แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาจะมีฝนตก หนัก จนทำให้หลายพื้นที่เกิดน้ำท่วมและช่วงนี้ได้เริ่มสัมผัสความเย็นกันบ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถทำให้อากาศบ้าน เราหายร้อนได้ เป็นโอกาสให้เครื่องดื่ม หรือของเย็นๆ อย่างไอศกรีม สร้างยอดขายกันอย่างสนุกสนาน เพราะนอกจากช่วยดับร้อนแล้ว ร้านไอศกรีมยังกลายเป็นแหล่งสังสรรค์ในบรรยากาศชิลล์ ชิลล์ ของใครหลายคน 

 

สำหรับตลาดบ้านเราก็มีไอศกรีมให้เลือกหลากหลายยี่ห้อมาก ทั้งแบรนด์ไทย แบรนด์นอก ไอศกรีมแบบบ้านๆ ไปจนถึงไอศกรีมระดับพรีเมี่ยมหัวนอก ที่พาเหรดกันเข้ามาทำตลาดเป็นจำนวนมาก สำเร็จบ้าง ไม่สำเร็จบ้าง ก็ว่ากันไป 

 

"บาสกิ้น รอบบิ้นส์" ถือเป็นไอศกรีม อีกหนึ่งแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จ เพราะมีจำนวนสาขาทั่วโลกมากกว่า 7,000 สาขา และเป็นไอศกรีมพรีเมี่ยมจากประเทศสหรัฐอเมริกาที่มีประวัติยาวนาน โดยก่อนที่จะก่อกำเนิดเป็นบาสกิ้น รอบบิ้นส์อย่างในทุกวันนี้ 

 

หนึ่งในผู้ก่อตั้งแบรนด์ คือ Irv Robbins ได้เปิดร้านไอศกรีม ชื่อ "สโนว์เบิร์ด" ในปี 2488 มีไอศกรีมให้เลือก 21 รสชาติ หลังจากนั้นในปี 2489 Irv Robbins ได้ร่วมมือกับพี่เขย คือ Burt Baskin เปิดร้านไอศกรีมบาสกิ้น รอบบิ้นส์ ด้วยกัน แล้วเลข 31 ก็กำเนิดขึ้นในปี 2496 และกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของบาสกิ้น รอบบิ้นส์ หมายถึงรสชาติ 31 รสใน 31 วัน ซึ่งตอนแรกที่เปิดขายมีเพียง 21 รสชาติเท่านั้น และเริ่มเปิดขายแฟรน ไชส์เมื่อปี 2491 
 

 
 

สำหรับไอเดีย 31 รสชาติ มาจาก เดอะ คาร์สัน-โรเบิร์ตส แอดเวอไทซิ่ง เอเจนซี่ ซึ่งตอนหลัง คือ บริษัทโฆษณายักษ์ใหญ่ โอกิลวี่แอนด์เมเธอร์ พร้อมด้วยสโลแกน "Count the Flavors. Where flavor counts." เพราะทั้งสองคนเชื่อว่าผู้ซื้อจะทดลองชิมด้วยช้อนเล็กๆ สีชมพูจนค้นพบรสชาติที่พอใจจึงจะซื้อกลับบ้าน 

 

ทั้งนี้ บาสกิ้น รอบบิ้นส์ ได้เปิด สาขาในต่างประเทศครั้งแรกเมื่อปี 2517 ที่ประเทศเบลเยียม แต่สำหรับตลาดเมืองไทยได้เข้ามาเมื่อประมาณปี 2539 หรือราวๆ 15 ปี หลังจากนั้นได้หายไปจากตลาด 1-2 ปีได้ และกลับมาในตลาดเมืองไทยอีกครั้ง ภายใต้การบริหารของ "มัดแมนกรุ๊ป" 

 

 

"มัดแมน" ถือเป็นมาสเตอร์ แฟรนไชส์รายที่ 3 ของบาสกิ้น รอบบิ้นส์ ในตลาดบ้านเรา และสำหรับปีนี้ถือว่าครบ รอบ 1 ปีของการทำตลาดในเมืองไทย โดย "นาดิม ซาเวียร์ ซาลฮานี" กรรมการบริหาร บริษัท มัดแมน จำกัด บอกว่า ได้ทำการเทกโอเวอร์แบรนด์บาสกิ้น รอบบิ้นส์ เมื่อประมาณกลางปี 2555 และได้สิทธิ์ในการดูแลเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น ภายใต้สัญญา 5 ปี แทนที่ผู้ถือสิทธิ์เดิม 

 

ดังนั้น การทำตลาดจะเป็นไปในเชิงรุก และปรับโพสิชันนิ่งของแบรนด์ให้อยู่ในระดับพรีเมี่ยม ทั้งตัวสินค้า และราคา โดยราคาจะเริ่มต้นที่สกู๊ปละ 109 บาท เนื่อง จากวัตถุดิบทั้งหมด 100% นำเข้ามาจากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีกระบวนการผลิต และวัตถุดิบระดับพรีเมี่ยม เพื่อให้ได้มาตรฐานเดียวกันกับบาสกิ้น รอบบิ้นส์ ทั่วโลก 
 

 
 

เบื้องต้นจะมีให้เลือก 20 รสชาติ และจะมีครบ 31 รสชาติภายในสิ้นปีนี้ ส่วนแผนการขยายสาขาจะอยู่ที่ 6 สาขาต่อปี ใช้งบลงทุนราว 2.5-3 ล้านบาทต่อสาขา ปัจจุบัน เปิดให้บริการ 21 สาขา โดยจะอยู่ภายใต้คอนเซปต์ "Happiness for Everyone for Every day" 

 

อย่างไรก็ตาม บาสกิ้น รอบบิ้นส์ ถือว่าเป็นแบรนด์ที่ยังเล็กอยู่ เมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นในตลาดด้วยกัน คงต้องดูกันต่อไปว่า การกลับเข้ามาทำตลาดอีกครั้งของบาส กิ้น รอบบิ้นส์จะเป็นอย่างไร เพราะไอศกรีมก็เป็นอีกตลาดที่มีการแข่งขันรุนแรงไม่แพ้ตลาดอื่น แม้ว่าอัตราการเติบโต จะค่อนข้างสูงเฉลี่ย 10-15% ต่อปี และมีมูลค่ากว่า 15,000 ล้านบาท

อ้างอิงจาก สยามธุรกิจ