งใจสอนเด็ก ถ้าทำไม่ไหว ก็จะลงไปช่วยทำให้ ในลักษณะแบ่งเปอร์เซ็นต์รายได้กันไป ไม่ได้ตายตัวว่าธุรกิจแฟรนไชส์ต้องเป็นแบบนี้ตลอดไป คือเราก็อยากให้คนที่เขาตั้งใจจริง เขาทำธุรกิจนี้รอด”
 
ธุรกิจแฟรนไชส์คือคนที่ต้องมาทำงานด้านการตลาด แต่สำหรับการสอน เราเองที่จะเป็นคนรับหน้าที่ผลิตสื่อการสอนให้เข้ากับพื้นที่ต่างๆ
 
ทั้งนี้ มองว่าผู้ลงทุนจะต้องมีเงินอย่างต่ำ 1 ล้านบาทด้วย เป็นค่าแฟรนไชส์ ค่าหลักสูตร และเงินหมุนเวียนต่างๆ และถ้าจะให้ดีต้องเป็นคนที่มีคอนเนกชันในพื้นที่
 
“คนที่มาขอซื้อแฟรนไชส์กับผม แล้วดำเนินธุรกิจได้ดี น่าแปลกว่า 90% จะเป็นคนอาชีพหมอ วิศวกร เป็นคนมีชื่อเสียงในจังหวัดนั้นๆ ซึ่งคนกลุ่มนี้ดี คือเขาจะลงทุน โดยไม่ยุ่งกับการเปลี่ยนแปลงการเรียนการสอนซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจโรงเรียนกวดวิชาแบบแฟรนไชส์ประสบความสำเร็จ”
 
นอกจากนี้ยังต้องเป็นคนที่มีคอนเนกชันในพื้นที่ ที่สำคัญอันดับแรกคือ ต้องสามารถดิวกับโรงเรียนต่างๆ เพื่อให้ไปเปิดโรดโชว์ในโรงเรียนต่างๆ ได้ ตรงนี้ก็ยากแล้ว
 
“มันยาก เพราะต่างจังหวัดคนที่เปิดโรงเรียนกวดวิชาคือครูในโรงเรียนต่างๆ นี้ การจะไปโรดโชว์ในโรงเรียนไหนจึงมีอุปสรรคจากคนที่ขัดขวาง แต่ถ้าจะให้คนซื้อแฟรนไชส์กวดวิชาสำเร็จ ก็ต้องมีการโรดโชว์ เพราะเด็กจะรู้ได้เองว่าการเรียนการสอนแบบนี้แหละที่เขาต้องการ เขาจะรู้สึกว่า เฮ้ย มันมีวิธีการคิดเลขแบบนี้ด้วยเหรอ ทำได้ในบรรทัดเดียว ใช้เวลาน้อยมาก”
 
เรียกว่าเทคนิคโรดโชว์นี้เป็นตัวนำไปสู่ความสำเร็จแล้วระดับหนึ่ง
 
“ความสำเร็จตรงนี้ และความต้องการเข้าเรียนในโรงเรียนกวดวิชามีมาก จากที่มีการรับประกันการขายแฟรนไชส์ไว้ว่า จะให้ 1 จังหวัด 1 โรงเรียนกวดวิชา ปีนี้เลยปรับใหม่เป็น 1 อำเภอ 1 แฟรนไชส์ เพื่อรองรับความต้องการที่มีอยู่จำนวนมาก”
 
ธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่ใหญ่ ที่ครูบุ๋มประเมินว่า เด็ก ม.4 หนึ่งคนจะต้องใช้เงินในการเรียนพิเศษอย่างน้อย 3,000-4,000 บาทต่อคนต่อเทอมใน 1 วิชา เด็กที่มาเรียนอย่างต่ำปีหนึ่งจะมีอย่างน้อย 400-500 คนต่อโรงเรียนใน 1 วิชา และความเป็นจริงคือเด็กจะเรียนหลายวิชาก็คูณจำนวนวิชาเรียนเข้าไปอีก
 
ดังนั้น ธุรกิจกวดวิชาเป็นธุรกิจที่ยังเดินหน้าไปได้
 
“แต่อย่าหวังกินระยะสั้น ธุรกิจกวดวิชาเป็นธุรกิจการศึกษาที่ต้องทำแบบค่อยเป็นค่อยไป อย่าเอาแต่ประโยชน์ของตัวเอง คุณต้องเข้าใจว่าถ้าเด็กติดใจ เขาจะบอกต่อกันไปเอง”
 
การขอทำธุรกิจแฟรนไชส์นั้น จึงจำเป็นต้องเริ่มจากการสัมภาษณ์ เพื่อดูอย่างละเอียดว่าคนที่มาซื้อแฟรนไชส์เป็นคนแบบไหน และมีความสามารถเพียงพอที่จะทำให้แฟรนไชส์ที่เขาซื้อไปเดินหน้าต่อได้หรือไม่

เมื่อลงตัวในเบื้องต้นแล้ว ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนต่อมาที่สำคัญคือ การขออนุญาตจัดตั้ง ซึ่งต้องทำเป็นโครงการ
 
ครูบุ๋มเปิดเผยว่า ทางสถาบันฯ มีตัวอย่างโครงการจำนวน 600 หน้าอยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องยากที่จะขออนุญาตดำเนินการ และควรที่จะขออนุญาต เพราะธุรกิจกวดวิชาเป็นธุรกิจด้านการศึกษาที่ไม่ต้องเสียภาษี และได้รับความเชื่อถือจากผู้ปกครอง เพราะมีกระทรวงศึกษาธิการคอยดูแลมาตรฐานอยู่แล้ว อีกทั้งการไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ ในการทำธุรกิจก็จะเป็นเรื่องของความสบายใจ เรียกว่าเป็นกลุ่มโรงเรียนกวดวิชาดี ไม่เถื่อน เพราะถ้าเถื่อน จะเจอปัญหาใหญ่คือทีมจับให้เสียภาษีของสรรพากร 30% ซึ่งเป็นจำนวนที่ถือว่า “หนัก” เอาการ
 
ส่วนการขอใบอนุญาตมีค่าใช้จ่ายเป็นเพียงหลักหมื่น เมื่อเทียบกับธุรกิจที่จะดำเนินไปในอนาคต ส่วนนี้ถือว่าน้อยมาก
 
อย่างไรก็ดี สำหรับผู้ซื้อแฟรนไชส์ และโอกาสขยายตัวของแฟรนไชส์ ครูบู๋มให้ความสำคัญกับจังหวัดเล็กๆ มากกว่าจังหวัดใหญ่ๆ
 
“ผมชอบจังหวัดเล็กๆ เมื่อดูแววตาเด็ก จะรู้สึกว่าเด็กคิดว่ามีวิธีเรียนแบบนี้ด้วยเหรอ เด็กก็จะมีความกระตือรือร้นในการเรียน เพราะโอกาสเรียนแบบนี้ไม่เคยมี เมื่อมีใครสอบเข้าหมอได้ ก็จะเป็นความภูมิใจอย่างมาก ไม่เหมือนจังหวัดใหญ่ๆ เหมือนใน กทม. สอนๆไปเด็กจะทำเหมือนรู้แล้ว รู้แล้ว เรียนแล้วเซ็งก็มี”
 
แต่การทำแฟรนไชส์ในจังหวัดเล็กๆ ก็มีความกังวลของผู้ซื้อแฟรนไชส์ที่รู้สึกว่ามันเสี่ยง
 
“จริงๆ ทุกพื้นที่เวลานี้เจริญแล้ว จังหวัดใหญ่ๆ หลายจังหวัดมีอำเภอที่มีขนาดใหญ่มาก อย่างเช่นโคราช แต่ละอำเภอก็มีขนาดใหญ่ มีคนอยู่มากมาย

HIGH-SPEED ได้รับการโหวตจากสื่อต่างๆมากมายถึง 3 ปีซ้อน ที่นี่สอนดีจริง สอนละเอียดยิบ ชั่วโมงเรียนที่มากกว่าที่อื่น 2 เท่า เน้นคุณภาพ มากกว่าทุกที่ เป็นที่เดียวที่ทำ ROAD SHOW ให้สาขาท่าน เราเป็นที่เดียวที่ใช้ระบบ SERVER NETWORK ที่ทันสมัยที่สุด ของประเทศ เชื่อมกับ APP บนมือถือในระบบการจองที่เรียนอย่างสมบูรณ์แบบ เราสอนดีจริง ที่ 1 ประเทศไทย เลือกเรียน ที่นี่มาแล้ว 3 ปีซ้อน และ นักเรียนโอลิมปิกปีล่าสุดก็เรียนที่นี่ และนักเรียนที่สอบระดับ TOP 10 เข้าเตรียมอุดม และมหิดลวิทย์ก็เลือกเรียนที่นี่
 
เราเป็นโรงเรียนกวดวิชาด้านคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และพื้นฐานวิศวกรรม ยอดนิยมของเมืองไทยโดยเป็น TOP 5 ของประเทศและเปิดดำเนินการมามากกว่า 17 ปีโดยได้รับการอนุญาตถูกต้องตามกฏหมาย จากกระทรวงศึกษาธิการ โดยมีลูกศิษย์ที่เรียนกับเราแล้วมากกว่า หลายแสนคน 
 
ระบบ DVD อัดชัดเจนมากด้วยระบบ HD เห็นผู้สอนอัดจากห้องสอนสดจริง ไม่ใช่ ตั้งกล้องอัดเอง สอนเข้าใจง่ายด้วย ประสบการณ์การสอน มามากกว่า 30 ปี เหมือนเรียนสดทุกประการ สอนดีมีระบบ การสอนเป็นขั้นเป็นตอนและสอนละเอียดมาก ที่สำคัญสอนเข้าใจง่าย สนุกน่าติดตาม ไม่น่าเบื่อ และได้ผลมากที่สุด
 
ด้วยชั่วโมงการเรียนที่มากกว่าที่อื่นกว่า 2 เท่ามีโจทย์ระดับสุดยอดให้นร.ได้ฝึกและสอน และมีเทคนิคลัดมากมายที่สุดในยุคนี้ อาจารยบุ๋มได้รับเชิญในการติว โครงการระดับ ประเทศมากมาย และได้รับเชิญจากโรงเรียนชั้นนำทั่วประเทศกว่า 200 โรงเรียนทั่วประเทศ 
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
อากิโกะที เปิด 2 สาขาใ..
3,538
สเต็กเด็กแนว สร้างรายไ..
1,622
ซอห์น ฟู้ด จัดโปรแรง! ..
802
ก๋วยเตี๋ยวเรือปัญจะรส ..
714
“THE GRAND MALL” ทำเลด..
566
โรบอท สเตชัน คลับ จัดโ..
548
ข่าวแฟรนไชส์มาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด